ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ – ตอนที่ 745 ตราประทับสายฟ้าห้าสี

ตอนที่ 745 ตราประทับสายฟ้าห้าสี
โดย
Ink Stone_Fantasy
สีหน้าหลิ่วหมิงซีดขาวเล็กน้อยแล้ว แม้เขาจะมีผลึกพลังเวทหนึ่งร้อยห้าสิบสามผลึก และพลังเวทก็หนาแน่นอย่างหาที่เปรียบมิได้ แต่ว่าการควบคุมค่ายกลขนาดใหญ่คนเดียวเช่นนี้ ยังคงถูกกินแรงไปไม่น้อย

“การฝึกฝนของเจ้าไม่พอ แม้ว่าจะมีค่ายกลเหนี่ยวนำคอยช่วย แต่ดูแล้วก็ยังไม่อาจล่อสายฟ้าเทพสวรรค์เก้าชั้นฟ้านี้ได้” น้ำเสียงของหลัวโหวดังขึ้นในสมองของหลิ่วหมิง

“ผู้อาวุโสหลัวโหว ถ้าอย่างนั้นตอนนี้ต้องทำอย่างไรดี เกรงว่าพลังเวทของข้าคงไม่อาจยืนหยัดได้นานแล้ว” หลิ่วหมิงถามด้วยความร้อนใจ

“ตอนนี้คงได้แต่หาวิธีการอื่นแล้ว เจ้าเด็กน้อย ใช้กระบี่บินพลังจิตวิญญาณของเจ้าล่อสายฟ้าเทพลงมา” หลัวโหวค่อยๆ พูดออกมา

หลิ่วหมิงได้ยินก็รู้สึกตกใจมาก นี่เป็นถึงสายฟ้าเทพสวรรค์เก้าชั้นฟ้า แม้ว่ากระบี่บินพลังจิตวิญญาณของเขาจะเป็นต้นแบบอาวุธเวท แต่หากฟันลงไปโดยตรง จะเกิดความเสียหายหรือไม่

“วางใจเถอะ! กระบี่บินพลังจิตวิญญาณของเจ้าแตกต่างจากกระบี่บินพลังจิตวิญญาณทั่วไป เพียงแค่กระตุ้นพลังดาวแม่เหล็กในนั้น บางทีอาจจะล่อสายฟ้าเทพสวรรค์เก้าชั้นฟ้าลงมาเส้นหนึ่งก็ได้” ดูเหมือนหลัวโหวจะรู้ว่าหลิ่วหมิงรู้สึกกังวลใจอยู่ จึงเอ่ยปากออกมาอย่างราบเรียบ

“ดี! ข้าจะลองดู!” หลิ่วหมิงได้ยินก็ได้แต่กัดฟันตอบกลับไป

ครู่ต่อมา แสงกระบี่สีทองจางๆ ก็พุ่งออกจากระหว่างคิ้วของเขา มันกะพริบแค่ทีเดียวก็ลอยอยู่เหนือศีรษะ

“เปิด!”

หลิ่วหมิงส่งเสียงตะคอกออกมา มือของเขาทำท่าเคล็ดกระบี่ แสงทรงกลดสีขาวจางๆ ปรากฏออกมารอบๆ กระบี่บิน หลังจากสั่นสะท้านแล้ว ไหมแสงสีขาวจำนวนมากก็พุ่งขึ้นฟ้า

ทันใดนั้น สายฟ้าเทพสวรรค์เก้าชั้นฟ้าบนอากาศก็ดีดดิ้นราวกับรับรู้อะไรบางอย่างได้ จากนั้นพลันเกิดเสียงดังสะเทือนเลือนลั่น ไหมสายฟ้าห้าสีบิดเบี้ยวม้วนหดตัวอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดก็ร่วงลงไป และจมลงไปในแสงสีดำ

“ไม่ต้องสนใจกระบี่บินแล้ว รีบแสดงวิธีปิดผนึกตามที่ข้าถ่ายทอดให้เจ้าเถอะ!” น้ำเสียงรีบร้อนของหลัวโหวดังเข้ามา

หลิ่วหมิงได้ยิน ก็รีบเก็บจิตบนกระบี่บินพลังจิตวิญญาณ และปล่อยให้มันตกลงพื้นเสียงดัง “ตุ๊บ!” ส่วนมือทั้งสองของเขาก็พร่ามัวอยู่พักหนึ่ง และทำท่ามือแปลกประหลาดอย่างรวดเร็ว

ท่ามือเหล่านี้พากันกะพริบผ่านไป ขณะที่ท่ามือสุดท้ายสลายไปนั้น ตราประทับสายฟ้าสวรรค์บนหน้าอกของเขาก็เปล่งแสงออกมา

เขาเพิ่งจะทำทั้งหมดนี้เสร็จ ไหมสายฟ้าห้าสีในลำแสงสีดำก็พร่ามัวกลายเป็นเส้นหลากสีฟันเข้าหาหลิ่วหมิง

“ฮึ่ม!”

สีหน้าหลิ่วหมิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย พอส่งเสียงคำราม ก็พลิกฝ่ามือปล่อยสายฟ้าที่มีสีทองกับสีเงินประสานกันไปมา และพุ่งเข้าใส่สายฟ้าเทพสวรรค์เก้าชั้นฟ้าที่ร่วงลงไป

“ตู๊ม!”

สายฟ้าห้าสีที่ละเอียดเล็กอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ฟันสายฟ้าสีทองเงินจนสลายไป และยังร่วงลงไปด้านล่างด้วยความเร็วที่ไม่ลดน้อยลงแม้แต่เลย

หลิ่วหมิงหดรูม่านตาลง แต่มือทั้งคู่พร่ามัวอยู่ครู่หนึ่ง ไอดำม้วนออกจากร่างในทันที พริบตาเดียวก็กลายเป็นปราณแกร่งปกคลุมรอบๆ ตัวเขาไว้ ทำให้ร่างของเขาดูคล้ายกับรูปปั้นแกะสลักสีดำ

พอสายฟ้าห้าสีร่วงลงไป ก็โจมตีลงบนม่านแสงสีดำด้านหน้าหลิ่วหมิง

เกิดเสียงดังเปรี๊ยะๆ ดังติดต่อกันอยู่ไม่หยุด!

หลังจากม่านแสงสีดำสั่นสะท้าน ก็เกิดรูขนาดเท่ากำปั้นหนึ่งรู

ไหมสายฟ้าห้าสีบิดตัวทีหนึ่ง จากนั้นก็มุดเข้าไปในม่านแสงสีดำ และพุ่งไปยังหน้าอกของหลิ่วหมิงราวกับอสรพิษจิตวิญญาณ

“ฟู่!”

แสงสีทองเปล่งประกายออกจากหน้าอกหลิ่วหมิง มันเกิดจากการที่ตราประทับวิชาสายฟ้าสวรรค์ควบแน่นบนหน้าอกของเขา และไหมสายฟ้าห้าสีก็กะพริบเข้าไป

“อ๊า!”

ความเจ็บปวดราวกับถูกสายฟ้าโจมตีแทรกซึมเข้าไปในก้นบึ้งหัวใจของหลิ่วหมิง แม้เขาจะมีกายเนื้ออันแข็งแกร่ง แต่ก็อดไม่ได้ที่จะร้องออกมาอย่างน่าเวทนา

“รีบสงบจิตลงซะ! โคจรวิชาปิดผนึก เร็ว!” น้ำเสียงของหลัวโหวไม่ดังมาก แต่กลับก้องอยู่ในหูราวกับเสียงฟ้าร้อง

หลิ่วหมิงสงบจิตในทันที มือทั้งสองวาดผ่านกลางอากาศ และทำท่ามือแปลกประหลาดอีกครั้ง ผลึกพลังเวทหนึ่งร้อยห้าสิบสามเม็ดในทะเลจิตวิญญาณก็สั่นสะเทือนขึ้นมาด้วย

หลังจากทะเลจิตวิญญาณของเขาสั่นสะท้าน ฟองอากาศแวววาวก็ปรากฏออกมาอย่างไร้สุ้มเสียง พอกะพริบหนึ่งที ก็ม้วนไหมสายฟ้าห้าสีที่ดีดดิ้นอยู่ไม่หยุดไว้ และดึงเข้าไปในทะเลจิตวิญญาณ

ขณะเดียวกัน หลิ่วหมิงก็กระตุ้นวิชาปิดผนึกด้วยสีหน้าซีดขาว

ผลลัพธ์คือผลึกพลังเวททั้งหนึ่งร้อยห้าสิบสามเม็ดในร่างสั่นสะเทือนเป็นจังหวะ ไม่นานก็กลายเป็นกรงขังล้อมรอบสายฟ้าห้าสีไว้ และปิดผนึกมันไว้ในนั้น

หลังจากหลิ่วหมิงทำทุกอย่างนี้เสร็จ ถึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก

เขาที่เพิ่งได้สติกลับมา ถึงรับรู้ถึงความเจ็บใจปวดทั่วร่างกาย เส้นลมปราณตามจุดต่างๆ ภายในร่างกระตุกอยู่ไม่หยุด แม้กระทั้งร่างกายครึ่งหนึ่งก็เกรียมดำโดยไม่รู้ตัว หมดซึ่งความรู้สึก และตราประทับสายฟ้าตรงหน้าอกก็ยังคงอยู่ เพียงแต่กลายเป็นห้าสีเท่านั้น

หลิ่วหมิงเห็นเช่นนี้ก็ยิ้มอย่างขมขื่น

ดูท่าหากไม่ใช่ว่ากายเนื้อของเขาแข็งแกร่งพอ และฟองอากาศปรากฏออกมากักขังสายฟ้าเทพสวรรค์เก้าชั้นฟ้าได้ทันเวลา เขาอาจจะกลายเป็นขี้เถ้าไปแล้วก็ได้

สายฟ้าเทพสวรรค์เก้าชั้นฟ้า ไม่ใช่สิ่งที่เขาจะสามารถรับมือได้จริงๆ

หลังจากหลิ่วหมิงพักผ่อนเล็กน้อยแล้ว ก็พลิกมืออย่างสั่น ๆ หยิบโอสถจินหยวนออกมาเทเข้าไปในปาก

“นายท่าน!”

ขณะนี้ หญิงสาวกับเด็กชายที่อยู่ด้านข้าง ก็พุ่งเข้ามาถึง พอเห็นร่างของหลิ่วหมิงเต็มไปด้วยบาดแผล ต่างก็หยิบยันต์ชนิดต่างๆ มาแปะลงบนตัวหลิ่วหมิงอย่างบ้าคลั่ง

แสงอันนุ่มนวลเปล่งประกายออกมา ในที่สุดอาการบาดเจ็บของตัวหลิ่วหมิงถึงได้ทรงตัวลง

“ไม่เป็นไร! บาดแผลแค่นี้ข้าไม่ตายหรอก!”

ในใจหลิ่วหมิงรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมา หลังจากพูดปลอบใจทั้งสองไปหนึ่งประโยคแล้ว ถึงนั่งขัดสมาธิลงเงียบๆ ด้านหนึ่งกลั่นเอาพลังของโอสถ อีกด้านก็โคจรเคล็ดวิชามังกรพยัคฆ์ทมิฬอย่างเงียบๆ

ขณะที่พลังของโอสถจินหยวนแพร่กระจายออกไปนั้น มันก็กลายเป็นกระแสอุ่นๆ ไหลตามเส้นลมปราณที่ได้รับบาดเจ็บ ทำให้ความเจ็บปวดที่แผดเผาเบาลงทันที

และเซียเอ๋อร์กับเฟยเอ๋อร์ต่างก็คุ้มครองอยู่ข้างกายหลิ่วหมิงอย่างระมัดระวัง และสังเกตดูรอบด้านอย่างถี่ยิบ

เหตุการณ์ดำเนินไปเช่นนี้ไปจนฟ้าสาง บาดแผลบนตัวหลิ่วหมิงถึงถูกควบคุมไว้ได้อย่างสมบูรณ์

หลังจากเก็บค่ายกลบนยอดเขาอย่างรีบร้อนแล้ว หลิ่วหมิงก็พาแมงป่องกระดูกกับหัวบินกลับไปยังถ้ำที่พัก จากนั้นก็เปิดค่ายกลป้องกันภายในถ้ำ ทำให้ทั่วทั้งหุบเขาถูกซ่อนไว้

และเขาก็รีบเดินเข้าไปเก็บตัวในห้องลับทันที

ครั้งนี้หลิ่วหมิงได้รับบาดเจ็บสาหัสไม่น้อย หากไม่รักษาอาการให้ดีๆ สักระยะเวลาหนึ่ง เกรงว่าคงทิ้งภัยร้ายไว้ในภายหลังไม่น้อย

ประตูถ้ำปิดเป็นเวลาหลายเดือน

เช้าตรู่วันหนึ่ง หินก้อนใหญ่หน้าถ้ำส่งเสียงดังก้องและแตกเป็นช่องว่าง เงาร่างคนสวมชุดคลุมสีเทากะพริบออกมา และพุ่งขึ้นบนอากาศ เขาก็คือหลิ่วหมิงนั่นเอง

ช่วงเวลาหลายเดือนมานี้ บาดแผลบนตัวของเขาได้ฟื้นฟูกลับมามีสภาพสมบูรณ์แล้ว เขาดูนิ่งลึกและธรรมดามาก หากไม่ใช้จิตรับรู้กวาดดูอย่างละเอียด อาจจะคิดว่าเขาเป็นมนุษย์ธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น

หลัวโหวกล่าวไว้ไม่มีผิด สายฟ้าเทพสวรรค์เก้าชั้นฟ้ามีผลในการควบคุมจิตปีศาจจริงๆ

และเมื่อเขาถูกสายฟ้าเทพสวรรค์เก้าชั้นฟ้าผ่าแล้ว ไม่เพียงแต่กายเนื้อจะยอดเยี่ยมมากขึ้นเท่านั้น แม้แต่การโคจรพลังเวทก็เร็วกว่าก่อนหน้านั้นสองส่วน

ที่สำคัญที่สุดก็คือ พลังของจิตปีศาจที่เขาสามารถรับรู้ได้ในเมื่อก่อน ก็ดูเหมือนจะถูกสายฟ้าเทพสวรรค์เก้าชั้นฟ้าควบคุมไว้ได้ชั่วคราว ทำให้เรารู้สึกถึงการหลุดพ้นโดยสมบูรณ์

“ในที่สุดก็ไม่ต้องกังวลเรื่องการสูญเสียสติสัมปชัญญะหลังจากแปลงร่างเป็นปีศาจไปชั่วคราว” หลิ่วหมิงพูดพึมพำไปหนึ่งประโยค พอขยับแขนขยับขาทีหนึ่งแล้ว ภายในร่างของเขาก็เกิดเสียงดังราวกับเสียงทอดถั่ว ขณะเดียวกันก็แหงนหน้าสังเกตดูบนท้องฟ้า

เขามาหนานฮวงในครั้งนี้ เป้าหมายก็สำเร็จไปกว่าครึ่งหนึ่งแล้ว แต่หากจะให้จากไปนั้น มันยังคงเร็วไปหน่อย

ก่อนอื่นเขายังต้องรวบรวมวิญญาณปีศาจจำนวนมากต่อ ประการแรกเพื่อให้ภารกิจนิกายสำเร็จ ประการที่สองจะได้ปรับแต่งภาพสัญลักษณ์เชอฮ่วนบนเขาสักรอบ

เพราะว่ามีแต่พื้นที่โหดร้ายระดับหนานฮวงเท่านั้น ถึงจะมีปีศาจอสูรที่ดุร้ายเช่นนี้ได้ นี่คือสิ่งที่นิกายยอดบริสุทธิ์ในแผ่นดินจงเทียนไม่อาจเทียบได้

และด้วยพลังของเขาในตอนนี้ ก็เริ่มคิดที่จะไปล่าปีศาจอสูรระดับแก่นแท้จำนวนหนึ่งแล้ว เพราะปีศาจอสูรที่ยิ่งแข็งแกร่ง วิญญาณของมันก็จะยิ่งส่งผลดีต่อการปรับแต่งภาพสัญลักษณ์มากเท่านั้น

หลังจากหลิ่วหมิงตัดสินใจแล้ว ไอดำก็ม้วนออกจากตัว และพุ่งออกไปบนอากาศ

…….

“โครมคราม!”

ภายในถ้ำธรรมชาติภายใต้ยอดเขาสูงตระหง่านลูกหนึ่ง ที่ตั้งอยู่บริเวณส่วนลึกของเทือกเขาบางแห่ง มีหินใหญ่ขนาดร่วงลงมาเป็นก้อนๆ

ไม่นานถ้ำแห่งนี้ก็พังทลายลงมาครั้งหนึ่ง

ขณะนั้นเอง พอมีเงาดำเปล่งประกาย หญิงสาวชุดดำก็มุดขึ้นมาจากพื้น และกลายเป็นแสงสีดำพุ่งออกไปไกลๆ โดยไม่พูดพร่ำทำเพลง

จากนั้น ก้อนหินขนาดใหญ่ที่พังทลายลงมาภายในถ้ำ ก็ถูกพลังมหาศาลสั่นสะเทือนจนกระเด็นออกไป แมงมุมสีแดงขนาดหนึ่งจั้งกว่าๆ พุ่งออกจากถ้ำในทันที

แมงมุมตัวนี้มีสีแดงทั้งตัว ขายาวๆ ทั้งแปดแหลมคมราวกับคมมีด มีเขี้ยวยื่นออกมาราวกับกระบี่รูปพระจันทร์เสี้ยว แลดูน่ากลัวยิ่งนัก

นี่คือแมงมุมจันทราแดงที่ค่อนข้างมีชื่อเสียง เป็นปีศาจอสูรธาตุหยินที่พบเจอได้น้อยในสถานที่อื่นๆ หลังจากตัวโตเต็มวัยแล้ว ก็จะมีนิสัยเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ทั้งยังเจ้าเล่ห์อย่างถึงขีดสุด หากผู้ฝึกฝนโดยทั่วไปคิดจะจับมันล่ะก็ เป็นเรื่องที่ยากเป็นอย่างยิ่ง แม้แต่ผู้ฝึกฝระดับแก่นแท้ ก็ไม่อาจไปยุแหย่มันได้

ขณะนี้ ดวงตาทั้งสองของมันกลายป็นสีโลหิต ดูเหมือนว่ากำลังโมโหอย่างถึงขีดสุด ขาทั้งแปดขายันอยู่บนพื้น และคิดที่จะพุ่งตามหญิงสาวชุดดำไป

แต่ขณะนั้นเอง พลันเกิดคลื่นสั่นสะเทือนด้านหลังของมัน จากนั้นเงาร่างสีดำก็ปรากฏออกมา และกำหมัดทุบลงไปด้านล่างโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง

คนผู้นี้ก็คือหลิ่วหมิงนั่นเอง!

พอจะพูดได้ว่าเขาปรากฏตัวอย่างกะทันมาก โดยไม่มีลางบอกเหตุมาก่อนแม้แต่น้อย

ถามถึงสาเหตุก็คือ หลังจากภาพสัญลักษณ์เชอฮ่วนดูดซับวิญญาณจำนวนมากแล้ว พอทำการกระตุ้น การปิดบังกลิ่นไอก็ยิ่งมหัศจรรย์มากขึ้น จนสามารถหลบพ้นจิตรับรู้ของปีศาจอสูรตัวนี้ไปได้

พอแมงมุมสีแดงรู้ตัว เงากำปั้นสีดำมืดสนิทก็มาถึงเหนือศีรษะของมันแล้ว

แมงมุมสีแดงส่งเสียงคำรามด้วยความโมโห เท้าทั้งแปดวาดตัวบนพื้นอย่างรุนแรง และหลบออกไปด้านข้าง ขณะเดียวกันก็อ้าปากขนาดพ่นของเหลวที่มีกลิ่นเหม็นคาวลงบนกำปั้นสีดำ

“ตู๊ม!”

ของเหลวสีแดงกับเงากำปั้นสีดำปะทะกันอย่างดุเดือด จนเกิดเสียงระเบิดดังก้อง

จากนั้นเงากำปั้นก็สลายไป แต่ของเหลวอัคคีกลับพุ่งเข้าใส่เงากำปั้น พอหยดลงสู่พื้นก็กลายเป็นหินเต็มพื้น

“ควบแน่นอัคคีเป็นของเหลว สามารถฝึกฝนวิชาอัคคีปีศาจมาถึงขั้นนี้ได้ นับว่าสมกับเป็นปีศาจอสูรระดับแก่นแท้แล้ว”

หลิ่วหมิงเห็นฉากเช่นนี้ ก็พูดพึมพำออกมา ครู่ต่อมา แสงสีทองก็เปล่งประกายบนระหว่างคิ้วของเขา กระบี่เล็กสีทองเปล่งประกายออกมา มันพร่ามัวแค่ทีเดียว ก็ขยายตัวตามแรงลม จนมีความยาวหลายฉื่อ

………………………………

ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ

ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ

เด็กหนุ่มที่เติบโตท่ามกลางนักโทษบนเกาะมฤตยู หลังหนีออกจากที่คุมขังสำเร็จก็จับพลัดจับผลูเข้าไปในนิกายปีศาจ และกลายเป็นการเปิดประตูเข้าสู่พิภพอันกว้างใหญ่อย่างที่เขาคาดไม่ถึง ทว่าภายใต้ความบังเอิญนี้ เขากลับต้องเผชิญหน้ากับวิกฤตถึงชีวิต ที่อาจจะสูญเสียตัวตนกลายเป็นจอมปีศาจอยู่ตลอดเวลา…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset