ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ – ตอนที่ 921 เหตุการณ์ไม่คาดฝัน

หลิ่วหมิงสั่นสะท้านรีบเพ่งสายตามอง

แล้วเขาก็เห็นว่าสิ่งที่หมอกสีขาวหุ้มอยู่คือปีศาจอสูรหงส์สีขาวขนาดถึงสิบกว่าจั้งตัวหนึ่ง ดวงตาสีดำสนิทกำลังจ้องหญิงสาวผู้สวมชุดนางในกลางอากาศเขม็ง

เงาปีศาจจิ้งจอกเก้าหางสองตัวที่อยู่เหนือศีรษะของหญิงสาวเริ่มผสานจากสองกลายเป็นหนึ่ง บนร่างของทั้งสองตัวมีแสงแวววาวดุจเส้นไหมละเอียดหลายเส้นกำลังแทรกเข้าไปในร่างของสตรีนางนี้ทีละน้อย

เวลานี้ดวงเนตรงามของหญิงสาวปิดสนิท คล้ายกับว่ากำลังเข้าสู่ช่วงเวลาสำคัญของการสืบทอดมรดกวิชา!

หลิ่วหมิงเห็นเช่นนี้ มือข้างหนึ่งก็จี้ดัชนีเข้าใส่วิญญาณปีศาจหงส์น้ำแข็งเบาๆ เงาเชอฮ่วนส่งเสียงดัง “ฟึบ” กลายเป็นแสงสีน้ำเงินพุ่งเข้าใส่ไอหมอกสีขาวทันที

วิญญาณปีศาจหงส์เห็นเช่นนี้พลันกระพือปีกทั้งสองข้าง เกล็ดน้ำแข็งสีขาวโพลนเล็กละเอียดเต็มฟ้าก่อตัวขึ้นจากความว่างเปล่าจากนั้นกลายเป็นเงาเข็มน้ำแข็งเรียวเล็กเล่มแล้วเล่มเล่าพุ่งรวดเร็วมากมายถี่ยิบมายังจุดที่เชอฮ่วนอยู่

เชอฮ่วนไม่มีสีหน้าลนลานแม้แต่น้อย มันเพียงอ้าปากกว้าง พายุหมุนสีน้ำเงินลูกหนึ่งก็ซัดออกมา

เสียง “เปรี๊ยะ” ดังขึ้นไม่ขาด!

เข็มน้ำแข็งเต็มท้องฟ้าถูกพายุหมุนพัดครั้งเดียวก็กลายเป็นเงาปราณวารีสีขาวสายแล้วสายเล่าสลายหายไปกับความว่างเปล่า

ดวงตาสองข้างของเชอฮ่วนทอประกายเจิดจ้าแล้วสูดลมอย่างแรง ปราณวารีทั้งหมดไหลประหนึ่งน้ำหลากทะลักเข้าไปในปากของมันแล้วหายไปหมดในเวลาเพียงครู่เดียว

จากนั้นร่างของเงาเชอฮ่วนก็ขยับ มันปรากฏตัวท่ามกลางไอหมอกสีขาวดุจภูตพรายแล้วขย้ำปีกข้างหนึ่งของหงส์ไว้

“แกว้ก!”

หงส์กรีดร้อง แสงสีขาวส่องสว่างวูบวาบบนปีก เกล็ดหิมะขนาดเท่าศีรษะเกล็ดแล้วเกล็ดเล่าก่อตัวขึ้นรอบด้านแล้วทอแสงสีขาวจับตัวบนปีกอย่างรวดเร็ว พริบตาเดียวก็แผ่ลามมาถึงบนร่างของเงาเชอฮ่วน

เวลาไม่กี่ลมหายใจหลังจากนั้นน้ำแข็งบางชั้นหนึ่งก็ปรากฏบนผิวของเชอฮ่วน มันกลายเป็นรูปสลักน้ำแข็งตัวหนึ่งที่กำลังอ้าปากกว้างกัดปีกของหงส์แน่นไม่ปล่อย

ปีศาจอสูรหงส์กระพือปีกกลางอากาศไม่หยุด มันกรีดเสียงร้องออกมาเป็นพักๆ พัดพายุเย็นเยียบเสียดกระดูกลูกแล้วลูกเล่าออกมา พยายามสุดกำลังหมายจะสลัดให้หลุดจากการกัดขย้ำของเชอฮ่วนทว่าดูเหมือนจะไม่มีผลสักนิด

หลิ่วหมิงเห็นเช่นนี้พลันคิ้วขมวด มือข้างหนึ่งกระตุ้นเคล็ดวิชาในทันใด

รูปสลักน้ำแข็งเปล่งแสงเรืองรองหลากหลายสีออกมา!

น้ำแข็งแกร่งบนร่างเชอฮ่วนแตกกระจายดังเพล้งในพริบตา ในเวลาเดียวกันนั้นปราณปีศาจผสมกันมั่วสั่วก้อนหนึ่งก็พุ่งเร็วรี่ออกมา

เชอฮ่วนพ่นปราณของวิญญาณปีศาจที่ยังไม่ทันย่อยในร่างมันออกมาตรงๆ

นหงส์ขาวฉับพลันกรีดร้องเสียงแหลม ทันใดนั้นมันก็เลือนหายไปจากบนท้องฟ้า หลบปราณปีศาจที่ผสมปนเปกันนี้ไป ร่างกายขยับวูบหนึ่ง มันก็กลายเป็นแสงแวววาวสีขาวหมุนตัวหนีไป

หลิ่วหมิงเพ่งจิต คิดจะออกคำสั่งให้เชอฮ่วนไล่ตามไปสังหารวิญญาณปีศาจดวงนี้ ทว่าในเวลานี้เองเหตุไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น

เสียง “ฟึบ” ดังขึ้นครั้งหนึ่ง แสงสีแดงสายหนึ่งพุ่งมาจากด้านหลังของเขา

หลิ่วหมิงตกตะลึงรีบขยับร่างทันทีจนหลบพ้นจุดสำคัญ ทว่าพร้อมกับเสียงดัง “ฉึบ” รอยกรงเล็บสีแดงสดสามเส้นก็ยังคงปรากฏขึ้นบนหลัง เลือดไหลรินออกมา

กรงเล็บสีแดงข้างหนึ่งเฉียดผ่านข้างลำตัวของเขาไป

ความเจ็บปวดดั่งไฟเผาส่งมาจากบนหลังของหลิ่วหมิง เขาหายตัวครั้งเดียวก็โผล่มาห่างสิบกว่าจั้ง แล้วพลิกมืออย่างรวดเร็วครั้งหนึ่ง เรียกโอสถสีเทาขมุกขมัวเม็ดหนึ่งจากในแหวนย่อส่วนมากลืนลงท้อง

ปราณอ่อนโยนสายหนึ่งไหลวนบนหลังของเขา รอยแผลลึกหนึ่งชุ่นกว่าสามสายประสานสนิทอย่างเร็วไว แต่ตรงขอบยังคงมีปราณปีศาจสีแดงหลายสายที่สลัดไม่หลุด

ตอนนี้หลิ่วหมิงเพิ่งได้กวาดสายตามองจุดที่ส่งการลอบจู่โจมมา แล้วเขาก็ต้องตกตะลึงอย่างยิ่ง!

เขาเห็นเงาร่างอ้อนแอ้นร่างหนึ่งปรากฏขึ้นในทิศที่เคยเป็นด้านหลังของเขา หลังร่างมีหางจิ้งจอกเส้นแล้วเส้นเล่าส่ายไปมาไม่หยุด นางก็คือหญิงสาวเผ่าปีศาจผู้สวมชุดนางในผู้นั้น

สตรีนางนี้ยังคงล่อนจ้อนห่มแสงสีแดง เปลือยเรือนร่างอรชรขาวผ่องที่ชวนให้คนเลือดลมพลุ่งพล่านออกมามากกว่าครึ่ง ทรวงอกพองขึ้นยุบลงเล็กน้อยไม่หยุด ดวงเนตรงามทั้งสองข้างที่เคยกระจ่างใสดุจสายน้ำมีประกายแสงสีเลือดสองดวงเหมือนทับทิมสองเม็ดไหลวนต่อเนื่อง ทว่ามันกลับว่างเปล่าไร้ประกายคล้ายกับว่าสูญเสียสติสัมปชัญญะไป

หลิ่วหมิงมีสีหน้าสับสนเล็กน้อย เขากวาดสายตามองเหนือร่างสตรีนางนี้อย่างไม่รู้ตัว

เงาปีศาจจิ้งจอกเก้าหางสองตัวด้านบนตอนนี้ผสานกลายเป็นร่างเดียวแล้ว มันกลายเป็นเงาปีศาจจิ้งจอกเก้าหางสีขาวโพลนไร้ตำหนิตัวหนึ่ง

เทียบกับท่าทางทรงพลังก่อนหน้านี้ วิญญาณปีศาจดวงนี้ตอนนี้ขนาดเล็กลงหลายเท่า กระทั่งปราณปีศาจที่แผ่ออกมาก็อ่อนแอลงไม่น้อย ทว่าดวงตาทั้งคู่กลับเปล่งประกายดุจทับทิบจับจ้องหลิ่วหมิงเขม็งด้วยแววตาดุร้าย

แสงแวววาวสีขาวประหนึ่งเส้นไหมเรียวเล็กเส้นแล้วเส้นเล่าจากเงาปีศาจจิ้งจอกด้านบนที่เดิมทีแทรกเข้าไปในร่างหญิงสาวไม่ขาดตอนนี้หายไปแล้ว ดูท่าการสืบทอดมรดกครั้งนี้จะจบสิ้นลงแล้ว

แต่ปราณที่แผ่ออกมาจากสตรีนางนี้กลับเดี๋ยวมากเดี๋ยวน้อยไม่มั่นคง ทว่าแม้ในยามที่ปราณอ่อนแอที่สุดก็ยังระดับแก่นแท้ขั้นกลาง ส่วนพริบตาที่ขึ้นไปถึงจุดสูงสุดเทียบเคียงได้กับระดับแก่นแท้ขั้นสมบูรณ์แบบ

หลิ่วหมิงเห็นเช่นนี้ก็พลันขมวดคิ้ว!

ตอนนี้ไหนเลยเขาจะยังมองไม่ออกอีกว่าระหว่างสืบทอดมรดกสตรีนางนี้คงเกิดปัญหาบางอย่างขึ้น ดูเหมือนนางจะถูกวิญญาณปีศาจจิ้งจอกเก้าหางตัวนั้นย้อนกลับมาควบคุมไว้

แม้สตรีนางนี้พรสวรรค์ล้ำเลิศ สายเลือดก็บริสุทธิ์ยิ่งนัก แต่จะรับมรกดกวิชาจากวิญญาณปีศาจจิ้งจอกเก้าหางสมัยโบราณตัวนี้อย่างสมบูรณ์ในเวลาสั้นเช่นนี้คิดว่าก็คงฝืนเกินไปอยู่บ้าง

ขณะที่เขายังตัดสินใจไม่ได้อยู่นั่นเอง เงาปีศาจจิ้งจอกเก้าหางด้านบนก็พลันร้องคำราม หญิงสาวเผ่าปีศาจเบื้องล่างราวกับได้รับคำสั่ง ดวงตาทอประกายสีแดงวูบหนึ่ง สองมือก็ตะปบแสงกรงเล็บยาวหนึ่งฉื่อกว่าเข้าใส่หลิ่วหมิง

ร่างกายของสตรีนางนี้ว่องไวยิ่งนัก เพียงชั่วพริบตาก็พาเงาเลือนรางสายหนึ่งมาปรากฏตัวห่างจากหลิ่วหมิงไปแค่หนึ่งจั้งกว่าเบื้องหน้า

เสียงแหวกอากาศดังขึ้นสองครั้ง!

แสงกรงเล็บสีแดงสองข้างตวัดไขว้เป็นกากบาทร่วงลงมาด้วยความเร็วอันน่าเหลือเชื่อ โจมตีครั้งเดียวก็ทำลายร่างกายของหลิ่วหมิงได้

ทว่า ‘หลิ่วหมิง’ กลับสลายหายวับกลายเป็นปราณดำสายแล้วสายเล่า เขาถึงกับเป็นเพียงเงาร่างหนึ่งเท่านั้น

เวลานี้ร่างต้นของหลิ่วหมิงเลือนหายมาปรากฏตัวบนท้องฟ้าห่างไปหลายจั้ง ร่างกายหมุนครั้งหนึ่งก็ลอยออกไปไกลกว่าเดิมทันที จากนั้นหลังคำรามเบาๆ ครั้งหนึ่ง เขาก็พุ่งเข้าใส่จุดหนึ่งบนอากาศเหนือศีรษะหญิงสาว

เงาเชอฮ่วนที่เดิมทีหยุดอยู่ใกล้ๆ ขยับวูบเดียวกลายเป็นแสงสีน้ำเงินดวงหนึ่งพุ่งเข้าใส่เงาปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง

ปีศาจตัวนี้สะบัดหางปีศาจเก้าเส้นหลังร่าง เงาหางจิ้งจอกสีขาวเส้นแล้วเส้นเล่ากวาดดังฟึบหลายครั้ง ตบเงาเชอฮ่วนที่บินโถมมาถึงปลิวออกไปไกลหลายสิบจั้งในทันใด

ปากใหญ่โตของเงาเชอฮ่วนแสยะ แสงสีน้ำเงินทั่วร่างไหลเคลื่อนพักหนึ่ง ร่างกายที่โอนเอนก็ตั้งหลักมั่นคง ดวงตาวัวสีน้ำเงินที่เหมือนระฆังทองแดงจ้องถลึงปีศาจจิ้งจอกเก้าหางเขม็งด้วยแววตาดุร้าย

ขณะที่หลิ่วหมิงคิดจะกระตุ้นวิชาลับภาพสัญลักษณ์อีกครั้ง หญิงสาวเก้าหางกลับพุ่งเข้ามาปรากฏตัวเบื้องหน้าเขาประหนึ่งภูตพรายอีกหน นางขยับแขนครั้งหนึ่งสร้างเงากรงเล็บตะปบลงบนร่างเขา

แม้หลิ่วหมิงจะบิดเอวเปลี่ยนทิศกลางอากาศรวดเร็วดั่งสายฟ้าแลบก็ยังถูกเงากรงเล็บข้างหนึ่งกรีดผ่านหัวไหล่ เสียง “แควก” ดังขึ้นพร้อมกับที่บนเสื้อเกิดรอยขาดลากยาวเส้นหนึ่ง

ทว่าหลิ่วหมิงกลับไม่ลนลานสักนิด ตรงกันข้ามเขากลับฉวยโอกาสยกมือข้างหนึ่งขึ้นไปทางสตรีนางนี้ ยันต์หนาตั้งหนึ่งพุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว

เสียงระเบิด “เปรี้ยง” ดังขึ้นตามมา ปราณวารีสีฟ้าผืนใหญ่ทะลักออกมากลายเป็นฟองอากาศลูกแล้วลูกเล่าล้อมสตรีนางนี้ไว้ด้านใน

แม้หญิงสาวเก้าหางจะเสียสติสัมปชัญญะไป แต่เมื่อเห็นสถานการณ์เช่นนี้นางก็ยังชะงักอย่างไม่รู้ตัว

หลิ่วหมิงฉวยช่องว่างจังหวะนี้ตวาดดังลั่น สองแขนเหวี่ยงออกไป มังกรหมอกสีดำยาวเจ็ดถึงแปดจั้งสองตัวก่อตัวออกมาจากบนร่างเขาพร้อมกับเสียงมังกรคำรามแล้วพุ่งเข้าไปขดล้อมสตรีนางนี้ไว้

“คุกมืด!”

มังกรหมอกสีดำยังไม่ทันสัมผัสสตรีนางนี้ มันก็ระเบิดดังกึกก้องกลายเป็นแสงรัศมีสีดำสายแล้วสายเล่าขังสตรีนางนี้ไว้ด้านใน

ทว่าเสี้ยววิญญาณปีศาจจิ้งจอกเก้าหางเหนือศีรษะเพียงเปล่งแสงสีเลือดจากดวงตาทั้งสองข้างก็มีปราณปีศาจท่วมท้นพุ่งแหวกคุกมืดจนเปิดออก เงาร่างสีขาวพุ่งออกมา หญิงสาวเก้าหางพุ่งมาหาหลิ่วหมิงอีกครั้งด้วยใบหน้าไร้อารมณ์

หลิ่วหมิงหน้าทะมึน แขนเสื้อสองข้างสะบัด โยนยันต์สีทองอ่อนหลายแผ่นออกมาดั่งสายฟ้าแลบ แล้วกรอกพลังเวทเข้าไปให้อสูรสมุทรแปดขาตรงหน้าอก เสียง “ฟู่” ดังขึ้นด้านหลังขณะที่ปีกเนื้อสีเงินสองข้างปรากฏออกมา

เสียงดังกึกก้องลอยมาระลอกแล้วระลอกเล่า!

ยันต์สีทองทั้งหมดระเบิดกลางอากาศกลายเป็นสายฟ้าสีทองมากมายหลายเส้นพุ่งเข้าไปล้อมหญิงสาวเก้าหางไว้

ในเวลาเดียวกันนี้ปีกเนื้อบนแผ่นหลังของหลิ่วหมิงก็กระพืออย่างแรง เขากลายเป็นแสงสีเงินเส้นหนึ่งพุ่งแหวกท้องฟ้าไปด้านหลัง ระหว่างทางเขาก็ยกมือข้างหนึ่งจี้ดัชนีใส่เงาเชอฮ่วน

เงาเชอฮ่วนสูดลมหายใจลึกเฮือกหนึ่งแล้วอ้าปาก พ่นพายุหมุนสีน้ำเงินขมุกขมัวเจ็ดแปดลูกรัวใส่เงาปีศาจเก้าหางทันที

แม้เงาจิ้งจอกเก้าหางที่อยู่เหนือศีรษะหญิงสาวจะนิ่งไม่ขยับ แต่หางจิ้งจอกที่หนาเท่าถังน้ำเก้าเส้นด้านหลังแกว่งไกวเพียงครั้งเดียวก็กลายเป็นเงาสีขาวเส้นหนึ่งฟาดขวางออกมา

เสียง “ฟู่” ดังขึ้นหลายหน พายุหมุนที่จัดการวิญญาณปีศาจสำเร็จลุล่วงทุกครั้งเหล่านั้นถูกเงาสีขาวเหล่านี้โจมตีถอยออกไปทีละลูกในพริบตา

ทว่าพายุหมุนสีน้ำเงินเหล่านี้ที่เชอฮ่วนพ่นออกมาเห็นชัดว่าไม่เหมือนก่อนหน้านี้ พวกมันถูกหางจิ้งจอกสีขาวโจมตีถอยออกมาก็ส่ายไหวกลางอากาศใกล้ๆ ครั้งหนึ่งแล้วก็พัดเข้าใส่เงาปีศาจจิ้งจอกเก้าหางจากทิศทางอื่นอีกครั้ง ต่อให้เงาสีขาวขยับตบอย่างบ้าคลั่งมันก็ไม่ผละออกจากบริเวณใกล้ๆ เลย ตั้งแต่ต้นจนจบ

เสียง “เปรี้ยง” ดังขึ้นไม่ขาดสาย!

เสี้ยววิญญาณปีศาจจิ้งจอกจนปัญญาได้แต่ใช้หางขวางพายุหมุนสีน้ำเงินนี้ต่อ ทั้งสองฝ่ายต่อสู้ยืดเยื้อจัดการกันไม่ลงอยู่ชั่วขณะ

หลิ่วหมิงเผชิญหน้ากับหญิงสาวเก้าหางที่ฝ่าออกมาจากการกั้นขวางของอสนีบาตอีกครั้ง แต่เขาไม่ต่อสู้กับนางซึ่งหน้า เขาเพียงกระตุ้นปีกเนื้อสีเงินบนแผ่นหลังอ้อมวนในระยะร้อยกว่าจั้งโดยมีเงาเชอฮ่วนเป็นศูนย์กลาง

แต่เห็นชัดว่าเขาประเมินความเร็วของคู่ต่อสู้ด้านหลังต่ำเกินไปอยู่บ้าง แม้เขามีประสบการณ์การเผชิญหน้ากับศัตรูแข็งแกร่งในแดนมายามานับไม่ถ้วน แต่เมื่อเผชิญหน้ากับหญิงสาวที่เคลื่อนไหวประหนึ่งภูตพรายก็ได้แต่ฝืนต้านไว้อย่างยากลำบาก ผ่านไปครู่เดียวบนร่างเขาก็มีรอยแผลลึกตื้นไม่เท่ากันเพิ่มมาอีกสิบกว่ารอย

ขณะที่หลิ่วหมิงลอบขมวดคิ้วอยู่นั่นเอง สถานการณ์ยืดเยื้อตัดสินกันไม่ได้ระหว่างเชอฮ่วนกับวิญญาณปีศาจจิ้งจอกเก้าหางก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย

เมื่อเวลาผ่านไปวิญญาณปีศาจที่เชอฮ่วนดูดเข้าไปไว้ในร่างก็ค่อยๆ ถูกมันกลืนเข้ากับตัวเองอย่างสมบูรณ์ ปราณของมันจึงเริ่มเพิ่มขึ้นทีละน้อย

ส่วนเสี้ยววิญญาณของปีศาจจิ้งจอกเนื่องจากพลังอันเป็นมรดกของตัวมันเองถูกหญิงสาวเผ่าปีศาจดูดกลืนพลังงานไปเกินกว่าครึ่ง ผนวกกับวิชาเนตรที่ต้องใช้บังคับการเคลื่อนไหวของสตรีนางนี้กินพลังอย่างน่าตะลึงยิ่งนัก ปราณจึงกลับเริ่มอ่อนแรงลงเรื่อยๆ

เสียง “บึ๊ม” ดังขึ้นครั้งหนึ่ง

ผิวของเงาเชอฮ่วนฉายแสงจิตวิญญาณวูบหนึ่ง ทันใดนั้นเท้าทั้งสี่ก็กระทืบพื้นกลายเป็นแสงสีน้ำเงินดวงหนึ่งฝ่าทะลุการป้องกันของหางจิ้งจอก พุ่งเข้าชนร่างของเสี้ยววิญญาณปีศาจจิ้งจอกเก้าหางอย่างแรงจนมันปลิวไปในครั้งเดียว

ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ

ตำนานเซียนปีศาจสะท้านภพ

เด็กหนุ่มที่เติบโตท่ามกลางนักโทษบนเกาะมฤตยู หลังหนีออกจากที่คุมขังสำเร็จก็จับพลัดจับผลูเข้าไปในนิกายปีศาจ และกลายเป็นการเปิดประตูเข้าสู่พิภพอันกว้างใหญ่อย่างที่เขาคาดไม่ถึง ทว่าภายใต้ความบังเอิญนี้ เขากลับต้องเผชิญหน้ากับวิกฤตถึงชีวิต ที่อาจจะสูญเสียตัวตนกลายเป็นจอมปีศาจอยู่ตลอดเวลา…

Comment

Options

not work with dark mode
Reset