ตำนานเทพยุทธ์ – ตอนที่ 21

หลังจากที่ทั้งสองกลุ่มไม่อาจฝืนทนแรงกดดันของกันและกันได้อีกจึงปะทุในที่สุด

ภาพที่เป่าฮู่ไม่อยากเห็นก็เริ่มขึ้น โดยการต่อสู้ที่มีความเป็นตายและศักดิ์ศรีเป็นเดิมพัน เสียงแห่งความตายที่คืบคลานออกมาจากการต่อสู้ที่วุ่นวายจนทำให้สีหน้าของเถ้าแก่เจ้าของร้านเริ่มหวั่นใจ

“ซี่แล้ว ซี่แล้ว แบบนี้เละแน่ เละแน่ ร้านของข้า ร้านที่บิดาข้ามอบมาให้แก่ข้า เจ้ง เจ้ง”

 

เหตุการณ์ที่ปะทุทำให้เป่าฮู่ที่ลอบสำรวจระดับพลังของคนทั้งสองกลุ่ม ผู้มีระดับสูงสุดก็เพียงปราชญ์ลมปราณขั้นสูงเท่านั้น เช่นนี้ก็ง่ายต่อการกำราบ

“เจ้าพวกบัดซบตระกูลซิน พวกเจ้ามันตำช้า ปล่อยตัวคุณหนูเล็กมาของเราออกมาเดี๋ยวนี้”

จากเสียงที่ทะเลาะกันของทั้งสองฝ่ายทำให้เป่าฮู่เริ่มรับรู้ถึงสิ่งสำคัญทั้งที่ไม่อยากรู้ เพียงทั้งสองเริ่มเข่นฆ่ากัน พื้นของโถงโรงเตี๊ยมเจิ่งนองไปด้วยเลือด องครักษ์ทั้งสองกลับหันมาถามว่านายของพวกมันต้องการที่จะจากไปเลยหรือไม่

“คุณชาย ข้าว่าเราควรไปจากที่นี่กันเถอะ ไม่เช่นนั้นอาจถูกลากเข้าไปเกี่ยวด้วยก็ได้”

เพียงเท่านั้นเป่าฮู่ก็ไม่ได้เปลี่ยนความตั้งใจเดิมไปเลย ในเมื่อพวกมันกล้ามาทำลายความสงบสุขของเขา ทำไมเขาจะไม่สั่งสอนพวกมันแทนบ้าง​ ทั้งๆที่ร้านบ้าๆนี้จะพังลงอยู่แล้วเพราะการต่อสู้ครั้งนี้

“นี่พี่ชาย ท่านคงคิดว่าข้าคนนี้ชอบวิ่งหนีไปจากปัญหาตรงหน้าหรืออย่างไรเถ้าแก่ เรามาทำข้อตกลงกันหน่อย หากข้าช่วยไม่ให้ร้านท่านพังลงได้ ท่านช่วยคิดราคาที่พักของที่นี่ 1 เดือน แบบถูกๆหน่อยนะ? และท่านจงเร่งออกตามหาคุณหนูที่พวกมันพูดถึงนำนางมาข้าจะดูสิว่า ใครจะกล้ารบกวนการพักผ่อนของข้าอีก”

หลังจากที่เจราจาในเวลาที่ไม่เหมาะสม เถ้าแก่จึงไม่ได้ฟังจนแน่ชัด แต่ก็หันกลับมาในสิ่งที่เขาต้องการสื่อ

“ได้หากเจ้าหยุดการทำลายของสองตระกูลนี้ได้ และยังทำให้ร้านข้าไม่พังข้ารับข้อเสนอ แต่คุณหนูที่ว่านั่นอาจเป็นห้องในสุดของชั้นสอง ที่นั่นมีคนเฝ้าราวๆ4 คน และจำเอาไว้ว่าของข้าพังชิ้นไหนข้าจะเก็บเงินจากพวกเจ้า ”

เป่าฮู่ได้ฟังจึงหันไปทางองครักษ์ของเขา ก่อนที่จะกล่าวว่า

“พี่ชายทั้งสองเท่าที่ข้าดูพวกมันต้องมีคนซ่อนไว้แน่ๆ ท่านลองไปตรวจตราดูตามที่เถ้าแก่บอกคงมีใครที่พักอยู่แบบพิเศษในห้องเหล่านั้น นำนางมาอย่างเงียบๆและฆ่าพวกมันที่ขัดขวางซะ”

 

เมื่อเป่าฮู่ได้สังเกตเห็นและคิดออกมาอย่างถี่ถ้วน พอจะมีอยู่หลายปัจจัยที่จะไม่ทำให้ร้านนี้พังทลายลงไป และจบศึกนี้ลงกับมือตน

( ศึกนี้ทำไมต้องทำให้ข้าเหนื่อยใจนะ ความรู้สึกนี้มันคือสิ่งใดกันเอาหละยังไงก็ต้องลงมือ)​

ด้วยฝีมือระดับราชาลมปราณ​ ยิ่งกว่านั้นด้วยวัยเพียงเท่านี้ใครจะไปคิดว่าเป่าฮูชายหนุ่มวัย 18 ปีฐานะลูกบุญธรรมเมืองเล็กๆ ที่ตอนนี้กำลังเดินย่ำไปยังสถานที่อันมีแต่อันตรายและเป็นจุดต่อสู่ของอีกฝากหนึ่ง

 

“นี่เหล่าพี่ชาย หากพวกท่านช่วยสู้ไปสู้กันข้างนอกได้หรือไม่? เพราะโรงเตี๊ยมนี้เป็นของข้าแล้วใครที่มาต่อยตีกันด้านในสมควรถูกกำจัดออกไปให้พ้นตา เกรงว่าหากข้าลงมือพวกท่านอาจจะ”

เป่าฮู่ ไม่รอช้าระเบิดลมปราณออกมาอย่างหนักหน่วง พลังลมปราณกดดันรอบบริเวณทำให้ทุกคนในบริเวณรู้สึกอึดอัดไปข้างหนึ่ง

“บ่าน่า! ระดับราชา ที่แท้เป็นคุณชายตระกูลใหญ่เหรอนี่ ไม่ทันกาลแล้ว”

ด้วยแววตาที่เปลี่ยนไปขณะที่ร่างเงาสีดำพุ่งทะยานมาทางตระกูลซิน รอบกายที่พลันเปลี่ยนไปของเป่าฮู่ ช่วยสร้างภาพลักษณ์ของเขาขึ้นมาใหม่ แววตาที่ดุดัน จิตสังหารที่ปลดปล่อยทำให้ทั้งสองตระกูลต้องหยุดชะงัก และหนึ่งในสมาชิกของตระกูลซินที่ถูกสังหารในดาบเดียว

 

“คุณชาย เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับท่าน เราไม่รู้ว่าท่านมาจากไหนแต่ว่า อย่าได้ยื่นมือเข้ามาช่วย”

คำกล่าวนี้ไม่ได้ทำให้เป่าฮู่เกรงกลัวกลับกัน เป่าฮู่กลับกล่าวว่า

“ชีวิตพวกเจ้าสักคนข้าไม่ได้สนใจ  เป็นของข้า ใครกล้าทำของตกแตกหรือหักพัง ต้องแลกด้วยชีวิต”

คำขู่ที่ดังลั่นทั่วโรงเตี๊ยม ทำให้ตัวของตระกูลหย่วนที่กำลังเผชิญเคราะห์กรรมอยู่กลับต้องถลึงตามองมากยิ่งขึ้น เพราะโต๊ะที่พัง แจกันที่แตกนั่นล้วนนำมาซึ่งชีวิต

“ไม่เกี่ยวกับข้า ฮึ! เจ้าคนพวกนี้”

เสียงของการดิ้นรนเอาตัวรอดและชี้นำความผิดพลาดไปยังตระกูลซิน เพื่อหลีกเลี่ยงความตายของตน คนจากตระกูลหย่วนทำให้เป่าฮู่ผิดหวังมากนักจากภาพที่เห็น

เป่าฮู่ได้เริ่มยุทธการ เขียนเสือให้วัวกลัว นั่นย่อมทำไปด้วยความลำบากการยืนอยู่ที่เดิม แต่กลับสะบัดข้อมือเพียงเล็กน้อยกระบี่น้ำแข็งที่สร้างจากเคล็ดวิชาของนิกาย

พลังวิชาราชันกระบี่ไร้รูป พุ่งเข้าสกัดกำลังชาวยุทธ์ของตระกูลซิน และทำให้ชายผู้นั้นตกตายไป หนึ่งศพ

 

ก่อนที่ร่างของชายหนุ่มจะพุ่งเข้าไปที่กลางสนามรบ

“ข้าบอกให้หยุดแต่ไม่หยุด กล้ามากที่ยังเสนอหน้ามาสู้กันในสถานที่พักอันสงบสวยงามขนาดเล็กแบบนี้ รู้ไหวชาวเมืองสักกี่มากน้อยที่รอคอยสิ่งสวยงามเหล่านี้ในการได้มาเยี่ยมชมเทศกาลสาวงาม ดังนั้นพวกเจ้าที่เป็นคนแดนใต้กับมากัดกันและทำให้คนเช่นข้ามาทนกับความวุ่นวายแบบนี้อีก”

ใบหน้าของทั้งสองตระกูลที่ได้ฟังคำตำหนิของชายหนุ่ม กลับสงสัยว่า

(ใครในสมาชิกของพวกมันไปทำให้บิดาของไอ้หนุ่มนี่ตกตายหรือ ใครที่ไปทำให้มารดาของมันท้องกัน จู่ๆมาพูดเพ้อรำพรรณถึงส่องสวยงามและลงมือฆ่าคนอย่างโหดเหี้ยม)

 

“โรงเตี๊ยมของเจ้า กล้าพูดดีนะ เถ้าแก่สรุปตอนนี้ใครเป็นเจ้าของที่นี่?”

ด้วยไหวพริบของเป่าฮู่มันรีบให้คนของมันนำเงินไปยัดให้เถ้าแก่ก่อนที่จะยึดกิจการเล็กๆตรงนี้ไว้ ในเมื่อชอบบรรยากาศก็ซื้อมันไปเลย และทำให้มันดีขึ้น เพื่อเป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลในแดนใต้แห่งนี้

เพียงเถ้าแก่ชูถุงเงินออกไปเพียงเท่านั้นทุกคนในโรงเตี๊ยมเริ่มสับสนว่า

(มันไปซื้อกันตอนไหน) เป่าฮู่ไม่รอช้ารีบมองไปทางตระกูลหย่วนด้วยแววตา ที่คาดโทษ

“ท่านอาวุโส ตระกูลหย่วนเราต้องเห็นคุณหนูสำคัญที่สุด”

เพียงคำพูดเหล่านั้นจบลง หนึ่งในองครักษ์ของเป่าฮู่ก็กลับมา พร้อมกระชิบบอกกับเป่าฮู่ว่า สมาชิกของตระกูลซินตกตายไปหมดแล้ว

“ดีมาก พี่ชาย เอาหละจากนี้ท่านก็ช่วยข้าดูว่าสองตระกูลนี้ ใครมันทำให้เข้าของที่ข้าใช้เงินทั้งหมดซื้อโรงเตี๊ยมนี้ไว้พัง ข้าจะไปเก็บเงินกับมันที่ตระกูลเอง”

เมื่อทังสองตระกูลได้เห็นและได้ยินสิ่งที่เป่าฮู่กล่าว ทำให้พวกมันเริ่ม เคลื่อนตัวออกไปนอกร้านก่อนที่จะมีคนตายเพิ่ม

แต่ในใจซินอู๋ห้าว กับเริ่มหวั่นในใจ เพราะคนของมันได้ตายไปที่โรงเตี๊ยมแห่งนี้มากมายนัก

(ฝากไว้ก่อน เจ้าเด็กบ้าแล้วก็พวกตระกูลหย่วน ตระกูลซินไม่ปล่อยเจ้าไปแน่)

“รีบไปจัดการนางเด็กนั่นซะ”

เสียงของซินอู๋ห้าวสั่งการออกไป แต่คนของมันกลับรีบมารายงานหลังจากที่มันได้ออกไปส่งข่าวแก่สมาชิกด้านบนให้ลงมาช่วย

“ไม่ทันการแล้วรีบหนีเถอะท่านอาวุโส สมาชิกของเราตกตายไปหมดแล้ว เป็นฝีมือของ เจ้าสองคนนั้น”

การชี้มาที่ลูกสมุนของเป่าฮู่ที่บัดนี้ ได้นำพาคุณหนูเล็กตระกูลหย่วนลงมาด้วยและเป่าฮู่กำลังจ้องมองโฉมหน้าสาวน้อยคนนี้อยู่อย่างไม่วางตา

“ฮ่าๆๆๆๆ ตาบ้าขอทานนั่นมีหลานสาวสวยใช้ได้”

คำกล่าวนี้แม้บางเบาแต่ สำหรับหย่วนชิงเหยียน นางรู้ดีว่าขอทานเฒ่าที่กล่าวมาหมายถึงใคร แต่นางเองก็มีความฉลาดอยู่บ้างไม่รีบถามในขณะที่ตระกูลซินยังอยู่ที่นี่

ตำนานเทพยุทธ์

ตำนานเทพยุทธ์

ตำนานเทพยุทธ์
Status: Ongoing
อ่านนิยายตำนานเทพยุทธ์ “ข้าจะกลับไปแก้แค้นพวกเจ้าทุกคน” ชายหนุ่มที่มีวัย เพียง 18 ปี ผู้เป็นศิษย์ที่มีพรแสวงมากที่สุด จากจำนวนศิษย์ภายใน สำนักกว่า 200 คน นามของเขาก็คือ เป่าฮู่ ชายผู้เกิดมาพร้อมชะตาที่อาภัพ บิดามารดาทั้งสองตกตายไปอย่างอนาถ ทิ้งชายหนุ่มหาเลี้ยงตนเองตลอดระยะเวลาหลายปี โรคระบาดคร่าชีวิตผู้คนไปมากมาย ดังนั้นบิดามารดาจึงได้ล้มตายจากไปอย่างมีเงื่อนงำ แต่เป่าฮู่ก็ไม่อับจนโชคชะตาซะทีเดียว สวรรค์มิได้รังแกเขามากนัก เด็กชายวัยเยาว์จึงถูกชุบเลี้ยงโดยอาวุโสระดับสูงของนิกายนักยุทธ์นาม เสวียนอู่ อันเป็นนิกายอันดับหนึ่งแห่งแดนเหนือ การพบเจอด้วยความบังเอิญ จึงได้รับตัวเข้ามาเป็นศิษย์ชุบเลี้ยงอย่างเอ็นดูรักใคร่ดั่งบุตรในสายตระกูล

Comment

Options

not work with dark mode
Reset