หลังจากที่กลุ่มสมาชิกของตระกูลซินได้ประเมินสถานการณ์ พวกมันรีบล่าถอยโดยทันที
ส่วนตระกูลหย่วนเองก็ไม่ได้ติดตามไป เพียงแต่รีบรุดเข้าหาคุณหนูเล็ก นั่งอยู่ข้างๆชายหนุ่มแปลกหน้าคนนั้น
เพียงหย่วนจงผู้ดำรงตำแหน่งเป็นอาวุโสคนหนึ่งในตระกูล ได้ออกตามหาคุณหนูเล็ก บุตรสาวคนรองของนายหญิงรองผู้น่าสงสาร แม้จะเป็นธิดาคนรองแต่พรสวรรค์ก็น่าตกใจเช่นกัน ทำให้หย่วนจงรีบพุ่งเข้ามาหวังกล่าวขออภัยกับเป่าฮู่่ ที่อ้างตนเป็นเถ้าแก่ร้านในตอนนี้
“คุณชาย สำหรับข้าความเสียหายร้านน้ำชาของท่านเราตระกูลหย่วนขอรับผิดชอบให้ แต่ว่า เชิญคุณชายปล่อยตัวคุณหนูของเราออกมาด้วย”
เมื่อตอนนี้เป่าฮู่ได้ฟัง จึงมองไปทางหญิงสาวตัวน้อย และยิ้มออกมา ด้วยความสนใจที่แปลกประหลาด
“ฮ่าๆๆๆ ปล่อยนะข้าปล่อยแน่ แต่ว่าไม่ใช่จตอนนี้ ก่อนอื่น ข้าจะขอเก็บค่าตอบแทนที่ช่วยพวกเจ้าถึงสองครั้งก่อน หนึ่งชรา หนึ่งรุ่นเยาว์”
(ช่วยถึงสองครั้ง)
คำพูดนี้ทำให้ทุกคนในตระกูลหย่วนไม่เข้าใจ แม้จะอ้างได้ว่าครั้งนี้คือการยื่นมือเข้าช่วย แต่ว่าหย่วนจงก็พบชายหนุ่มคนนี้เพียงครั้งเดียว และอ้างว่าจะเก็บค่าตอบแทนนี่ทันไม่มากรรโชกทรัพย์ในยามที่ตระกูลหย่วนลำบากหลอกหรือ
“คุณชายท่านนี้ข้าหย่วนจง เชื่อว่าตลอดเวลาข้าพบคุณชายเพียงครั้งนี้ครั้งเดียว และค่าเสียหายของโรงเตี๊ยมนี้ ข้าสามารถจ่ายได้ แต่ที่คุณชายกล่าวอ้างว่า ช่วยเหลือเราตระกูลหย่วนถึงสองครั้งนี่ หมายความว่าเช่นไร?”
เป่าฮู่ขี้เกลียดจะเสวนากับคนที่หยิบยื่นความผิดหวังเอาตัวรอดแก่คนอื่นเช่น หย่วนจงผู้นี้มากไปกว่านี้แล้ว
“เอาหละ นำพาข้าไปที่ตระกูลหย่วน สำหรับแม่นางคนนี้ ข้าจะไปส่งเองกับมือและมีบางอย่างที่ต้องคุยกับผู้นำตระกูลเจ้า หากเขายังพอคิดถึงตาเฒ่าหย่วนปงอยู่บ้าง”
เป่าฮู่ใช้สิ่งที่หย่วนปงให้มายามจำเป็น เพื่อการบางสิ่ง แต่เหตุที่ต้องการใช้ให้เร็วก็เพราะว่า นิสัยแรกหรือความประทับใจแรกของตระกูลหย่วนกับเป่าฮู่มันไม่น่าจดจำมากนัก
วันนี้จึงอยากจะรูดทรัพย์เล็กๆน้อยๆก่อนที่จะนำมาเป็นทุนในการสร้างโรงเตี๊ยมแห่งนี้ และไม่นานหลังจากหันไปสั่งเฒ่าแก่คนเก่าให้จัดการปิดร้านให้ก่อน และหาคนมาซ่อมตรงนี้เงินไปเก็บกับตระกูลหย่วน
สำหรับเรื่องนี้หย่วนจงได้ยินก็รับได้ และยินยอมให้ทำตามนั้น ไม่นานหลังจากที่ทุกคนออกเดินทางจากโรงเตี๊ยมทั้งคืนนั้น เพื่อไปยังเมืองหย่วน และเป้าหมายก็คือตระกูลหย่วนที่แปลกตาออกไปอย่างมาก
เป่าฮู่เห็นบรรยากาศยามดึกที่ไม่น่ารื่นรมมากนัก ด้วยกลุ่มสมาชิกตระกูลกำลังตกอยู่ในสภาพย่ำแย่ ด้วยทรัพยากรที่น้อยลงไปมาก จากการทุ่มทุกสิ่งที่มี
การส่งสมาชิกเพียงหนึ่งเดียวไปร่วมเทศกาลชมหงส์เพลิงที่เมืองตระกูลเร่อ และเมื่อเป่าฮู่ได้มาเยือนที่ตระกูลหย่วนสิ่งที่เห็นก็คือ สมาชิกในตระกูลอดอยากไร้ซึ่งกำลัง ด้านในที่เน่าเฟะไม่เหมือนด้านนอกที่ดูโอ่อ่า
ด้วยทรัพยากรที่ถูกจำกัด คลังสมบัติของตระกูลถูกผนึกไว้และอักขระที่มีขนาดผู้ใช้อักขระขั้นสูงที่เคยมาเยือนยังไม่อาจทำได้
ทำให้สิ่งที่ฉุดดึงตระกูลให้ตกต่ำคือบรรพชนเช่น บรรพชนหย่วนปงนั่นเอง
และอีกทางหนึ่งคือนำผู้ใช้อักขระขั้นสูงมาทำลายค่ายกลอักขระเหล่านี้
หลังจากที่ประตูของโถงใหญ่ของตระกูลที่เงียบที่สุดในดินแดนแห่งนี้เลยก็ว่าได้ ทาสรับใช้ล้มตายหรือถูกขายทิ้งเหลือจำนวนลูกหลานแท้ๆอีกไม่มาก
เป่าฮู่ได้เห็น ยายแก่คนหนึ่งที่ใช้ไม้เท้าค้ำยันร่างกาย ก่อนที่จะลุกมาพูดคุยกับเป่าฮู่ตลอดเวลา
“คาราวะท่านผู้เฒ่า”
แววตาของผู้เฒ่าจ้องมาลงมา และเสียงแหบพล่าที่ดังออกไป ทำให้เป่าฮู่หันไปสนใจและสิ่งต่อมาก็คือ
“อื่ม เจ้าหนู นับว่าสิ่งที่เจ้าทำมีคุณต่อตระกูลเรามาก ข้าไม่อยากพูดมาก มันเจ็บคอ เจ้าต้องการสิ่งใดเป็นการตอบแทน”
มันคือกลยุทธ์รีบตัดรีบจบของแม่เฒ่า ด้วยนางได้รับฟังวีรกรรมของชายหนุ่มแปลกหน้าคนนี้ จากอาวุโสเล็กๆเช่นหย่วนจง ดังนั้นหย่วนหลิงได้เห็นการเปลี่ยนแปลงและไม่อาจคาดเคลื่อนจากที่คิด นอกเสียจากคนที่ก้าวเข้ามาจะมีความสามารถหรือวาสนามากล้น
“เจ้าเองรึที่ต้องการพบข้า เจ้าหนุ่มไหนมีอะไรเวลาข้าไม่ได้มีมากมายเช่นนั้น?”
คำกล่าวถามที่ถูกเปล่งออกมา ก่อนที่เป่าฮู่จะจ้องลงไปในสายตาที่ลุ่มลึกของนางเฒ่า ด้วยประสบการณ์ที่ผ่านชีวิตมาทำให้เป่าฮู่ได้เห็นถึงสิ่งที่แปลกออกไป
“เจ้าหนุ่ม ว่าธุระของเจ้ามา?”
การถามย้ำด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นขึ้น เมื่อได้ยินเช่นนั้น เป่าฮู่ก็เดินเข้าไปพร้อมแววตาที่ลึกก่อนที่จะนำไม่เด็ดออกมา
“เรียนผู้อาวุโส ข้าน้อยมาเยี่ยมเยียนตระกูลหย่วนก็เพื่อ ขอรับค่าตอบแทนที่ในวันหนึ่งได้ยื่นมือช่วยตระกูลของท่านถึงสองครั้ง ติดต่อ
ครั้งแรกคือ เมื่อไม่นานมานี้ข้าได้พบคนแซ่หย่วนคนหนึ่ง ที่เมืองตระกูลหง ของบิดาบุญธรรมของข้า เมืองตระกูลหงนั้นมากด้วยผู้คนสัญจร และก็มากด้วยขอทานไร้ค่า เส้นทางเหล่านั้นข้าได้พบจอ ชายชราที่มีนามว่าหย่วนปงและได้ช่วยเขาไว้ และเขาได้มอบของหลายอย่างแก่ข้า ดังนั้นวันนี้ข้าจะดูว่าท่านผู้นำคิดเห็นประกายใด”
เพียงนามที่คิดว่า ชาติภพนี้จะไม่ได้ยิน แต่หย่วนหลิงกับไม่มั่นใจในสิ่งที่นางคาดการณ์
เพราะคนเช่นสามีนางจะทำแบบนี้ได้
“ท่านพี่ ท่านพี่หย่วนปงยังไม่ตาย แบบนี้ แบบนี้ ประเสริฐนัก แต่ว่าหลักฐานเพียงเท่านี้ยังไม่พอ ”
เหล่าสมาชิกที่สูญเสียความมั่นใจมานานแม้กำลังจะลุกขึ้นเฮ อีกครั้ง ด้วยนามนั้นคือนามของบรรพชนตระกูลปง
แต่เพียงชั่วพริบตาเวลาที่นำพากลุ่มสมาชิกในตระกูลให้กลับมาอ่อนล้าเรี่ยวแรงอีกครั้ง
“เจ้าหนู เจ้าอย่ามาล้อเล่นที่นี่นะ เจ้าพบท่านพี่ของข้าได้เช่นไร และใครจะเชื่อ”