ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน – ตอนที่ 172 คุณชายสามเย่เก่งเกินไปแล้ว!

บทที่172 คุณชายสามเย่เก่งเกินไปแล้ว!

“ทั้งๆที่เธอก็รู้ว่าจะแย่งกลับมาไม่ได้ แล้วทำไมยังจะต้องแย่งมาอีก? นี่เธอหมายความว่าอะไรกันแน่? ฉันจะต้องบอกกับเจ้าห้ายังไง” เวลานี้ในใจของฉู่หลิงเอ๋อมีแต่ความสงสัยมากมายไปหมด

“เธอบอกเจ้าห้าสัมผัสได้เพียงแค่กระเป๋าสตางค์ของเขาเพียงเท่านั้น ไม่ต้องไปหาการ์ดความจำนะ” เวินลั่วฉิงเอ่ยพูดประโยคนี้ออกมาอย่างช้าๆ

“เพราะฉะนั้น เรื่องที่จะขโมยกระเป๋าสตางค์เขามาก็เป็นเรื่องไม่จริงน่ะสิ” ฉู่หลิงเอ๋ออึ้งไป และเมื่อดึงสติกลับมาได้นั้น มุมปากของเธอก็อดที่จะกระตุกขึ้นไม่ได้ : “ฉิงฉิง แบบนี้จะไม่เป็นการเล่นงานสามีเธอจนแย่เลยหรือ?”

ดวงตาของเวินลั่วฉิงกรอกไปมา แล้วเหลือบมองเธอแวบหนึ่ง พูดดีๆหน่อยไม่ได้หรือไงกัน?

อะไรที่เรียกว่าเล่นงานสามีของเธอจนแย่กัน? ฟังดูแล้วทำไมช่าง…..

เวินลั่วฉิงรู้ว่าเมื่อคืนนี้เย่ซือเฉินคงจะจำเธอได้ ดังนั้นเธอจึงจำเป็นที่จะต้องกำจัดความสงสัยนี้ของเย่ซือเฉินเสียก่อน

เมื่อคืน เย่ซือเฉินเอาการ์ดความจำใส่ไว้ในกระเป๋าสตางค์ต่อหน้าต่อตาเธอ นอกจากเธอแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่าการ์ดความจำนั้นอยู่ในกระเป๋าสตางค์ของเขา

เพราะฉะนั้น เธอจึงไม่สามารถที่จะลงมือกับกระเป๋าสตางค์ของเย่ซือเฉินได้ แบบนี้จะทำให้เย่ซือเฉินยิ่งมั่นใจในสถานะของเธอ

ดังนั้นคุณชายห้าฉิงกับเลขาหลิวล้วนแต่สร้างเรื่องขึ้นมาปกปิดความจริงก็เพื่อกำจัดความสงสัยที่เย่ซือเฉินมีต่อเธอ

แน่นอนว่าการให้เจ้าห้าไปขโมยกระเป๋าสตางค์ของเย่ซือเฉินมานั้น จะต้องยิ่งเป็นการดึงดูดให้เขาสงสัยในตัวเธอขึ้นมาด้วยเช่นกัน แต่ในความเป็นจริงนั้นถึงแม้ว่าเย่ซือเฉินจะสงสัยในตัวเธอ ก็ไม่สามารถแน่ใจได้ว่าเป็นเธอ

และยิ่งไปกว่านั้นเจ้าห้าก็ไม่ได้เอาการ์ดความจำไปด้วย

เพียงแค่เจ้าห้าไม่ได้เอาการ์ดความจำไป ความสงสัยของเขาก็จะเปลี่ยนเป็นความระแวงอีกแบบหนึ่งแทน

ที่เธอต้องการก็คือความระแวงอีกแบบหนึ่งของเย่ซือเฉินนี้แหล่ะ

กระเป๋าสตางค์ของเย่ซือเฉินถูกขโมย แต่การ์ดความจำยังอยู่ เขาจะต้องสงสัยอย่างแน่นอนว่าการ์ดความจำในนั้นจะต้องถูกเปลี่ยนการ์ดไปแล้วหรือเปล่า

เขารู้สึกสงสัยเช่นนี้ ก็จะต้องดูเนื้อหาภายในการ์ดความจำนั้นอย่างแน่นอน เพียงแค่เขาดู มู่หรงดัวหยางก็จะสามารถมีวิธีเอาข้อมูลกลับมาได้

ใช่ เธอต้องการเพียงแค่ข้อมูล ไม่จำเป็นที่จะต้องเอาการ์ดความจำกลับมา

แผนทั้งหมดนี้ สิ่งเดียวที่เธอไม่แน่ใจนั้นก็คือขั้นตอนสุดท้าย เธอไม่แน่ใจว่าเย่ซือเฉินจะดูข้อมูลในการ์ดความจำนั้นตามแผนที่เธอวางไว้หรือเปล่า

ถ้าหากสุดท้ายแล้วเย่ซือเฉินไม่ดูข้อมูลในการ์ดนั้น ก็เท่ากับว่าแผนที่เธอวางเอาไว้ทั้งหมดก็สูญเปล่า

ในออฟฟิศ เย่ซือเฉินได้รับสายจากเลขาหลิว : “ท่านประธานครับ ผมหาทั่วห้องหนังสือของท่านประธานแล้วแต่ก็ไม่พบการ์ดความจำที่ท่านประธานบอกเลยครับ”

“คุณหาการ์ดความจำที่บ้านผม?” เย่ซือเฉินขมวดคิ้ว ดวงตาทั้งสองข้างหรี่ลง

“ใช่ครับ ท่านประธานโทรหาผมให้ผมหาให้ไม่ใช่หรือครับ?” เลขาหลิวได้ยินคำพูดของท่านประธานของตัวเองแล้วรู้สึกงงงวย เกิดอะไรขึ้นกัน?

“คุณจะทำอะไรก็ไปทำไป” เย่ซือเฉินไม่ต้องถามก็รู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น ความสามารถอย่างเธอ ต้องการจะหลอกเลขาหลิวแบบนั้นนับว่าเป็นเรื่องที่ง่ายมาก

วางสายไปแล้วนั้น จู่ๆเย่ซือเฉินก็ยิ้มออกมา เพียงแต่รอยยิ้มนั้นดูเหมือนจะไม่สามารถคาดเดาได้เลย

เป็นฉิงถิงก่อน แล้วค่อยมาเลขาหลิว เขาอยากจะดูว่าคนต่อไปจะเป็นใคร?

เขารอคอยให้เธอเป็นคนออกโรงเองมากกว่า!

ตอนกลางคืน เย่ซือเฉินมีนัดสำคัญ ตอนที่เขาเดินมาตรงด้านนอกของตึกนั้น ก็มีเด็กผู้หญิงขายดอกไม้คนหนึ่งเข้ามาดักหน้าเขาไว้

ปกติแล้ว ด้านนอกตึกก็มักจะมีเด็กผู้หญิงมาขายดอกไม้แบบนี้อยู่บ่อยๆ เพียงแต่พวกเขามักจะไปหาพวกคู่รักแบบนั้นมากกว่า

“คุณผู้ชายคะ ซื้อดอกไม้ซักช่อเอาไปให้แฟนหรือให้ภรรยาไหมคะ เธอจะต้องดีใจมากแน่ๆ และจะต้องชอบมากๆเลยนะคะ” เด็กผู้หญิงหยิบดอกไม้ช่อหนึ่งออกมา แล้วยื่นส่งให้ตรงหน้าเย่ซือเฉิน รอยยิ้มหวานบนใบหน้า และที่มียิ่งกว่านั้นก็คือการรอคอย

เย่ซือเฉินไม่เคยซื้อดอกไม้เองมาตั้งแต่ไหนแต่ไร เดิมทีเขาเองก็ไม่ได้ตั้งใจจะซื้อ แต่เมื่อเธอได้ยินประโยคหลังของเด็กผู้หญิงคนนี้แล้วที่ว่า ‘ให้ภรรยา เธอจะต้องดีใจมากแน่ๆ และจะต้องชอบมากๆ’ นั้นเขาจึงชะงักเท้าลง หลังจากนั้นจึงรับดอกไม้ช่อนั้นมาจากมือของเด็กผู้หญิงคนนี้

คนที่อยู่รอบๆข้างต่างพากันไม่อยากจะเชื่อว่าวิธีพื้นๆแบบนี้จะหลอกเย่ซือเฉินได้?

ตอนที่เย่ซือเฉินหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาจะจ่ายเงินนั้น มุมปากของเขาก็ยกขึ้นเล็กน้อย ปรากฏรอยยิ้มน้อยๆออกมา

และเวลานี้เอง เด็กผู้หญิงที่ขายดอกไม้จู่ๆก็ยื่นมือออกมาแย่งกระเป๋าสตางค์จากมือของเขาไป การเคลื่อนไหวของเด็กผู้หญิงคนนี้นับว่ารวดเร็วเป็นอย่างมาก

และในขณะเดียวกันนั้นก็มีร่างหนึ่งที่พุ่งตัวเข้ามาอย่างรวดเร็ว แล้วแย่งกระเป๋าสตางค์จากมือของเขาไป

เดิมทีเด็กผู้หญิงคนนั้นได้เบี่ยงเบนความสนใจกว่าครึ่งไปจากเย่ซือเฉินแล้ว ประกอบกับปฏิกิริยาของเจ้าห้าและความรวดเร็วนี้สามารถพูดได้ว่าไม่มีใครที่จะเร็วไปกว่าเจ้าห้าได้แล้วนั้น แต่ถึงอย่างนั้นเสี่ยวหวู่ก็แตะได้เพียงแค่มุมหนึ่งของกระเป๋าสตางค์เย่ซือเฉินได้เพียงเท่านั้น

เจ้าห้าสัมผัสได้เพียงแค่นั้น หลังจากนั้นเย่ซือเฉินก็หยิบกระเป๋าสตางค์ของตัวเองเลี่ยงไปอีกทาง

เจ้าห้ารู้สึกตกตะลึงยิ่งนัก ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าในสถานการณ์แบบนี้เขาจะพลาดไปได้อย่างนั้นหรือ?

บ้าจริง ปฏิกิริยาของคุณชายสามเย่เร็วกว่าลูกพี่ของเขาอีก

เก่งเสียจริงๆ!

สมแล้วที่เป็นสามีของพี่ลั่วฉิง!

เจ้าห้ามีไหวพริบที่รวดเร็ว ถึงแม้ว่าจะรู้สึกตกตะลึงมากในเวลานี้ก็ตาม แต่เขาก็ดึงสติกลับมาได้อย่างรวดเร็ว พี่ลั่วฉิงให้แค่สัมผัสโดนกระเป๋าสตางค์เพียงเท่านั้น นั่นก็เท่ากับว่าเสร็จสิ้นภารกิจของเขาแล้ว ดังนั้นก็ควรจะแยกย้ายได้แล้ว

และในเวลาต่อมานั้นเจ้าห้าจึงวิ่งหนีออกไปให้เร็วที่สุด

เย่ซือเฉินคิดว่าเจ้าห้าจะต้องพุ่งเข้ามาเพราะการ์ดความจำอย่างแน่นอน เขาคิดว่าเจ้าห้าจะต้องหาวิธีอื่นอีกอย่างแน่นอน เขาไม่คิดว่าเสี่ยวหวู่จะไปจากตรงนี้เร็วขนาดนี้!

ความเร็วของเจ้าห้านั้นรวดเร็วมาก รอจนที่เย่ซือเฉินจะไปจับตัวเขานั้น เจ้าห้าก็วิ่งทิ้งระยะไปซักช่วงหนึ่งแล้ว หลังจากที่กระพริบตาเพียงชั่วพริบตาเดียวก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของเจ้าห้าแล้ว

เย่ซือเฉินไม่ได้ขยับอีก เพียงแค่มองไปยังทิศทางที่เจ้าห้าวิ่งไป มุมปากค่อยๆยกขึ้นมา…..

ดี ดีมาก แบบนี้สิถึงจะยิ่งตื่นเต้นขึ้นจริงๆแล้ว!

เจ้าห้ารู้สึกว่าตัวเองหลุดพ้นจากอันตรายแล้วจึงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาโทรออกหาฉู่หลิงเอ๋อ รายงานสถานการณ์

“อะไรนะ ในสถานการณ์แบบนั้นนายไม่ได้ขโมยกระเป๋าสตางค์ของเขามาหรอกหรือ?” ฉู่หลิงเอ๋อได้ยินที่เจ้าห้ารายงานแล้วนั้นก็รู้สึกอึ้งไป : “เย่ซือเฉินเก่งขนาดนี้เลย?”

“อืม ฉันวางแผนทั้งหมดเอาไว้ สุดท้ายแล้วกลับได้แค่แตะกระเป๋าสตางค์แค่มุมเดียวของเขาเท่านั้นเอง” เสียงของเจ้าห้าดูกลัดกลุ้มอยู่บ้างเล็กน้อย นี่นับว่าเป็นครั้งที่ล้มเหลวในประวัติศาสตร์ของเขาเลยก็ว่าได้

“แต่ ก่อนหน้านี้เธอบอกว่าเพียงแค่ได้แตะกระเป๋าสตางค์ของเขาก็นับว่าภารกิจสำเร็จแล้วนี่ นี่ฉันก็นับว่าทำหน้าที่เสร็จแล้วใช่ไหม?”เจ้าห้ารู้สึกว่านี่คงจะนับว่าเป็นการปลอบใจเล็กๆน้อยๆแล้ว

มุมปากของฉู่หลิงเอ๋ออดที่จะกระตุกขึ้นมาไม่ได้ ตอนนั้นเธอเองก็ไม่ได้คิดว่าสถานการณ์จะเป็นแบบนี้เช่นกัน

“ฉิงฉิง เจ้าห้าได้แค่แตะกระเป๋าสตางค์ของเย่ซือเฉินไปมุมเดียวเท่านั้นเอง นี่นับว่าเสร็จสิ้นแล้วใช่ไหม?” หลังจากที่ฉู่หลิงเอ๋อวางสายไปแล้วนั้น ก็หันมามองยังเวินลั่วฉิง ด้วยน้ำเสียงที่ดูอ่อนเพลีย

เวินลั่วฉิงเม้มปากเล็กน้อย ไม่ได้เอ่ยพูดอะไรออกมา เธอรู้ถึงความเก่งกาจของเย่ซือเฉิน แต่เธอคิดไม่ถึงว่าเจ้าห้าออกโรง ภายใต้สถานการณ์ที่ต้องจัดการกับอุปสรรคเช่นนี้ กลับเพียงแค่ได้สัมผัสเพียงมุมเดียวของกระเป๋าสตางค์ของเย่ซือเฉินเพียงเท่านั้น

กระเป๋าสตางค์ไม่ได้อยู่ห่างไปจากมือของเย่ซือเฉินเลย และก็ไม่ได้ออกห่างจากสายตาของเขาด้วยเช่นกัน ครั้งนี้ เย่ซือเฉินก็จะไม่สงสัยอะไรมากเกินไป

เพราะฉะนั้น แผนของเธอนั้นจึงนับว่าล้มเหลว เพียงแค่นี้ แต่กลัวว่า…..

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset