ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน – ตอนที่ 841 คุณชายสามเย่สืบเจอเหตุผลที่เธอไม่สามารถตั้งครรภ์ได้(2)

ก่อนหน้านี้หยวนจุนหลินให้ถังหลินไปส่งเจ้าชายทั้งสองคนก็ด้วยสาเหตุนี้ ดังนั้นเมื่อถังหลินปฏิเสธ เขาก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย

ถังหลินได้ยินคำพูดของเขา จากที่มีสีหน้ามืดครึ้มอยู่แล้วก็ยิ่งทวีคูณเพิ่มขึ้นหลายส่วน เขาเม้มปาก ไม่ได้พูดอะไร

หยวนจุนหลินเห็นท่าทางของเขาก็ไม่อยากจะซักไซ้อะไรต่ออีก

ทางเวินลั่วฉิงได้ข่าวการกลับไปของเจ้าชายน้อยก็รู้สึกประหลาดใจ มันเหนือความคาดหมายจริงๆ ยังมีเรื่องที่ถังหลินเอาไม่อยู่หมัดอีกหรือ?

เวินลั่วฉิงถอนหายใจเบาๆ เมื่อคืนเธอคิดจะไปทางโน้นอยู่แล้ว แต่มีสายจากเย่ซือเฉินห้ามเธอไม่ให้ไป

แน่นอน เย่ซือเฉินได้เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้เธอฟังหมดแล้ว

เจ้าชายน้อยสารภาพรักกับเย่ซือเฉิน แล้วถังหลินมาได้ยินพอดี?นี่มันบังเอิญเกินไปแล้ว เป็นการวางแผนอย่างชัดแจ้งเลยล่ะ

เดิมทีเวินลั่วฉิงคิดว่าถังหลินจะมีวิธีแก้ปัญหา คาดไม่ถึงว่าเจ้าชายน้อยจะจากไปเร็วเช่นนี้

หากเป็นดังนี้ แผนการเจ้าชายน้อยก็ถือว่าสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี

เวินลั่วฉิงรู้จักนิสัยถังหลินดี เธอรู้ว่าสิ่งที่ถังหลินตั้งมั่นเอาไว้ไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้เด็ดขาด แต่ตอนนี้ถังหลินก็ปล่อยให้เจ้าชายน้อยจากไปง่ายๆอย่างนี้เลย?

ดังนั้นเธอรู้ว่าเรื่องนี้ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น 

ต้องบอกว่าเจ้าชายน้อยคนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ

ทว่า อย่างไรเสียก็เป็นเรื่องระหว่างถังหลินกับเจ้าชายน้อย คนอื่นเข้าแทรกแซงจะไม่ค่อยงามนัก

เย่ซือเฉินเพิ่งถึงบริษัท ยังไม่ทันเข้าห้องทำงานส่วนตัว เลขาหลิวก็เดินเข้ามาหาเสียแล้ว:“ท่านประธานครับ หมอลู่กลับมาแล้วครับท่านประธานจะไปพบเขาไหมครับ?”

หลังจากที่พบเจอถังจื่อซีที่ห้างสรรพสินค้า เลขาหลิวก็ได้สืบเรื่องหนึ่งมาโดยตลอด——เรื่องมารดาผู้ให้กำเนิดเจ้าหญิงถังจื่อซี

อันที่จริงช่วงนี้เลขาหลิวสืบได้ข้อมูลไม่น้อย ยิ่งไปกว่านั้นข้อมูลยังครบครันมากๆอีกด้วย

เลขาหลิวสืบได้ว่าห้าปีก่อนเห่อถงถงคลอดบุตรก่อนแต่งที่โรงพยาบาลศูนย์กลาง และยังสืบได้ความว่าหกปีก่อนเวินลั่วฉิงแอ็ดมิทโรงพยาบาลเนื่องจากอาการบาดเจ็บ

หกปีก่อนหลังเวินลั่วฉิงได้รับบาดเจ็บก็เข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลศูนย์กลางเช่นกัน เลขาหลิวเอาข้อมูลบันทึกอาการเวินลั่วฉิงตอนอยู่ในโรงพยาบาลมา ซึ่งข้อมูลชี้ให้เห็นว่าเวินลั่วฉิงบาดเจ็บสาหัสบริเวณท้อง

ทว่าข้อมูลในโรงพยาบาลฉบับนี้ไม่ได้เอ่ยถึงการส่งผลกระทบต่อการตั้งครรภ์ของเวินลั่วฉิง

หมอที่ทำการรักษาเวินลั่วฉิงตอนนั้นก็คือหมอลู่ ตอนที่เลขาหลิวสืบได้ความว่าเวินลั่วฉิงเคยได้รับบาดเจ็บ เย่ซือเฉินก็อยากไปพบหน้าหมอลู่สักครั้ง เพื่อที่จะได้ถามรายละเอียดในเหตุการณ์ตอนนั้น

เพราะข้อมูลที่ได้มาจากโรงพยาบาล ชี้แจงเฉพาะส่วนที่เวินลั่วฉิงได้รับบาดเจ็บและส่วนที่ทำการรักษา โดยไม่ได้กล่าวถึงเรื่องอื่นเลย

ดังนั้นรายละเอียดในเหตุการณ์ครั้งนั้นคงมีแต่คุณหมอที่ทำการรักษาคงรู้ดีที่สุด

ทว่าตอนนั้นหมอลู่ออกนอกประเทศพอดี

ดังนั้นเมื่อหมอลู่กลับมา เลขาหลิวก็รีบมารายงานทันที

“ไปพบสักหน่อย”แสงสลัวในแววตาเย่ซือเฉินเป็นประกาย ปัญหาเรื่องเวินลั่วฉิงบาดเจ็บจนตั้งท้องไม่ได้ เขาอยากรู้คำตอบมาโดยตลอด

ดังนั้นเขาไม่อยากพลาดทุกเหตุการณ์ในตอนนั้น

แน่นอน เขายังระแวงว่าข้อมูลที่เลขาหลิวสืบได้นั้นเป็นเท็จ ดังนั้นเขาจะไปพบหน้าหมอลู่ท่านนี้ด้วยตัวเอง ไปถามต่อหน้าให้กระจ่าง

ข้อมูลอาจจะปลอมได้ แต่ไม่มีผู้ใดสามารถพูดปดต่อหน้าเย่ซือเฉินได้

เย่ซือเฉินตรงไปยังโรงพยาบาลทันทีทันใด ปัจจุบันหมอลู่เป็นรองผู้อำนวยการของโรงพยาบาลศูนย์กลางแห่งนี้

เย่ซือเฉินหารองผู้อำนวยการลู่ในห้องทำงานส่วนตัวของรองผู้อำนวยการโรงพยาบาล

รองผู้อำนวยการลู่อายุสี่สิบสามปี ส่วนสูงปานกลาง รูปร่างอวบ สวมใส่แว่นกรอบหนาเตอะ มองแล้วมีความละมุนละม่อมหลายส่วน

“ผู้อำนวยการลู่”เย่ซือเฉินไม่ได้อ้อมค้อม ในเมื่อมาแล้ว เขาจึงคิดจะถามให้รู้เรื่องเลย

“คุณคือ?”รองผู้อำนวยการลู่เงยหน้ามองเย่ซือเฉิน สีหน้าเผยความสับสนหลายส่วน สักพักก็เอ่ยอย่างฉับพลันว่า:“คุณคือประธานบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปนี่ครับ!”

ประธานบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปอย่างเย่ซือเฉินนั้นเป็นที่รู้จักกันในเมืองAชนิดที่ว่าไม่มีใครไม่รู้จักเลย ยิ่งไปกว่านั้นบริษัทตระกูลเย่กรุ๊ปมีธุรกิจเกี่ยวกับด้านการแพทย์อยู่แล้ว

ดังนั้น รองผู้อำนวยการลู่รู้จักเย่ซือเฉินก็ไม่ได้แปลกอะไร การตอบสนองของรองผู้อำนวยการลู่นับว่าปกติทุกประการ

รองผู้อำนวยการลู่ดูออกว่าเป็นเย่ซือเฉินก็รีบลุกขึ้น ใบหน้าเผยความนอบน้อมหลายส่วน:“ไม่ทราบว่าประธานเย่มาอย่างกะทันหัน มีธุระอะไรครับ?”

ยามนี้ท่าทางกระตือรือร้นเจือความสอพลอหลายส่วน:“ท่านประธานเย่จะดื่มชาหรือกาแฟดีครับ ผมให้คนไปเตรียมมาให้ครับ”

มีน้อยมากในเมืองA ที่เจอเย่ซือเฉินแล้วจะไม่ให้การต้อนรับอย่างกระตือรือร้น ไม่ประจบสอพลอ ดังนั้นท่าทางตอนนี้ของรองผู้อำนวยการลู่ก็ถือว่าปกติ

“ผู้อำนวยการลู่ไม่ต้องเกรงใจ”เย่ซือเฉินมองเขาแวบหนึ่ง ใบหน้าไม่ได้เผยอารมณ์มากนัก ท่าทางสุภาพของเย่ซือเฉินเจือความเย็นชาที่ห่างเหินไว้หลายส่วน

“ที่ผมมาวันนี้ เพราะมีเรื่องอยากให้ผู้อำนวยการลู่ยืนยันหน่อยครับ”เย่ซือเฉินนั่งตรงข้ามโต๊ะทำงานของผู้ผู้อำนวยการลู่พร้อมกับวางเอกสารในมือไว้บนโต๊ะ

เย่ซือเฉินมองรองผู้อำนวยการลู่ด้วยแววตาราบเรียบ ไม่มีความผิดแปลกเลยสักนิด

“ประธานเย่ถามมาได้เลยครับ ผมจะบอกทุกอย่างที่รู้เลยครับ”ใบหน้าผู้อำนวยการลู่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ความเอาใจใส่อย่างกระตือรืนร้นและการประจบประแจง

นอกจากความกระตือรือร้นกับการสอพลอแล้วก็ไม่เห็นอารมณ์อื่นร่วมด้วยเลย

เย่ซือเฉินปรายตามองเอกสาร พร้อมกับเดินไปอยู่ด้านหน้ารองผู้อำนวยการลู่ แต่เย่ซือเฉินไม่ได้พูดอะไร

“อันนี้คือ?”เขามองเย่ซือเฉินด้วยความสงสัย ไม่เข้าใจเล็กน้อย

“อันนี้คือเอกสารของโรงพยาบาลพวกคุณ ผู้อำนวยการลู่ลองดูสิ”เย่ซือเฉินไม่ได้กล่าวอะไรมาก เพราะเขาต้องการสังเกตปฏิกิริยาตอบสนองแรกเมื่อเห็นเอกสารแล้ว

เย่ซือเฉินเป็นคนเชี่ยวชาญในด้านการสังเกตและการวางกับดักอยู่แล้ว ซึ่งนับจากแต่งงานกับเวินลั่วฉิง ความสามารถทางด้านนี้ของเขาก็พัฒนาขึ้นไปอีกขั้น

สำหรับข้อมูลที่เลขาหลิวสืบมา เขาไม่ได้เชื่อสนิทใจ ถึงแม้โรงพยาบาลจะมีข้อมูลและการบันทึกที่ครบถ้วน ซึ่งมีความละเอียดมากด้วย อีกทั้งละเอียดจนจับข้อบกพร่องไม่ได้ แต่เขารู้สึกว่าข้อมูลที่เลขาหลิวไปสืบมาได้ครั้งนี้ มันบังเอิญเกินไป

หากมีคนจงใจจัดวางแผนเพื่อให้เขาเห็นข้อมูลเหล่านี้ งั้นรองผู้อำนวยการลู่คือกุญแจสำคัญที่สุดในการไขปริศนาหาผู้ชักใยอยู่เบื้องหลัง

หากมีคนจงใจแต่งข้อมูลขึ้นมา คงต้องลงมือกับทางรองผู้อำนวยการโรงพยาบาลลู่ก่อน โดยบุคคลผู้นี้จำเป็นต้องให้ความร่วมมือ เพราะตอนนั้นเขาเป็นแพทย์รักษาตัวเวินลั่วฉิง

ทว่าจนถึงป่านนี้ท่าทางกับการตอบสนองของรองผู้อำนวยการโรงพยาบาลลู่ไม่ได้ส่อพิรุธอันใด

“ครับ ครับ”ความสงสัยบนใบหน้าของรองผู้อำนวยการลู่ยังคงอยู่ แต่หลังจากที่เขาได้ยินเย่ซือเฉินพูด เขาก็รีบรับเอกสารมาเปิดอ่าน

เขาอ่านเนื้อหาอย่างตั้งใจ จากนั้นก็เงยหน้ามองเย่ซือเฉิน:“อันนี้คือข้อมูลคนไข้ในโรงพยาบาลของพวกเราครับ ซึ่งคนไข้ท่านนี้ก็คือคุณเวิน และได้เขียนทุกอย่างอย่างชัดเจนไว้ในเอกสารฉบับนี้แล้ว ไม่ทราบว่าประธานเย่ต้องการจะซักถามอะไรครับ?”

สายตาเย่ซือเฉินมองเขาอย่างไม่คลาดสายตา เริ่มจากที่เขารับเอกสาร ต่อด้วยเปิดอ่าน จนสุดท้ายก็อ่านข้อมูลเสร็จ สายตาของเย่ซือเฉินไม่ได้กะพริบเลย ดังนั้นจึงมองทุกการตอบสนองของรองผู้อำนวยการลู่อย่างชัดเจน

“ตอนนั้นผู้อำนวยการลู่เป็นแพทย์ให้การรักษาเธอ ผู้อำนวยการลู่ยังจำรายละเอียดได้ไหม?”มุมปากเย่ซือเฉินยกขึ้นเล็กน้อย เผยรูปเรเดียนที่คล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้มออกมา

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

ทดลองรัก ชีวิตแต่งงาน100วัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset