ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก – ตอนที่ 223 ฉันบอกให้ปล่อยเธอ

โม่โม่ยังคงได้ใจกับผลงานของตัวเอง แต่ทว่า ประตูไม้ด้านหน้ามีเสียงเอี๊ยดดังขึ้น ไม่นานก็ถูกคนผลักออก
โม่โม่ตกใจ หล่อนรีบลุกขึ้นยืน เห็นคนหน้าประตูกำลังเดินเข้ามาเรื่อยๆ
“นายเป็นใคร?” เขาเดินย้อนแสง โม่โม่มองไม่เห็นใบหน้าของเขา จึงวิเคราะห์ได้จากรูปร่างของเขาว่าเขาไม่ใช่โหมวยู่
คนหน้าที่หน้าประตูแบกกระเป๋าเป้เอาไว้ สวมชุดเสื้อกันหนาวธรรมดา เขามองรอบๆห้อง สุดท้ายก็ประจบอยู่ที่ตัวโม่โม่
“เป็นนาย……” โม่โม่รู้จักเขา
ป๋ายจื๋อยื่นมือจับกระเป๋าเป้ตัวเองไว้แน่น มืออีกข้างก็ยัดไว้ในกระเป๋า เขาเดินเข้าแต่ละก้าวมาหาโม่โม่ด้วยความสงบนิ่ง
“มีคนไหม!” โม่โม่ตะโกนเสียงดัง ผู้ชายร่างกำยำสองคนที่นั่งอยู่ตรงมุมห้องก็ถืออาวุธเดินมาหาเขา
ชางหลิงได้ยินเสียงในสระน้ำ ก็ลืมตาโพลงอย่างมีความหวัง
“โหมวยู่! โหมวยู่เป็นนายหรือเปล่า?” ชางหลิงดีใจ
โหมวยู่มาแล้ว เขามาช่วยเธอแล้ว!
ป๋ายจื๋อก็ยังคงไร้ปฏิกิริยาใดๆ ได้ยินเสียงชางหลิง เขาก็เดินไปที่สระน้ำช้าๆ
“หยุดเดี๋ยวนี้เลยนะ!” โม่โม่พูดสั่ง “นายเป็นใครกัน กล้าบุกเข้ามาในพื้นที่ของฉัน?”
“ฆ่ามันเลย!”
พอหล่อนพูดจบ ผู้ชายก็ชูมีดยาววิ่งเข้ามาฟันไปที่ป๋ายจื๋อสุดแรง แต่ทว่า เพียงแค่พริบตาเดียว มือที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อของป๋ายจื๋อก็เอาออกมา เขายื่นแขนไปข้างๆ ปืนหนึ่งกระบอกปรากฏขึ้นที่มือของเขา ในตอนนี้เองกำลังจ่ออยู่ที่หน้าอกผู้ชายตรงๆ
มีดในมือของผู้ชายก็ลดลงทันที ที่เหลือสองคนก็มองหน้ากันเลิ่กลั่ก ไม่มีใครกล้าเข้าไป
พวกเขาเป็นนักเลงในเมืองนั้น ตอนแรกแค่อยากได้เงินของโม่โม่ แต่ไม่คิดจะมาตายที่นี่
“นาย……นายเป็นใครกันแน่?” โม่โม่ตะลึง
เขาหาชางหลิงเจอก่อนโหมวยู่เสียอีก แล้วยังมาคนเดียวด้วยปืนกระบอกเดียวอีก
“ปล่อยเธอไป” ปืนในมือของป๋ายจื๋อชี้ไปทางโม่โม่
ใบหน้าเขาไร้อารมณ์แล้วไม่มีท่าทีตกใจอะไร แต่ทว่ายิ่งเขาทำแบบนั้น โม่โม่ก็ยิ่งไม่เข้าใจว่าเขาคิดอะไรอยู่
หล่อนก้มหน้าลง น้ำในสระขึ้นมาอีกระดับหนึ่งจนถึงจมูกของชางหลิงแล้ว
“ช่วย……ช่วยด้วย!” ชางหลิงเห็นได้ชัดว่ายังมีสติอยู่ เธอใช้แรงเขย่งปลายเท้าขึ้นมา อยากให้หัวตัวเองโผล่พ้นน้ำ แต่เท้าเธอถูกมัดเชือกไว้ขยับไม่ได้ เธอกระอักน้ำอยู่หลายครั้ง ก็รีบปิดปากไม่กล้าพูดอีกทันที
โม่โม่เห็นแล้วก็แสยะยิ้ม ดูท่าแล้ว ถึงแม้จะมีคนมาช่วย ชางหลิงก็ต้องตายอยู่ดี ขอแค่ยื้อเวลาไม่กี่นาที ชางหลิงก็จะต้องจมน้ำตายแน่
“พูดมาแล้ว นายก็แค่นายแบบต๊อกต๋อยข้างๆหล่อน ทำไมถึงต้องทำเพื่อหล่อนขนาดนี้ด้วย?” โม่โม่คิดจะเปลี่ยนประเด็น
ชางหลิงยังคงดิ้นรนอยู่ในน้ำ ได้ยินเสียงโม่โม่พูดไม่ค่อยชัดเท่าไหร่
นายแบบ……ดังนั้น คนที่มาคือป๋ายจื๋องั้นเหรอ?
“ฉันบอกให้ปล่อยชางหลิงไง” ป๋ายจื๋อพูดซ้ำอีกรอบ
สีหน้าของโม่โม่ดูเสียเข้าไปอีก เธอมองดูปืนในมือของเขา แม้ตัวเองจะเตรียมตัวตายมาแล้วก็ตาม แต่พอเห็นของสีดำนั้น ก็ยังรู้สึกหวาดกลัวอยู่ดี
“พวกเราลองมาแลกข้อเสนอกันไหม……” โม่โม่พยายามทำนิ่งไว้ แต่ทว่ายังไม่รอเธอพูดจบก่อน ก็มีเสียงปืนดังขึ้น โม่โม่รู้สึกเหมือนขาตัวเองถูกของเล็กๆบดจนละเอียด เธอคุกเข่าลงพื้นอย่างแรง
“กรี๊ด!” เสียงกรีดร้องของโม่โม่ดังขึ้น ป๋ายจื๋อยิงไปที่ขาเธออย่างแม่นยำ โม่โม่มองดูขาที่ถูกกระสุนยิงเข้ามาจนแหลกละเอียด ตกใจจนแทบจะเป็นลมสลบลงไป
คนที่อยู่ในนั้นด้วยอีกสองคนก็ตกใจจนตัวสั่นเทา ต่างก็รีบวางอาวุธในมือลง กลัวว่าปืนในมือป๋ายจื๋อจะมาจ่อที่พวกเขาแทน
สายตาของป๋ายจื๋อกวาดตามองพวกเขาไปทีหนึ่ง และพูดภาษาอิตาลีที่ชัดเจนอย่างเย็นชา
“ไปช่วยเธอขึ้นมา”
พวกนักเลงไม่กล้าไม่ทำตาม พวกเขารีบไปริมสระน้ำและดึงเชือกที่มัดมือของชางหลิง แม้จะเป็นเช่นนี้แต่ก็ดึงเธอออกมาจากน้ำไม่ได้ เชือกที่มัดเท้าเธอไว้ทำให้เธอขยับตัวไม่ได้ คนด้านบนไม่มีทางดึงเธอขึ้นมาได้เลย
“ป๋ายจื๋อ……” ในที่สุดชางหลิงก็มีโอกาสได้หายใจสักที เธอเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นตัวป๋ายจื๋ออยู่ด้านบนริมสระ “เชือก มีเชือกมัดอยู่ที่เท้า”
ป๋ายจื๋อขมวดคิ้ว เขาขยับเข้าไปในสระน้ำ ไม่พูดพร่ำทำเพลงและเตะนักเลงคนหนึ่งลงสระน้ำไป
เสียงดังตุ้ม คนคนหนึ่งตกลงไปทำให้มีน้ำกระเด็นออกมา นักเลงคนนั้นร้องตะโกนเสียงดังทีหนึ่ง ดิ้นรนอยู่ในน้ำสักพัก ในที่สุดก็ลอยตัวขึ้นมา
เขาด่าเสียงดังอย่างหงุดหงิด จากนั้นไม่นานก็เห็นปืนในมือป๋ายจื๋ออีกครั้ง
“แก้มัดเชือกเธอ” ป๋ายจื๋อพูด
ชางหลิงเงยหน้าขึ้นมองป๋ายจื๋ออย่างแปลกใจ
เขาพูดภาษาอิตาลีได้ด้วยเหรอ?
คนในสระน้ำค่อยๆว่ายเข้าไปใกล้ชางหลิง เขาดำน้ำเข้าไป แต่ไม่นาน เขาก็กลับขึ้นมาโดยที่ยังทำไม่สำเร็จ
“ฉัน……ฉันทำไม่ได้ ฉันดำน้ำไม่เป็น ด้านล่างก็มืดมากด้วย ฉันมองไม่เห็น”
ป๋ายจื๋อขมวดคิ้วเป็นปม เขาหันหน้าไปมองอีกคนหนึ่ง อีกคนก็รีบส่ายหน้าอย่างหวาดกลัว “ขอร้องล่ะ ฉันก็ว่ายน้ำไม่เป็นเหมือนกัน ขอร้องปล่อยฉันไปเถอะ”
เขาแอบเหลือบมองไปที่โม่โม่ ตอนนี้โม่โม่กำลังนอนกองอยู่บนพื้น เลือดไหลออกมาเต็มพื้น แต่ทว่ามันก็ทำให้เขาได้เห็นขวดโหลเรียงเป็นแถวอยู่ข้างๆหล่อน
“ป๋ายจื๋อ……” น้ำยังคงขึ้นมาเรื่อยๆ และเร็วกว่าครั้งก่อนอยู่มาก อีกคนในสระน้ำลอยขึ้นมาตามระดับน้ำได้ แต่เธอกลับทำอะไรไม่ได้เลย
ป๋ายจื๋อมองดูผู้ชายที่กำลังดึงเชือกกับโม่โม่ที่นอนอยู่ตรงพื้นด้วยสายตาที่เย็นชา จากนั้นก็วางกระเป๋าลง กระโดดลงสระน้ำไปทันที
ชางหลิงตกใจ เธอไม่คิดเลยว่าป๋ายจื๋อจะทำแบบนี้ ถ้าเขาโดดลงน้ำมา อย่าว่าเป็นเธอเลย แม้กระทั่งตัวเขาเองก็อาจจะตกอยู่ในอันตรายไปด้วย
ป๋ายจื๋อดำลงไปใต้น้ำ ลูบคล้ำกำแพงไปในทางที่มืดมน ในที่สุดเขาก็จับเข้ากับปมของเชือก เขาปล่อยปืนในมือออก เริ่มแก้มัดเชือก
แต่ทว่า ในตอนนี้เอง ร่างกายของชางหลิงก็จมลงไปใต้น้ำอีกครั้ง
เธอพยายามดิ้นรนสุดฤทธิ์ ความรู้สึกหายใจไม่ออกพุ่งขึ้นมา ทำให้เธอมีความรู้สึกเหมือนจะตายแล้วจริงๆ
ป๋ายจื๋อรับรู้ได้ถึงอันตรายของเธอ ก็รีบพุ่งขึ้นจากน้ำ กอดชางหลิงไว้จากด้านหลัง ให้เธอได้มีอากาศหายใจ
ผู้ชายที่คอยดึงเชือกอยู่ด้านบนพอเห็นป๋ายจื๋อกระโดดลงน้ำ ก็ปล่อยเชือกชางหลิงทันที ในตอนนี้เอง ชางหลิงจมลงน้ำแบบเต็มตัวแล้ว เธอว่ายน้ำไม่เป็น แล้วยังถูกเชือกมัดแขนมัดขาอีก ถ้าไม่มีป๋ายจื๋อคอยพยุงร่างกายเธอเอาไว้ เธอไม่มีทางได้สูดดมอากาศบริสุทธิ์แน่
ที่น่าโมโหคือ ตอนที่ป๋ายจื๋อโดดน้ำลงมาช่วยชางหลิง เขากลับใช้โอกาสนั้นปล่อยเชือกลงมา คนในน้ำกำลังจับเชือกไว้และปีนขึ้นไปเรื่อยๆ

ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก

ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก

เธอสุขใจมากล้นเตรียมที่จะแต่งงานกับแฟนหนุ่มที่คบกันมาหลายปี แต่คืนก่อนวันแต่งงานกลับรู้ว่าแฟนหนุ่มนอนกับน้องสาวต่างสายเลือดด้วยความโกรธครอบงำชางหลิงใช้เงินซื้อผู้เชาย หลังเมาก็ร้องจะนอนกับเจ้าของคลับ ยังถูกคนหลอกแต่งงานเมื่อตื่นขึ้นมา ไม่คาดว่าถูกคนกลับเรียกเธอว่าพี่สะใภ้ เฮียคือใครกันนะ“ยมบาลแสนเย็นชา”ซึ่งอยู่ทั้งสายขาวสายดำแห่งเมืองหนานที่ทุกคนต่างเกรงกลัว แถมยังเป็นผู้นำที่มีอำนาจทั้งตระกูลโหมวและในบริษัทเซิ่งซื่อกรุ๊ปแต่ข่าวลือว่ากันว่าเขาไม่เข้าใกล้ผู้หญิงไม่ใช่หรอ เขาชอบผู้ชายด้วยกันไม่ใช่หรอแต่ทำไมถึงเป็นเพราะผู้หญิงอ่อนแออย่างเธอถึงกับทุกวันไม่อยากลงจากเตียง จริงอย่างคาดคิด ข่าวลือล้วนแต่หลอกลวงโดยสิ้นเชิง

Options

not work with dark mode
Reset