ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก – ตอนที่ 339 ออกไป

หลังจากที่เกิดคำถามขึ้นมามากมาย ชางหลิงก็รีบเปิดประตูห้องพักที่อยู่ข้างๆ ห้องพักนี้ค่อนข้างเล็ก ในห้องนั้นพอมองแว๊บเดียวก็รู้ เห็นแผ่นหลังเป็นเงาสูงใหญ่ของใครบางคนที่หันให้กับประตู วินาทีนั้นชางหลิงมั่นใจว่าคนคนนั้นต้องเป็นโหมวยู่อย่างแน่นอน
ในห้องอบอวลไปด้วยกินยาสูบอ่อนๆ ชางหลิงเลยทำจมูกฟุดฟิด เขาสูบบุหรี่งั้นเหรอ
” ตามหาฉันทำไม ”
ทุกครั้งที่เธอเจอโหมวยู่ ผู้ชายคนนี้ก็ชอบทำตัวเหนือกว่าเธออยู่เสมอ แต่พอตอนนี้เขาอยากเจอเธอเสียเอง ชางหลิงก็คงต้องทำเล่นตัวซะหน่อย!
เป็นใครจะไม่หงุดหงิดล่ะ!
เมื่อกี้ตอนที่อยู่ชั้นบนยังโมโหเป็นฟืนเป็นไฟใส่เธออยู่เลย แถมพูดจาแย่ๆ ทำร้ายลูกในท้องอีก ต้องแสดงสีให้หน้าเขาเห็นว่าเราไม่พอใจแค่ไหน
โหมวยู่ยืนอยู่ข้างหน้าต่างตลอดโดยหันหลังเข้าในห้อง จนกระทั่งชางหลิงเดินมานั่งบนโซฟา และดื่มน้ำผลไม้คันสดอย่างสบายอารมณ์ จากนั้นเขาจึงจะพูดออกมาสองคำ ” ไม่มีอะไร ”
” ถ้าไม่มีเรื่องแล้วคุณเรียกฉันมาทำไม เพื่อที่จะมาดูวิวสวยจากฉากหลังห้องคุณเนี่ยนะ ” ชางหลิงโกรธจนอยากจะลุกขึ้นแล้วเดินออกไป โหมวยู่คนนี้เนี่ย เอาถ่านเรื่องทำให้คนอื่นเขาโมโหจริงนะ
” อย่าพึ่งไป อยู่กับผมก่อน ”
เมื่อโหมวยู่พูดคำนั้นออกมาเหมือนเรี่ยวแรงจะถูกดึงออกไปหมด มันอ่อนแอจนทำให้ชางหลิงโผเข้าไปกอดเขาไว้
ชางหลิงเมื่อคิดอะไรแล้ว ก็จะทำอย่างนั้น
เมื่อร่างกายอันนุ่มนิ่มของเธอแนบชิดลงบนแผ่นหลังของโหมวยู่ เธอสัมผัสได้ว่าแผ่นหลังสูงของเขากำลังสั่นไหว จากนั้นก็กลับมาเงียบสงบดังเดิม ทั้งสองกอดกันอยู่อย่างนั้น แต่จู่ๆ ก็เกิดความรู้สึกครั้งเก่าที่เหมือนได้ตกหลุมรักและต่างคนต่างปลอบประโลมกันโดยสมบูรณ์แบบแปลกๆ
” คนโง่ ”
น้ำเสียงของชางหลิงที่พูดออกมาเต็มไปด้วยความน้อยอกน้อยใจ ในตอนนี้ โหมวยู่มองออกไปยังนอกหน้าต่าง ในดวงตานั้นเหมือนมีไอน้ำระเหิดออกมา รู้สึกเหมือนกำลังฝันไป ไม่กี่วิต่อมาเขาดวงตาของเขาก็เหมือนมีอะไรแจ่มชัดขึ้น จากนั้นเขาก็ตบมือของชางหลิงเบาๆ ” ไปนั่งดีๆ ”
” ไม่เอา ฉันจะกอดคุณอยู่อย่างนี้ ”
ชางหลิงรู้สึกว่าตัวเองนับวันยิ่งไม่รู้จักอาย ทำหน้าทำตาออดอ้อนราวกับหญิงสาวที่พึ่งจะเรียนรู้การตกหลุมรัก ดูไม่ประสีประสาอะไร แถมยังทำเสียงออดอ้อนออเซาะ เธอพูดจบหูก็เริ่มแดงเพราะความเขินอาย
ชางหลิงหันตัวมา แล้วโอบตัวชางหลิงไว้ จากนั้นก็อุ้มเธอไปไว้บนโซฟา ก่อนจะตีแหมะเข้าที่หน้าผากเธอเบาๆ เป็นเชิงดุด้วยความเอ็นดู พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงทุ้มๆ ” หลิงเอ๋อ จากนี้ไปเชื่อฟังหน่อยได้ไหม อย่าเอาแต่ใจให้มากนักสิ ”
” ฉัน…….. ”
ชางหลิงถูกอบรมจนหัวหมุน เธอเห็นสีหน้าของโหมวยู่ที่ดูเอาจริงเอาจัง อีกนิดเธอคงนึกว่าเป็นเธอที่ทำผิดเสียเอง
แต่ ตลอดเวลาที่ผ่านมาคนที่ก่อเรื่องคือผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเธอคนนี้ไม่ใช่หรือไง
หรือว่าจะไม่ยอมรับอีกเช่นเคย
เมื่อเห็นท่าทีของเธอดูน้อยอกน้อยใจ ใบหน้าของโหมวยู่ก็นิ่งสงบลง ” ทำไม ผมพูดอะไรผิดไปเหรอ วันนี้คนที่โหวเหวกโวยวายไม่ใช่คุณหรือไง ”
พอรู้สึกได้ว่าโหมวยู่กำลังสะสางปัญหากับเธออย่างจริงๆ จังๆ ชางหลิงก็จ้องมองไปที่ดวงตาของเขาเป็นเวลานาน มองจนไม่ละสายตา ทั้งสองคนต่างมองตากันอยู่เช่นนั้น เธอถึงจะยอมละสายตาแล้วถอนหายใจ
” ก็ได้ ฉันผิดเอง แต่ทีหลังก่อนคุณจะทำอะไรก็ช่วยบอกฉันให้มันชัดเจนหน่อยได้หรือเปล่าล่ะ คนที่อยู่รอบตัวฉันทำเหมือนเป็นนัยว่าวันนี้คือวันแต่งงานของเรา ฉันคงจะคาดหวังมากเกินไป ก็เลยต้องมาผิดหวังอยู่แบบนี้ไงล่ะ ”
กลายเป็นว่าคนที่รักก่อนก็คงต้องแพ้ก่อนจริงๆ แต่ระหว่างเขาสองคน โหมวยู่เป็นคนที่ต้องการเข้ามาในชีวิตของเธอตั้งแต่แรก แต่ทำไมทุกครั้งต้องเป็นเธอที่พ่ายแพ้ และทุกครั้งก็เลยเส้นที่ขีดเอาไปจนไปถึงการที่เธอนั้นคล้อยตามเขา
เมื่อก่อนวิธีที่เธอทำอาจไม่ค่อยเหมาะสม แต่หลังๆ มานี้ ชางหลิงรู้ตัวเองดี ว่าเธอถูกเขาเข้าครอบครองโดยสิ้นเชิง เธอตกหลุมรักโหมวยู่จนโงหัวไม่ขึ้น ถลำเข้าไปลึกเกินกว่าจะหยั่งใจเอาไว้
” ทีหลังไม่อนุญาตให้ตีโพยตีพายขนาดนี้นะ ไม่ว่าจะยังไงประธานของเซิ่งซื่อจะต้องนิ่งสงบ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเธอต้องห้ามโวยวาย ”
” ฮ้ะ ประธานเซิ่งซื่ออะไร ฉันนึกว่าเป็นแค่ช่างออกแบบเล็กๆ คนหนึ่งเองนะ ”
ขณะที่เธอพูดก็เอานิ้วก้อยขึ้นมาแกว่งไปมาต่อหน้าเขา แล้วยืนยันที่จะบอกเขาว่า เธอไม่ได้ต้องการอะไรเลย แค่ได้อยู่กับเขาก็พอแล้ว ได้ทำสิ่งที่ตัวเองชอบ ชีวิตนี้ก็พอใจแล้วล่ะ
” ชื่อของคุณมีหุ้นในเซิ่งซื่อมากที่สุด สมควรที่จะได้ตั้งตนอยู่ในตำแหน่งประธานบริษัท ”
โหมวยู่เองก็เคยคิดว่าให้ชางหลิงไปเป็นช่างออกแบบในเซิ่งซื่อก็น่าจะพอแล้ว เธอที่ชอบทำตัวไม่มีระเบียบเอาแต่ใจตัวเองคงแบกรับเอกสารที่กองงานเป็นภูเขาในแต่ละวันไม่ได้หรอก
แต่เมื่อเขารู้สึกได้ว่ารอบตัวของชางหลิงเต็มไปด้วยความอันตราย แถมเธอยังเป็นคนซื่อบื้อไม่รู้จักป้องกันตัวเองอีก เขาจึงเข้าใจว่า หากเขาเอาทรัพย์สมบัติต่างๆ มอบให้ชางหลิงอย่างง่ายดายโดยไม่คิดอะไร บางทีการที่ต้องปกป้องทรัพย์สินอันล้ำค่านี้ท่ามกลางคนที่อิจฉาตาร้อนนับไม่ถ้วนในเมืองหนานแห่งนี้ อาจทำให้ชางหลิงเปลี่ยนแปลงตัวเองก็เป็นได้
มิฉะนั้น ถ้าเขาจากไปแล้ว ไม่แน่ว่าครึ่งปีให้หลังสิ่งที่เขาให้ชางหลิงไปจะถูกหมาป่าหิวโซจากทั่วสารทิศมาแย่งกินไปจนหมดเกลี้ยง อีกทั้งจะยังทำให้ชางหลิงพบกับอันตรายที่คาดไม่ถึง
” คุณไม่ต้องกังวลหรอก ผมจะหาคนที่ช่วยมือขวาสำหรับคุณ เมื่อถึงเวลานั้น ฉู่ฉือ ถงเอินกับหลีซินและก็ป๋ายจื๋อจะร่วมแรงร่วมใจกันช่วยคุณอีกที คุณต้องอยู่ในตำแหน่งนี้ได้อย่างมั่นคงแน่นอน ”
” ฉันขอปฏิเสธ ”
ไม่ว่าโหมวยู่จะยัดเยียดยังไง ท่าทีของชางหลิงก็แน่วแน่เช่นกัน เธอปฏิเสธที่จะรับเซิ่งซื่อ เพราะสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นของโหมวยู่ เธอไม่อยากได้และก็ไม่คิดจะมองด้วย อีกอย่างคือ เธอไม่ใส่ใจ ไม่อยากให้ตำแห่งอันทรงเกียรติและสวยหรูนี้มีผลต่อเธอไปทั้งชีวิต
” หลิงเอ๋อ คุณก็คิดว่าเป็นการช่วยผมดูแลเซิ่งซื่อไง ได้ไหม ผมแค่อยากฝากฟังมันไว้กับคุณผมถึงจะวางใจได้ ”
ศีรษะของโหมวยู่เริ่มปวดตุบๆ ไม่อยากให้เธอเห็นหน้าตาที่ดูแย่ของเขา เขาจึงพยายามหายใจเข้าลึกๆ ในขณะที่ชางหลิงเผลอตัวก็รีบควักโทรศัพท์ออกมาโทรหาฉู่ฉือให้รีบมาที่นี่
” เซิ่งซื่อเป็นของคุณ คุณก็ดูแลเองสิ มันไม่ใช่หน้าที่ของฉันสักหน่อย คุณก็รู้ว่าฉันไม่ชอบการบริหารบริษัทนี่นา ”
ชางหลิงเพิ่งจะพูดจบประโยค โหมวยู่ก็คว้าตัวเธอมาไว้ข้างเขา สายตาของเขาดูเย็นชาและทิ่มแทงจนทำให้ร่างกายของชางหลิงอดไม่ได้ที่จะสะท้าน เธอตัวสั่นและถอยไปข้างหลัง ” คุณ…… คุณจะทำอะไรน่ะ ”
” ชางหลิง คุณต้องเชื่อฟังผม ไม่งั้นผลที่ตามมาอาจร้ายแรงได้ รีบออกไป! ผมไม่มีอะไรจะพูดกับคุณแล้ว ”
เมื่อไม่กี่วินาทีก่อนหน้านี้ทั้งสองคนเพิ่งจะแนบชิดและโอบกอดกัน แต่วินาทีถัดมาโหมวยู่ก็เดินทำตัวเหมือนรังเกียจเธอยังไงยังงั้น ชางหลิงก็เลยย้ายตัวไปนั่งโซฟาอีกตัวหนึ่งข้างๆ แต่ก็ไม่พูดจาเหมือนที่โหมวยู่พึ่งจะพูดไป
ลางบอกเหตุเหมือนจะบอกเธอว่า เธอเริ่มใกล้กับความเป็นจริงขึ้นทุกที เหมือนกับช่วงเวลาที่เธอโดนหมอกควันบางอย่างที่รายล้อมเธอให้อยู่เหนือความเป็นจริงนั้นเริ่มจะมาสุดทางแล้ว ถ้าเธอยังยื้อที่จะอยู่ที่นี่ บางทีเธออาจจะได้คำตอบจากเขาก็ได้
” ออกไป ”
อาการปวดหัวของโหมวยู่เริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เหมือนเหงื่อตรงหน้าผากของเขาเริ่มจะหยดลงมา มีแว๊บหนึ่งที่เขาจิกโซฟาไว้แน่น เขาที่พยายามเก็บอาการที่ปวดจนแทบจะตายไว้เมื่ออยู่ต่อหน้าชางหลิงที่ไม่ยอมออกไปจากห้อง โหมวยู่ได้แต่แสร้งยิ้ม
ผู้หญิงของเขาเวลาสำคัญก็ยังคงฉลาดหลักแหลมเช่นนี้เสมอ เธอคงจะรู้ได้สินะ ที่อยู่ที่นี่ในวันนี้คงจะต้องยืนยันคำตอบที่มีอยู่ในใจของเธอแล้ว
แต่เขาคงไม่ยอมให้มันเป็นไปตามที่เธอหวัง คำตอบนี้คงไม่ยอมให้เธอได้รับรู้เป็นอันขาด
โหมวยู่พยายามเหยียดขาของตัวเอง พยายามดึงสติในระหว่างที่ตัวเองเจ็บปวด ลุกขึ้นแล้วเดินไปคว้ามือของชางหลิงเอาไว้ ทำตัวไม่สนไม่แคร์อีกฝ่ายแล้วผลักเธอออกจากห้องไป
” โหมวยู่ โหมวยู่ เปิดประตู คุณเปิดประตูเดี๋ยวนี้นะ….. ”
ชางหลิงนั่งลงกับพื้นที่นอกประตูและเคาะประตูอย่างบ้าคลั่ง

ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก

ท่านบอสยิ่งเลวฉันยิ่งรัก

เธอสุขใจมากล้นเตรียมที่จะแต่งงานกับแฟนหนุ่มที่คบกันมาหลายปี แต่คืนก่อนวันแต่งงานกลับรู้ว่าแฟนหนุ่มนอนกับน้องสาวต่างสายเลือดด้วยความโกรธครอบงำชางหลิงใช้เงินซื้อผู้เชาย หลังเมาก็ร้องจะนอนกับเจ้าของคลับ ยังถูกคนหลอกแต่งงานเมื่อตื่นขึ้นมา ไม่คาดว่าถูกคนกลับเรียกเธอว่าพี่สะใภ้ เฮียคือใครกันนะ“ยมบาลแสนเย็นชา”ซึ่งอยู่ทั้งสายขาวสายดำแห่งเมืองหนานที่ทุกคนต่างเกรงกลัว แถมยังเป็นผู้นำที่มีอำนาจทั้งตระกูลโหมวและในบริษัทเซิ่งซื่อกรุ๊ปแต่ข่าวลือว่ากันว่าเขาไม่เข้าใกล้ผู้หญิงไม่ใช่หรอ เขาชอบผู้ชายด้วยกันไม่ใช่หรอแต่ทำไมถึงเป็นเพราะผู้หญิงอ่อนแออย่างเธอถึงกับทุกวันไม่อยากลงจากเตียง จริงอย่างคาดคิด ข่าวลือล้วนแต่หลอกลวงโดยสิ้นเชิง

Options

not work with dark mode
Reset