ซังเสี่ยนรักสนุก นิสัยเหมือนซังอวี้มาก
แต่ว่าตอนยังหนุ่ม เขาปิดบังเก่ง เลยมีคนน้อยมากที่จะมองออก
รอจนถึงแต่งงาน เขาเลยจำเป็นต้องปกปิด
เพราะยังไง คุณหนูใหญ่ตระกูลเจียงไม่ใช่คนที่จะเล่นด้วยได้
ในเมื่อแต่งงานกับเธอแล้ว ก็ต้องมีความรับผิดชอบ
ยังโชคดี นี่ก็ผ่านไปสิบกว่าปีแล้ว
แต่ว่ากี่ปีนี้ ซังเสี่ยนเหมือนจะกำเริบ กล้าแอบมีเยื้อใยกับผู้หญิงข้างนอก แถมยังให้ผู้หญิงคนนั้นเข้าหยวนเซิ่ง มาเป็นผู้ช่วยเขา
เรื่องพวกนี้ ซังหวินจวินก็ต้องไม่ใส่ใจอยู่แล้ว เพราะนั่นเป็นเรื่องของซังเสี่ยน ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเขา
แต่เรื่องทั้งหมด เป็นตอนที่เขายังไม่ได้มายุ่งกับเขา
ตอนนี้ชัดเจนแล้ว ซังเสี่ยนจงใจที่จะมีเรื่องกับเขา
เพราะยังไง คนใกล้ตัวใครไม่รู้ว่าเถ้าแก่ไม่ชอบเฉินเฉียว ตอนนี้มาหาถึงที่ กำลังแทงใจเถ้าแก่ชัดๆ ถึงแม้ต่อหน้าเถ้าแก่จะดูนิ่งเฉย แต่รอคนไปกันหมด ความไม่พอที่ท่านเก็บสะสมมาทั้งหมด จึงมาคิดบนหัวเฉินเฉียว
สีหน้าซังเสี่ยนตึงไปชั่วขณะ สายตามีความดุดัน แต่ก็รีบกลบเกลื่อน ใบหน้ายิ้มอย่างขมขื่น แล้วปากก็กระตุก “หลินจวิน ยิ่งโตก็ยิ่งชอบล้อเล่นกับอา เรายังไม่รู้เหรอ? ช่วงนี้อาสาวเรากำลังยุ่งเรื่องงานหมั้นของเวยเวยกับหลินหย่วน”
ซังเวยเป็นลูกสาวคนเดียวของซังเสี่ยน หน้าตาสวยสง่า นิสัยเอาแต่ใจมาก
อาจจะเป็นโดนตามใจตั้งแต่เด็ก นิสัยเลยเป็นแบบนี้
ซังหลินจวินไม่ชอบน้องสาวคนนี้อยู่แล้ว
ตั้งแต่เด็กน้องสาวคนนี้ก็ตัวติดเขา ยังดีที่เจอหลินหย่วน เลยไม่ได้มาตอแยเขาอีก ซังหลินจวินรู้สึกดีใจด้วยซ้ำ
ซังหลินจวินเลยรู้สึกดีกับหลินหย่วนที่ไม่เคยเจอหน้ากัน เพราะยังไงเขาก็เบี่ยงเบนความสนใจของซังเวยไปจากเขาได้
จะว่าไปแล้ว งานหมั้นครั้งนี้ของซังเวย ให้โอกาสซังเสี่ยนพอดี
โอกาสที่พาผู้หญิงไปเที่ยวต่างประเทศ
เมื่อเดือนที่แล้ว ซังเสี่ยนไปต่างประเทศ
เพราะฉะนั้นครั้งนี้ซังหลินจวินเลยทำการเปลี่ยนแปลงบอร์ดบริษัทได้อย่างง่ายดาย
ซังเหยาอาสาวสี่เป็นนกสองหัว ปกติเชื่อฟังอาสามที่สุด ในสมองไม่ค่อยมีความคิดอะไร
การเปลี่ยนแปลงบอร์ดครั้งนี้ เธอก็เห็นกับตา แต่กลับไม่พูดอะไรเลย
สิ่งเดียวที่น่าจะทำเพื่อห้ามเขา ก็คือเรียกซังเสี่ยนกลับมา
“อาสี่ ช่วงนี้ยังยุ่งกับการดูตัวหรือเปล่าครับ ผมรู้จักศาสตราจารย์สอนภาษาจีนคนหนึ่ง จะให้ผมส่งช่องทางติดต่อให้อาไหมครับ”
ซังหลินจวินหันไป เห็นซังเหยาที่ผมลอนสีน้ำตาลพิงอยู่บนโซฟาอย่างขี้เกียจ ใบหน้าแต่งหน้าจัดเต็ม รอบขอบตาคล้ำเล็กน้อย
“ดูอาสี่โทรมไปไม่น้อยนะครับ เพราะอายุเยอะแล้ว? ก็ใช่ อาใกล้จะสี่สิบแล้ว ดูแก่หน่อยก็ปกติ” ถ้าต้องให้ซังหลินจวินปากจัด แต่ละคำพูดนั้นแทงทะลุใจคนมาก
ซังเหยาไม่ได้มีความอดทนเหมือนซังเสี่ยน ขมวดคิ้วแล้วเอ่ยอย่างโมโห “ถ้าพูดไม่เป็น ก็ไม่ต้องพูด พี่ใหญ่พี่ดูสิคะ หลินจวินโตขนาดนี้แล้ว ยังเอาแต่แขวะหนู ไร้สัมมาคารวะจริงๆ”
คำพูดคำนี้ของซังเหยาทำให้ซังหลีหย่วนดูแย่ไปด้วย
ความจริงซังหลีหย่วนตามใจน้องเล็กอยู่แล้ว แต่พอได้ยินแบบนั้น สีหน้าที่ไม่พอใจก็ทวีคูณขึ้นไปอีก
“อะไรกันน้องเล็ก เธอจะอะไรกับหลินจวิน เธอโตกว่าเขาตั้งกี่ปี ทำไมยังใจแคบแบบนี้ ถึงว่าล่ะ ตอนนี้ไม่มีใครทนนิสัยเธอได้”
ยังไงซังหลีหย่วนก็เป็นพ่อของซังหลินจวิน ปากจัดไม่แพ้ซังหลินจวินเลย
ซังเหยาโกรธจนตาแดง “พี่ใหญ่ ทำไมพี่ว่าหนูแบบนี้ พี่ก็รู้ หนูยังเก็บใจให้หลี่เฉิงอยู่”
พูดแบบนี้เหมือนผู้หญิงที่รักเดียวใจเดียวที่ถูกบังคับเปลี่ยนใจอย่างนั้น เหมือนกำลังโดนดูถูก
แต่เป็นคนครอบครัวเดียวกัน ยังไงก็รู้ๆกันอยู่
หลี่เฉิงเป็นว่าที่สามีของซังเหยา แต่ก็เป็นเรื่องหลายปีก่อนแล้ว
เขาเสียชีวิตไปห้าปีแล้ว คนอื่นคิดว่าเขาประสบการณ์อุบัติเหตุรถชน แล้วเสียชีวิตก่อนงานแต่งหนึ่งวัน
แต่ว่า ซังหลินจวินรู้ความจริงเรื่องนั้น หลี่เฉิงไปที่บ้านใหม่ก่อนแต่งงานหนึ่งวัน
เขาไปอย่างมีความสุข แต่คิดไม่ถึงเลยว่า ตอนที่กลับมาจะเกิดอุบัติเหตุ
คนที่ไม่ดื่นเหล้า ขับรถอย่างมีสติตลอด แต่อยู่ๆกลับเกิดอุบัติเหตุ เรื่องเลยทะแม่งๆ
แต่คิดไม่ถึงเลยว่าวันที่สองจะมีคนออกมาแฉ ซังเหยาไปเปิดห้องกับคนอื่นก่อนแต่งงาน ถึงแม้เรื่องนี้ตระกูลซังจะปิดไว้แล้ว
แต่ว่า คนตระกูลซัง ตระกูลหลี่ ทุกคนรู้ดี
เพราะฉะนั้นตอนที่เห็นซังเหยาเอาคนที่ตายไปแล้วมาเป็นข้ออ้าง ซังหลินจวินเลยไม่สบอารมณ์
อาสาวของเขาคนนี้ ตอนที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ ก็เริ่มพัวพันกับคนในโรงเรียนแล้ว
แถมยังเปิดเผยเกินเลยมาก ไปผับบาร์ ร้องคาราโอเกะบ่อยเหมือนกลับบ้านอย่างนั้น
คนในบ้านก็ไม่มีใครห้ามเธอด้วย
เพราะคุณปู่คุณย่าเสียไปตั้งนานแล้ว พี่ใหญ่ก็เป็นคนดูแลน้องๆเอง
ตอนหนุ่มๆเถ้าแก่ก็เกเรเหมือนกัน แต่เพื่อน้องชายน้องสาว เลยหักห้ามความเกเรนั่นไว้ในใจ
ไม่อย่างนั้น คงไม่มีเรื่องรักแท้อะไรนั่นเกิดขึ้นหรอก
“อาสาวเอาแต่พูดถึงพี่หลี่ ไม่กลัวว่าตอนกลางคืนเขาจะมาหาอาเหรอครับ?” สายตาซังหลินจวินมืดมน น้ำเสียงแฝงไปด้วยความเยือกเย็น
ซังเหยาสะดุ้งขนลุกเพราะเขา จนถึงขั้นเสียวสันหลังเลย
ที่คฤหาสน์นี่ แม้แต่วินาทีเดียวก็ไม่อยากอยู่ต่อ
ซังเสี่ยนเห็นว่าน้องเล็กถูกพูดจนเหงื่อตก ในใจก็รู้ว่าครั้งนี้คงไม่ได้ดีอะไรแน่นอน
แต่ว่ายังดีที่เขายังมีไพ่ใบสำคัญ
“พี่ใหญ่ พี่ไม่ได้เจอเสี่ยวอวินนานแค่ไหนแล้วครับ เขาเพิ่งกลับประเทศแต่ก็ไม่มีใครไปต้อนรับเขาเลย ยังไงก็เป็นลูกหลานตระกูลซัง เสี่ยวอวินช่างโดดเดี่ยวจริงๆ” ซังเสี่ยนเรียกร้องออกหน้าแทนซังอวิน
แต่ซังหลีหย่วนกลับแปลกใจ ค่อยนึกถึงได้ว่าเสี่ยวอวินที่น้องสามพูดถึงคือลูกชายที่เขาเคยเจอแค่ครั้งเดียว
แต่ว่า เขากลับประเทศแล้วงั้นเหรอ นี่เลยทำให้ท่านอึ้ง
“เขา ตอนนี้อยู่ไหน?” อาจจะเพราะว่าไม่เคยเรียกชื่อเขา ซังหลีหย่วนขยับริมฝีปาก แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดชื่อเขาออกมา
ซังเสี่ยวแอบมองบน แต่กลับพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “เขาเหรอครับ เมื่อกี้ยังตามหลังเราอยู่ แต่ว่า เขาบอกว่าจะไปเข้าห้องน้ำ ผมเลยให้คนใช้พาเขาไปครับ”
พอซังเสี่ยนพูดจบ ในใจซังหลินจวินก็คิดทันที
ห้องน้ำชั้นแรกห่างกันไม่ไกลอยู่แล้ว ถ้าซังอวินนั่นเดินไปที่ห้องของเฉินเฉียว งั้น……
ซังหลินจวินไม่คิดเรื่องที่ไม่ดีต่อ เขารีบก้าวเดินไปทางห้องน้ำทันที
พอเดินไปไกลแล้ว
แต่ก็ยังได้ยินเสียงของซังเสี่ยนอยู่