ท่านประธานที่รัก – ตอนที่ 185 อยู่เคียงข้าง

หลังจากที่ซังหลินจวินทำเรื่องแอดมิทให้เฉินเฉียวเสร็จ ก็อยู่กับเธอที่โรงพยาบาลตลอด

เพราะถ้าให้เธออยู่โรงพยาบาลคนเดียว เขาไม่วางใจ

แต่พอนึกได้ว่าโยว่อียังอยู่ที่นั่น เพื่อไม่ให้เขากังวล ซังหลินจวินเลยโทรหาเขา บอกให้เขาอยู่ที่คฤหาสน์วันสองวันก่อน ให้รอเขากลับไปรับเขา

โยว่อีจับโทรศัพท์ที่ถูกตัดสายไปแล้วไว้แน่นด้วยสีหน้าไม่มีความสุข

เขาก็อยากไปหาพี่เฉียวเหมือนกัน

พี่เฉียวไม่สบาย แต่เขายังต้องอุดอู้อยู่ในคฤหาสน์นี้ เขาก็จะเป็นห่วงเหมือนกัน

คุณพ่ออยากครอบครองพี่เฉียวไว้คนเดียวสินะ ไม่งั้นคงไม่ให้เขาอยู่ที่นี่คนเดียวหรอก

ซังหลีหย่วนเห็นว่าเหมือนโยว่อีกำลังอารมณ์เสีย เลยเดินไปหาเขา ใช้มือไปลูบศีรษะโยว่อี “โยว่อี ทำไมอารมณ์เสียล่ะ พ่อเราพูดอะไรกับเรา”

“คุณปู่อย่าจับผมของผมสิครับ ผมไม่ใช่เด็กแล้วนะครับ” เขานำมือบนศีรษะออก แล้วเอ่ยอย่างผู้ใหญ่

เห็นท่าทางที่เข้มงวดของโยว่อี ซังหลีหย่วนเลยจงใจแกล้งเขา “ได้ได้ได้ โยว่อีไม่ใช่เด็กแล้ว งั้นโยว่อีไม่ตัวติดพ่อ มาอยู่กับปู่ที่นี่ได้แล้วใช่ไหม”

“คุณปู่มีคุณย่าคนใหม่มาอยู่ด้วยแล้วไม่ใช่เหรอครับ? ทำไมยังต้องให้โยว่อีอยู่ด้วย คุณปู่หลายใจจริงๆ” โยว่อีเอามือเท้าสะเอว พูดจนหน้าของซังหลีหย่วนแดง

ซังหลีหย่วนไอเสียงเบา จากนั้นจึงเปลี่ยนประเด็น “โยว่อี ปู่ไม่ล้อเราแล้ว เมื่อกี้พ่อเราโทรมาเกิดเรื่องอะไรหรือเปล่า?”

พอโยว่อีได้ยิน เลยทำหน้าหดหู่ “คุณปู่ พี่เฉียวไม่สบายครับ ตอนนี้อยู่โรงพยาบาล คุณพ่อดูแลอยู่ครับ พ่อบอกว่า ให้ผมอยู่ที่นี่ไปก่อน แต่ว่าผมอยากไปเยี่ยมเฉียวเฉียว”

พอได้ยินโยว่อีพูดว่าเฉินเฉียวไม่สบาย ซังหลีหย่วนรู้สึกว่าร่างกายผู้หญิงคนนั้นอ่อนแอจริงๆ แล้วเอ่ยปลอบโยว่อีไปด้วย “ถ้าโยว่อีอยากไปจริงๆ เดี๋ยวปู่พาเราไปด้วยกัน”

“ได้ครับ คุณปู่ดีที่สุดเลย” ทีแรกโยว่อีที่คิดว่าต้องอีกหลายวันถึงจะได้เจอพี่เฉียวกระโดดขึ้นไปบนโซฟา ใบหน้ากลับมายิ้มแย้มเหมือนเดิม

“คุณพ่อ งั้นผมไปพร้อมคุณพ่อเลยแล้วกันครับ ผมก็ไม่ได้เจอพี่ใหญ่นานแล้ว” ซังอวินที่นั่งเงียบอยู่บนโซฟาเงยหน้า เอ่ยพร้อมยิ้มอ่อน

เขาพูดออกมาได้รื่นปากมาก ไม่เหมือนว่าพวกเขาไม่ได้เจอกันนาน

ซังหลีหย่วนไม่ได้รู้สึกอะไรกับลูกชายที่เคยเจอแค่ครั้งเดียว แต่คำนึงถึงว่าในตัวเขามีเลือดท่านด้วย เลยไมได้ปฏิเสธ แค่พยักหน้าเบาๆ

“พี่ใหญ่ พี่สะใภ้ เสี่ยวอวิน ในเมื่อมีธุระกัน งั้นผมกับน้องเล็กกลับก่อนนะครับ” ซังเสี่ยนลุกขึ้นจากโซฟา เอ่ยล่ำลา

ซังหลีหย่วนก็ไม่ได้ห้าม

หลังจากที่ซังเสี่ยนกับซังเหยากลับไป ซังหลีหย่วนจึงพาโยว่อี ซังอวิน เฉียวยวี่หมินไปโรงพยาบาลพร้อมกัน

สอบถามห้องพักของเฉินเฉียวกับเจ้าหน้าที่แล้ว ในใจซังอวินกังวลมาก แต่บนหน้ากลับมีรอยยิ้มอ่อนๆแล้วเดินตามพวกเขา

พอไปถึงห้องพักฟื้น เพราะส่วนสูงที่สูงกว่าคนอื่น สายตาซังอวินเลยมองทะลุกระจกไปที่ผู้หญิงที่นอนสลบอยู่บนเตียง

มองจากข้างนอก สีหน้าของเฉินเฉียวยังซีดขาวอยู่ แต่ถ้าเทียบกับเจอเธอที่คฤหาสน์ ก็ดีขึ้นไม่น้อย

ซังอวินแอบโล่งใจไปหน่อย สายตาก็มองไปรอบๆ รู้สึกได้ว่ามีใครอีกคนโล่งใจเหมือนเขา

เฉียวยวี่หมิน ภรรยาตอนนี้ของซังหลีหย่วน

ทำไมเธอถึงเป็นห่วงเฉินเฉียวเหมือนกัน

ซังอวินเป็นเจ้าสำนักรากษส ในสำนักมีคนที่เก่งเรื่องการสังเกตุสีหน้าผู้คน แล้วตัวเองเป็นเจ้าสำนัก ยังไงก็ต้องมีความสามารถอยู่แล้ว

ถึงแม้จะพูดไม่ได้ว่าเก่งเหมือนคนที่เรียนเฉพาะด้านนี้ แต่อย่างน้อยก็สามารถมองทะลุความคิดบางอย่างของคนอื่นได้

ความกังวลในสายตาเฉียวยวี่หมิน ซังอวินคิดว่าเขาไม่ได้ตาฟาด

มือซังหลี่หย่วนข้างดึงจูงมือโยว่อีไว้ อีกข้างก็ดันเปิดประตู

ทีแรกซังหลินจวินกำลังนั่งเช็คงานในบริษัทที่อวี้เฟยส่งมา ตอนที่ประตูเปิด เลยหันไปทางประตู พอเห็นว่าพวกเถ้าแก่มา ในใจก็ประหลาดใจมาก

เขารู้ว่าเถ้าแก่ไม่ชอบเฉินเฉียวอยู่แล้ว ตอนนี้กลับมาเยี่ยมเธอที่โรงพยาบาล ดูเหมือนว่าไม่ใช่เจตนาของท่าน

โดยเฉพาะตอนที่เห็นโยว่อีที่แอบแลบลิ้นอยู่ข้างหลังเถ้าแก่ เลยรู้ว่าใครเป็นคนอยากมา

“เธอเป็นอะไร?” ซังหลีหย่วนเดินไปหาลูกชาย พร้อมเอ่ยถามเสียงเบา

พอเห็นเฉินเฉียวที่นอนอยู่บนเตียงพักฟื้น ความข้องใจของซังหลีหย่วนหายไปไม่น้อย

ทีแรกเขาคิดว่าเธอไม่ได้เป็นอะไรมาก แค่เพราะลูกชายตัวเองชอบ เลยจงใจทำให้เป็นเรื่องใหญ่

ตอนนี้ดูแล้ว เหมือนอาการจะหนักจริงๆ

เพราะยังไงก็ถึงขั้นต้องพักในโรงพยาบาล

ซังหลินจวินเอ่ยเสียงเบา “ไม่ค่อยดีครับ หมอบอกว่าโดนวางยา พ่อครับ ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่ผมทานข้าวที่บ้านยังโดนวางยา อีกหน่อยผมกับเฉียวเฉียวคงไม่ต้องกลับไปแล้วมั้งครับ ผมไม่อยากให้ทุกครั้งที่กลับบ้านแล้วต้องเป็นห่วงว่าตัวเองจะมีอันตราย”

“พูดอะไรกัน นี่แกกำลังเหมารวมชัดๆ” ซังหลีหย่วนอารมณ์ขึ้นเพราะลูกชายจนเกือบจะหยุดหายใจ

แต่ว่า พอลองมาคิดดูดีๆ ที่เขาพูดก็ไม่ใช่ไม่ถูก

“แกบอกว่า เธอโดนวางยา ในบ้านใครจะทำเรื่องแบบนี้ ไม่ใช่ว่าเธอกินอะไรผิดหรือเปล่า”

ซังหลีหย่วนไม่รู้สึกว่ามีใครกล้าวางยาต่อหน้าท่าน

แต่พอเห็นสายตาที่แหลมคมของลูกชาย ซังหลีหย่วนจึงไม่ค่อยมั่นใจกับคำพูดตัวเอง

“ถ้างั้น ไล่ป้าหลี่ออก แล้วหาคนใหม่”

สายตากับน้ำเสียงของซังหลินจวินเยือกเย็น “ไม่ต้องแล้วครับ ผมให้อวี้เฟยหาคนใหม่มาแล้วครับ สรุปเงินเดือนของป้าให้แล้ว รอป้าฟื้นจากโรงพยาบาล ก็ให้เงินป้าไปได้เลย”

คำพูดของเขาดูเหมือนไร้น้ำใจมาก แต่ว่า นี่ก็เพราะป้าทำผิด ถึงแม้จะไม่ใช่ตัวการ แต่ก็ถือว่าเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด ไม่ว่าใครบนโลกที่ทำร้ายเฉินเฉียว เขาไม่ปล่อยไว้แน่นอน

แล้วป้าก็เป็นแค่คนใช้ ถึงจะทำงานในคฤหาสน์มานาน แต่ก็แค่คนใช้ที่มีประสบการณ์ ไม่ใช่ว่าขาดไม่ได้

ซังหลีหย่วนพยักหน้า ถือว่าตกลงกับสิ่งที่เขาพูดแล้ว

ซังหลินจวินเห็นว่าเถ้าแก่ไม่ได้ถามอะไรอีก เลยไม่อยากยืดยื้อต่อ

หรือว่าในใจเถ้าแก่รู้ดีว่าใครเป็นคนทำ แต่ว่าท่านแค่อยากปกป้องเธอ เลยทำแบบนี้

พอคิดแบบนี้ ใจที่เยือกเย็นอยู่แล้วของซังหลินจวินเหมือนมีน้ำแข็งมาคลุมอีกชั้น

เขาหันหน้าไป ไม่มองคนอื่นอีก

ในขณะที่ห้องพักฟื้นนี้กำลังตกอยู่สถานการณ์ที่อึดอัด

ทันใดนั้นซังหลินจวินก็รู้สึกว่ามีมือเล็กๆกำลังดึงแขนเสื้อเขา

จากนั้นใบหน้าที่ขาวอวบเหมือนซาลาเปาก็ใกล้เข้าไปหาเขา

ท่านประธานที่รัก

ท่านประธานที่รัก

เฉินเฉียวต้องมานอนกับผู้ชายลึกลับคนหนึ่งอย่างไม่ได้ตั้งใจ เธอไม่รู้ ชื่อหรืออาชีพของเขา และไม่รู้เลยว่าเขานั้นได้แต่งานมาแล้ว แต่เขามักจะมาช่วยเธอให้หลุดพ้นจากความอับอายอยู่เสมอ อะไรนะ!!! ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดาอย่างที่เธอคิด แต่เขาเป็นถึงซังหลินจวินที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเป่ยเฉิง และมีข่าวลือมาว่า ชายผู้มีอำนาจคนนี้ทั้งได้ผ่านการแต่งงานมาแล้วหลายครั้ง และมีลูกแล้วอีกด้วย และมีข่าวลือกอีกว่าชายคนนี้มีนิสัยเย็นชา………….

Comment

Options

not work with dark mode
Reset