ท่านประธานที่รัก – ตอนที่ 328 แม้แต่หัวใจก็ยังหอมหวาน

จานที่โย่วอีชิมเป็นอาหารธรรมดามากเรียกว่าไก่ตุ๋น

วัตถุดิบข้างในยังเป็นขิงธรรมดาที่หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ตกแต่งในชาม

เป็นเพียงวิธีการที่ค่อนข้างซับซ้อนกว่าการผัดและการเคี่ยวด้วยไฟกลางจนความชื้นออกหมดแล้วนึ่งด้วยแตงและข้าวบาร์เลย์ในฤดูหนาวด้วยความร้อนสูงเกือบครึ่งชั่วโมง

ส่วนผสมที่เรียบง่ายจะรวมกันในหม้อและปรุงรสเพิ่มสำหรับทำอาหารจานนี้

หลังจากโย่วอีได้ลิ้มรสแล้วถ้าชอบ ก็ไม่ใช่เพราะวัตถุดับในจาน แต่เป็นเพราะไก่ที่ซื้อมาจากชาวบ้าน รสชาติหอมหวาน

ที่ผ่านมาป้ามั่วทำแบบธรรมดา ๆ รสชาติก็ได้แบบธรรมดา ๆ

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้มันก็แปลกสำหรับเฉินเฉียว ที่อาหารในวังแบบนี้มีรสชาติธรรมดา

แต่หลังจากที่เธอได้ชิมด้วยตัวเองแล้วเธอก็รู้สึกว่ามันมีค่าสมกับชื่อ

เมื่อมองไปที่หนังสือไม่ไกล เฉินเฉียวก็รู้สึกมั่นใจมากขึ้นในงานเลี้ยงประจำปีที่กำลังจะมาถึง

อร่อยไหมเมื่อเห็นโย่วอีที่กินแบบจะไม่เหลือไว้ให้ใคร เฉินเฉียวเอามือวางบนไหล่ลูกชาย และถาม

“อร่อยมากเลยครับ”ก่อนที่เขาจะกลืนไก่เข้าปากเขาตอบกลับแม่ของเขา

เฉินเฉียวกังวลว่าเขาอาจจะสำลักติดคอจึงไม่กล้าคุยกับเขาในตอนนี้เธอเดินผ่านโย่วอีและหยิบปลาที่วางอยู่บนโต๊ะใส่ตะกร้าและเริ่มทำอาหารต่อไป

ตอนที่เฉินเฉียว สอนซังหลินจวิน ทำอาหารเขามักจะทำอาหารง่ายๆที่บ้านในอดีตเฉินเฉียว ต้องดูแลเด็ก ๆ และต้องเผื่อเวลาในการเรียนทุกวันและไม่ค่อยมี เสียเวลาไปมากในการศึกษาค้นคว้าอาหารเหล่านั้น

ตอนนี้ชีวิตสบาย ๆ เรียนรู้ประเภทอาหารได้เยอะขึ้นเรื่อยๆ

ถ้าไม่ใช่เรื่องงานเลี้ยงของครอบครัวนี้ ไม่รู้ว่าเฉินเฉียวจะสนใจอาหารพวกนี้ตอนไหน

ยังไงซะในใจของเธอห้องครัวไม่ใช่สถานที่ที่เธอชอบอะไร

เมื่อซังหลินจวินกลับมาจาก บริษัท อย่างเหนื่อยล้าและที่บ้านไม่มีคนอยู่

เขายังไม่ได้กินข้าวเย็น กลับมาก็ไม่มีใครอยู่บ้าน เขาเลยเดินไปห้องครัว เปิดตู้เย็น พบว่าช่องฟรีซมี กล่องอาหารมากมาย

เขาขมวดคิ้วและหยิบมันออกมา

จากนั้นนำเข้าไมโครเวฟและอุ่นให้ร้อน

จากการสอนของเฉินเฉียว ซังหลินจวินใช้เครื่องใช้ในครัวเป็นแล้วอย่างกับเรียนมาหลายปี

หลังจากอุ่นแล้ว ซังหลินจวินที่นั่งเงียบๆคนเดียว ไฟในห้องโถงก็สว่าง

เมื่อมองไปที่อาหารที่มีทั้งกลิ่นทั้งสีสันน่ากิน ซังหลินจวินก็ใช้ตะเกียบคีบขึ้นมา หลังจากเอาเข้าปาก ก็พบว่าจากตอนแรกที่หดหู่ใจที่เฉินเฉียวไม่อยู่บ้านตอนนี้ก็ดีขึ้นเยอะ

อาหารที่เติมเต็มหัวใจได้ ซังหลินจวินไม่เคยรู้สึกมาก่อน

แต่ครั้งนี้เขามีความสุขที่ได้กินอาหารและอาหารที่อร่อยทำให้เขาหยุดไม่ได้

เฉินเฉียวจูงโย่วอีและเหมิงเหมิงกับป้ามั่วพวกเขาเดินไปที่บ้านพวกเขาเห็นไฟด้านในเปิด

ก็รู้ว่าหลินจวินกลับมาแล้ว

มีความหวานอยู่ในใจของเฉินเฉียวไม่รู้ว่าเมื่อไรทุกครั้งที่เธอนึกถึงเขาเขาจะยิ้มออกมาอย่างควบคุมไม่ได้

เฉินเฉียวคิดว่านี่อาจเป็นความรักที่แท้จริง

“คุณนายคะ นายท่านกลับมาแล้ว ฉันไปอุ่นอาหารให้เขาก่อนนะคะ”ความคิดของป้ามั่วกับเฉินเฉียวต่างกันอย่างเห็นได้ชัด จริงๆวันนี้โดนคุณนายลากไปกินข้าวด้วยกัน ป้ามั่วยืนหยัดปฏิเสธ แต่ดูท่าทางคุณนายที่ก้มหัว ก็ใจอ่อน

อาหารอร่อยมักทำให้คนหยุดกินไม่ได้

โชคดีที่ เฉินเฉียวทำอาหารหกหรือเจ็ดอย่างซึ่งมากเกินพอสำหรับผู้ใหญ่สองคน เด็กสองคน

หลังจากกินเสร็จทุกคนก็ลูบท้องด้วยความอิ่ม

แม้แต่ป้ามั่วที่นานมากแล้วไม่ได้กินข้าวสองจานก็เหมือนกัน

เฉินเฉียวมองไปที่ท้องของเธอและรู้สึกว่าเป็นแบบนี้ไม่ได้ เลยพาลูกๆกับป้ามั่วออกไปเดินเล่น

ฉันเดินไปรอบ ๆ บริเวณบ้านโดยไม่ต้องขับรถ

หลังจากเดินย่อยเสร็จ ผ่านไปหนึ่งชั่วโมง

เฉินเฉียวพยักหน้าตอบรับข้อเสนอของป้ามั่ว ยังไงซะช่วงนี้ซังหลินจวินก็ไม่ได้ไปกินข้าวนอกบ้าน คิดอย่างนี้แล้ว ก็จูงลูกๆเข้าไป

เห็นป้ามั่วยืนอยู่ข้างโต๊ะอาหารกำลังล้างจาน

เฉินเฉียว รู้สึกประหลาดใจที่หลินจวินกินเสร็จเร็วขนาดนี้หรือเขากลับมานานแล้ว

ซังหลินจวินไม่ได้อยู่ในห้องโถง รอจนโย่วอีกับเหมิงเหมิงนั่งดูทีวีบนโซฟาเสร็จ เฉินเฉียวก็ขึ้นไปชั้นสอง กะว่าจะไปดูว่าเขาอยู่ในห้องหรือไม่

ปรากฎว่าเปิดประตูเข้าไป ไม่มีใครอยู่

เฉินเฉียวต้องลงไปรอเขาชั้นล่าง

หลังจากนั้นไม่นานเฉินเฉียวก็กระหายน้ำและต้องการไปที่ห้องครัวเพื่อรินน้ำสักแก้วเมื่อเขาเดินผ่านโรงยิมที่ชั้นหนึ่งเธอก็พบว่ามีการเคลื่อนไหวอยู่ข้างใน

เมื่อพูดถึงห้องออกกำลังกายนี้เดิมทีเป็นห้องรับรองแขก

แต่หลังจากไปที่ศูนย์สุขาพกับหลินจุนครั้งที่แล้วไม่รู้ว่าเขาคิดอะไรเขาจึงย้ายของทั้งหมดในห้องนี้จากนั้นสั่งอุปกรณ์ออกกำลังกายจำนวนมากซึ่งทำให้มันกลายเป็นโรงยิมขนาดใหญ่

แน่นอนเฉินเฉียวไม่ค่อยเข้าไป

แม้ว่าเฉินเฉียวจะสูงขายาว แต่เธอก็ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกกำลังกายที่ชอบออกกำลังกาย

ในทางตรงกันข้ามกีฬาประเภทที่จะทำให้เหงื่อออกอย่างการวิ่งกลับถูกเธอปฏิเสธ

นอกจากนี้เมื่อประกอบกับร่างกายที่ไม่อ้วนแล้วเฉินเฉียวจะวิ่งเป็นครั้งคราว แต่เธอจะไม่ทำสิ่งต่าง ๆ เช่นการก้มตัวและการบิดตัวจำนวนครั้งที่เธอไปโรงยิมสามารถนับเลย

เฉินเฉียวเกาหัวของเธอและค่อยๆดันประตูด้วยมือของเธอหลังจากเปิดได้ครึ่งหนึ่งเสียงหอบรุนแรงดังก้องอยู่ในหูของเธอผ่านห้องที่ว่างเปล่า

ด้วยการหายใจเข้าและหายใจออกเหล่านั้น เฉินเฉียวไม่สามารถซ่อนใบหน้าที่แดงก่ำบนแก้มของเธอได้

ทำไมมันร้อนขนาดนี้ ขณะที่เฉินเฉียวคิดไปแตะหน้าตัวเองไป

หลังจากเดินออกไปข้างนอกตอนนี้ฝ่ามือที่เย็นก็แนบลงบนแก้มอุ่นๆ

เฉินเฉียวถอนหายใจด้วยความโล่งอกและมองเข้าไปข้างในแต่ในที่สุดก็ก้าวถอยหลังและต้องการปิดประตูทำเป็นเหมือนไม่เคยมา

แต่ในขณะนี้เสียงทุ้มๆดังขึ้นเบา ๆ

“ เฉียวเฉียว มาได้ยังไง ไม่เข้ามาล่ะ”

เหมือนกับการถาม แต่ก็เหมือนกับการตั้งคำถาม

เฉินเฉียวพูดเบา ๆ ว่า “ฉันอยากห้องครัวไปดื่มน้ำสักแก้วฉันได้ยินเสียงเคลื่อนไหวในนี้ ฉันเลยเข้ามาดู คุณออกกำลังกายต่อเถอะ ฉันไปแล้ว”

“เหอ” ซังหลินจวินไม่รู้ว่าเขาก้าวออกจากลู่วิ่งไปแล้วตั้งแต่เมื่อไหร่

เขาสวมเสื้อกีฬาสีดำแขนกุดและกล้ามเนื้อของเขาก็เผยให้เห็นในสายตาของเฉินเฉียว

ท่านประธานที่รัก

ท่านประธานที่รัก

เฉินเฉียวต้องมานอนกับผู้ชายลึกลับคนหนึ่งอย่างไม่ได้ตั้งใจ เธอไม่รู้ ชื่อหรืออาชีพของเขา และไม่รู้เลยว่าเขานั้นได้แต่งานมาแล้ว แต่เขามักจะมาช่วยเธอให้หลุดพ้นจากความอับอายอยู่เสมอ อะไรนะ!!! ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดาอย่างที่เธอคิด แต่เขาเป็นถึงซังหลินจวินที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเป่ยเฉิง และมีข่าวลือมาว่า ชายผู้มีอำนาจคนนี้ทั้งได้ผ่านการแต่งงานมาแล้วหลายครั้ง และมีลูกแล้วอีกด้วย และมีข่าวลือกอีกว่าชายคนนี้มีนิสัยเย็นชา………….

Comment

Options

not work with dark mode
Reset