ท่านประธานที่รัก – ตอนที่ 494 บทบาท

“คุณคิดว่าเจิงเจียวเหมาะสมที่สุดแล้วเหรอ”ชู่จี้ถามสวีหว่านกลับ เธอตกใจและรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอแทบจะไม่สามารถรักษาไว้ได้ “แน่นอน ฉันไม่รู้ว่าคำพูดนี้ประธานชู่ไปเอามาจากไหน?”

นิ้วเรียวๆของชู่จี้เคาะลงบนโต๊ะด้วยเสียงที่คมชัด เขาเหมือนกับเสือชีตาห์ที่สง่างาม “ขอโทษด้วย พูดตรงๆทักษะการแสดงของเจิงเจียวมีแค่นิดเดียวเท่านั้น”

อะไรนะ? คิดไม่ถึงว่าเขาจะพูดว่าศิลปินที่เธอฝึกมาอย่างหนักมีทักษะการแสดงนิดเดียว?

สวีหว่านหน้าเสียเธอยิ่งทนไม่ได้ เธออยู่ในวงการการแสดงมาหลายปีแล้ว เธอเป็นคนเชี่ยวชาญ เธอได้เรียนรู้วิธีพูดคุยกับคนต่างๆ แต่โดนชู่จี้พูดแบบนี้แม้ว่าเธอจะสอนหรือแสดงดีกว่านี้ก็แทบจะไม่มีประโยชน์

“ประธานชู่ ถ้าคุณไม่อยากจะให้บทนี้กับฉันจริงๆ ก็ไม่เห็นจำเป็นต้องดูพวกเรา ขอโทษนะคะ ขอตัวก่อน”ในการเจอกันครั้งนี้ คิดไม่ถึงว่าจะจากกันแบบไม่ดี

สวีหว่านหยิบกระเป๋าของเธอขึ้นแล้วเดินออกจากประตูไป เธอยังไม่เชื่อว่าเธอไม่ได้บทตัวละครของชู่จี้แล้วจะทำให้บริษัทเธออดตาย?

ซังอี๋มองที่ชูจีอย่างงุนงงและดึงแขนเสื้อเขา “เธอมาเพื่อขอบทให้ศิลปินของเธอเหรอ?”

เธอรู้ดีว่าชู่จี้วางบทบาทนางเอกให้กับเธอ เธอจึงพูดอย่างนั้นแต่ยังไงซะนี่คือละครใหญ่ เธอไม่มีแม้กระทั่งทักษะการแสดงขั้นพื้นฐานเลยด้วยซ้ำ และจู่ๆไปรับบทใหญ่ เธอกลัวว่าจะทำให้ชู่จี้โดนด่า โดนคนอื่นวิจารณ์และเขามีชื่อเสียงที่ดีมาตลอด ไม่เพียงแต่ภาพยนตร์และซีรีย์ที่เขาถ่ายมีคุณภาพสูง แต่หนังที่เขากำกับทุกๆครั้งก็ดีมากๆเช่นเดียวกัน

เธอไม่อยากให้ชื่อเสียงของชู่จี้ถูกทำลายเพราะเธอคนเดียว ไม่ใช่ว่าเธอไม่มีความมั่นใจแต่พอเธอเข้าไปเกี่ยวข้องกับชู่จี้แล้วเธอต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ

ชู่จี้รู้ถึงความกังวลของเธอ ตักพุดดิ้งเข้าปากเธอ “ต้องการแค่ให้คุณตั้งใจก็พอแล้ว อย่างอื่นไม่ต้องกังวล”

สรุปคือเขาเชื่อในตัวเธอและเต็มใจที่จะทำเช่นนั้น

หัวใจของซังอี๋ชื้นขึ้น “งั้นผมจะไม่ทำให้ผิดหวังจะทำให้คนต้องตะลึง ผมจะทำให้คุณดังเป็นพลุแตกเลย”

แววตาของเธอดูจริงจัง นัยน์ตาราวกับทุ่งดวงดาวที่มีเสน่ห์ที่สุดน่าหลงใหล มือใหญ่ๆของเขาปิดตาเธอ “ผมเล่นมายากลให้ดูเอาไหม”

ซังอี๋พยักหน้าหลับตาลงและทันใดนั้นก็รูสึกถึงความเย็นในริมฝีปากของเธอ ปลายลิ้นของเขาเลื่อนเข้าไปในปากของเธอ เกี่ยวลิ้นของเธอจูบอย่างดูดดื่มทันใดนั้นร่างกายของเธอก็ดูเหมือนจะถูกไฟฟ้าดูด

ซังอี๋อดไม่ได้ที่จะโอบรอบคอเขามองเขาด้วยดวงตาที่อ้อนวอน ยิ่งเป็นการกระตุ้นส่วนล่างของชู่จี้

เขาทำท่าเสกสร้อยขึ้นมาจากอากาศ และนำไปใส่ไว้บนคอขาวๆของเธอ สร้อยหินโมราสีแดงขับผิวของเธอให้ดูขาวเป็นพิเศษ

ริมฝีปากเธอเปิดออกเล็กน้อยเผยให้เห็นปากสีชมพูและดวงตาของเธอสดใสและบริสุทธิ์

ระหว่างคิ้วมีเสน่ห์ราวกับนางฟ้าตัวน้อย

“คุณชอบมันไหม?”เขาถามเบาๆจ้องตาร้อนผ่าว

“แน่นอน ฉันชอบมันฉันชอบทุกอย่างที่คุณให้แต่ดูเหมือนฉันจะยังไม่ได้ให้อะไรคุณเลย” ซังอี๋คิดถึงเรื่องนี้ก็รู้สึกปวดหัว

“ใครบอก? ห๊ะ”เสียงตอนท้ายมีเสน่ห์เป็นพิเศษ

ซังอี๋เงยหน้าขึ้น สายตาของเธอก็สบกับสายตาเขาเหมือนกับว่าวิญญาณทั้งหมดถูกดูดไป

“คุณคือของขวัญที่ดีที่สุด” เขาพูดพลางกัดหูของเธอทำให้ติ่งหูของซังอี๋แดง

ดวงตาของเธอดูมีอารมณ์ “ไหนๆฉันก็เป็นของขวัญที่ดีที่สุดของคุณ งั้นต่อจากนี้ฉันจะมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับคุณเสมอ”

ในห้องเต็มไปด้วยฉากรัก

หลิงเยว่ไม่กล้าออกไปไหนเลยในช่วงนี้เธอรู้ว่าเป็นฝีมือของชู่จี้เขาเป็นคนทำอะไรเด็ดขาดถึงแม้เรื่องในครั้งนี้จะไม่เกี่ยวกับเธอ แต่ตามนิสิยชู่จี้แล้ว เป็นไปไม่ได้ที่จะปล่อยเธอไปไม่ต้องพูดถึงว่าถ้าชู่จี้รู้ว่าเธอทำร่วมกับรีสในตอนแรก เธอจะต้องพบกับจุดจบที่น่าสยดสยอง!

เธออยู่แต่ในบ้านให้ลูกน้องไปสืบเรื่องชู่จี้ เธอรักชู่จี้แต่เธอกลัวชู่จี้มากกว่า เป็นไปไม่ได้ที่เธอจะไปหาเรื่องในตอนนี้ดูเหมือนว่าความพยายามครั้งก่อนจะสูญเปล่า

ยิ่งไปกว่านั้นสถานการณ์ของรีสยังยืดเยื้อ ชู่จี้เป็นคนฉลาดไม่อย่างนั้นเขาคงไม่ก้าวมาอยู่จุดนี้ตั้งแต่อายุยังน้อยๆ

เขาทำได้เพียงหาโอกาสรอวันเอาคืนและความผิดพลาดนี้ทำให้รีสล้มเขาจะระมัดระวังตัวมากขึ้นในอนาคต

“ประธานชู่ นี่คือรายชื่อนักแสดงคุณจะพิจารณาเองหรือว่า…”อวี้เฟิงส่งรายชื่อคนที่คัดเลือกมาให้กับชู่จี้

เขาโบกมือให้อวี้เฟิงวางรายชื่อลงบนโต๊ะ การพิจารณารายชื่อนักแสดงในแต่ละครั้งค่อนข้างลำบากเฉพาะผู้ที่สามารถควบคุมบทตัวละครได้เท่านั้นที่สามารถเล่นเข้าถึงบทได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด เขาเชื่อว่าซังอี๋จะสามารถรับบทนี้ได้ แต่บทอื่นๆก็จะละเลยไม่ได้

ในตอนบ่ายซังอี๋ถูกพาไปโดยชู่จี้ เขาจัดเตรียมที่ไว้ให้ศึกษาและฝึกฝนนักแสดงไม่เพียงแต่ต้องร้องไห้และหัวเราะเท่านั้นแต่ยังต้องเติมเต็มจิตวิญญาณและความเห็นอกเห็นใจด้วย

ช่วงเวลาที่ครูเห็นซังอี๋เธอรู้สึกถูกดึงดูด

รูปลักษณ์ของซังอี๋ดูเย็นชาและเย่อหยิ่ง เผยให้เห็นความน่าเกรงขามของนัย์ตา จมูกโด่ง ปากกระจับ และใบหน้าเรียวทรงไข่ห่าน ผิวที่บอบบางดีกว่าใคร ๆ ขาวจนมองเห็นเส้นเลือดสีน้ำเงินใต้ผิวหนังได้ชัดเจน

“คุณ…เป็นคนของประธานชู่ใช่ไหม”ทันใดนั้น ดวงตาของครูก็ดูเหมือนจะสว่างขึ้นและดวงตาก็เป็นประกาย เธอดึงซังอี๋มาข้างหน้าและมองอย่างพินิจพิจารณา

“ค่ะ” ถึงซังอี๋จะรู้สึกแปลกๆแต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธครู

“ประธานชู่ตาถึงจริงๆด้วยคุณเหมาะมากสำหรับบทนางเอกของ “จักรพรรดิ” เธอปล่อยมือของซังอี๋ลง”พูดจริงๆฉันเป็นครูมาหลายปีแล้วและฉันไม่เคยเห็นใครที่ทำให้ฉันรู้สึกพอใจได้จริงๆเลยจนตอนนี้ในที่สุดฉันก็ได้เจอเธอแล้ว”

ซังอี๋ยิ้มน้อยๆและพยักหน้า

ครูเพิ่งให้บทเรียนพื้นฐานแก่ซังอี๋อารมณ์ของซังอี๋ดีมากในทุกๆด้านและเธอไม่พบข้อบกพร่องใดๆและเธอเรียนรู้เร็วมาก ครูชมเธอแล้วชมเธออีก

ตอนกลางคืนชู่จี้ขับรถไปรับซังอี๋

เขายีผมยาวนุ่มๆของเธอแล้วพูดว่า “เป็นไงบ้าง?” ปรับตัวได้หรือยัง? ”

ซังอี๋มุดเข้าไปในอ้อมแขนของเขา “ฉันหวังว่าตอนเริ่มถ่ายฉันจะไม่ทำให้คุณเสียหน้า”

ท่านประธานที่รัก

ท่านประธานที่รัก

เฉินเฉียวต้องมานอนกับผู้ชายลึกลับคนหนึ่งอย่างไม่ได้ตั้งใจ เธอไม่รู้ ชื่อหรืออาชีพของเขา และไม่รู้เลยว่าเขานั้นได้แต่งานมาแล้ว แต่เขามักจะมาช่วยเธอให้หลุดพ้นจากความอับอายอยู่เสมอ อะไรนะ!!! ผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดาอย่างที่เธอคิด แต่เขาเป็นถึงซังหลินจวินที่มีชื่อเสียงโด่งดังในเป่ยเฉิง และมีข่าวลือมาว่า ชายผู้มีอำนาจคนนี้ทั้งได้ผ่านการแต่งงานมาแล้วหลายครั้ง และมีลูกแล้วอีกด้วย และมีข่าวลือกอีกว่าชายคนนี้มีนิสัยเย็นชา………….

Comment

Options

not work with dark mode
Reset