เมื่อพลังอำนาจของมังกรทองแผ่ซ่านออกมา พวกศัตรูต่างก็พากันมุ่งหน้ามาแล้ว และแน่นอนว่าผู้ที่เลื่อมใสศรัทธาในมังกรทองเผ่าราชาก็มุ่งหน้ามาเช่นกัน
มู่เฉียนซีรู้สึกได้ว่ามีกลิ่นอายจำนวนไม่น้อยกำลังใกล้เข้ามา
“เป็นเช่นนั้นจริง ๆ ด้วย!”
“มังกรทอง!”
“……”
เฮยเย้ามองไปที่มังกรเหล่านั้นและกล่าวว่า “ข้าเป็นผู้สืบทอดของสายเลือดเผ่าราชา ตอนนี้ต้องการจะเปิดเกาะราชามังกร ทำให้เผ่ามังกรของพวกเรากลับมารุ่งโรจน์โชติช่วงชัชวาลขึ้นอีกครั้ง ทุกท่านได้โปรดเป็นแรงกำลังช่วยข้าด้วย อย่าให้พวกทรยศมาขวางข้าได้”
อายุของเฮยเย้านั้นยังน้อยนัก แต่สายเลือดราชาในกระดูกเขาตอนนี้ได้แผ่ซ่านออกมาโดยสมบูรณ์แล้ว ทำให้มังกรเหล่านี้หวาดกลัวไปโดยไม่รู้ตัว
มังกรที่มีสายเลือดเผ่าราชาเมื่อกำเนิดออกมาก็มีความสามารถในการเป็นผู้นำ
เมื่อเผ่ามังกรที่ไม่ได้เข้าร่วมกับกลุ่มเทพเหล่านั้นได้ยินคำพูดของมังกรทองน้อยนี้แล้ว เลือดในร่างของพวกเขาก็แผดเผาขึ้นมาด้วยความฮึกเหิมทันที
“ผนึกของเกาะราชามังกรกำลังจะเปิดแล้ว พวกทรยศหักหลังเหล่านั้นยังกล้ากำเริบเสิบสานอยู่อีก”
“ฝ่าบาท พวกเราจะสนับสนุนฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ! พวกเราจะไม่ให้พวกทรยศเหล่านั้นมาทำร้ายฝ่าบาทได้แน่นอน”
“……”
เสียงขานรับมากมายมหาศาลดังก้องกังวานด้วยความฮึกเหิม
และในตอนนั้นเองก็มีเสียงอันเย็นชาเสียงหนึ่งกล่าวขึ้นว่า “มังกรน้อยนี่ช่างไร้เดียงสาเกินไปแล้ว คิดจะให้กองทัพเล็ก ๆ นี้ปกป้องอย่างนั้นเหรอ ฝันไปเถอะ!”
“ลงมือก่อน จับมังกรน้อยนั่นให้ได้”
“ขอรับ!”
ขวับ ขวับ ขวับ! กลิ่นอายจิตสังหารได้แผ่ซ่านออกมาแล้ว และคนเหล่านั้นก็ลงมือทันทีโดยไม่คำนึงถึงสิ่งใด
“คุ้มกันฝ่าบาท!”
“ข้าจะสู้กับพวกทรยศนี้อย่างสุดชีวิต!”
การต่อสู้ครั้งยิ่งใหญ่ได้เริ่มขึ้นแล้ว และมังกรเหล่านี้ก็ได้ทะยานขึ้นกลางอากาศต่อสู้กันอย่างดุเดือด
เนื่องจากเฮยเย้าได้เรียกผู้ช่วยมาจำนวนไม่น้อย มู่เฉียนซีกับจิ่วเยี่ยจึงไม่ต้องต่อสู้กับกลุ่มมังกรเหล่านี้กันสองคน พวกเขาก็แค่รับมือกับมังกรที่เล็ดลอดเข้ามาได้บางส่วนเท่านั้น
มู่เฉียนซีกล่าว “เฮยเย้า เจ้าวางใจได้ คนพวกนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของข้าเอง”
เฮยเย้าพยักหน้าพลางกล่าว “อืม!”
สำหรับมู่เฉียนซีแล้ว เขาเชื่อใจนางทั้งหัวใจ
ตูม เปรี้ยง เปรี้ยง!
กำลังในการต่อสู้ของเผ่ามังกรเหล่านี้แข็งแกร่งมาก มู่เฉียนซีที่เป็นมนุษย์อยู่ในกลุ่มนี้เป็นที่สะดุดตามาก
ทันใดนั้นก็มีมังกรมืดตัวหนึ่งพุ่งเข้าหามู่เฉียนซี เขากล่าวอย่างเย็นชาว่า “สาวน้อย เจ้าก็มาร่วมสนุกเหมือนกันเหรอ ดูท่าเจ้าจะไม่กลัวความตายเอาซะเลยนะ!”
มู่เฉียนซีกล่าว “คนที่ไม่กลัวความตาย น่าจะเป็นเจ้ามากกว่า!”
“บัวแดงพิฆาต!”
เผชิญหน้ากับเจ้าหมอนี่ มู่เฉียนซีก็โจมตีไปด้วยกระบี่อย่างไม่เกรงใจ
บัวอัคคีสีแดงฉานได้ระเบิดออกมา การโจมตีนี้ไม่ได้อ่อนแอไปกว่าการโจมตีของสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับห้าเลย
มังกรตัวนั้นถูกโจมตีจนถอยออกไป เขาตกตะลึงเล็กน้อย “ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมสาวน้อยผู้นี้ถึงได้บังอาจมากถึงเพียงนี้ ที่แท้ก็เป็นมังกรอัคคีนี่เอง!”
“ต่อให้เจ้าเป็นสายเลือดผู้สูงศักดิ์ ข้าก็สามารถบดขยี้เจ้าได้ทุกเมื่อ”
เจ้าหมอนี่เป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับหกตัวหนึ่ง ดังนั้นจึงมีความเชื่อมั่นมากพอตัวว่าจะสามารถเอาชนะมู่เฉียนซีได้
แต่เมื่อเขากำลังจะลงมือต่อ เงาร่างสีดำร่างหนึ่งก็ได้เคลื่อนไหวมาอย่างรวดเร็ว และร่างขนาดใหญ่ของเขานั้นก็ได้กลายเป็นโครงกระดูกขาวในทันที
และสติของเขาก็ได้หายไปอย่างสมบูรณ์
จิ่วเยี่ยได้ควบคุมมังกรกระดูกตัวนั้นและเริ่มโจมตีมังกรตัวอื่น ๆ
“มังกรกระดูกชั่วช้านั่นมันโผล่มาจากที่ใดกัน?”
“มังกรกระดูกนี้ เหตุใดถึงได้แข็งแกร่งถึงเพียงนี้”
“……”
พลังของมังกรกระดูกนี้ ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ถึงขั้นเป็นสัตว์เทพ แต่ก็เป็นถึงสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับเจ็ด!
แข็งแกร่งกว่ามังกรส่วนใหญ่ที่อยู่ ณ ที่แห่งนี้มากนัก ดังนั้นจึงได้เริ่มทำการกวาดล้างแล้ว!
จากนั้นมู่เฉียนซีจึงเลือกโจมตีกับมังกรที่มีพลังความแข็งแกร่งต่ำกว่าสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับห้า ส่วนมังกรที่มีความแข็งแกร่งสูงกว่านี้ก็ถูกจิ่วเยี่ยโจมตีจนกลายเป็นกระดูกขาวไปแล้ว
เมื่อเวลาผ่านไป มังกรที่ได้กลายเป็นกระดูกขาวก็เริ่มมีมากขึ้นเรื่อย ๆ ศัตรูกลุ่มเทพเหล่านั้นได้เห็นวิธีการของจิ่วเยี่ยเข้าต่างก็หวาดกลัวจนเหงื่อเย็นผุดพรายขึ้นทั่วร่างแล้ว
“บุรุษผู้นี้…บุรุษผู้นี้ต้องเป็นเทพมารอย่างแน่นอน!”
“นึกไม่ถึงเลยว่าเขาจะสามารถทำให้มังกรที่มีชีวิตอยู่กลายเป็นโครงกระดูกขาวไปได้!”
“นี่ตกลงเขาเป็นมังกรเผ่าใดกันแน่! ไม่สิ! เผ่ามังกรของพวกเราจะมีมังกรที่แข็งแกร่งเช่นนี้ได้อย่างไรกัน”
“หรือว่ามังกรดำในตำนานผู้นั้น…”
มังกรเหล่านั้นของกลุ่มเทพต่างก็ตกใจจนไม่กล้าโจมตีแล้ว
พวกมู่เฉียนซีได้รับชัยชนะอย่างท่วมท้น ส่วนคนของกลุ่มเทพเหล่านั้นต่างก็จำต้องเผ่นหนีไป
“ฮ่า ๆ ๆ! พวกเราชนะแล้ว”
“ชนะแล้ว!”
“……”
กลุ่มผู้ที่คุ้มกันเหล่านี้ก็ดีอกดีใจขึ้น
แต่เมื่อพวกเขาได้เห็นกับเงาสีดำที่อยู่ตรงหน้าก็อดที่จะพากันหวาดกลัวไม่ได้
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้เป็นศัตรูกับท่านผู้นั้น แต่เมื่อได้เห็นวิธีการอันน่าสะพรึงกลัวนั้นของเขาแล้วก็อดที่จะอกสั่นขวัญหายไม่ได้
ในตอนนี้เฮยเย้าก็สัมผัสได้ถึงพื้นที่นี้แล้ว เขากล่าวกับมู่เฉียนซีว่า “ท่านมู่ พื้นที่ตรงนี้ไม่ใช่ที่ตั้งของเกาะราชามังกร เราหาที่ใหม่กันเถอะ”
มู่เฉียนซีกล่าว “อืม!”
เฮยเย้ามองไปที่มังกรเหล่านั้นและกล่าวว่า “พวกเจ้ายินยอมที่จะติดตามข้า เป็นองครักษ์ให้ข้าหรือไม่”
“ยินดีพ่ะย่ะค่ะ!”
“พวกเรายินดีอยู่แล้วพ่ะย่ะค่ะ!”
“……”
มังกรบางตัวยินดีที่จะปกป้องเฮยเย้าเพราะใจจริง มังกรบางตัวก็ทำเพื่อเผ่ามังกร และมังกรบางกลุ่มก็ทำไปก็เพราะว่าหวาดกลัวพลังความแข็งแกร่งของจิ่วเยี่ย
หากพวกเขาไม่ตอบตกลง ถ้าท่านผู้นั้นทำให้พวกเขากลายเป็นโครงกระดูกแล้วจะทำเช่นไร!
ในขณะที่เฮยเย้าหาสถานที่ต่อไปเจอ เขาก็ได้แผ่ซ่านพลังอำนาจสายเลือดราชาออกมา
สายเลือดราชานี้ดุจดั่งบุปผาที่หอมหวนได้ยั่วยวนให้ผึ้งมาดอมดม
เมื่อมีผู้คุ้มกันก็ย่อมมีศัตรู
การต่อสู้ครั้งที่สองก็ได้เริ่มขึ้นแล้ว
มีผู้คุ้มกันไม่น่ากลัว แต่ผู้ที่น่ากลัวที่สุดก็คือบุรุษชุดดำผู้นั้น
ไม่ว่ากลุ่มเทพจะส่งยอดฝีมือมามากมายเพียงใด ในที่สุดก็ต้องกลายเป็นโครงกระดูกขาวภายใต้เงื้อมมือของจิ่วเยี่ย จากนั้นก็กลายเป็นผู้ที่ถูกจิ่วเยี่ยควบคุม และกลายเป็นกำลังในการต่อสู้ของพวกเขาไปในที่สุด
มังกรของกลุ่มเทพเหล่านั้นเห็นเช่นนี้เข้าก็แทบจะกระอักเลือดออกมาก็มิปาน มีมังกรเช่นนี้อยู่ตั้งแต่เมื่อใดแล้ว
การมีอยู่ของบุรุษผู้นี้ทำให้พวกเขาไร้ซึ่งหนทางแล้วจริง ๆ
แดนมังกรใหญ่มาก ต่อให้เฮยเย้ารู้สึกตอบสนองต่อที่อยู่ของเกาะราชามังกรได้ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่วันสองวันจะสามารถหาเจอได้
หลังจากที่เขาได้เปลี่ยนสถานที่หาไปเรื่อย ๆ กลุ่มที่คุ้มกันเขาเหล่านั้นก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนเหล่าพวกของกลุ่มเทพก็ยิ่งน่าสังเวชมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน
“นายท่าน ทำเช่นไรดีขอรับ ตกลงจะยอมให้มังกรทองน้อยนั่นเปิดเกาะราชามังกรจริง ๆ เหรอขอรับ?”
“การเปิดเกาะราชามังกรนั้นมันไม่ใช่เรื่องสำคัญ แต่ฐานะของบุรุษผู้นั้น ตรวจสอบออกมาเป็นอย่างไรบ้างแล้ว?”
“บุรุษผู้นั้น ตั้งแต่ต่อสู้มาไม่ได้เผยร่างมนุษย์ออกมาเลยขอรับ พวกเราก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาเป็นคนของเผ่าไหน แต่พลังของเขาช่างแข็งแกร่งเกินไปแล้ว หากไม่ส่งสัตว์เทพออกไปรับมือแล้วละก็ มังกรอื่นที่ไปรับมือด้วยก็ไม่ต่างอะไรกับไปตาย”
“เช่นนั้นก็ส่งสัตว์เทพไปลงมือเถอะ! ต้องจับมังกรทองน้อยนั่นมาให้ได้ ได้ยินมาว่าข้างกายบุรุษผู้นั้นมีสตรีอยู่ผู้หนึ่ง พลังไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก เมื่อมังกรขั้นสัตว์เทพยับยั้งพวกมันเอาไว้ได้ก็จับตัวสตรีผู้นั้นเอาไว้ก่อน เมื่อถึงตอนนั้นก็คงจะรับมือกับเขาได้ไม่ยากแล้ว”
“นายท่านช่างปราดเปรื่องยิ่งนัก เช่นนั้นก็ทำตามนี้”
ทุกครั้งกลุ่มเทพเหล่านี้ล้วนแต่ถูกบีบให้ต้องจำยอม และมู่เฉียนซีก็รู้สึกว่าพวกเขาย่อมไม่มีทางยอมเลิกราเป็นแน่
เมื่อถึงตอนนั้นหากกลุ่มเทพส่งสัตว์เทพมาแล้วละก็ เกรงว่า…
มู่เฉียนซีกล่าวถามว่า “จิ่วเยี่ย หากพวกมันส่งสัตว์เทพมา เจ้า…”
“ไม่มีปัญหา!” จิ่วเยี่ยกอดมู่เฉียนซีพลางกล่าว
“ซีต้องเชื่อใจในบุรุษของเจ้า” เขากล่าวเสียงขรึม
“แต่ว่า ในขณะเดียวกันเจ้าก็ได้ชื่อว่าเป็นผู้ป่วยเหมือนกันนะ” ที่นี่ไม่ใช่อาณาเขตของเผ่ามังกรไม้และเผ่ามังกรดิน คัมภีร์หมื่นคำสาปสามารถส่งผลกระทบต่อคำสาปในร่างของเขาได้ทุกเมื่อ
.