ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ – ตอนที่ 1157 ความวิบัติมาเยือน

ทันทีที่เสี่ยวหงกล่าวจบ พลังของมังกรปีศาจกลืนสวรรค์ก็พลันรุนแรงขึ้นทันที

พลังอันบ้าคลั่งนั้นทำให้ร่างของมันพลันเปลี่ยนเป็นหลายร่าง จากนั้นก็กลายเป็นรูปร่างของมัน

ร่างแยกบางร่าง พลังความแข็งแกร่งเหมือนมันมาก สิ่งนี้ทำให้สีหน้าของสุ่ยอู๋ซินพลันเปลี่ยนไปมาก

ดวงตาของจิ่วเยี่ยเย็นยะเยือกขึ้น จากนั้นเขาก็ลงมืออีกครั้ง

พลังของเขาได้ยับยั้งร่างแยกทั้งหมดของมังกรปีศาจกลืนสวรรค์เอาไว้ได้

พลังจิตอันแข็งแกร่งสามารถทำให้เขารับรู้ได้ถึงทุก ๆ การเคลื่อนไหวของมังกรปีศาจกลืนสวรรค์

สุ่ยอู๋ซินกล่าว “มังกรปีศาจกลืนสวรรค์ก็ใช้ได้แค่ทักษะลับเท่านั้น ทุกคนไม่ต้องเป็นกังวลไป ให้ความร่วมมือกับท่านจิ่วเยี่ยต่อ”

“ขอรับ!”

ตูม! จำนวนของศัตรูเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้พลังการทำลายล้างในการต่อสู้ครั้งนี้เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เช่นกัน

มู่เฉียนซีทำได้เพียงแค่พาเฮยเย้าออกห่างมาไกล ๆ มองดูมังกรสีเทาดำนับไม่ถ้วนทะลุผ่านระหว่างกัน เมื่อมองดูลมพายุอันน่าสะพรึงกลัวที่พัดกระโชกผ่านใบหน้าของจิ่วเยี่ยแล้ว ในใจของมู่เฉียนซีก็ตื่นตระหนกขึ้นอีกครั้ง

เสี่ยวหงกล่าว “นายท่านไม่ต้องเป็นกังวล อย่างไรเสียท่านจิ่วเยี่ยก็แข็งแกร่งถึงเพียงนี้ นอกจาก…”

เสี่ยวหงไม่ทันกล่าวจบ จู่ ๆ ดวงตาของจิ่วเยี่ยก็พลันเย็นยะเยือกยิ่งขึ้น

อักขระสาปสีดำแผ่กระจายออกมาจากลำคออันขาวเนียนนั้นขึ้นมาถึงใบหน้า!

มู่เฉียนซีเห็นเช่นนี้ก็สีหน้าซีดเผือดขึ้น “คำสาปของจิ่วเยี่ยสูญเสียการควบคุมแล้ว!”

“นึกไม่ถึงเลยว่าคัมภีร์หมื่นคำสาปจะออกมารบกวนจิ่วเยี่ยในเวลานี้”

สุ่ยอู๋ซินและพวกต่างก็รับรู้ได้ว่าจิ่วเยี่ยนั้นอันตรายมาก อันตรายยิ่งกว่ามังกรปีศาจกลืนสวรรค์ตัวนี้เสียอีก

ตูม! พลังนี้บ้าคลั่งกว่าพลังของมังกรปีศาจกลืนสวรรค์มาก คล้ายกับว่าสามารถทำให้ฟ้าดินพังทลายได้อย่างไรอย่างนั้น

หัวหน้าเผ่ามังกรอัคคีพึมพำเสียงเบาว่า “ท่านจิ่วเยี่ยเป็นอะไรไป ทักษะวิชาพิเศษอย่างนั้นเหรอ?”

สุ่ยอู๋ซินขมวดคิ้วขึ้น “มีบางอย่างผิดปกติ!”

มู่เฉียนซีกระวนกระวายใจเป็นอย่างยิ่ง ในตอนนี้นางได้เตรียมยาลูกกลอนกับยาแผนปัจจุบันพร้อมแล้ว

เสี่ยวหงกล่าวด้วยความกลัดกลุ้มใจว่า “นี่ข้ากลายเป็นหมูปากอัปมงคลตั้งแต่เมื่อใดแล้ว! แต่นายท่าน ไม่เป็นไร ข้า…”

ตูม! เสียงระเบิดอันน่าสะพรึงกลัวดังสนั่นขึ้นราวกับว่าจะระเบิดฟ้าดินก็มิปาน

ดูเหมือนว่าจิ่วเยี่ยจะฉีกร่างแยกสองร่างของมังกรปีศาจกลืนสวรรค์ได้อย่างง่ายดาย และได้ช่วงชิงพลังร่างแยกของมันมา

“จะ เจ้า เจ้า…” ในตอนนี้มังกรปีศาจกลืนสวรรค์ก็ถูกจิ่วเยี่ยทำให้ตกตะลึงขึ้นแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่มันได้เจอกับบุรุษที่น่ากลัวเช่นนี้

มันรู้สึกว่าหากต่อสู้กับเจ้ามนุษย์ผู้นี้ต่อไป มันต้องมีจุดจบที่ไม่สวยเป็นแน่

มังกรปีศาจกลืนสวรรค์ต้องการจะล่าถอย แต่จิ่วเยี่ยผู้โหดร้ายในตอนนี้จะยอมปล่อยให้มันผู้นี้รอดชีวิตไปได้อย่างไรกันล่ะ

ไม่สามารถปล่อยให้เขาลงมือต่อไปได้อีกแล้ว เมื่อถึงตอนนั้นต่อให้จิ่วเยี่ยฆ่ามังกรปีศาจกลืนสวรรค์ได้ ตัวเขาเองก็จะเป็นอันตรายเช่นกัน

“เฮยเย้า เจ้ารออยู่ตรงนี้ห้ามไปไหนเด็ดขาด”

กล่าวจบ มู่เฉียนซีก็พุ่งไปทางจิ่วเยี่ยทันที

เสี่ยวหงก็ตามไปด้วยทันที “นายท่าน นายท่านอย่าใจร้อนไปเลย ให้ท่านจิ่วเยี่ยยับยั้งพลังเอาไว้ก่อน ส่วนเจ้ามดปลวกนั่น มอบให้เป็นหน้าที่ข้าที่จะจัดการมันเอง”

ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ! ตัวนางยังไม่ทันเข้าใกล้จิ่วเยี่ย แต่เข็มยาของนางก็พุ่งออกไปก่อนแล้ว

ทว่า พลังอันดำมืดที่แผ่ซ่านออกมานั้นได้ทำลายเข็มยาของมู่เฉียนซีไปสิ้น

เนื่องจากกลิ่นอายอันคุ้นเคยได้ใกล้เข้ามา จิ่วเยี่ยจึงไม่ได้เพ่งเล็งความสนใจไปที่มังกรปีศาจกลืนสวรรค์อีก เพราะมีเหยื่อที่ทำให้เขาสนใจกว่าปรากฏขึ้น

และเหยื่อที่ว่านี้แน่นอนว่าเป็นมู่เฉียนซี

ทันใดนั้นจิ่วเยี่ยก็ปรากฏตัวขึ้นข้างกายมู่เฉียนซี และได้กักขังร่างกายของนางเอาไว้

เขาอยู่ใกล้ชิดนางมาก ดวงตาที่ดูเหมือนสัตว์ร้ายคู่นั้นดูเหมือนว่าจะกลืนกินมู่เฉียนซีลงท้องไปเสียให้ได้

“อือ!” จิ่วเยี่ยก้มหน้าจูบริมฝีปากของมู่เฉียนซี ลงมือกระทำอย่างหยาบช้า ไม่นานนักมู่เฉียนซีก็รู้สึกได้ถึงกลิ่นคาวเลือดที่อบอวลอยู่เต็มปากของนาง

นางเอาเข็มยาออกมาสองเข็ม และแทงเข้าที่แขนของเขา ผลลัพธ์ก็คือจิ่วเยี่ยยังคงไม่ตอบสนองเลยแม้แต่น้อย

ในตอนนี้ได้กำเริบจนถึงขั้นที่ไม่สามารถยับยั้งได้แล้วจริง ๆ เหรอ?

ดวงตาของมู่เฉียนซีจ้องมองไปที่ดวงตาสีฟ้าอันเย็นยะเยือกที่ไร้ซึ่งความรู้สึกใด ๆ คู่นั้นของจิ่วเยี่ย ริมฝีปากถูกประกบจูบอย่างโหดร้ายจนนางไม่สามารถเปล่งเสียงอันใดออกมาได้

สองมือของนางจับแขนของจิ่วเยี่ยเอาไว้แน่น นางมองเขาด้วยสายตาที่ไร้ซึ่งความหวาดกลัว เพียงแค่ขอร้องเท่านั้น

จิ่วเยี่ย ดึงสติกลับมาสิ

ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าจะมาพ่ายแพ้ที่นี่!

เจ้าไม่มีทางพ่ายแพ้ ข้าพูดถูกหรือไม่?

เมื่อเห็นดวงตาเช่นนี้ของมู่เฉียนซีแล้ว ดวงตาสีฟ้าคู่นั้นก็พลันเปลี่ยนไป

ในที่สุดเขาก็ยอมเอาริมฝีปากออกจากริมฝีปากของมู่เฉียนซีแล้ว เมื่อเห็นริมฝีปากที่เต็มไปด้วยเลือดนั้น ในใจจิ่วเยี่ยก็รู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อย

ครั้นแล้วเขาจึงได้เอายาหัวใจโพธิ์ที่มู่เฉียนซีได้มอบให้เขาเอาไว้มากินเข้าไปขวดหนึ่ง และจิ่วเยี่ยก็กล่าวว่า “ซี ข้าจะจัดการกับเจ้านั่นให้เร็วที่สุด”

มู่เฉียนซีดึงเขาเอาไว้ก่อนจะกล่าวว่า “เจ้าหยุดลงมือได้แล้ว”

ถึงแม้ว่ายาหัวใจโพธิ์จะเป็นยาที่นิรันดร์ได้หลอมออกมา แต่ประสิทธิภาพมันก็ไม่ได้แข็งแกร่งถึงเพียงนั้น

พลังของจิ่วเยี่ยยังคงรุนแรงเฉกเช่นเดิม ไร้ท่าทีที่จะสงบลงมาเลยสักนิด หากต่อสู้กับมังกรปีศาจกลืนสวรรค์อีกครั้ง เช่นนั้นก็อาจจะได้สติกลับมาก็ได้

ดูเหมือนว่ามังกรปีศาจกลืนสวรรค์จะรับรู้ได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของจิ่วเยี่ย พลังของจิ่วเยี่ยในตอนนี้ล้วนแต่ถูกใช้ในการยับยั้งคำสาปแล้ว และมันก็ไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวเหมือนเมื่อครู่แล้ว

“ที่แท้ พลังของเจ้ามันไม่คงที่นี่เอง เช่นนั้นตอนนี้เจ้าก็ไปตายซะเถอะ!”

ต้องฉวยโอกาสในตอนที่บุรุษผู้นี้อ่อนแอที่สุดจัดการกับเขา เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมาทีหลัง

ตูม! แน่นอนว่าเผ่ามังกรทั้งสี่ไม่ยอมให้มันทำสำเร็จแน่

สุ่ยอู๋ซินได้นำผู้แข็งแกร่งของทั้งสี่เผ่าเข้ารับมือกับมังกรปีศาจกลืนสวรรค์ เขากล่าว “ท่านมู่ หากร่างกายของท่านจิ่วเยี่ยไม่ดี พวกท่านก็ถอยไปก่อนเถอะ”

“ส่วนมังกรปีศาจกลืนสวรรค์ พวกเราจะหาวิธีปิดผนึกมันกลับไปเอง”

“พวกมดปลวกอย่างพวกเจ้าก็คิดจะขวางข้าอย่างนั้นเหรอ” มังกรปีศาจกลืนสวรรค์ยังคงเหลือร่างแยกอีกสี่ร่าง และเริ่มโจมตีมังกรทั้งสี่เผ่าอย่างบ้าคลั่ง

มังกรทั้งสี่เผ่ารับมือกับมันร่างเดียวก็ลำบากมากพอแล้ว แต่นี่มีถึงสี่ร่าง

หากจัดการมังกรปีศาจกลืนสวรรค์ไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็นมู่เฉียนซีหรือจะเป็นมังกรทั้งสี่เผ่าก็ล้วนแต่ตกอยู่ในอันตรายทั้งสิ้น

ขอเพียงแค่เขาได้ลงมือ…

เสี่ยวหงกล่าว “นายท่าน เช่นนั้นก็ไปยับยั้งอาการของท่านจิ่วเยี่ยเถอะขอรับ! เจ้ามังกรปีศาจกลืนสวรรค์นี่มอบให้เป็นหน้าที่ข้าจัดการเอง”

เมื่ออู๋ตี้ได้ยินคำพูดของมันเช่นนี้ก็ตกตะลึงพรึงเพริดขึ้น “เจ้าหมูขี้เกียจ นี่เจ้าพูดอะไรของเจ้า เจ้ามังกรปีศาจกลืนสวรรค์มอบให้เป็นหน้าที่เจ้าจัดการอย่างนั้นเหรอ เจ้าไม่ดูตัวเองเอาซะเลยว่าตอนนี้เจ้าอยู่ในระดับใด เจ้าคิดว่าเจ้าเป็นสัตว์เทพอย่างนั้นเหรอ!”

มู่เฉียนซีกล่าว “เสี่ยวหง เจ้าอย่าได้พูดจาเหลวไหล!”

เสี่ยวหงกล่าว “นายท่าน ข้าจริงจังนะ ถึงแม้ว่าระดับของข้ามันจะอ่อนแอไปสักหน่อย แต่สำหรับเจ้าหมอนี่ ข้าเชื่อว่าข้าจะเอาชนะมันได้ เพียงแต่ว่าข้าอาจจะหลับใหลไป อย่างไรเสียข้าก็ไม่ได้หลับใหลมานานแล้ว เพียงแต่ว่าเมื่อถึงตอนนั้นนายท่านอย่าได้คิดถึงข้ามากก็แล้วกันล่ะ”

“เสี่ยวหง!” มู่เฉียนซีขมวดคิ้วขึ้น

เสี่ยวหงผู้นี้ลึกลับมาโดยตลอด บางทีมันอาจจะมีไพ่เด็ดก็ไม่แน่ แต่สิ่งที่ต้องแลกกับการรับมือกับเจ้านี่นั้น…

เสี่ยวหงไม่ได้ให้เวลามู่เฉียนซีตอบตกลงเลย มันก็พุ่งออกไปเสียแล้ว

ในขณะที่มันได้พุ่งออกไปนั้น เปลวไฟสีแดงสดก็ได้ย้อมท้องฟ้าจนแดงฉานแล้ว

มังกรปีศาจกลืนสวรรค์รับรู้ได้ถึงพลังของเปลวไฟนี้ รูม่านตาของมันก็หดตัวลง และกล่าวด้วยความตกใจว่า “เจ้า…นี่เจ้ามาปรากฏตัวอยู่ที่นี่ได้ยังไง…”

“เจ้า…เจ้าอย่าเข้ามานะ!” พวกเขาเห็นมังกรปีศาจกลืนสวรรค์ทำท่าทางเหมือนกับความวิบัติมาเยือนทันทีที่เห็นหมูแดงตัวนั้น เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วพวกเขาจึงรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก นี่มันเกิดอันใดขึ้น?

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ

Score 7.8
Status: Ongoing Artist: Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ นางคือหมอปีศาจผู้เหี้ยมโหดแต่กลับต้องมาอยู่ในร่างของหญิงอ่อนแอไร้ความสามารถที่ผู้คนพากันรังเกียจ ทว่าหลังทำพันธสัญญากับเทพอสูรโบราณ ฝึกฝนบำเพ็ญเคล็ดวิชาต้านสวรรค์จึงเปล่งประกายเจิดจรัสจนผู้คนต้องหลบตาไปตาม ๆ กัน ทั้งยังครอบครองพิษหลายแขนง ใครที่กล้ามารังแกนาง นับว่ารนหาที่ตาย! โอสถเก้าสรรพคุณน่ะหรือ นั่นมันถั่วเคลือบน้ำตาลไว้ให้สัตว์เลี้ยงแสนน่ารักของนางกินเล่นต่างหากเล่า ปรุงยาเป็นก็ต้องเอาแต่ใจอย่างนี้นี่ล่ะ! -------------------------- เขาคือเยี่ยอ๋องรูปงามผู้เย้ายวน ผู้คนต่างเข้าใจว่าเขาเหี้ยมโหดไร้ความปรานี แต่ทำไมกับนาง เขาถึงได้เอาแต่ตามติดจนสลัดไม่หลุดอย่างนี้นะ “ท่านจ้องข้าทำไม” “ข้ากำลังคิดอยู่ว่า เจ้าจะกลายมาเป็นสตรีของข้าอย่างถูกต้องเมื่อไหร่” ทันใดนั้น เข็มเล็กก็จ่อเข้าที่เอวของเขา นางเอื้อนเอ่ยอย่างยิ้มแย้ม “ท่านอ๋อง การหุนหันพลันแล่นเปรียบดั่งปีศาจร้าย หากพิษเข้าร่างเกรงว่าท่านคงจะต้องมีชะตาเยี่ยงขันทีไปชั่วชีวิต!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset