“โฮก!” สมบัติล้ำค่าที่เฝ้ามาเป็นหมื่นปีได้ถูกแย่งชิงไปแล้ว กิ้งก่าน้ำแข็งได้โกรธเกรี้ยวอย่างสมบูรณ์
“เจ้า…” ศิษย์เหล่านั้นของสำนักโอสถฯ ก็ปะทุเพลิงพิโรธขึ้นมาเช่นกัน!
พวกเขาสู้อย่างสุดชีวิตเพื่อที่จะรับมือกับกิ้งก่าน้ำแข็งที่อยู่ในนี้ แต่ปรากฏว่ากลับมีคนมาช่วงชิงของที่พวกเขาหมายตาไป
“เป็นเจ้า!”
มู่เฉียนซีถีบศิษย์พี่หวงไปหนึ่งคราทำให้ศิษย์เหล่านั้นของสำนักโอสถฯ จดจำมู่เฉียนซีได้อย่างลึกซึ้งเป็นพิเศษ
ปัก ปัก ปัก! ในตอนนี้กิ้งก่าน้ำแข็งได้ระเบิดพลังอันบ้าคลั่งและได้สลัดมนุษย์น่ารังเกียจพร้อมกระบวนค่ายกลที่กักขังมันเอาไว้เหล่านั้นออกไป
ในความรู้สึกของมัน เหล่ามนุษย์พวกนี้ล้วนแต่เป็นพวกเดียวกัน
พรวด! เหล่าศิษย์สำนักโอสถฯ ที่ถูกกิ้งก่าน้ำแข็งทำให้บาดเจ็บเองก็อนาถนัก แต่ละคนกระอักเลือดออกมาก็ยังไม่เท่าไร ซ้ำร้ายยังต้องพิษหนาวเย็นเข้าอีก
หลังจากที่ได้ผลจิ่วหยางซวนมาแล้ว มู่เฉียนซีก็ได้หนีออกไปจากสระน้ำแข็งได้อย่างราบรื่น
กิ้งก่าน้ำแข็งได้ร้องคำรามออกมาอย่างเกรี้ยวกราดและได้มุ่งตามมู่เฉียนซีไป
พลังอันมืดฟ้ามัวดินได้ม้วนตัวเข้าไป มู่เฉียนซีได้ส่งมอบเข็มยาอยู่หลายเข็มให้แก่กิ้งก่าน้ำแข็งที่ไล่ตามมา
เข็มยาเหล่านั้นพุ่งไปทางดวงตาทั้งสองข้างของกิ้งก่าน้ำแข็ง แต่กิ้งก่าน้ำแข็งตัวนี้ฉลาดนัก มันได้ใช้ชั้นน้ำแข็งป้องกันเข็มยาของมู่เฉียนซีเอาไว้
ไม่นานนักลูกศรน้ำแข็งที่แฝงไปด้วยพิษร้ายจำนวนนับไม่ถ้วนก็ได้พุ่งมาทางมู่เฉียนซีอย่างบ้าคลั่ง
แกร๊ง แกร๊ง แกร๊ง! เงาร่างสีเขียวเงาหนึ่งได้ปรากฏตัวขึ้นและป้องกันที่ด้านหน้าของมู่เฉียนซีเอาไว้ พร้อมกันนั้นก็ได้กันลูกศรน้ำแข็งเหล่านี้เอาไว้ทั้งหมด
มู่เฉียนซีกล่าว “ชิงอิ่ง ดึงดูดความสนใจของกิ้งก่าน้ำแข็งนี้เอาไว้ อย่าได้ถูกมันทำให้บาดเจ็บเข้าเล่า”
“อื้ม!” ชิงอิ่งพุ่งออกไปรั้งกิ้งก่าน้ำแข็งตัวนั้นเอาไว้
ทันทีที่เงาร่างของมู่เฉียนซีพุ่งผ่านไปขวดโอสถขวดใหญ่ขวดหนึ่งก็ได้ถูกโยนออกมา
เมื่อขวดโอสถนั้นลอยอยู่กลางอากาศมู่เฉียนซีก็กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “บุปผาหลั่งสายฝน!”
ปัง! ขวดโอสถน้ำขวดนั้นได้ระเบิดออก เมื่อโอสถนั้นสาดกระจายลงมา มันก็ได้ตกลงบนตัวของกิ้งก่าน้ำแข็งนั่น
หยาดฝนเพียงเล็กน้อยแค่นี้ทำให้กิ้งก่าน้ำแข็งรู้สึกว่าไม่จำเป็นที่จะต้องป้องกัน
ตัวมันเดิมทีนั้นก็มีพิษร้ายอยู่แล้ว มันเองก็มิได้กลัวพิษของมนุษย์อันต่ำต้อยเลยไม่ได้ใส่ใจแม้แต่น้อย
มันพุ่งไปทางมู่เฉียนซีอย่างโกรธเกรี้ยว เงาร่างยักษ์ใหญ่เข้าไปใกล้มู่เฉียนซี มันแฝงไปด้วยกลิ่นอายอันน่ากลัวอย่างที่สุด
ในตอนที่กลิ่นอายปกคลุมลงมา มู่เฉียนซีรู้สึกว่าร่างกายของนางนั้นเปลี่ยนไปราวกับกลายเป็นน้ำแข็งสลักก็มิปาน มันไม่อาจขยับได้เลยแม้แต่น้อย
สัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับเจ็ดนั้นเหนือกว่าผู้แข็งแกร่งระดับมหาจักรพรรดิแห่งภูตขั้นสูงสุด พลังนั้นช่างน่าหวั่นพรึงจริง ๆ
ในตอนที่กิ้งก่าน้ำแข็งกำลังจะฆ่ามู่เฉียนซีนั่นเอง ชิงอิ่งก็ได้โจมตีมันอย่างเต็มกำลัง
ปัง! หางอันใหญ่ยักษ์ของมันได้ฟาดไปทางชิงอิ่งอย่างรุนแรง ชิงอิ่งนั้นไม่อาจที่จะหลบหลีกได้ทันเลย
ตูม! ชิงอิ่งล้มลงบนพื้นน้ำแข็งและทำใหัทั่วทั้งบนพื้นน้ำแข็งนั้นปรากฏรอยร้าวประหนึ่งใยแมงมุมขึ้น
“มนุษย์ เจ้ากล้าที่จะขโมยผลจิ่วหยางซวนของข้า เจ้ารนหาที่ตายนัก!”
ขณะที่กิ้งก่าน้ำแข็งกำลังพูดกล่าว กลิ่นอายอันเยือกเย็นก็ตกลงมาที่บนใบหน้าของมู่เฉียนซี
ความอบอุ่นบนใบหน้าของมู่เฉียนซีลดลงไปพลัน ขนตางอนสลวยนั้นบังเกิดน้ำแข็งเกาะขึ้นชั้นหนึ่ง
สีหน้าของมู่เฉียนซีเคร่งขรึมเป็นอย่างมาก พิษนั้นของนางยังไม่ออกฤทธิ์เป็นเพราะนางประเมินกิ้งก่าน้ำแข็งตัวนี้ต่ำไปหรือ?
สิ่งที่มู่เฉียนซีต้องทำในตอนนี้ก็ทำได้แต่เพียงยื้อเวลาออกไปเท่านั้น
มู่เฉียนซีนำผลจิ่วหยางซวนออกมาแล้วกล่าวขึ้น “ข้าสามารถเอาผลจิ่วหยางซวนนี้คืนให้แก่เจ้าได้ เจ้าจะสามารถปล่อยข้าไปได้หรือไม่?”
“เจ้าคิดว่าเป็นได้ไปรึ? ข้าจะเขมือบเจ้าเข้าไปในคำเดียว จะเคี้ยวร่างกายอันสดนิ่มของเจ้าให้แหลกในคราวเดียว ข้านั้นไม่ได้ลิ้มรสเนื้อมนุษย์มานานหลายปีแล้ว” กิ้งก่าน้ำแข็งกล่าวอย่างโหดเหี้ยม
“ผลจิ่วหยางซวนเป็นของข้า ใครก็จะมาแย่งชิงไปไม่ได้!”
เมื่อกิ้งก่าน้ำแข็งกล่าวจบมันก็เตรียมที่จะยึดสมุนไพรวิญญาณในมือของมู่เฉียนซีกลับไป แต่ในตอนนี้เองมันก็ได้พบว่าร่างกายอันเย็นเฉียบของมันได้พลันเกิดเพลิงที่ไม่อาจดับได้ลุกไหม้ขึ้นมา
“โฮก! ร้อนนัก! ร้อนนัก!…”
หลังจากพิษออกฤทธิ์แล้วกิ้งก่าน้ำแข็งก็เริ่มบ้าคลั่งขึ้นมา มันจ้องมองไปที่มู่เฉียนซีอย่างดุร้ายแล้วกล่าว “เป็นเจ้า เป็นเจ้ามนุษย์ที่น่ารังเกียจ…”
มันกัดเข้าไปทางมู่เฉียนซี ชิงอิ่งได้พุ่งมายังด้านหน้าของมู่เฉียนซีแล้วผลักมู่เฉียนซีออกไป
ปัง! และกิ้งก่าน้ำแข็งนั้นก็ได้งับเข้าไปที่ร่างของชิงอิ่ง
แกรก! จากนั้นมันก็พบว่าสิ่งตรงหน้าที่ตนเองกัดเข้าไปนั้นไม่ใช่มนุษย์
ร่างกายของเขาแข็งเป็นอย่างมาก มันแข็งเสียยิ่งกว่าฟันของมันมากนัก
“ในเมื่อกัดเจ้าไม่เละ เช่นนั้นข้าก็จะกลืนเจ้าเข้าไปเสีย!”
มันเปิดปากกว้างเตรียมที่จะเขมือบชิงอิ่งเข้าไป เงาร่างสีม่วงอันเลือนรางเงาหนึ่งได้ใกล้เข้ามา มู่เฉียนซีได้คว้าเข็มยาสองเข็มแล้วปักไปทางดวงตากลมโตทั้งสองของมัน
ปึก! ปึก!
“เพลิงพิษนั้นยังไม่พอ เช่นนั้นเจ้าลองลิ้มรสนี่ดู! ที่สำคัญชิงอิ่งเป็นอะไรที่เจ้าอยากจะกลืนก็กลืนลงไปได้ง่าย ๆ รึ?”
“โฮก!” กิ้งก่าน้ำแข็งร้องด้วยความเจ็บปวดเป็นอย่างมากออกมา ในชั่วพริบตามันก็ได้ระเบิดพลังอันน่าหวั่นพรึงออกมาและกระแทกทั้งสองคนนั้นกระเด็นลอยออกไป
“เฉียน!” ชิงอิ่งที่ถูกช่วยเอาไว้ได้รีบเข้าไปปกป้องมู่เฉียนซีดดยพลัน
ปัง! ทั้งสองล้มลงบนชั้นน้ำแข็ง มู่เฉียนซีได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
ส่วนชิงอิ่งนั้นไม่เป็นอะไร!
“โฮก!” ในตอนนี้กิ้งก่าน้ำแข็งได้ร้องออกมาอย่างเจ็บปวดที่สุด พิษที่อยู่ในร่างของมันได้ทำให้มันเสียสติไป
ดวงตาทั้งสองข้างก็ได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก มันมองอะไรไม่เห็นทั้งสิ้น
“เจ้ามนุษย์น่ารังเกียจ เจ้าอยู่ที่ไหน? จงไสหัวออกมา!”
“โฮก!” มนุษย์! มนุษย์!”
“……”
กิ้งก่าน้ำแข็งร้องคำรามลั่น
ส่วนศิษย์เหล่านั้นของสำนักโอสถฯ ถูกมันเข้าใจผิดและทำร้ายจนอนาถ!
“หนีเร็ว!”
“เร็วเข้า! กิ้งก่าน้ำแข็งตัวนี้บ้าไปแล้ว!”
“……”
มู่เฉียนซีกล่าว “ชิงอิ่ง พวกเราก็ไปกันเถอะ!”
“อื้ม!”
ในตอนนี้เองเสียงอันเย็นยะเยือกเสียงหนึ่งได้ลอยมา “สาวน้อย ตอนนี้พวกเจ้าไม่สามารถที่จะไปได้ จะออกไปไม่ได้แม้แต่คนเดียว!”
ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ! มีคนอีกกลุ่มหนึ่งปรากฏตัวขึ้น พวกเขายังคงสวมใส่อาภรณ์ของสำนักโอสถฯ อีกเช่นเคย
มู่เฉียนซีตกตะลึง เป็นคนของสำนักโอสถฯ อีกกลุ่มนึง
เหล่าศิษย์ของสำนักโอสถฯ เหล่านี้ที่อนาถาและต้องพิษหนาวเย็นเข้าไป เมื่อเห็นพวกคนกลุ่มใหม่นี้ดวงตาก็เกิดประกายขึ้นมา “ศิษย์พี่จ้าว ที่แท้เป็นพวกท่านนี่เอง! ที่ตัวหญิงสาวผู้นั้นมีผลจิ่วหยางซวนอยู่ จะให้นางหนีไปไม่ได้เด็ดขาด”
ก่อนหน้านี้เมื่อพวกเขาเห็นมู่เฉียนซีทรมานสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ระดับเจ็ดเสียจนมีสภาพเช่นนั้นก็ไม่กล้าที่จะเป็นศัตรูกับมู่เฉียนซี
แต่ทว่าตอนนี้สถานการณ์มันเปลี่ยนไปแล้ว ศิษย์พี่ได้มาถึงแล้วอีกทั้งพวกเขายังไม่ได้รับบาดเจ็บ จะต้องสามารถรับมือกับแม่นางน้อยผู้นี้ได้อย่างแน่นอน
แต่ปรากฏว่าศิษย์พี่จ้าวผู้นี้มิได้เหลียวแลพวกเขาเลยแม้แต่น้อย แต่กลับมองไปยังมู่เฉียนซีพลางกล่าวว่า “ส่งผลจิ่วหยางซวนที่อยู่กับเจ้ามา แล้วข้าจะทำให้พวกเจ้าได้ตายทั้งที่ศพยังสวย!”
มู่เฉียนซีรู้สึกได้ถึงความอันตรายชนิดหนึ่งจากตัวของพวกเขา แต่ทว่า…
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “คิดที่จะให้ข้าส่งมอบผลจิ่วหยางซวนนั้นเป็นไปไม่ได้!”
สายตาของศิษย์พี่จ้าวผู้นี้ได้สาดจิตสังหารอันเย็นยะเยือกออกมา “ในเมื่อสาวน้อยไม่ยอมเชื่อฟังกันโดยดี เช่นนั้นพวกเราก็ทำได้แต่ต้องทรมานเจ้าอย่างโหดร้ายจนตายเสียแล้ว!”
“ยังไม่ทันได้ลงมือเจ้าก็มาสรุปเอาในตอนนี้เสียแล้ว มันยังไวไปนัก!”
มู่เฉียนซีได้นำกระบี่มังกรเพลิงออกมาและลงมืออย่างดุดัน!
“บัวแดงพิฆาต!”
คนเหล่านี้อันตรายยิ่งนัก ไม่เหมือนกับเหล่าศิษย์ของสำนักโอสถฯ ที่พบเจอมาเมื่อก่อนหน้านี้ ดังนั้นทันทีที่มู่เฉียนซีได้ลงมือจึงเป็นกระบวนท่าฆ่าล้างที่แข็งแกร่งที่สุด!
ดอกบัวเพลิงแห่งการทำลายล้างได้พุ่งไปทางพวกเขา ในตอนนี้เองร่างกายของพวกเขาได้ระเบิดพลังอันดำมืดและชั่วร้ายออกมา
.
.