ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ – ตอนที่ 595 แต้มอารมณ์จากการไขปริศนา

ตอนที่ 595 แต้มอารมณ์จากการไขปริศนา 

 

 

หลี่ว์ซู่รู้สึกว่ากระบี่เฉิงอิ่งนั้นยอดเยี่ยมมาก ถ้าคนบงการไม่รู้ว่าเขาได้ลงมาข้างล่างนี้แล้วตั้งแต่แรกก็คงไม่ส่งคนกิ้งก่ากินคนระดับ B มาหรอก 

 

 

ถ้าคนบงการอยากจะซ่อนตัว หลี่ว์ซู่ก็คงไม่มีตัวเลือกใดนอกจากทำให้เขาหวาดกลัวไปเรื่อยๆ 

 

 

หลี่ว์ซู่เพิ่งสังเกตว่ากิ้งก่าที่เหลือนั้นเริ่มจะถอยทัพกลับกันแล้ว เป็นอย่างนี้ได้ไงเนี่ย! 

 

 

กิ้งก่ากินคนนี่ใช้ไว้เป็นอาวุธแท้ๆ หลี่ว์ซู่เอาชนะพวกกิ้งก่าได้ก็เพราะเขาใช้ทุกวิถีทางที่มี แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเขาสู้ต่อไม่ไหวนะ แค่ไม่มีทริคอื่นจะมาเล่นด้วยแล้วต่างหาก! 

 

 

หลังจากที่พยายามไปมากแล้ว เขาจะจะปล่อยอาวุธออกไปมากขนาดนี้ได้อย่างไร ไม่สิ เขาจะปล่อยให้พวกกิ้งก่าหนีออกไปเยอะขนาดนี้ได้อย่างไรต่างหาก เพราะถ้าเอาเจ้าพวกนี้มารวมกัน เขาคงเพิ่มปริมาณธารน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่มีอยู่ จากสระน้ำให้กลายเป็นทะเลสาบได้ภายในการสู้เพียงครั้งเดียวได้เลยล่ะ! 

 

 

พวกกิ้งก่านั้นวิ่งหนีกันไปอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย มันวิ่งหนีหลี่ว์ซู่ที่เป็นคนสังหารกิ้งก่าที่เหลือกันหัวซุกหัวซุนจาก 

 

 

หลี่ว์ซู่ตกใจมาก งั้นแสดงว่าไอ้กิ้งก่าตัวใหญ่ยักษ์นั่นเป็นผู้ควบคุมกิ้งก่าที่เหลืองั้นเหรอ! 

 

 

เรื่องนี้พอจะเป็นไปได้แฮะ หลี่ว์ซู่เริ่มระมัดระวังตัวขึ้นมา เขายอมรับว่าตอนที่ฆ่ากิ้งก่าระดับ B ได้ก็โล่งใจขึ้นมาหน่อย ถ้ากิ้งก่าพวกนี้ยังเก็บท่าโจมตีอื่นไว้อยู่ มีหวังเขาตกอยู่ในอันตรายแน่ๆ 

 

 

เขารีบเข้าระบบไปเช็กดูเพื่อหาคำตอบ ถ้ากิ้งก่าพวกนี้เป็นสิ่งมีชีวิตที่ไม่ค่อยฉลาดจริงๆ มันก็คงให้แต้มอารมณ์เขาไม่ได้หรอก 

 

 

แต่อย่างที่คาดไว้เลย เขาเจอรายการแต้มอารมณ์เด้งยาวเป็นพรวนว่า [ได้แต้มอารมณ์จากกิ้งก่าร่วงหล่น +999!] 

 

 

เขารู้แหละว่ากิ้งก่าพวกนี้มีชื่อเรียกว่ากิ้งก่าที่ร่วงหล่น แต่กิ้งก่าตัวสุดท้ายนั้นแตกต่างออกไป เพราะกิ้งก่าตัวนั้นให้แต้มอารมณ์แค่ +1 เท่านั้น 

 

 

นี่น่ากลัวนะเนี่ย ถ้าระดับของกิ้งก่าธรรมดาๆ ยังเป็นระดับ B ได้ แล้วกิ้งก่าตัวนั้นล่ะจะอยู่ระดับไหน 

 

 

หลี่ว์ซู่รู้ความสามารถของตัวเองดี ตอนที่เขาติดตามกิ้งก่ากินคนไป เขาก็ให้ความสนใจกับสิ่งรอบๆ ข้างเหมือนกัน ทั้งฝูฉื่อและซือโก่วต่างก็กลับคืนมาหาเขา 

 

 

หลี่ว์ซู่อยากปกป้องชีวิตตัวเองมากกว่าสังหารกิ้งก่าเพิ่ม เขาเริ่มรู้สึกวหวาดหวั่นขึ้นมาเลยจัดการฆ่าพวกกิ้งก่าที่วิ่งหนีไปยังทางออกทันที 

 

 

ขณะที่หลี่ว์ซู่ตามพวกกิ้งก่าไป เขาก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ เขาเพิ่งสังเกตว่าแม้กิ้งก่าพวกนี้จะวิ่งหนีไปสารพัดทิศทาง แต่พวกมันจะไม่ไปที่ที่งูแห่งความโกลาหลอยากจะไปก่อนหน้านี้ 

 

 

งั้นกิ้งก่าพวกนี้ก็มีไว้ล่อเขาน่ะสิ คนบงการไม่อยากโผล่หน้ามาเจอเขาอย่างนั้นเหรอ 

 

 

ถ้าคนบงการเป็นสิ่งมีชีวิตที่มีระดับสูงกว่านี้ เขาก็ไม่จำเป็นต้องกลัวหลี่ว์ซู่เสียหน่อย หลี่ว์ซู่ที่ครุ่นคิดอย่างหนักเปลี่ยนใจทันที เขามุ่งหน้าไปยังทางที่จะไปแต่แรกด้วยความเร็วสูงสุด เขาดูระบบบันทึกแต้มอารมณ์ขณะที่ควบคุมธารน้ำไปด้วย 

 

 

เป็นตามที่คาด พอหลี่ว์ซู่เปลี่ยนทางแล้ว เขาก็ได้แต้มอารมณ์เพิ่มขึ้นมาเลย 

 

 

[ได้แต้มอารมณ์จากกิ้งก่าที่ร่วงหล่น +299!] 

 

 

[ได้แต้มอารมณ์จากกิ้งก่าที่ร่วงหล่น +310!] 

 

 

แต้มอารมณ์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่เวลาผ่านไป นี่อาจเป็นกับดักก็ได้ แต่แต้มอารมณ์ที่ได้มานั้นคือของจริง ไม่มีทางที่มันจะผิดพลาดได้! ในการต่อสู้ครั้งนี้ หลี่ว์ซู่ใช้แต้มอารมณ์เป็นการนำทาง! 

 

 

พวกกิ้งก่าที่ก่อนหน้านี้วิ่งหนีไปทั่วทิศทางเปลี่ยนทางมาปิดทางหลี่ว์ซู่ มันทำเหมือนกับว่าต้องการจะส่งเขาออกไป ถ้าพวกกิ้งก่ามาหยุดอยู่ตรงหน้าเขาในเวลาที่เขากำลังมุ่งหน้าไปนั้น เขาก็ต้องใช้ความพยายามในการปัดพวกมันออกไป แต่กิ้งก่าพวกนี้วิ่งไปทั่วทุกที่ พอมันหันกลับมาปิดทาง หลี่ว์ซู่ก็ทำให้พวกมันไม่ทันได้ป้องกันตัว มันเลยวิ่งเข้ามากันหลี่ว์ซู่ออกไปและมาเป็นอาหารของธารน้ำศักดิ์สิทธิ์ของหลี่ว์ซู่นั่นเอง 

 

 

ดูเหมือนว่าศัตรูของเขาจะเข้าตาจนแล้ว หลี่ว์ซู่งงไปเลย มันรู้งั้นสิว่ากำลังโดนล่าอยู่ และมันก็ไม่อยากจะมาเจอหน้าหลี่ว์ซู่ งั้นการวิ่งหนีไปจะไม่พอเหรอ ทำไมถึงส่งกิ้งก่ากินคนตั้งมากมายมาปิดทางเขาล่ะ 

 

 

ปริมาณธารน้ำศักดิ์สิทธิ์เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หลี่ว์ซู่คิดว่าการมาครั้งนี้ไม่เสียเปล่าเลย ระดับของของเหลวเริ่มเพิ่มขึ้นจบเกือบจะเทียบเท่าทะเลสาบแล้ว! 

 

 

หากเขาต้องไปต่อสู้ที่ต่างประเทศ เขาก็แค่ปล่อยพลังน้ำใส่ศัตรูและโจมตีต่อใต้น้ำได้เลย แบบนี้คงได้เปรียบในทุกที่ละนะ! 

 

 

ก่อนหน้านี่ที่กิ้งก่ากว่าสิบตัววิ่งเข้าหาเขา หลี่ว์ซู่แอบกังวลใจเล็กน้อย แต่ตอนนี้ หลังเขากำจัดกิ้งก่ากว่าร้อยตัวไปภายในครั้งเดียวแล้ว เขาก็ไม่รู้สึกตื่นตระหนกอีกเลย 

 

 

หลี่ว์ซู่มุ่งหน้าไปเรื่อยๆ ที่ทางออก และงูแห่งความโกลาหลก็เลื้อยอย่างตื่นเต้นไปในธารน้ำศักดิ์สิทธิ์ 

 

 

มีกิ้งก่ากินคนเดินออกมาข้างหน้า มันดูราวกับโกรธจัดมากแล้ว และจะใช้พลังที่มีปิดทางขัดขวางหลี่ว์ซู่ให้ได้ 

 

 

[แต้มอารมณ์จากกิ้งก่าที่ร่วงหล่น +999!] 

 

 

แล้วถ้ำข้างหน้าหลี่ว์ซู่ก็เปิดออก เขาเห็นกิ้งก่ากินคนขนาดใหญ่ยักษ์กว่าปกติอยู่ตรงหน้า ร่างกายของมันมีสีดำและตั้งตระหง่านเหนือหลี่ว์ซู่เหมือนอาคารสูง พูดตามตรงแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่หลี่ว์ซู่เคยเห็นสัตว์ที่ตัวใหญ่มหึมาขนาดนี้ อย่างกับไดโนเสาร์เลย! 

 

 

กิ้งก่าตัวนี้ตาสีแดงก่ำเหมือนเลือด ตาดำของมันนั้นเล็กผอมเหมือนกับเป็นแค่รอยแยก มันดูดุร้ายมาก แต่ทว่า… 

 

 

มันมีเสาสีทองห้าเสาเสียบทะลุผ่านขาสี่ขาของมันและเสียบไปที่ลิ้นด้วย ทำให้มันติดอยู่กับที่ ขยับเขยื้อนไม่ได้… 

 

 

“อย่างนี้นี่เอง เพราะแบบนี้ถึงได้พยายามกันจัง หนีไม่ได้สินะ” หลี่ว์ซู่ถอนหายใจ “ให้ตาย ใครเป็นคนใจร้ายเอาแกมาขังไว้ที่นี่เนี่ย ขนาดลิ้นยังถูกตรึงไว้เลย เกิดอะไรขึ้นกับนาย” 

 

 

[ได้แต้มอารมณ์จากกิ้งก่าที่ร่วงหล่น +999!] 

 

 

กิ้งก่ากินนั่นพูดขึ้น “เจ้า…” 

 

 

หลี่ว์ซู่รีบตัดบทแล้วถอนหายใจต่อไป “แกนี่มันเหลือเชื่อไปเลยนะ ขนาดถูกตรึงขนาดนี้ยังรอดมาได้ตั้งหลายพันปี พูดได้ขณะลิ้นถูกตรึงไว้อีกต่างหาก พี่ชาย เจ๋งมากจริงๆ!” 

 

 

[ได้แต้มอารมณ์จากกิ้งก่าที่ร่วงหล่น +999!] 

 

 

หลี่ว์ซู่ไม่สามารถสัมผัสถึงคลื่นพลังจากกิ้งก่าได้ ด้วยเหตุนี้หลี่ว์ซู่จึงคิดว่าเสาสีทองทั้งห้านี้คงเอาไว้จำกัดพลังของมันด้วย 

 

 

บอกตรงๆ ว่าหลี่ว์ซู่นั้นประหลาดใจมาก เขาไม่รู้เลยว่ากิ้งก่าที่ร่วงหล่นจะถูกขังไว้อยู่ที่นี่ และเขาก็รู้สึกได้ด้วยว่ามันผ่านมานานแล้วด้วย แต่คนที่เอากิ้งก่าตัวนี้มาตรึงขังไว้ที่นี่ก็น่าจะฆ่าต้นตอของปัญหาไปให้จบๆ ได้นี่ ทำไมถึงไม่ทำอย่างนั้นล่ะ 

 

 

หากเป็นในภาพยนตร์ พวกสัตว์ประหลาดจะถูกจับตรึงไว้เพราะไม่สามารถฆ่าพวกมันได้ แต่หลี่ว์ซู่คิดว่ามันไม่สมเหตุสมผลเลย ถ้าตรึงสัตว์ประหลาดไว้แล้ว แบบนี้ก็ค่อยๆ ฆ่ามันได้แล้วสิ เพราะมันขยับไปไหนไม่ได้แล้วนี่นา ทีนี้ก็มีเวลาฆ่ามันได้แล้ว แต่เอาจริงๆ เขาก็ไม่ได้ดูหนังที่เกี่ยวกับเรื่องนี้มากพอหรอก เขาเลยไม่เข้าใจตรรกะของหนังเลยจริงๆ 

 

 

แต่สำหรับเจ้ากิ้งก่ายักษ์ตรงหน้าเขานั้น เขารู้เลยว่ามันไม่ง่ายเลยที่จะตรึงมันไว้แบบนี้เพียงเพราะฆ่ามันไม่ได้ ถ้าฆ่าไม่ได้จริงๆ แล้วทำไมมันต้องตกใจกลัวด้วยล่ะ 

 

 

หลี่ว์ซู่คิดว่าใครก็ตามที่จับกิ้งก่ามาตรึงอย่างโหดร้ายแบบนี้น่าจะต้องเกลียดกิ้งก่าตัวนี้มาก คนคนนั้นเลยจับมันมาตรึงไว้แล้วทรมานมันซะ 

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

หลี่ว์ซู่ เป็นเด็กกำพร้าที่หาเลี้ยงตัวเองมาโดยตลอด และก็คงจะหาเลี้ยงตัวเองเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ ถ้าเขาไม่ได้ประสบอุบัติเหตุรถชนเข้าเสียก่อน… แต่เฮ้ย! เขาไม่เป็นอะไรเลยนี่ ไม่เจ็บ ไม่ปวด และไม่ตาย แถมวิญญาณไม่ได้หลุดออกจากร่างด้วย! จะมีก็แต่สัญลักษณ์รูปต้นไม้ที่จู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นมาบนฝ่ามือและพลังพิเศษในตัวที่ตื่นขึ้นมาเท่านั้น! ทว่าเขาไม่ได้เป็นเพียงคนเดียวที่ได้รับพลังพิเศษนี้มา เพราะคนอื่นๆ เองก็เริ่มกลายเป็นผู้มีพลังแล้วเหมือนกัน นี่มันเรื่องบ้าอะไร เกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้กันแน่ นี่เรากำลังจะก้าวเข้าสู่ยุคของผู้มีพลังพิเศษกันแล้วงั้นเหรอ หลี่ว์ซู่ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย ว่าแต่พลังที่ได้มานี่มันฝึกยังไงกันล่ะ เอ๊ะ ต้องสะสมแต้มอารมณ์ด้านลบงั้นเหรอ แค่กวนโมโหคนอื่นก็เพิ่มพลังได้แล้วงั้นเหรอ แบบนี้ก็เข้าทางหลี่ว์ซู่สุดๆ ไปเลยน่ะสิ!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset