ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ – ตอนที่ 621 หลี่ว์ซู่โดนเปิดเผยตัวตน

“เมื่อกี้หัวหน้ายังอยู่ข้างฉันอยู่เลย หายไปเร็วขนาดนั้นได้ยังไง!” ผู้คนในทีมนั้นมองหน้ากันไปมา

 

 

“เมื่อกี้ฉันก็เพิ่งเห็นเข้าเหมือนกัน ก่อนที่ทหารจากทะเลจากถอยไป เขายังมาช่วยกันฉันจากการโจมตีอยู่เลย” ใครคนหนึ่งพูด

 

 

“หัวหน้า!” มั่วเฉิงคงตะโกน แต่ก็ไม่มีใครตอบกลับมา

 

 

ทั้งกลุ่มไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นและไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรต่อแล้ว พวกเขาเพิ่งเสียหัวหน้าไป…

 

 

เฉินจู่อานคิดทบทวน มันแปลกๆ อยู่นะ ด้วยความสามารถขนาดหลี่ว์ซู่แล้ว เขาไม่น่าถูกลักพาตัวไปแบบนั้นได้ เฉินจู่อานจำได้ว่าตอนที่ทหารพวกนั้นถอยไป มีทหารหน้าสีฟ้าตนหนึ่งมองมาทางเขาแล้วกะพริบตาให้ ตอนนั้นเฉินจู่อานคิดว่าทหารตนนั้นน่าจะบ้าไปแล้ว เราเป็นคนละสายพันธุ์กันเลยนะ! จะมาจีบกันแบบนี้ไม่ได้!

 

 

แต่พอคิดดีๆ แล้วนั่นต้องเป็นหลี่ว์ซู่แน่ๆ เลย!

 

 

หลี่ว์ซู่ไม่ได้บอกใครว่าเขาจะลงไปในทะเลเพราะเขาไม่รู้ว่าจะไปเจออะไรข้างล่างทะเลนั่น เขาไม่รู้เลยว่าเขาสามารถออกท่าอะไรใหญ่ๆ ในน้ำได้หรือเปล่า แต่ไม่มีใครรู้หรอกว่าเขาจะไปทำอะไรแผลงๆ ในน้ำ ถึงอย่างไรเขาก็คงโบ้ยความผิดไปให้คนอื่นได้สบายๆ …

 

 

เขาแอบบอกใบ้เฉินจู่อานไปเรื่องที่เขาลงมาใต้ทะเล อย่างน้อยเฉินไป่หลี่ก็ต้องรู้ ถ้าเขาติดอยู่ใต้ทะเลนานเกินไป เฉินไป่หลี่อาจมาช่วยเข้าก็ได้ เพราะฉะนั้นต้องให้เฉินไป่หลี่รู้เรื่อง แต่ไม่แน่ใจว่าถ้าเฉินจู่อานจะเข้าใจที่เขาบอกใบ้ไปหรือเปล่า จะได้ไม่เที่ยวไปบอกคนอื่น หลี่ว์ซู่คิดว่าเฉินจู่อานน่าจะเข้าใจที่เขาสื่อไปนะ

 

 

แต่นั่นแหละ เขาก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน…

 

 

แต่แล้วเฉินจู่อานก็ไม่ทำให้หลี่ว์ซู่ผิดหวังเลย เฉินจู่อานรีบไปหาเฉินไป่หลี่เพื่อบอกเล่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าใครจะพยายามหาหลี่ว์ซู่กันมากเท่าไหร่ เขาก็ไม่ได้ปริปากบอกอะไรออกไป

 

 

เฉินไป่หลี่ครุ่นคิดก่อนเอ่ยขึ้นว่า “นั่นมันอันตรายเกินไปนะ”

 

 

“อาจารย์ที่สองครับ จะลงไปช่วยเขาไหมครับ” เฉินจู่อานถามอย่างสงสัย

 

 

“เชื่อใจเขาดีกว่า” เฉินไป่หลี่บอก “เขาต้องรู้ความสามารถที่ตัวเองมีอยู่ดีน่า”

 

 

แต่เฉินจู่อานกลับไม่ชอบใจ ไม่ว่าเขาจะพูดอะไรออกไป เฉินจู่อานก็มักจะถูกเฉินไป่หลี่สงสัยและดูถูกอยู่ตลอด แต่เฉินไป่หลี่กลับเชื่อใจหลี่ว์ซู่โดยไม่พูดอะไรสักคำ สองมาตรฐานเกินไปแล้วนะ! แต่เขาก็ไม่กล้าพูดอะไรออกไปเพราะอาจารย์ที่สองของเขานั้นอารมณ์เดือดง่าย เขาได้ยินว่าตอนที่เฉินไป่หลี่เห็นทหารจากทะเลเมื่อวาน เขาก็อารมณ์เสียมากแล้ว เมื่อเขาลงมือจริงๆ แม้แต่ทหารเกราะทองแดงก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา

 

 

เมื่อเฉินไป่หลี่รู้ว่าเกราะทองแดงสามารถถอดออกได้ เขาก็เผลอทำร้ายทหารจากทะเลสองตนไปด้วยความเสียดาย…

 

 

เฉินไป่หลี่ถอดเสื้อคลุมเต๋าออกแล้วทอดสายตาออกไป เฉินจู่อานพูดขึ้น “อาจารย์ที่สองครับ ผมรู้สึกว่าการแสดงฝีมือของผมในโบราณสถานครั้งนี้น่ะ…”

 

 

“ออกไปซะ”

 

 

ที่ใต้น้ำ ทหารจากทะเลที่ถอยออกมาแล้วกลับไปรวมตัวกันบริเวณทิศตะวันตกของเกาะ หลังจากนั้น พวกเขาก็ถอยกลับไปทางด้านทิศตะวันตก

 

 

หลี่ว์ซู่ใส่หน้ากากเพื่อทำตัวให้แนบเนียนไปกับทหารจากทะเล เขาเพิ่งรู้ว่าทหารจากทะเลนั้นไม่เดือดร้อนอะไรเมื่อเจอกับแรงต้านใต้น้ำเลย หากหลี่ว์ซู่ไม่ใช่ผู้มีพลังสายธาตุน้ำแล้วเขาคงไม่สามารถตีเนียนด้วยได้แบบนี้หรอก

 

 

เขาอยู่ในน้ำได้สบายมาก เมื่อตอนที่พลังธาตุน้ำของเขาเลื่อนเป็นระดับ C เขาก็อยู่ไม่ไกลจากการประสานธาตุน้ำแล้ว การเดินเหินในน้ำไม่ถือเป็นปัญหาของหลี่ว์ซู่เลยสักนิด

 

 

พวกเขาเดินกันอยู่ใต้ก้นทะเล บรรยากาศรอบข้างเป็นสีดำทะมึนไปหมด

 

 

เมื่อรอบข้างมืดแบบนี้ หลี่ว์ซู่จึงได้แต่พึ่งพลังธาตุน้ำของตัวเองในการจับสัมผัสของการเคลื่อนไหวรอบๆ ตัว เขาเพิ่งเห็นว่ามีทหารใต้ทะเลกว่าหมื่นคนที่อยู่ในชุดเกราะทองแดงตรงหน้าเขากำลังว่ายน้ำอยู่

 

 

ไม่เหมือนกับพวกเขาสักนิด หลี่ว์ซู่และคนที่เหลือกำลังเดิน แต่ทหารพวกนั้นกลับว่ายน้ำ แตกต่างกันสุดๆ

 

 

หรือกลุ่มทหารจากทะเลที่หลี่ว์ซู่แอบปะปนมาด้วยนี้จะเป็นกลุ่มที่ควบคุมทหารทั้งหมดและใช้แซ่เค่อกันนะ หลี่ว์ซู่พร้อมที่จะสร้างความปั่นป่วนแล้ว เขามีโอกาสโจมตีเจ้าพวกแซ่เค่อแล้ว ถ้าสู้กันซึ่งๆ หน้าจริงก็คงยากหน่อยที่ต้องรับมือกับระดับ C กว่าสิบตน แต่ถ้าแอบโจมตีคงง่ายกว่ามาก พออยู่ท่ามกลางทหารจากทะเลด้วยกันเองแล้วดูเหมือนว่าพวกมันจะไม่ระวังตัวกันเลย

 

 

ไม่มีใครสังเกตเลยว่ามีมนุษย์แทรกซึมเข้ามาในขบวนของพวกมันแล้ว…

 

 

หลี่ว์ซู่เห็นว่ามีทหารธรรมดาๆ ที่ไม่มีความคิดของตัวเอง พวกมันก็แค่เดินไปข้างหน้าเท่านั้น

 

 

ทันใดนั้นหลี่ว์ซู่ก็มาถึงตรงคูน้ำ มีอะไรบางอย่างที่แวววับซ่อนอยู่ในคูน้ำนั้นและว่ายน้ำไปมา

 

 

เจ้าพวกแซ่เค่อนั้นเดินกันไปที่คูน้ำนั้น ทหารจากทะเลตนอื่นๆ ก็ตามกลุ่มนี้ไปที่คูน้ำ หลี่ว์ซู่ตามไปข้างหลังติดๆ เมื่อเข้าได้เข้าไปแล้วก็พบว่านี่เป็นอีกโลกหนึ่งไปเลย ข้างใต้นี้มีปราสาทคริสตัลอยู่ก้นบึ้งทะเล มันส่องแสงประกายงดงามอย่างกับรูปภาพ ราวกับว่าหลุดออกมาจากเทพนิยาย!

 

 

หลี่ว์ซู่และคนอื่นๆ เข้าไปในปราสาท พวกทหารจากทะเลธรรมดาๆ ยืนกันเงียบๆ ในปราสาทนั้น มีแท่นแท่นหนึ่งที่ส่องแสงสีเขียวออกมาก

 

 

ทหารแซ่เค่อโปรยเศษฝุ่นในมือไปบนแท่น แล้วทันใดนั้นหลี่ว์ซู่ก็สังเกตเห็นว่ามีทหารทะเลกว่าสิบตนเดินออกมาจากแท่นด้วยแขนอันเปลือยเปล่า แล้วจากนั้นก็มีทหารจากทะเลมากมายหลายตนตามหลังออกมาอีก

 

 

มีคลื่นพลังงานแผ่ออกมาจากตัวของพวกมันแต่ไม่เข้มข้นมากเท่าไหร่ แต่แล้วจู่ๆ มันกลับเพิ่มระดับความเข้มข้นมากขึ้นเรื่อยๆ

 

 

หลังจากที่ทหารแซ่เค่อตนนั้นโปรยฝุ่นผงเสร็จ เขาก็เดินออกจากปราสาทไป หลี่ว์ซู่ไม่รู้ว่าเขาตั้งใจไปทำอะไรต่อ ทหารจากทะเลธรรมดาๆ พวกนั้นต่างพากันนั่งขัดสมาธิและหลับตากันอยู่ในปราสาท หลี่ว์ซู่มองตามกลุ่มพวกนั้นไป

 

 

เขารู้สึกว่าทหารจากทะเลข้างๆ เขานั้นฟื้นฟูพลังกายกันได้เร็วมาก หลี่ว์ซู่เดาถูกแล้ว พวกทหารธรรมดาๆ พวกนี้ไม่ได้ตาย เจ้าแซ่เค่อนั่นเอาฝุ่นผงไปโปรยในแท่นแล้วก็เรียกทหารธรรมดาๆ ให้ฟื้นชีวิตกันขึ้นมาอีกครั้ง

 

 

เป็นแท่นที่ประหลาดอะไรอย่างนี้ เขาสงสัยมาก

 

 

ในขณะที่ทหารจากทะเลกำลังนั่งขัดสมาธิหลับตากันอยู่นั้น หลี่ว์ซู่ก็แอบลืมตาขึ้นแล้วแอบมองไปที่แท่น ในขณะนั้นเขาก็รู้สึกได้ว่าเจ้าโกลาหลที่หลับไหลอยู่ได้ตื่นขึ้นมาแล้ว ราวกับว่ามันสนใจแท่นนี้มาก

 

 

หลี่ว์ซู่แอบมองไปยังทหารที่นั่งอยู่ข้างๆ เขาเห็นว่าทหารพวกนี้ก็เหมือนหุ่นเชิดที่โดนเอาเชือกเชิดหุ่นออกไปแล้ว เขาลังเลใจเล็กน้อยก่อนที่จะปล่อยเจ้าโกลาหลออกไป!

 

 

เจ้าโกลาหลที่แปลงร่างเป็นมังกรนั้นว่ายออกไปที่แท่น

 

 

มันกัดแท่นนั้นแล้วกลืนเศษสีเขียวที่มันกัดออกมา

 

 

ทันใดนั้นก็มีพลังงานปล่อยออกมาจากแท่นนี้ เจ้าโกลาหลกินพลังงานนี้ไปอย่างเอร็ดอร่อยเลย แล้วทหารที่นั่งขัดสมาธิอยู่ก็กลายเป็นฝุ่นผงอีกรอบ พวกทหารที่ใส่เกราะทองแดงอยู่เองก็ค่อยๆ สลายไป เกราะทองแดงที่ไม่มีอะไรมารองรับก็ร่วงหล่นตกลงบนพื้น

 

 

หลี่ว์ซู่เริ่มอารมณ์เสียเล็กน้อย เขาโดนเปิดเผยตัวเร็วเกินไปแล้ว และเขายังไม่ได้เตรียมตัวเลย! เขาเอาเจ้าโกลาหลที่กำลังหม่ำแท่นสีเขียวอยู่เก็บกลับเข้าไปในตราแผ่นดิน แล้วมันก็ผล็อยหลับลึกไปอีกรอบ หลี่ว์ซู่รู้ว่าตอนที่เจ้าโกลาหลแปลงร่างนั้น มันไม่ได้แปลงร่างอย่างสมบูรณ์เสียทีเดียว ถ้าจะให้อธิบายก็คือ ถ้าไม่มีไห่กงจื่อ มันจะไม่สามารถใช้ของตัวเองในการแปลงร่างได้อย่างสมบูรณ์

 

 

จู่ๆ เจ้าโกลาหลที่กินแท่นสีเขียวเข้าไปก็มีกรงเล็บงอกออกมาเป็นห้ากรงเล็บ ไม่ใช่สี่กรงเล็บแล้ว!

 

 

ทหารจากทะเลแซ่เค่อกลับเข้ามาอย่างเร่งรีบพร้อมเกราะทองแดงที่สวมอยู่บนตัว เมื่อเขาว่าเห็นแท่นหายไปแล้วก็ตกใจเป็นอย่างมาก เขาถามออกมา “ใครเป็นคนทำลายแท่นมังกรของฉัน ทหาร!”

 

 

เขารู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง เขามองไปที่หลี่ว์ซู่ที่กำลังหลอกว่าเขาเป็นทหารจากทะเลอยู่ “ทำไมแกไม่หายไปด้วยล่ะ!”

 

 

หลี่ว์ซู่ทำตัวไม่ถูก คนอื่นหายไปแล้วแต่ว่าเขากลับอยู่ตรงนี้

 

 

เขานิ่งเงียบไปสักครู่ก่อนจะตอบออกไป “ว่าจะหายตัวไปหลังจากนี้น่ะครับ…”

 

 

ทหารจากทะเลแซ่เค่อสับสนไปหมด

 

 

ทหารจากทะเลนั้นล้วนมีชีวิตขึ้นมาได้จากแท่นมังกรนี้ ตอนนี้มันหายไปแล้ว แกจะบอกว่าเดี๋ยวหายตามไปได้ไง

 

 

[ได้แต้มอารมณ์จากเค่อเหวินหลี่ +666!]

 

 

แล้วในเวลาเดียวกันนั้นก็มีกระบี่บินสีขาวเล่มบางเหมือนกับด้ายตัดหัวเค่อเหวินลี่ออกไป ฝูฉื่อนั่นเอง!

 

 

[ได้แต้มค่าอารมณ์จากเค่อเหวินหลี่ +1000!]

 

 

หลี่ว์ซู่เลยจัดการปลอมตัวเป็นเค่อเหวินหลี่เสียเลย แต่ร่างของเค่อเหวินหลี่ไม่ได้สลายกลายเป็นฝุ่นผงไป เขาเลยเอาร่างของเค่อเหวินลี่ใส่ไปในตราแห่งแผ่นดิน ก่อนที่ทหารจากทะเลจะเข้ามา จากนั้นก็แกล้งทำเป็นเดินเข้าไปในปราสาทและทำสีหน้าตกใจสุดขีด!

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

หลี่ว์ซู่ เป็นเด็กกำพร้าที่หาเลี้ยงตัวเองมาโดยตลอด และก็คงจะหาเลี้ยงตัวเองเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ ถ้าเขาไม่ได้ประสบอุบัติเหตุรถชนเข้าเสียก่อน… แต่เฮ้ย! เขาไม่เป็นอะไรเลยนี่ ไม่เจ็บ ไม่ปวด และไม่ตาย แถมวิญญาณไม่ได้หลุดออกจากร่างด้วย! จะมีก็แต่สัญลักษณ์รูปต้นไม้ที่จู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นมาบนฝ่ามือและพลังพิเศษในตัวที่ตื่นขึ้นมาเท่านั้น! ทว่าเขาไม่ได้เป็นเพียงคนเดียวที่ได้รับพลังพิเศษนี้มา เพราะคนอื่นๆ เองก็เริ่มกลายเป็นผู้มีพลังแล้วเหมือนกัน นี่มันเรื่องบ้าอะไร เกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้กันแน่ นี่เรากำลังจะก้าวเข้าสู่ยุคของผู้มีพลังพิเศษกันแล้วงั้นเหรอ หลี่ว์ซู่ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย ว่าแต่พลังที่ได้มานี่มันฝึกยังไงกันล่ะ เอ๊ะ ต้องสะสมแต้มอารมณ์ด้านลบงั้นเหรอ แค่กวนโมโหคนอื่นก็เพิ่มพลังได้แล้วงั้นเหรอ แบบนี้ก็เข้าทางหลี่ว์ซู่สุดๆ ไปเลยน่ะสิ!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset