ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ – ตอนที่ 626 ปลาเล็กสีขาว

ตอนที่ 626 ปลาเล็กสีขาว  

 

 

หลี่ว์ซู่มองไปที่แอนโธนี่ที่กำลังหัวเราะเขินๆ อย่างเฉยเมย ออกไปจับปลาตอนกำลังมีอันตรายเนี่ยนะ อีกอย่าง ปลานี่ก็ไม่เห็นจะมีอะไรพิเศษเลย ขนาดของมันใหญ่ประมาณฝ่ามือของเขาเท่านั้น นอกจากนี้เขาก็สัมผัสพลังที่ปล่อยออกมาไม่ได้เลยสักอย่าง โบราณสถานที่นี่แปลกชะมัด  

 

 

หลี่ว์ซู่ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดีกับผลไม้สี่ผลที่เขาเด็ดมาในตอนแรก แล้วหลี่ว์เสี่ยวอวี๋ก็ไปจับปลาต่อซะงั้น…  

 

 

นี่ผิดปกติอยู่นะ เขางงมาก ตั้งแต่มาถึงที่นี่เขายังไม่เห็นว่าจะมีสิ่งมีชีวิตเลย งั้นปลานี่ก็ต้องพิเศษสิ  

 

 

เขาจับหางของปลาแล้วเขย่าๆ แต่ก็ไม่มีปฏิกิรยาอะไรตอบกลับมาเลย เขาเอ่ยถามอย่างสงสัย “ปลานี่อะไรน่ะ ตายแล้วหรือยัง”  

 

 

แล้วทรายขาวทะเลลึกก็เขียนตอบอยู่ข้างหลัง “ไม่รู้สิ ตอนเห็นครั้งแรกก็เป็นแบบนี้แล้ว เห็นว่าน่าอร่อยดีเลยจับมา”  

 

 

หลี่ว์ซู่คิดหนัก เขาคิดว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาจะคิดมากเรื่องปลา เขาเลยเก็บมันใส่ไปในตราแผ่นดิน  

 

 

ในขณะที่เขากำลังเก็บเข้าไปอยู่นั้น จู่ๆ เจ้าโกลาหลก็ตื่นขึ้นมาแล้วกลืนปลาตัวนั้นเข้าไป…  

 

 

หลี่ว์ซู่อารมณ์เสียเลย คายออกมานะ! เสี่ยวอวี๋ยังไม่ได้กินมันเลยแล้วแกจะกินได้ยังไง ทีนี้ฉันจะบอกเธอยังไงดีล่ะเนี่ย  

 

 

ทันใดนั้นโกลาหลก็ตะโกนออกมาด้วยความเจ็บปวด หลี่ว์ซู่มองดูมันที่โตขึ้นมากว่าสิบเมตรจากปกติสองเมตร ผิวหนังของมันขยายออกเรื่อยๆ และสมานเข้าด้วยกันแล้ว  

 

 

ราวกับว่าปลานั้นจะรู้สึกตัวขึ้นมาและดิ้นรนอยู่ในท้องของเจ้าโกลาหล แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถพาตัวมันออกมาได้  

 

 

จากนั้นโกลาหลก็หลับไปอีกครั้ง หลี่ว์ซู่ไม่รู้ว่ามันเป็นลมไปเพราะความเจ็บปวดหรือว่ามันต้องย่อยแท่นมังกรและปลาสีเงินนั้นจนต้องหลับไปกันแน่  

 

 

หลี่ว์ซู่ตกใจมาก ปลาเล็กๆ แบบนั้นจะส่งผลกระทบอะไรขนาดนี้ได้ยังไงกัน ถ้าเขาไปหาปลานี่มาอีกแล้วเอาให้เจ้าโกลาหล มันจะกลายเป็นมังกรได้หรือเปล่า มังกรดำที่ยาวสิบเมตร! จะน่าประทับใจขนาดไหนเนี่ย!  

 

 

เขาทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วถามออกไป “เมื่อกี้ไปเอาปลาสีเงินมาจากไหนน่ะ มีอีกไหม”  

 

 

ทรายขาวทะเลลึกเขียนตอบอยู่ข้างหลัง “จะขโมยปลาสีเงินตัวจิ๋วของฉันเหรอ”  

 

 

หลี่ว์ซู่รู้สึกเก้ๆ กังๆ “ฮ่าๆ ไม่หรอกน่า”  

 

 

พอเขากลับไปแล้ว เขาจะไปหาซื้อปลาที่คล้ายกันแบบนี้ จะต้องมีอะไรเกิดขึ้นมาอีกแน่ๆ …  

 

 

เขารีบกลับไปและพบว่ามีทหารชุดดำอีกห้าสิบสองตนกำลังรออยู่ หลี่ว์ซู่กำลังคิดว่าจะพูดอะไรกับทหารเพื่อแยกพวกมันออกมาอีกกลุ่มดี เขาควรพูดไปไหมนะว่าถูกซุ่มโจมตีจากในทะเล  

 

 

แต่ก็ฟังดูไม่ค่อยน่าเชื่อเท่าไหร่ ถ้าจะพูดแบบนั้นก็ต้องมีร่องรอยอาการบาดเจ็บหน่อยใช่ไหมล่ะ  

 

 

หลี่ว์ซู่เลยป้ายเลือดบนหน้าและบนเกราะสีดำ จากนั้นเขาก็กลับไปอีกรอบ เขาไปถึงที่ประตูปราสาทหลักแล้วตะโกน “พวกเราถูกมนุษย์ซุ่มโจมตี! พวกแกอีกสิบตนตามฉันมา ไปช่วยกันหน่อย!”  

 

 

แล้วทหารชุดดำอีกสิบตนก็ตามหลี่ว์ซู่ไป หลี่ว์ซู่พาพวกเขาไปโจมตีระยะไกล พวกทหารชุดดำไม่รู้เลยว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้น ทำไมหัวหน้าไม่พูดอะไรสักคำเลยนะ  

 

 

พอพวกเขาไปถึงที่คูน้ำ หลี่ว์ซู่ก็แสร้งทำเป็นมองไปรอบๆ “แปลกจริง ตอนแรกก็โดนซุ่มโจมตีที่นี่นะ แล้วทุกคนหายไปไหนแล้วล่ะ”  

 

 

ใครบางคนถามขึ้นมา “ท่านครับ พวกเขาตายกันหมดแล้วเหรอ”  

 

 

“ทำไมพูดจาอัปมงคลแบบนั้น! ชิชะ!”  

 

 

“…ชิชะ”  

 

 

[ได้รับแต้มอารมณ์จากเค่อเจียน +666!]  

 

 

[ได้รับแต้มอารมณ์จาก…]  

 

 

ในตอนที่เสี่ยวอวี๋ควบคุมแอนโธนี่ออกไปโจมตีออกไปอย่างลับๆ หลี่ว์ซู่ก็ออกคำสั่ง  

 

 

หลังจากต่อสู้กับทหารชุดดำไปสิบตนเมื่อกี้ หลี่ว์ซู่และเสี่ยวอวี๋ก็รู้ว่าจะให้พวกมันร่วมมือกันต่อสู้ไม่ได้ ต้องรีบฆ่ามันก่อนที่พวกมันจะร่วมมือกัน ทำอย่างนี้เรื่องจะได้ง่ายขึ้น  

 

 

กลุ่มทหารในเกราะสีดำเจอทรายขาวทะเลลึกโจมตีเข้าไปก็คิดว่ามนุษย์มาซุ่มโมตีพวกมัน แต่หลี่ว์ซู่ก็เคลื่อนไหวออกไปในเวลาเดียวกัน พวกมันกำลังตั้งรับการโจมตีจากทรายขาวทะเลลึกอยู่ แต่ไม่คิดว่าจะถูกหลี่ว์ซู่โจมตี!  

 

 

ซือโก่วและฝูฉื่อเลยได้โจมตีเข้าไปง่ายๆ เลย!  

 

 

หลี่ว์ซู่ได้เกราะสีดำเพิ่มมาอีกสิบเกราะแล้ว เขาไม่สามารถใช้ข้อก้ตัวเดิมๆ ที่เพิ่งใช้ไปได้ แล้วตอนนี้เขาจะพูดอะไรดีล่ะ  

 

 

แต่แล้วหลี่ว์ซู่ก็พบว่ามีน้ำวนที่ก่อตัวพวยพุ่งขึ้นมา หลี่ว์ซู่หันไปเจอกับคลื่นพลังงานสองคลื่นที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ คลื่นพลังงานแบบนี้มาจากระดับ A แน่ๆ!  

 

 

หรือเนี่ยถิงจะมาที่โบราณสถานนี้ด้วยนะ  

 

 

ถ้าไม่ใช่ ในโบราณสถานแห่งนี้ก็มีแค่เฉินไป่หลี่แล้วที่มีพลังอยู่ในระดับ A!  

 

 

แล้วในพริบตาเดียวก็มีร่างของสองคนพุ่งเข้ามา หลี่ว์ซู่รีบหันกลับแล้วกระโดดเข้าไปในคูน้ำ เขาใช้ความสามารถพลังน้ำของเขาเป็นแรงขับเคลื่อนในปราสาทแห่งนี้  

 

 

เขาเร่งความเร็วเหมือนตอร์ปิโดที่ถูกยิงมาจากเรือดำน้ำและตะโกนมาจากเหนือปราสาท “ศัตรูบุก!”  

 

 

แล้วเขามาที่นี่ทำไมเนี่ย หลี่ว์ซู่เริ่มไม่สบายใจแล้ว เขายังจำการต่อสู้ระหว่างหลี่เสียนอีและปรมาจารย์หุ่นเชิดได้อยู่เลย คนคนนี้ไม่ใช่คนที่หลี่ว์ซู่จะสู้ด้วยได้  

 

 

เฉินไป่หลี่ตามปรมาจารย์หุ่นเชิดมาติดๆ หลี่ว์ซู่คิดว่าทั้งสองคนน่าจะปะทะกันมาตั้งแต่อยู่บนบกแล้ว แต่แล้วพวกเขาก็ลงมาสู้กันต่อในน้ำ  

 

 

หลี่ว์ซู่คิดไปอีกว่าปรมาจารย์หุ่นเชิดนั้นเตรียมตัวมาอย่างดี เหมือนกับว่าเขารู้อยู่แล้วว่ามีอะไรบางอย่างในโบราณสถานแห่งนี้ เขาตั้งใจแน่วแน่เลย  

 

 

ปรมาจารย์หุ่นเชิดนั้นใส่เสื้อคลุมสีดำและลอยขึ้นไปเหนือปราสาทคริสตัล มีหุ่นเกราะเหล็กยืนอยู่เคียงข้างเขา หลี่ว์ซู่มองขึ้นไป หมวกฮู้ดของเสื้อคลุมนั้นเปนสีดำสนิท หลี่ว์ซู่มองไม่เห็นหน้าของปรมาจารย์หุ่นเชิดเลย และหุ่นเกราะเหล็กนั้นก็ถูกครอบไปด้วยเกราะเหล็กอีกที  

 

 

การเคลื่อนไหวของพวกมันนั้นราบเรียบเหมือนกับอยู่บนบก นี่คงเป็นการทำงานของอุปกรณ์ป้องกัน  

 

 

แล้วปรมาจารย์หุ่นเชิดก็เดินเข้าไปในปราสาทคริสตัล เขาหัวเราะออกมาอย่างเศร้าๆ “นี่ไม่ใช่การโจมตีของศัตรูหรอก ไปบอกปลาเล็กสีขาวออกให้มาต้อนรับแขกหน่อย ไปบอกพวกมันว่าปรมาจารย์หุ่นเชิดมาถึงแล้ว”  

 

 

หลี่ว์ซู่อึ้ง  

 

 

[ได้แต้มอารมณ์จากหลี่ว์ซู่ +666!]  

 

 

เขาตกใจมาก และเขาอยากถามหลี่ว์เสี่ยวอวี๋ได้ไปขโมยราชาของพวกทหารเกราะสีดำตอนเขาหลับไปหรือเปล่า  

 

 

หลี่ว์เสี่ยวอวี๋จับปลาสีเงินมาได้ แต่ปรมาจารย์หุ่นเชิดกลับบอกให้เรียกปลาเล็กสีขาวออกมาทักทายอีก…  

 

 

เรื่องนี้ไม่ได้เป็นเรื่องบังเอิญแน่ๆ ราวกับเรื่องเล่าเกี่ยวกับสัตว์ในตำนานกว่าพันๆ เรื่องกำลังพูดกับเขาว่า ‘นี่เพื่อน นายอาจจะไม่เชื่อเรื่องนี้ก็ได้นะ แต่ปลาเล็กสีขาวที่หาอยู่น่ะมันหายไปแล้วล่ะ…’  

 

 

“ปรมาจารย์หุ่นเชิด รอก่อน” หลี่ว์ซู่หันและรีบไปที่ปราสาท เขาอยากพิสูจน์ให้แน่ใจว่าปลาสีเงินที่หลี่ว์เสี่ยวอวี๋จับมาไม่ใช่ราชาของทหารพวกนี้ใช่ไหม และเขาก็มีเหตุผลที่จะเข้าไปด้วยใช่ไหมล่ะ  

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

หลี่ว์ซู่ เป็นเด็กกำพร้าที่หาเลี้ยงตัวเองมาโดยตลอด และก็คงจะหาเลี้ยงตัวเองเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ ถ้าเขาไม่ได้ประสบอุบัติเหตุรถชนเข้าเสียก่อน… แต่เฮ้ย! เขาไม่เป็นอะไรเลยนี่ ไม่เจ็บ ไม่ปวด และไม่ตาย แถมวิญญาณไม่ได้หลุดออกจากร่างด้วย! จะมีก็แต่สัญลักษณ์รูปต้นไม้ที่จู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นมาบนฝ่ามือและพลังพิเศษในตัวที่ตื่นขึ้นมาเท่านั้น! ทว่าเขาไม่ได้เป็นเพียงคนเดียวที่ได้รับพลังพิเศษนี้มา เพราะคนอื่นๆ เองก็เริ่มกลายเป็นผู้มีพลังแล้วเหมือนกัน นี่มันเรื่องบ้าอะไร เกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้กันแน่ นี่เรากำลังจะก้าวเข้าสู่ยุคของผู้มีพลังพิเศษกันแล้วงั้นเหรอ หลี่ว์ซู่ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย ว่าแต่พลังที่ได้มานี่มันฝึกยังไงกันล่ะ เอ๊ะ ต้องสะสมแต้มอารมณ์ด้านลบงั้นเหรอ แค่กวนโมโหคนอื่นก็เพิ่มพลังได้แล้วงั้นเหรอ แบบนี้ก็เข้าทางหลี่ว์ซู่สุดๆ ไปเลยน่ะสิ!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset