ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ – ตอนที่ 628 นี่แกรู้เหรอว่าฉันเป็นใคร

ตอนที่ 628 นี่แกรู้เหรอว่าฉันเป็นใคร

 

 

ปรมาจารย์หุ่นเชิดโฉบขึ้นไปเหนือทะเลเพื่อคิดหาทาง ในขณะนั้นเฉินไป่หลี่ก็เก็บเอายันต์กลับมา เตรียมพร้อมจะหยิบใช้

 

 

“ฉันจะกลับมาฆ่าแกในวันข้างหน้า จำคำฉันไว้ได้เลย” ปรมาจารย์หุ่นเชิดหัวเราะอย่างเย็นชา

 

 

เขาตัดสินใจไม่อยู่เอ้อระเหยต่อไป แต่หลี่ว์ซู่สงสัยอยู่อย่างหนึ่ง แล้วปรมาจารย์หุ่นเชิดจะออกไปจากที่นี่ได้อย่างไรกัน

 

 

ตอนนั้นปรมาจารย์หุ่นเชิดขว้างหน้ากากมาให้หลี่ว์ซู่เพราะเขารู้ว่าตัวเขาเองปิดโบราณสถานไม่ได้ เพราะฉะนั้นหลี่ว์ซู่ก็อาจจะใช้แอนโธนี่บีบให้เขาสู้จนเหนื่อยตายที่นี่ตราบใดที่ดวงตาแห่งค่ายกลยังไม่ถูกแตะต้อง!

 

 

ปรมาจารย์หุ่นเชิดนั้นแข็งแกร่งเกินไป แม้หลี่ว์ซู่จะพบกับเขาพียงสองครั้งทำให้หลี่ว์ซู่ประหลาดใจทุกครั้ง ครั้งนี้ตาแก่นั่นชนะเพราะเตรียมเอายันต์มาด้วยล่วงหน้า

 

 

แต่หลี่ว์ซู่ก็ยังมีอีกคำถามหนึ่งที่ค้างคาใจ…

 

 

“นี่แกรู้เหรอว่าฉันเป็นใคร” หลี่ว์ซู่ถามอย่างสงสัย เพราะเขายังอยู่ในร่างของเค่อหมิงอยู่

 

 

“เดี๋ยวรู้แน่” ปรมาจารย์หุ่นเชิดพูด

 

 

“เยี่ยมไปเลย” หลี่ว์ซู่ตอบกลับอย่างดีใจ

 

 

[ได้แต้มอารมณ์จากอวิ๋นอี่ +199]

 

 

หลี่ว์ซู่อึ้งไปเลย ชื่อจริงของปรมาจารย์หุ่นเชิดคืออวิ๋นอี่เหรอ ฟังดูแปลกมาก แต่หลี่ว์ซู่ก็ไม่รู้สาเหตุเหมือนกันว่าทำไม

 

 

เพราะก่อนหน้านี้หลี่ว์ซู่รู้สึกว่าปรมาจารย์หุ่นเชิดนั้นต้องเป็นคนที่อยู่มานาน เหมือนกับปีศาจชั่วร้ายอะไรแบบนั้น แต่ก็อย่างว่าแหละ ถ้าจะมีใครต้องอยู่ใช้ชีวิตไปนานๆ เพื่อมาเชิดหุ่นน่าขนลุกแบบนี้ ไม่เป็นบ้าไปก่อนก็ดีแค่ไหนแล้ว แต่ชื่อเว่อร์ๆ แบบนั้นบอกตรงๆ ว่าขัดกับภาพลักษณ์ของเขาสุดๆ …

 

 

ทันใดนั้นเอง หุ่นเหล็กก็บินกลับไปอยู่ข้างปรมาจารย์หุ่นเชิดหลังจากที่โดนเรียกตัวกลับไป แล้วปรมาจารย์หุ่นเชิดก็เอาไข่มุกสีขาวในมือออกมาบดขยี้แล้วหายไปกับหุ่นของเขา

 

 

หลี่ว์ซู่มองอย่างตกใจ อะไรเนี่ย! มีทางออกไปจากโบราณสถานโดยไม่ต้องแตะต้องดวงตาแห่งค่ายกลด้วยเหรอ งั้นจะไล่ตามเขาไปก็เป็นไปไม่ได้เลยน่ะสิ!

 

 

แต่ตอนนี้หลี่ว์ซู่แน่ใจได้ว่าปรมาจารย์หุ่นเชิดนั้นไปแตะต้องดวงตาแห่งค่ายกลตรงๆ ไม่ได้ แต่ทำไมกันล่ะ หรือว่ามันจะเป็นสิ่งพิเศษที่มีเพียงมนุษย์ที่ทำได้เท่านั้น

 

 

อย่างไรก็ตามถ้าปรมาจารย์หุ่นเชิดอยากไปเข่นฆ่าคนข้างนอกอีก พวกเฉินเฮ่าคงได้ตายกันหมดแน่ พวกที่ต่ำกว่าระดับ C ลงไปต้านทานการโจมตีของระดับ A ไม่ไหวหรอก หลี่ว์ซู่และเฉินไป่หลี่จะต้องออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้เลย!

 

 

“ดวงตาแห่งค่ายกลก็คือแท่นเขียวหยกนั่น ไปเลยลุง!” หลี่ว์ซู่ตะโกนไปที่เฉินไป่หลี่ขณะที่เขารีบพุ่งเข้าใส่ทหารเกราะสีดำ

 

 

หลี่ว์ซู่ต้องรีบทำเวลาให้ไว เขากวาดเอาทหารเกราะดำลงไปในตราแผ่นดินก่อนที่เฉินไป่หลี่จะเข้าไปเก็บดวงตาแห่งค่ายกลมาได้ เขาต้องเอาเกราะพวกนี้มาให้ได้ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เพราะมันอาจเป็นประโยชน์ในอนาคตได้…

 

 

ได้ยินอย่างนั้นเฉินไป่หลี่ก็รีบบินเข้าไปในปราสาทหลัก เขาหันมาดูหลี่ว์ซู่ที่กำลังเก็บเกราะอย่างพูดไม่ออก…

 

 

หลี่ว์ซู่นี่เป็นคนอย่างไรก็อย่างนั้นจริงๆ เขาเก็บความลับว่าเขาเอาดวงตาแห่งค่ายกลจากโบราณสถานเป่ยหมัง ถึงสุดท้ายความลับจะแตกก็เถอะ แถมหลี่ว์ซู่ยังเป็นคนที่มีส่วนช่วยทำภารกิจที่ญี่ปุ่นให้สำเร็จอย่างมากด้วย ถ้าทาคาชิมะ ทาอิรัตสึยังมีชีวิตอยู่ พวกเขาจะรู้สึกอย่างกันนะว่ามีรคนระดับ A วางแผนเงียบๆ อยู่ที่นั้นมาตลอด

 

 

ถึงแม้เนี่ยถิงจะเอาชนะทาคาชิมะได้ แต่ถ้าเขาไม่ได้เป็นคนฆ่าทาคาชิมะล่ะ แล้วถ้าทาคาชิมะเกิดอย่างมาแก้แค้นในวันข้างหน้าขึ้นมา ต่อให้เนี่ยถิงแข็งแกร่งแค่ไหนก็เถอะนะ

 

 

เพราะฉะนั้นจะพูดว่าหลี่ว์ซู่นั้นเป็นภัยอันใหญ่หลวงของเครือข่ายฟ้าดินก็ฟังดูไม่ใช่คำพูดเกินจริงไปนัก แล้วพวกหัวหน้ายังยอมให้เขาเก็บตราแผ่นดินไว้กับตัวได้อีก

 

 

มากไปกว่านั้นการที่ไปโบราณสถานในต่างประเทศนั้น หลี่ว์ซู่ก็ไม่ต้องมอบของที่ได้จากเกาะช้างให้กับเครือข่ายด้วย

 

 

แต่ที่หลัวปู้พัวนั้นแตกต่างออกไปเพราะมีเฉินไป่หลี่อยู่ที่นี่ ทางเครือข่ายฟ้าดินเองก็หมดทรัพยากรไปเยอะในการมาครั้งนี้ หลี่ว์ซู่จะเอาดวงตาแห่งค่ายกลไปเฉยๆ ไม่ได้หรอก พวกของเชิงกลยุทธ์นั้นจะต้องเอากลับมามอบให้เครือข่าย หลี่ว์ซู่รับไปแค่เกราะสีดำหนึ่งร้อยชุดก็เพียงพอแล้ว…

 

 

พอหลี่ว์ซู่เอาเกราะเก็บเข้าไปในตราแผ่นดินหมด รวมถึงชุดที่เขาใส่ด้วย เขาก็กลายร่างกลับมาเหมือนเดิม

 

 

แล้วภาพของโบราณสถานนั้นก็เริ่มพังลงต่อหน้าเขาและพุ่งเข้าหาปราสาทหลัก

 

 

เขาถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งใจ การผจญภัยสิบวันที่ผ่านมาได้มาถึงจุดสิ้นสุดแล้ว แล้วพวกนักเรียนห้องเต้าหยวนก็ปลอดภัยด้วยเหมือนกัน

 

 

แต่เขาก็ไม่ได้นิ่งนอนใจไปหรอก เพราะเขารู้ว่าเขาจะต้องไปสู้กับปรมาจารย์หุ่นเชิดด้วยกันกับเฉินไป่หลี่!

 

 

แล้วตอนที่เขากลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงแล้ว เขาก็เห็นเฉินเฮ่าและคนอื่นๆ เอนตัวพิงรถและสูบบุหรี่อยู่ ดูเหมือนว่าปรมาจารย์หุ่นเชิดจะไม่ได้ปรากฏตัวมาที่นี่แฮะ หลี่ว์ซู่เลยรีบถาม “เมื่อกี้เห็นคนออกมาจากโบราณสถานก่อนพวกเราไหม”

 

 

เฉินเฮ่าตอบยิ้มๆ “นี่จะมาล้อเล่นกันเพราะคิดว่าฉันไม่เคยไปโบราณสถานมาก่อนใช่ไหม จะมีใครออกมาก่อนได้ไงเล่า”

 

 

แล้วหลี่ว์ซู่และเฉินไป่หลี่ก็มองหน้ากันอย่างตกใจ ปรมาจารย์หุ่นเชิดคงจะไปที่อื่นแล้ว

 

 

“คงจะฆ่าเขายากหน่อยถ้ามันสามารถแวบไปแวบมาได้แบบนี้” เฉินไป่หลี่พูดแล้วถอนใจออกมา

 

 

หลี่ว์ซู่เข้าใจเลย ปรมาจารย์หุ่นเชิดสามารถหนีออกไปตอนไหนก็ได้ที่รู้ว่าสถานการณ์ไม่เข้าข้างตัวเอง แต่หลี่ว์ซู่ก็คิดพิจารณาก่อนจะตอบออกไป “ผมว่าเขาใช้มันตลอดหรือที่ไหนก็ได้ไม่ได้หรอก ไข่มุกที่เขามีอาจจะมีจำกัด และใช้ได้ครั้งเดียวแต่โบราณสถานหนึ่งแห่ง”

 

 

“แต่นั่นไม่ใช่อันสุดท้ายแน่” เฉินไป่หลี่ส่ายหัวตอบ “เขาน่าจะทำได้ดีกว่าแค่หนีไปเฉยๆ แบบนั้น เอาจริงๆ เขาก็ยังไม่หมดหวังในการต่อสู้ไปเสียหน่อย”

 

 

หลี่ว์ซู่ได้ยินอย่างนั้นก็คิดอะไรออก ครั้งนี้ความคิดของหลี่ว์ซู่ดูฟังเข้าท่า เขาสามารถกลับไปที่เกาะปลอดภัยและเอานักเรียนห้องเต้าหยวนเป็นตัวประกันก็ได้ หรือไม่ก็จับตัวหลี่ว์ซู่ไปยังได้เลย

 

 

“แล้วเกราะอยู่ไหน” เฉินไป่หลี่ถาม มองข้างๆ ไปที่หลี่ว์ซู่

 

 

“อ้อ อยู่กับผมครับ” หลี่ว์ซู่ตอบ

 

 

เขาเทเอาเกราะออกมาสิบชุดจากตราแผ่นดิน

 

 

เฉินไป่หลี่พูด แล้วเกราะก็ร่วงลงมาอีกประมาณร้อยชุด เฉินไป่หลี่เริ่มโมโหแล้ว “เทอีก”

 

 

“เทมาอีก! อย่ากวนฉันให้มากได้ไหมฮึ ของพวกนี้มันเป็นประโยชน์กับเรานะ จะเอาไปทำไมเยอะแยะ”

 

 

จากนั้นหลี่ว์ซู่ก็เอาเกราะทั้งพันชุดออกมาภายในครั้งเดียว แล้วกองนั้นก็สุมใหญ่อย่างกับภูเขา! พวกนักเรียนห้องเต้าหยวนที่เพิ่งออกมาจากโบราณสถานก็เริ่ตื่นตาตื่นใจกัน พวกเขาเห็นเกราะแล้วก็ดีใจ คนที่เก็บเอาเกราะเต็มชุดมาได้ก็ต่างพึงพอใจในความสำเร็จของตัวเอง แต่ความสำเร็จของพวกเขานั้นเทียบอะไรไม่ติดกับสิ่งที่หลี่ว์ซู่ทำเลย!

 

 

พอเฉินไป่หลี่รู้ว่าหลี่ว์ซู่ไม่ยอมเอาเกราะสีดำให้แน่ๆ เขาก็เลยถาม “แล้วจะเอาเกราะที่เหลือไปทำอะไร”

 

 

หลี่ว์ซู่แกล้งทำเป็นไม่เข้าใจ “เกราะไหนครับ”

 

 

เฉินไป่หลี่หัวเราะออกมาเสียงดัง “เราหายกันแล้วนะทีนี้”

 

 

หลี่ว์ซู่เข้าใจทันทีว่าเขาหมายถึงอะไร “แน่นอนเลยครับ”

 

 

จะมีใครไม่เห็นแก่ตัวบ้างล่ะ เครือข่ายฟ้ามีเกราะทองแดงกว่าพันชุดแล้ว ขอบเขตของพวกเขาคงไม่มีใครต้านทานไหว เว้นแต่ว่าจะมีระดับ A หรือระดับ B มาหาถึงที่! ทันใดนั้นเองหลี่ว์ซู่ก็คิดอะไรออก เขาได้หน้ากากมาจากปรมาจารย์หุ่นเชิดนี่นา แล้วปรมาจารย์หุ่นเชิดก็คงจะตามตัวเขาได้จากหน้ากากนี้

 

 

อะไรกันเนี่ย… หรือเขาจะตกอยู่ในอันตรายเสียแล้ว!

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

หลี่ว์ซู่ เป็นเด็กกำพร้าที่หาเลี้ยงตัวเองมาโดยตลอด และก็คงจะหาเลี้ยงตัวเองเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ ถ้าเขาไม่ได้ประสบอุบัติเหตุรถชนเข้าเสียก่อน… แต่เฮ้ย! เขาไม่เป็นอะไรเลยนี่ ไม่เจ็บ ไม่ปวด และไม่ตาย แถมวิญญาณไม่ได้หลุดออกจากร่างด้วย! จะมีก็แต่สัญลักษณ์รูปต้นไม้ที่จู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นมาบนฝ่ามือและพลังพิเศษในตัวที่ตื่นขึ้นมาเท่านั้น! ทว่าเขาไม่ได้เป็นเพียงคนเดียวที่ได้รับพลังพิเศษนี้มา เพราะคนอื่นๆ เองก็เริ่มกลายเป็นผู้มีพลังแล้วเหมือนกัน นี่มันเรื่องบ้าอะไร เกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้กันแน่ นี่เรากำลังจะก้าวเข้าสู่ยุคของผู้มีพลังพิเศษกันแล้วงั้นเหรอ หลี่ว์ซู่ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย ว่าแต่พลังที่ได้มานี่มันฝึกยังไงกันล่ะ เอ๊ะ ต้องสะสมแต้มอารมณ์ด้านลบงั้นเหรอ แค่กวนโมโหคนอื่นก็เพิ่มพลังได้แล้วงั้นเหรอ แบบนี้ก็เข้าทางหลี่ว์ซู่สุดๆ ไปเลยน่ะสิ!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset