ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ – ตอนที่ 659 ล่า

ตอนที่ 659 ล่า

 

 

หลี่ว์ซู่วิ่งหายใจพลางหอบหนัก เขาใกล้จะหมดแรงแล้ว นี่ไม่ได้แสดงเลยนะ ของจริงเลย หลังจากวิ่งด้วยความเร็วสูงสุดมากว่าสามชั่วโมง เป็นใครก็ต้องเหนื่อยกันทั้งนั้นแหละ

 

 

หลายคนอาจสงสัยว่าขนาดนักวิ่งมาราธอนยังวิ่งสี่สิบกิโลเมตรได้เลย แล้วทำไมผู้บำเพ็ญถึงได้มีร่างกายอ่อนแอกว่านักวิ่งล่ะ ที่จริงแล้วนั้นนักวิ่งมาราธอนก็เห็นการวิ่งเร็วหนึ่งร้อยเมตรเป็นเรื่องเหนื่อยเอาการอยู่เหมือนกัน

 

 

หลี่ว์ซู่เริ่มหน้ามืดแล้ว เขาอยากสร้างภาพลวงตาขึ้นมาว่าเขาถูกไล่ล่าลงทะเลไปโดยไม่มีทางเลือก พวกระดับ B พวกนี้ต้องมีของมีค่าติดตัวมาบ้างแหละ!

 

 

เพราะฉะนั้น ถ้าทำตามแผนที่วางไว้ได้ก็คงจะคุ้มอยู่ เพราะเขาจะได้ฆ่าคนใต้น้ำยังไงล่ะ หลี่ว์ซู่เริ่มมีความหวังปรากฏในใจขึ้นมาหน่อยแล้ว…

 

 

แต่แล้วฟรานเชสโก้และคนอื่นๆ ก็เริ่มลดความเร็วลง ฟรานเชสโก้เช็ดหน้าจนสะอาดแล้วพูดว่า “เก่งนี่ แต่พวกเรารู้หรอกว่ามีคนรอซุ่มโจมตีจากใต้น้ำ ไปเรียนการแสดงมาให้เนียนกว่านี้ดีกว่านะ”

 

 

หลี่ว์ซู่เริ่มเครียด ทำไมแผนที่วางไว้อย่างดีถึงได้ถูกเปิดโปงตลอดเลยล่ะ

 

 

ยิ่งกว่านั้นยังมาล้อกันเรื่องทักษะการแสดงของเขาอีก ไม่น่าให้อภัยที่สุด!

 

 

คลื่นข้างล่างซัดเข้ากระทบฝั่งเสียงดังจนแตกละอองออกเป็นฟองสีขาวบนแนวปะการัง หลี่ว์ซู่ชำเลืองมองลงไปข้างล่างหน้าผา ทีนี้ทะเลกว้างใหญ่นี้จะกลายเป็นเวทีของเขา และเขาก็จะเป็นนักล่าอยู่ในน้ำ

 

 

ผู้มีพลังระดับ B ปลอมๆ อย่างเขาวางแผนล่าระดับ B ตัวจริงเนี่ยนะ กล้าเกินไปแล้ว

 

 

จนป่านนี้หลี่ว์ซู่ก็ยังไม่กล้าสู้กับกลุ่มของฟรานเชสโก้บนบกเพราะเขาอยากรักษาชีวิตตัวเองเอาไว้ให้ดีที่สุด เขาเรียนรู้เรื่องนี้มาจากการสู้ครั้งก่อนๆ แล้ว

 

 

ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าหน้ากากนี้ไม่ได้ทำให้เขามีอำนาจมากไปกว่าทุกคน ถ้าใช้ไม่ดีก็จะทำให้เกิดอันตรายได้ และนั่นก็ทำให้ข้อมูลต่างๆ ที่เครือข่ายฟ้าดินจัดหามาให้มีความสำคัญอย่างยิ่ง

 

 

เมื่อก่อนหลี่ว์ซู่คิดว่าเขาจะทำอะไรในยุโรปก็ได้ตามใจชอบด้วยการใช้หน้าการนี้ปลอมตัว แต่หลังจากมาถึงได้ไม่นาน เรื่องก็กลับกลายเป็นว่าเขาต้องเผชิญเหตุการณ์ที่เล่นเขาจนเกือบถึงแก่ชีวิต นี่คงเป็นเพราะเขาเตรียมตัวมาไม่มากพอ

 

 

ถ้าเขาไม่ได้มีความสามารถในการยับยั้งพลังไฟของฮาเวิร์ด ตัวตนที่แท้จริงของเขาก็คงตกอยู่ในอันตรายแล้ว

 

 

หลังจากที่เขาปลอมเป็นฮาเวิร์ดไปพบเบ็นเนตต์ เขาก็พยายามหลีกเลี่ยงพิรุธน่าสงสัยต่างๆ ด้วยการสร้างตัวตนใหม่มาฆ่าฮาเวิร์ด การทำแบบนี้แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นได้เร็วก็จริง แต่ถ้าพลาดขึ้นมาก็เอาเรื่องอยู่เหมือนกัน

 

 

คนเราเรียนรู้ได้จากอดีตที่ผิดพลาดนั่นแหละ

 

 

เขาเห็นคุณค่าของชีวิตตัวเองเพราะเขาต้องกลับไปเจอหลี่ว์เสี่ยวอวี๋แบบยังมีชีวิต เพราะฉะนั้นเขาจึงได้ใช้เวลาวิ่งบนบกก่อนหน้านี้จนตอนนี้เขาก็พร้อมเต็มที่แล้ว

 

 

“จะเอาอย่างไรต่อดีล่ะท่าน”

 

 

“จะไปทำลายวังสวรรค์น่ะสิ”

 

 

“แล้วถ้ากลับมาไม่ได้ล่ะ”

 

 

“’ งั้นไม่ไปละ…”

 

 

ไม่บอกก็รู้ว่าที่พูดไปคือหลี่ว์ซู่ชัดๆ …

 

 

หลี่ว์ซู่เริ่มหน้ามืดขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเขามองลงไปบนผิวน้ำทะเล หน้าผานั้นห่างไปหนึ่งร้อยเมตร และไม่มีคนชอบเล่นกีฬาผาดโผนที่ไหนกล้ากระโดดจากความสูงขนาดนี้แน่ แต่เวลามันเปลี่ยนไปแล้วล่ะ

 

 

หลี่ว์ซู่หันไปมองฟรานเชสโก้และคนอื่นๆ จากนั้นเขาก็อ้าแขนกว้างและกระโดดลงไปในทะเลอย่างไม่มีความลังเลใดๆ เขายิ้มมุมปากออกมาเล็กน้อยขณะกระโดดลงไป

 

 

เอาล่ะ การล่าเริ่มขึ้นแล้ว

 

 

ฟรานเชสโก้และคนอื่นๆ มองหลี่ว์ซู่กระโดดลงไปราวกับนกนางนวล ฟรานเชสโก้แน่ใจว่าเขาเห็นรอยยิ้มบนหน้าของหลี่ว์ซู่ เขาเอ่ยถาม “มีใครเห็นไอ้หมอนั้นยิ้มไหม”

 

 

“ไม่นะครับ”

 

 

ฟรานเชสโก้งงหนัก เขาดูผิดไปเหรอ!

 

 

ไม่มีทาง!

 

 

เขามั่นใจว่าที่เขาเห็นนั้นเป็นเรื่องจริงแน่ เขารู้ว่าเขาถูก ‘ฮาเวิร์ด’ หลอกเข้าให้แล้วเมื่อเห็นรอยยิ้มนั่น ‘ฮาเวิร์ด’ สร้างแผนนี้ขึ้นมาก็เพื่อปกปิดความอ่อนแอของตัวเองนี่เอง เขาหลอกให้คิดว่ามีคนซุ่มรอโจมตีอยู่ในน้ำ จากนั้นพวกคนที่ไล่ล่ามาก็จะไม่กล้าตามต่อไป!

 

 

อีกอย่างฟรานเชสโก้คิดว่ารอยยิ้มนั่นมีไว้ให้เขาเห็นคนเดียวด้วย แล้วความจริงนั้นก็มีแค่ไม่กี่คนที่รู้

 

 

รอยยิ้มนั้นถูกเก็บซ่อนไม่ให้คนอื่นๆ เห็นได้ แต่ฟรานเชสโก้ก็แข็งแกร่งกว่าอยู่ดีนั่นแหละ!

 

 

“ตามฉันไปฆ่าเขาซะ!” ฟรานเชสโก้ตะโกนแล้วกระโดดตามลงไป คนอื่นๆ มองหน้ากันอย่างไม่แน่ใจ ก็ไม่ใช่ว่าพวกเขาจะมีทางเลือกเท่าไหร่หรอก ถ้าไม่ทำตามคำสั่งก็จะถูกฝ่ายศรัทธาลงโทษเอา พวกเขาเห็นกับตาตัวเองแล้วว่าหัวหน้าบาทหลวงระดับ A นั้นแข็งแกร่งมากแค่ไหน

 

 

ฟรานเชสโก้และผู้บำเพ็ญระดับ B อีกห้าคนก็กระโดดน้ำลงไป เงาสีดำก็ล้อมรอบตัวพวกเขาไว้เมื่อร่างพวกเขาอยู่ในน้ำ

 

 

ฟรานเชสโก้หัวเราะออกมาอย่างเย็นชา อย่างที่คิดไว้เลยว่าไม่มีใครรอซุ่มโจมตีหรอก มีฮาเวิร์ดอยู่คนเดียว!

 

 

เสื้อคลุมสีขาวของฟรานเชสโก้โอบอุ้มร่างของเขาไว้ เขาเคลื่อนไหวในน้ำได้คล่องแคล่วกว่าที่คิดเพราะเสื้อคลุมของเขาเป็นอาวุธวิเศษด้วยนั่นเอง!

 

 

เขามั่นใจว่าตัวเองเคลื่อนไหวในน้ำได้ดีมากแน่ๆ และแน่ใจอีกว่าเขาเดาสถานการณ์ถูก ก็เลยทำให้เขาไม่คิดอะไรมากกับการกระโดดลงน้ำมานั่นเอง

 

 

แต่ปัญหาก็คือการหายใจในน้ำนี่แหละ อย่างไรก็ตามพวกยอดฝีมือระดับ B ก็กลั้นหายใจอยู่ได้ประมาณสิบนาทีแหละนะ

 

 

แต่แล้วในตอนนั้นเอง เขาก็สังเกตเห็นปลาสีม่วงเป็นร้อยๆ ตัวปรากฏขึ้น

 

 

เดี๋ยวนะ! นั่นไม่ใช่ปลานี่!

 

 

ฟรานเชสโก้ชะงักพูดอะไรไม่ออก พอดูดีๆ แล้วปลาพวกนั้นเป็นแสงสีม่วงจากอสนีบาตกว่าร้อยๆ เส้นนั่นเอง ไม่น่าเชื่อเลยว่าฮาเวิร์ดจะทำอะไรแบบนี้ได้!

 

 

อสนีบาตสีม่วงนั้นส่องประกายใต้น้ำสวยงามและดูลึกลับ ฟรานเชสโก้ไม่เคยเห็นสายฟ้าที่สวยขนาดนี้มาก่อนในชีวิตเขาเลย

 

 

ไม่นะ… นั่นมันไม้ตายของเขานี่!

 

 

ฟรานเชสโก้คิดอยากใช้เสื้อคลุมสีขาวของเขาหลบหนีออกไปแต่ก็สายไปเสียแล้ว สายฟ้าเดินทางได้เร็วกว่ามนุษย์มาก แล้วสายฟ้านี่ก็ไม่ใช่สายฟ้าธรรมดาด้วย แต่เป็นสายฟ้าที่ได้มาจากการลงโทษของสวรรค์!

 

 

ทันใดนั้นทุกๆ คนรวมถึงฟรานเชสโก้ก็สั่นไหวอย่างน่ากลัวจากสายฟ้าดูด มันแล่นระเบิดไปทั่วร่างจนทำให้ร่างกายของพวกเขานั้นขยับไม่ได้ไป

 

 

ฟรานเชสโก้ไม่รู้จะทำอย่างไร มีแต่สมองที่ยังทำงานได้อยู่ในตอนนี้ เขากำลังจะโดนฆ่าโดยง่ายเสียแล้ว…

 

 

แต่ทันใดนั้นเขาก็เห็นว่ามีเงาสีดำข้างล่างสั่นไหวไปด้วยเหมือนกัน…

 

 

เดี๋ยวนะ นี่แกโดนสายฟ้าของตัวเองดูดไปด้วยเหรอเนี่ย!

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

หลี่ว์ซู่ เป็นเด็กกำพร้าที่หาเลี้ยงตัวเองมาโดยตลอด และก็คงจะหาเลี้ยงตัวเองเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ ถ้าเขาไม่ได้ประสบอุบัติเหตุรถชนเข้าเสียก่อน… แต่เฮ้ย! เขาไม่เป็นอะไรเลยนี่ ไม่เจ็บ ไม่ปวด และไม่ตาย แถมวิญญาณไม่ได้หลุดออกจากร่างด้วย! จะมีก็แต่สัญลักษณ์รูปต้นไม้ที่จู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นมาบนฝ่ามือและพลังพิเศษในตัวที่ตื่นขึ้นมาเท่านั้น! ทว่าเขาไม่ได้เป็นเพียงคนเดียวที่ได้รับพลังพิเศษนี้มา เพราะคนอื่นๆ เองก็เริ่มกลายเป็นผู้มีพลังแล้วเหมือนกัน นี่มันเรื่องบ้าอะไร เกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้กันแน่ นี่เรากำลังจะก้าวเข้าสู่ยุคของผู้มีพลังพิเศษกันแล้วงั้นเหรอ หลี่ว์ซู่ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย ว่าแต่พลังที่ได้มานี่มันฝึกยังไงกันล่ะ เอ๊ะ ต้องสะสมแต้มอารมณ์ด้านลบงั้นเหรอ แค่กวนโมโหคนอื่นก็เพิ่มพลังได้แล้วงั้นเหรอ แบบนี้ก็เข้าทางหลี่ว์ซู่สุดๆ ไปเลยน่ะสิ!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset