ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ – ตอนที่ 662 โจมตีกลับ!

ตอนที่ 662 โจมตีกลับ!   

 

 

ก้นทะเลตอนนี้มีแต่จิตสังหาร ทุกคนคิดแต่วิธีทำให้ศัตรูหลั่งเลือดออกมา พวกเขาไม่ทำให้ทะเลเปลี่ยนเป็นสีแดงหรอก แค่ให้มีเลือดสดๆ ไหลในทะเลเสียหน่อย  

 

 

การต่อสู้อื่นส่วนใหญ่นั้นดุเดือดเข้มข้น แต่การต่อสู้คราวนี้กลับเงียบสงัด…  

 

 

เดี๋ยวก่อนนะ ตอนที่วิญญาณกระบี่ตบหน้าฟรานเชสโก้และคนอื่นๆ ถึงแม้เสียงจะไม่ได้ดังมากแต่ก็ยังมีเสียงอยู่นี่  

 

 

ฟรานเชสโก้และคนอื่นๆ ไม่เข้าใจเลย ฮาเวิร์ดเป็นผู้รับผิดชอบการต่างประเทศของกลุ่มฟีนิกซ์และการต่อสู้ของเขานั้นมักจะทรงพลังและตรงไปตรงมา เขาได้วิญญาณนกฟีนิกซ์มาอีกด้วย ถึงนกฟีนิกซ์ไฟที่เขาสร้างขึ้นมาจะไม่แข็งแกร่งเท่าไหร่แต่มันก็ฉลาดมากๆ เลยไม่ใช่เหรอ  

 

 

แต่พอพวกเขาคิดเรื่องนี้แล้วก็ไม่เข้าใจเลยสักนิดว่านกฟีนิกซ์ไฟของเขาหายไปไหนแล้วล่ะ  

 

 

พวกเขายังอยากเจอกับนกฟีนิกซ์มากกว่าวิญญาณกระบี่จิ๋วประหลาดนี่เสียอีก น่าอายขนาดไหนที่ต้องมาโดนตบหน้าเนี่ย!  

 

 

การโดนตบหน้านี่ถือเป็นเรื่องน่าอายในหลายๆ ประเทศทั่วโลก ฟรานเชสโก้เป็นถึงคนสำคัญของฝ่ายศรัทธา แต่กลับต้องมาโดนตบแบบนี้น่ะเหรอ ตัวเขาหมุนติ้วๆ อย่างกับกระแสน้ำวน เขาโกรธมาก!  

 

 

แต่ถ้าจะสั่งให้วิญญาณกระบี่เหล่านี้มาตบหน้าพวกเขาแล้วละก็ ทำไมไม่สั่งให้ฆ่าพวกเขาทิ้งไปเลยล่ะ  

 

 

ตอนแรกฟรานเชสโก้ก็คิดว่าหลี่ว์ซู่แค่อยากทำให้คนอื่นอับอาย ถึงแม้ว่าเขาจะตัวสั่นแหง็กๆ เหมือนกันก็เถอะ…  

 

 

แต่ฟรานเชสโก้แน่ใจว่าหลี่ว์ซู่คงอยากทำให้พวกเขาอับอายก่อนฆ่าทิ้งเสีย สุดท้ายแล้วก็มีแต่วิญญาณกระบี่ที่สามารถขยับไปไหนมาไหนได้สินะ อีกอย่างมันก็แข็งแกร่งมากด้วย และมันก็คงฆ่าพวกเขาได้อย่างง่ายดาย  

 

 

ถ้าพวกเขาเจอวิญญาณกระบี่ที่แข็งแกร่งขนาดนี้ในสถานการณ์ปกติคงปวดหัวกันน่าดู แต่นี่ไม่ถึงตายหรอก  

 

 

แน่ล่ะว่าพวกเขาไม่รู้ว่าทาคาชิมะ ทาอิรัตสึตายได้อย่างไร ถ้าไม่รู้ก็แล้วไป แต่ถ้ารู้ว่าทาคาชิมะ ทาอิรัตสึนั้นตายตอนสู้กับหลี่ว์ซู่แล้ว พวกเขาก็คงระวังกันมากกว่านี้  

 

 

ในโลกข้างนอกก็คงมีคนที่เก่งกว่านี้ หลี่ว์ซู่คิดว่าการเก็บความลับว่าเขาทำอะไรได้นั้นจะเป็นประโยชน์กับตัวเขา จะได้ทำให้ศัตรูตกใจและได้เปรียบในการต่อสู้  

 

 

หลี่ว์ซู่ไม่ได้อยู่ยงคงกระพัน เขาต้องเก็บงำเอาไว้เพื่อซ่อนจุดอ่อนของตัวเอง  

 

 

หลี่ว์ซู่รู้สึกว่าวิญญาณกระบี่ของเขานั้นอยู่ในตำแหน่งแปลกๆ เหมือนกับว่ามันไม่เหมาะจะอยู่ในตำแหน่งที่ดีกว่านี้ แต่ก็ไม่พอใจที่ต้องลดตัวลงมาในตำแหน่งที่ต่ำกว่า ความสามารถของวิญญาณกระบี่นั้นจะไม่เปลี่ยนแปลงไม่ว่าเวลาจะผ่านไป เพราะฉะนั้นในการต่อสู้จริงจังถึงตายกับวิญญาณกระบี่ที่ความสามารถเท่ากันนั้น ต้องจัดการด้วยการจู่โจมแบบไม่ทันตั้งตัวเท่านั้น แต่ตอนนี้หลี่ว์ซู่คิดอะไรออกอีกอย่างแล้ว ถ้าเขารวบรวมวิญญาณกระบี่ได้เจ็ดดวง จะเกิดอะไรขึ้นนะ  

 

 

ถึงแม้จะเป็นผู้มีพลังระดับ C แต่ถ้ามีวิญญาณกระบี่เจ็ดดวงก็สู้กับระดับ B ได้ มีความเป็นไปได้ว่าจะชนะด้วย  

 

 

เขาไม่สามารถใช้ประโยชน์จากการมีวิญญาณกระบี่ที่มากกว่าได้หรอก แต่หลี่ว์ซู่นั้นทำตัวเหมือนกับฟองน้ำ เขาจะดูดซับอะไรก็ตามที่เป็นประโยชน์มาใช้ หลี่ว์ซู่ได้ผลชี่ไห่มาอีกห้าผลขณะที่วิญญาณกระบี่ออกไปตบอีกรอบ  

 

 

ในขณะที่วิญญาณกระบี่ออกไปตบหน้าทุกคนอย่างร่าเริงอยู่นั้น ฟรานเชสโก้และคนอื่นๆ กลับคิดว่าหลี่ว์ซู่คงจะพอใจกับการทำให้พวกเขาอับอายขายขี้หน้าแล้ว และเขาก็เตรียมตัวจะโจมตีครั้งใหญ่เป็นการปิดท้าย พวกเขาเลยตื่นกลัวกันมากๆ  

 

 

แต่กลับไม่เป็นไปตามคาด เพราะวิญญาณกระบี่นั้นออกไปตบทุกคนอีกรอบ…  

 

 

ทั้งห้าคนที่เพิ่งจะได้หยุดนิ่งถูกตบจนหมุนอีกแล้ว ฟรานเชสโก้จะบ้าตายแล้วนะ! แกกำลังทำอะไรอยู่กันแน่!  

 

 

เมื่อไหร่จะเลิกตบ!  

 

 

หยุดได้แล้ว… เพียะ!  

 

 

บัดซบ!  

 

 

ถึงพวกเขาจะเป็นยอดฝีมือระดับ B แต่พวกเขาก็มึนงงจากการถูกตบมาก วิญญาณกระบี่ตัวเล็กๆ นี่แข็งแกร่งเกินไปแล้ว ทำเอาหัวของพวกเขาเจ็บไปหมด!  

 

 

หลี่ว์ซู่มองด้วยความตกใจเมื่อเขาเห็นว่าวิญญาณกระบี่กำลังเล่นสนุกอยู่ เขารู้สึกได้ถึงความโกรธของฟรานเชสโก้ แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี จะทำยังไงดีนะ…  

 

 

เขาพูดไม่ได้แต่เขาอยากอธิบายให้ฟรานเชสโก้รู้จริงๆ พวก…ฉันก็อยากจะฆ่าพวกนายให้ตายไปเร็วๆ เหมือนกันหรอกนะ แต่ฉันทำอะไรไม่ได้เลยเนี่ย! พวกเขาถูกตบซ้ำไปซ้ำมาจนหลี่ว์ซู่ก็รู้สึกไม่ดีไปด้วยแล้วเนี่ย!  

 

 

สำหรับฟรานเชสโก้และคนอื่นๆ พวกเขาจะทนต่อไปในน้ำไม่ไหวแล้วเพราะโดนตบนี่แหละ!  

 

 

ออกซิเจนเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับมนุษย์ เมื่อออกซิเจนไปเลี้ยงสมองไม่ทันแล้วก็คงตายภายในไม่กี่นาที พวกผู้มีพลังนั้นจะทนได้นานกว่า แต่พวกเขาก็มีขีดจำกัดเหมือนกัน!  

 

 

ในตอนนี้ทุกคนรู้สึกว่าความรู้สึกของตัวเองได้กลับมากันบ้างแล้ว ฟรายเชสโก้และคนอื่นๆ ไม่ได้ไปทำอะไรกับหลี่ว์ซู่อีกต่อไปแล้ว ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่อยากฆ่าหลี่ว์ซู่นะ แต่พวกเขาไม่อยากให้มีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้นอีกแล้ว  

 

 

ฮาเวิร์ดคนนี้โจมตีแปลกมาก พวกเขาไม่รู้ว่าจะปกป้องตัวเองยังไงแล้ว!  

 

 

ในตอนที่ฝ่ายศรัทธาแผ่ขยายอำนาจในยุโรป ก็มีฟรานเชสโก้นี่แหละที่เป็นคนนำหน้าทัพ เขาลงสนามรบบางครั้งก็จริง แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเจอคนที่เขาคิดว่าเป็นผู้มีพลังสายธาตุไฟแต่ใช้พลังสายฟ้าจู่โจม และเผลอโจมตีใส่ตัวเองด้วย แถมเขาเพิ่งเคยเจอคนแปลกๆ ที่โจมตีศัตรูด้วยการตบหน้าด้วยนี่แหละ  

 

 

มีแต่ฟรานเชสโก้คนเดียวเท่านั้นที่มองหลี่ว์ซู่อย่างพินิจพิเคราะห์ ในขณะที่คนอื่นกำลังหนีไปที่ชายฝั่ง ฟรานเชสโก้กลับมองย้อนไปแล้วเห็นว่าหลี่ว์ซู่เริ่มมีความรู้สึกกลับมาแล้ว แต่เขาก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรกับการไม่มีอากาศหายใจ  

 

 

ความชานี้มาไวหายไว เมื่อฟรานเชสโก้รู้ว่าเขาสามารถใช้ความสามารถของเขาได้ เขาก็ใช้เสื้อคลุมสีขาวโอบรอบตัวแล้วดึงตัวเขาขึ้นไปเหนือน้ำ  

 

 

ฟรานเชสโก้ถึงกับเอาระดับ B อีกสองคนไปกับเขาด้วยได้!  

 

 

แต่คนระดับ B อีกสองคนไม่ได้โชคดีอย่างนั้น เมื่อหลี่ว์ซู่สามารถใช้พลังน้ำได้แล้ว เขาก็สั่งให้น้ำตกลงมาเหมือนกับน้ำตกใต้น้ำ  

 

 

ถึงคนระดับ B จากผิวน้ำจะมองไม่เห็น แต่พวกเขาก็รู้สึกได้อย่างชัดเจน ร่างกายของพวกเขายังคงชาเล็กน้อย แต่ก็ยังสามารถว่ายน้ำขึ้นไปบนผิวน้ำได้  

 

 

ฟรานเชสโก้ใช้ผ้าคลุมสีขาวของเขาป้องกันตัวเองจากคลื่นใต้น้ำ แต่ยอดฝีมือระดับ B อีกสองคนรู้สึกตัวว่าพวกเขาได้ลอยออกไปไกลเรื่อยๆ จากผิวน้ำแล้ว  

 

 

เมื่อพวกเขามองลงมาใต้น้ำก็เห็นหลี่ว์ซู่กำลังมองพวกเขาอย่างใจเย็น คลื่นใต้น้ำที่อยู่รอบๆ เขาทำให้เขาดูเหมือนเป็นเทพแห่งท้องทะเลเลย  

 

 

ผู้บำเพ็ญระดับ B คนหนึ่งไม่เข้าใจว่าทำไมคนที่ถูกไล่ล่ามาก่อนถึงได้กลายเป็นคนคุมเกมและกลายเป็นตัวละครหลักในเกมไล่ล่าได้ แล้วทำไมพวกเขาถึงกลายเป็นเป้าหมายไปได้ล่ะเนี่ย  

 

 

หลี่ว์ซู่ไม่สนใจอีกต่อไปแล้ว เขาเอาเกราะทองแดงออกมา และหลังจากที่เกราะทองแดงนั้นแตกละเอียดเป็นชิ้นๆ มันก็สร้างเกราะรอบตัวเขาเพื่อปกป้องแรงดันจากน้ำ เขาใช้โอกาสนั้นว่ายขึ้นไปบนผิวน้ำ และเพื่อนของเขาที่รออยู่ก็ยื่นมือมาช่วยสุดแขน แต่เกราะที่เขาใช้กลับทำให้พวกเขาแยกกันออกไป  

 

 

มียอดฝีมือคนเดียวที่ยังอยู่ในน้ำ เขาโกรธมาก ทันใดนั้นเขาก็ปล่อยอาวุธเหล็กแหลมนับไม่ถ้วนออกมาไปทางหลี่ว์ซู่ แต่หลี่ว์ซู่กลับเคลื่อนไหวได้ว่องไวเหมือนปลาในน้ำ เขาหลบการโจมตีนั้นได้ง่ายๆ  

 

 

อาวุธเหล็กแหลมนั้นแทงลงไปในก้นทะเล และหลี่ว์ซู่ก็ไม่ได้รับอันตรายใดๆ ทั้งนั้น  

 

 

นี่เป็นถิ่นของหลี่ว์ซู่นะ!  

 

 

หลังจากที่ทนจากการโดนไฟฟ้าดูดไปได้นานกว่าสิบนาที หลี่ว์ซู่เองก็ถึงขีดจำกัดของตัวเองเหมือนกัน  

 

 

ยอดฝีมือต้องต่อสู้กับการขาดออกซิเจนและต้องไปเอาอาวุธที่ปล่อยลงก้นทะเลกลับมาอีก เขาปล่อยอาวุธออกไปอีกรอบทางหลี่ว์ซู่ พวกมันเหมือนกับฝูงปลาที่เกาะกันอย่างหนาแน่น แต่ทันใดนั้นเขาก็เห็นว่าอาวุธเหล็กของเขาเริ่มช้าลงราวกับว่ามันเจอแรงต้านจากอะไรบางอย่าง  

 

 

รอบตัวหลี่ว์ซู่เหมือนมีป้อมปราการน้ำคอยดูดซับพลังของอาวุธเหล็กแหลมไว้  

 

 

กระบี่ซือโก่วและกระบี่ฝูฉื่อปรากฏตัวด้วยเสียงคำราม กระบี่บินทั้งสองไม่ได้เจอกับแรงต้านในน้ำใดๆ และตรงเข้าไปคร่าชีวิตของผู้บำเพ็ญระดับ B คนนั้น เขาไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเขาต้องมาตายที่นี่ ทำไมพวกเขาทั้งห้าคนไม่สามารถฆ่าคนคนเดียวได้ แล้วเขาก็ต้องจบชีวิตอยู่ในทะเลดำมืดไม่มีที่สิ้นสุดนี้  

 

 

ทะเลก็น่ากลัวเหมือนกับหุบเหวเลย  

 

 

ก่อนตาย ผู้บำเพ็ญระดับ B คนนั้นก็เข้าใจในที่สุดว่าหลี่ว์ซู่เป็นผู้มีพลังสายธาตุน้ำ เขาได้ปล่อยไพ่ตายมาตั้งแต่แรกในท้องน้ำแห่งนี้แล้ว  

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

หลี่ว์ซู่ เป็นเด็กกำพร้าที่หาเลี้ยงตัวเองมาโดยตลอด และก็คงจะหาเลี้ยงตัวเองเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ ถ้าเขาไม่ได้ประสบอุบัติเหตุรถชนเข้าเสียก่อน… แต่เฮ้ย! เขาไม่เป็นอะไรเลยนี่ ไม่เจ็บ ไม่ปวด และไม่ตาย แถมวิญญาณไม่ได้หลุดออกจากร่างด้วย! จะมีก็แต่สัญลักษณ์รูปต้นไม้ที่จู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นมาบนฝ่ามือและพลังพิเศษในตัวที่ตื่นขึ้นมาเท่านั้น! ทว่าเขาไม่ได้เป็นเพียงคนเดียวที่ได้รับพลังพิเศษนี้มา เพราะคนอื่นๆ เองก็เริ่มกลายเป็นผู้มีพลังแล้วเหมือนกัน นี่มันเรื่องบ้าอะไร เกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้กันแน่ นี่เรากำลังจะก้าวเข้าสู่ยุคของผู้มีพลังพิเศษกันแล้วงั้นเหรอ หลี่ว์ซู่ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย ว่าแต่พลังที่ได้มานี่มันฝึกยังไงกันล่ะ เอ๊ะ ต้องสะสมแต้มอารมณ์ด้านลบงั้นเหรอ แค่กวนโมโหคนอื่นก็เพิ่มพลังได้แล้วงั้นเหรอ แบบนี้ก็เข้าทางหลี่ว์ซู่สุดๆ ไปเลยน่ะสิ!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset