ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ – ตอนที่ 696 คอรัลเป็นที่ชาร์จแบตสำรอง

หลายๆ คนยังคงจับตาดูรถไฟที่แล่นไปข้างหน้านี้อย่างใกล้ชิด พวกคนเหล่านี้มีจำนวนนับไม่ถ้วนกำลังรอให้รถไฟไปถึงโอริสตาโนก่อนจะทำให้พื้นเปรอะเป็นสีแดงฉานและส่งวิญญาณใครบางคนไปสวรรค์เร็วๆ นี้  

 

 

ปกติแล้วที่สถานีโอริสตาโนจะไม่ค่อยมีผู้คนเท่าไหร่นัก แต่ตอนนี้กลับมีคนของแก่นความเชื่อที่อยู่ในเสื้อคลุมสีขาวกว่าร้อยยืนอยู่ สีหน้าของแต่ละคนน่ากลัวมากและพวกเขาก็รอโอกาสที่จะฆ่า  

 

 

กลุ่มแก่นความเชื่อเป็นกลุ่มใหญ่ที่สุดในยุโรป แต่เนื่องจากพวกเขาไม่มีสมาชิกองค์กรมากเท่าไหร่ ความสามารถของสมาชิกระดับกลางและระดับล่างจึงไม่แข็งแกร่งเท่าสมาชิกของเครือข่ายฟ้าดิน  

 

 

ดูเหมือนว่าตอนนี้พวกกลุ่มแก่นความเชื่อทั้งองค์กรจะมารวมตัวกันที่นี่ ระดับ B สองคนมารออยู่ที่นี่แล้ว พร้อมกับระดับ C อีกนับไม่ถ้วน โดยมีระดับ D เสริมอยู่ข้างหลัง  

 

 

เหมือนว่าหลี่ว์ซู่และคอรัลจะไม่รู้เรื่องอันตรายที่รอพวกเขาอยู่เลยสักนิด มีผู้ชายในรถไฟเล่นกีตาร์และร้องเพลงให้ผู้โดยสารฟัง คอรัลเริ่มรู้สึกเพลียและซบไหล่หลี่ว์ซู่ก่อนที่จะงีบหลับไปอย่างช้าๆ  

 

 

ผมสีเงินประกายทองของเธอคลุมร่างหลี่ว์ซู่ไปครึ่งตัว หลี่ว์ซู่มองพายุที่โหมกระหน่ำอยู่ข้างนอกอย่างเงียบๆ  

 

 

เขาถอนหายใจออกมาเมื่อคอรัลเอนตัวมาหาเขา โชคชะตาเป็นเรื่องที่ลึกลับเสียจริงๆ หลี่ว์ซู่ปิดตาตัวเองและตัดสินขอพักสักครู่ก่อนที่จะต้องออกไปเผชิญกับห่าฝนข้างนอก  

 

 

รถไฟนี้เหมือนเป็นโลกในอุดมคติที่แยกออกมาจากโลกแห่งความชั่วร้าย หลี่ว์ซู่และคอรัลได้มีช่วงเวลาที่แสนสงบสุขที่นี่  

 

 

แต่ในตอนนี้มีหลายๆ คนเข้ามาถึงรถไฟขบวนที่หลี่ว์ซู่และคอรัลอยู่แล้ว  

 

 

พวกคนเหล่านั้นมาจากข้างหน้าและข้างหลังขบวนรถไฟที่หลี่ว์ซู่และคนอื่นๆ อยู่ พวกเขาตีหน้าเข้ม บางคนติดตามพวกเขาตั้งแต่วินาทีที่พวกเขาขึ้นรถไฟมาแล้ว ในขณะที่คนอื่นๆ ไล่ตามรถไฟและกระโดดขึ้นตามมา แต่วัตถุประสงค์ของพวกเขาคือการฆ่าหรือพยายามที่จะฆ่าเท่านั้น  

 

 

แต่ก่อนที่พวกเขาเหล่านั้นจะเข้ามาใกล้ ก็ได้เห็นว่ามีด้ายสีเทาลอยอยู่ข้างหน้าพวกเขา หลี่ว์ซู่ลืมตาและมองพวกเขาอย่างเย็นชา สายตาของเขาทำให้ทุกคนรู้สึกราวกับว่าพวกเขาตกอยู่ในห้วงเหวลึก  

 

 

สีหน้าที่เย็นชาของหลี่ว์ซู่ทำให้พวกคนเหล่านั้นวิตกกังวล เส้นด้ายสีเทาเป็นเหมือนคำสาปที่ติดตามพวกเขาอย่างใกล้ชิดและจะนำพวกเขาไปสู่ความตาย แต่หลี่ว์ซู่ไม่เคลื่อนไหวอะไร เขาแค่อยากให้ขบวนรถไฟนี้ทั้งเงียบและสะอาดกว่านี้  

 

 

การสังหารหมู่กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว  

 

 

เขาอยากให้คอรัลได้หลับสบายและนั่นป็นเรื่องสำคัญกว่าการฆ่าคน พวกคนเหล่าที่เร่งเข้ามาหานั้นโดนกันออกไปอย่างช้าๆ ด้วยกระบี่เฉวียอิน ทั้งขบวนรถไฟนี้เคยเป็นโลกในอุดมคติ แต่ตอนนี้กลายเป็นว่าหลี่ว์ซู่ปกป้องได้แค่ตู้โดยสารที่พวกเขาอยู่เท่านั้น  

 

 

ผู้โดยสารคนอื่นๆ ในรถไฟก็รู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ พวกเขาเห็นพวกนักฆ่าที่ปรี่เข้ามาแต่ก็ถอยกลับไปอย่างช้าๆ พวกเขาเห็นกระบี่เฉวียอินลอยอยู่ในตู้โดยสารนี้เหมือนกัน  

 

 

พวกเขามองดูว่าพวกนักฆ่ามองไปทางไหน และก็เห็นว่าพวกเขามองไปที่คู่รักคู่นั้นที่เพิ่งฉลองไปนี่เอง ก่อนหน้านี้ไม่นานพวกเขายังมีความสุขด้วยกันอยู่เลย พวกเขาไม่คิดว่าคู่รักคู่นี้จะต้องมาเจอศัตรูมากขนาดนี้  

 

 

หญิงชราคนหนึ่งลุกยืนขึ้นและค่อยๆ เดินไปทางหลี่ว์ซู่อยู่แล้วพูดเป็นภาษาอังกฤษว่า “ลูกชายฉันอยู่คาร์เทล เดี๋ยวฉันจะโทรหาเขาเดี๋ยวนี้แหละ ไม่ต้องเป็นห่วงนะ ไม่มีใครมาทำร้ายพวกเธอในซาร์ดิเนียได้หรอก”  

 

 

“ไม่กลัวเหรอครับว่าผมอาจจะเป็นคนร้ายก็ได้” หลี่ว์ซู่ยิ้มตอบ  

 

 

“ไม่มีทาง! เด็กผู้หญิงดีๆ แบบนี้ไม่มีทางไปตกหลุมรักคนไม่ดีได้หรอก!” หญิงชราคนนั้นโบกมือ หลี่ว์ซู่เงียบไปพักหนึ่งก่อนจะยิ้มตอบว่า  

 

 

“ขอบคุณครับ แต่ไม่ต้องเอาพวกคาร์เทลมาเกี่ยวข้องกับการสังหารครั้งนี้ด้วยหรอกครับ พวกคาร์เทลน่ะเป็นคนดี อีกอย่างคนพวกนี้ฆ่าผมไม่ได้หรอก”  

 

 

พวกนักฆ่าที่อยู่ข้างนอกตู้โยสารจ้องมาที่หลี่ว์ซู่ แต่แล้วพวกเขาก็รู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองจะขาดอากาศหายใจตายเมื่อได้ยินสิ่งที่หลี่ว์ซู่พูด  

 

 

ไม่มีใครที่จะรู้สึกมั่นใจและแผ่รังสีแบบที่หลี่ว์ซู่มีได้อีกแล้ว  

 

 

หลี่ว์ซู่ไม่รู้ว่าเขาเป็นคนดีหรือเปล่า เพราะมือของเขาเปื้อนเลือดคนมามากแล้ว เขาฆ่าคนไปมากกว่าพวกผู้คนที่ยืนอยู่ตรงนี้เสียอีก  

 

 

และรถไฟขบวนนี้กำลังจะพาทุกคนไปนรก!  

 

 

คอรัลตื่นขึ้นมาจากการงีบหลับอย่างช้าๆ และทันใดนั้นก็มีสายฟ้าฟาดลงมา หลี่ว์ซู่คิดอะไรบางอย่างออกแล้วก็พูดกับคอรัล “ช็อตไฟใส่ฉันเร็ว!”  

 

 

คอรัลพูดไม่ออก ทำไมเธอถึงโดนขออะไรแปลกๆ แบบนี้ตอนที่เธอเพิ่งตื่นด้วยนะ แต่ไม่ต้องพูดให้มากความเธอก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา  

 

 

หลี่ว์ซู่คิดเรื่องนี้ออกตอนเขาโดนฟ้าผ่าโดยธรรมชาติ เขาสอดมือไปในเต้ารับบนผนัง แต่สายฟ้าของคอรัลนี่นดูจะแตกต่างออกไป ความแข็งแกร่งของเธอมาจากสายเลือดที่สืบตรงมาจากทวยเทพ มันจะเหมือนกับสายฟ้าที่เขาโดนผ่าตอนถูกสวรรค์ลงโทษตอนนั้นไหมนะ  

 

 

สุดท้ายแล้วเขาก็รู้ว่าสายฟ้าของคอรัลนั้นแข็งแกร่งกว่าสายฟ้าของผู้มีพลังสายฟ้าทั่วไปในระหว่างการต่อสู้กับทาคาชิมะ ทาอิรัตสึ  

 

 

หลี่ว์ซู่มีกระบี่ต้นแบบอยู่แปดร้อยเล่ม และมีกระบี่แสงสายฟ้าอยู่สามร้อยเล่มเท่านั้น ตอนนี้จำนวนกระบี่แสงสายฟ้ายังไม่เปลี่ยนแปลง หลี่ว์ซู่เริ่มจะรู้สึกเหมือนเข้าตาจนเสียแล้ว  

 

 

“อยากจะให้ฉันช็อตไฟฟ้านายจริงๆ เหรอ” คอรัลมองไปที่ผู้โดยสารคนอื่นๆ และถามเสียงเบา  

 

 

“ใช่” หลี่ว์ซู่ตอบด้วยสีหน้าจริงจัง ทันใดนั้นก็มีสายฟ้าสีขาวปรากฏที่ปลายนิ้วของคอรัล เธอแตะหลี่ว์ซู่เบาๆ ด้วยนิ้วนั้น  

 

 

“โอ๊ย!” หลี่ว์ซู่สั่นไปทั้งตัว  

 

 

หญิงชราคนนั้นงง  

 

 

ผู้ชายที่เล่นกีตาร์เมื่อกี้ก็งง  

 

 

รวมถึงพวกนักฆ่าข้างนอกตู้โดยสารด้วยเหมือนกัน  

 

 

ทุกคนอึ้งตามๆ กันไปหมด ไม่มีใครเข้าใจว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น พวกเขามีศัตรูมากมายบนรถไฟรออยู่แต่ก็ยังมีอารมณ์มาเล่นอะไรแบบนี้อีกเหรอ บ้ากันไปแล้วเหรอเนี่ย!  

 

 

ถ้าคิดกันตามเหตุผลแล้วหลี่ว์ซู่คงจะไม่โดนไฟดูดจากสายฟ้าเล็กๆ นี้หรอก ถ้าเป็นการต่อสู้แบบธรรมดาแล้วเขาก็ปกป้องตัวเองจากสายฟ้าได้โดยสวมม่านเกราะประกายดาวหรือจะเป็นสิ่งของอื่นๆ แต่ตอนนี้เขาอ่อนแอมาก  

 

 

สายฟ้านั้นเข้ามาสู้ร่างกายของเขาและเกือบจะจมลงไปในทะเลชี่ไห่เสวี่ยซาน สายฟ้าเคลื่อนตัวออกไปนอกทะเลชี่ไห่เสวี่ยซานและไม่สามารถเข้าไปใกล้จุดนั้นได้ สุดท้ายแล้วมันก็สลายไป  

 

 

ถึงแม้ว่าครั้งนี้จะยังไม่สำเร็จ หลี่ว์ซู่ก็รู้ว่ามันเคยเกิดขึ้นมาก่อน เมื่อเขาเห็นว่าสายฟ้าเคลื่อนตัวออกไปจากจุดทะเลชี่ไห่เสวี่ยซานเขาก็รู้วิธีที่ถูกต้องแล้ว!  

 

 

“มานี่ มา” หลี่ว์ซู่เห็นสีหน้าแปลกๆ ของคนอื่นๆ เลยดึงคอรัลเข้าไปในห้องน้ำด้วยกัน คอรัลที่อยู่ข้างหลังเขากำลังเขินอายอย่างมาก ทำไมเธอรู้สึกว่าจะมีบางอย่างแปลกๆ เกิดขึ้นล่ะ…  

 

 

พวกนักฆ่ามองมาทางพวกเขาผ่านกระบี่เฉวียอินที่ลอยอยู่ในอากาศโดยที่ไม่ได้ขยับเขยื้อนไปไหน นี่มันเกินไปแล้วนะ! เอาเธอเข้าห้องน้ำไปด้วยตอนที่ทุกคนมองอยู่เนี่ยนะ ไอ้ลามกเอ๊ย!  

 

 

ในห้องน้ำนั้นทั้งเล็กและแคบ คอรัลพูดออกไปด้วยความลังเล “จะให้ทำอะไรก็ได้นะ แต่ว่าเราออกไปทำกันที่ปกติได้ไหม ฉันน่ะ…”  

 

 

“ช็อตไฟฟ้าใส่ฉันแบบเต็มที่เลย!” หลี่ว์ซู่พูดขัดคอรัล  

 

 

คอรัลพูดไม่ออก  

 

 

เธอไม่คิดว่าจะมาเจอคำขออะไรแบบนี้ เธอไม่รู้จะรู้สึกยังไง!  

 

 

ทั้งขบวนรถไฟข้างนอกเงียบไปหมดและรอฟังว่าจะเกิดอะไรขึ้นข้างใน พวกเขาได้ยินหลี่ว์ซู่ตะโกน โอ๊ย! แล้วก็เห็นว่ามีไฟฟ้าสว่างวาบออกมาจากช่องเล็กๆ จากประตู….  

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

หลี่ว์ซู่ เป็นเด็กกำพร้าที่หาเลี้ยงตัวเองมาโดยตลอด และก็คงจะหาเลี้ยงตัวเองเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ ถ้าเขาไม่ได้ประสบอุบัติเหตุรถชนเข้าเสียก่อน… แต่เฮ้ย! เขาไม่เป็นอะไรเลยนี่ ไม่เจ็บ ไม่ปวด และไม่ตาย แถมวิญญาณไม่ได้หลุดออกจากร่างด้วย! จะมีก็แต่สัญลักษณ์รูปต้นไม้ที่จู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นมาบนฝ่ามือและพลังพิเศษในตัวที่ตื่นขึ้นมาเท่านั้น! ทว่าเขาไม่ได้เป็นเพียงคนเดียวที่ได้รับพลังพิเศษนี้มา เพราะคนอื่นๆ เองก็เริ่มกลายเป็นผู้มีพลังแล้วเหมือนกัน นี่มันเรื่องบ้าอะไร เกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้กันแน่ นี่เรากำลังจะก้าวเข้าสู่ยุคของผู้มีพลังพิเศษกันแล้วงั้นเหรอ หลี่ว์ซู่ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย ว่าแต่พลังที่ได้มานี่มันฝึกยังไงกันล่ะ เอ๊ะ ต้องสะสมแต้มอารมณ์ด้านลบงั้นเหรอ แค่กวนโมโหคนอื่นก็เพิ่มพลังได้แล้วงั้นเหรอ แบบนี้ก็เข้าทางหลี่ว์ซู่สุดๆ ไปเลยน่ะสิ!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset