ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ – ตอนที่ 746 กัดกินแท่นมังกร

คราวนี้ ฮุ่นตุ้นไม่ได้เอาเข้าปากเคี้ยวแบบครั้งก่อนๆ แต่นั่งเฝ้ามองอยู่บนเพดานถ้ำ หลี่ว์ซู่เห็นว่าเจ้าปีศาจตนนี้ พอมีของกินก็ตื่น พอไม่มีก็นอนแล้วยังรู้ว่าถ้าสู้ไม่ได้ก็ไม่ฝืนสู้

 

 

เนี่ยถิงฟาดดาบลงไปที่แท่นมังกร ทว่าทุกคนกลับคาดไม่ถึงว่ามันจะไม่สร้างความเสียหายกับแท่นมังกรแม้แต่น้อย!

 

 

ถัดมา เนี่ยถิงยกดาบบินขึ้นสู่ท้องฟ้า อ๋าวเสี่ยนที่นั่งขัดสมาธิอยู่บนแท่นมังกรกลายร่างเป็นมังกรในทันที มังกรสีเขียวลำตัวยาวเกือบร้อยเมตรพุ่งทะยานขึ้นลอยอยู่กลางถ้ำ ใช้กรงเล็บตะปบทำลายดาบของเนี่ยถิงลง

 

 

แค่ว่าการโจมตีครั้งนี้ก็ทำให้อ๋าวเสี่ยนเจ็บปวดไม่น้อย เกล็ดบนกรงเล็บมังกรฉีกหลุดออกจากกัน!

 

 

แรงสั่นสะเทือนส่งออกไปถึงนอกหุบเขามรณะคุนหลุน ทุกคนในฐานสำรวจต่างเดินออกจากห้องประชุมเคลื่อนที่และจ้องมองไปยังทิศทางของหุบเขามรณะ หิมะที่ปกคลุมบนภูเขาคุนหลุนก็เริ่มทลายลงมาและในไม่ช้าก็กลายเป็นหิมะถล่มครั้งใหม่และรุนแรงมาก!

 

 

“เกิดอะไรขึ้น” จางเหยียนเฟิงถามด้วยความงุนงง ในช่วงขณะหนึ่งเขาก็นึกอิจฉาผู้บำเพ็ญเหล่านี้จริงๆ แค่ยกเท้ากระทืบก็มีพลังที่สะเทือนโลกได้ขนาดนี้ มันเป็นเรื่องที่มีแต่ในตำนานเท่านั้น

 

 

ทันใดนั้นมีเสียงคำรามดังมาจากหุบเขามรณะ คนธรรมดาคนอื่นๆ อย่างหวังเยี่ยนต่างรู้สึกตื่นตระหนกขึ้นบ้าง: “ที่นั่นมีสัตว์ประหลาดน่ากลัวแบบนั้นอยู่ พวกเรากลับเข้าเมืองก่อนดีไหม ไม่ต้องรอพวกเขาที่นี่หรอก”

 

 

เฉิงชิวเฉี่ยวไม่พอใจ “ป้า พวกเราอยู่ปกป้องพวกคุณที่นี่ เพื่อนพวกเรายังอยู่ที่นั่น พวกเราไม่ทิ้งพวกป้าแล้วไปช่วยก็ดีแค่ไหนแล้ว ช่วยเงียบก่อนได้ไหม”

 

 

ทุกคนได้เห็นดาบที่ฟันลงมาจากฟ้าเมื่อครู่ ถ้าว่าตามความคิดของเฉิงชิวเฉี่ยว ราชันฟ้าเนี่ยเและหลี่ว์ซู่ยังอยู่ในหุบเขามรณะก็ไม่มีอะไรน่าห่วง…

 

 

ในตอนแรกหวังเยี่ยนรู้สึกว่าเฉิงชิวเฉี่ยวคนนี้เป็นคนค่อนข้างซื่อสัตย์และมันก็เป็นเรื่องจริง เฉิงชิวเฉี่ยวเป็นคนพูดจาตรงไปตรงมากับเพื่อนๆ มาตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเฉินจู่อาน ถึงแม้ว่าเฉินจู่อานบางครั้งก็รับไม่ค่อยได้ก็ตาม…

 

 

แต่คนซื่อก็มีอารมณ์โกรธแบบคนซื่อเช่นกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเจอกับคนเห็นแก่ตัวอย่างหวังเยี่ยน

 

 

ทันใดนั้นบนยอดเขาหนึ่งของหุบเขาคุนหลุนเกิดรอยแตกจากบนยอดลามมาข้างล่าง รอยแตกลุกลามอย่างรวดเร็วราวกับเหวที่น่ากลัว

 

 

เฉิงอิ่งปลดผนึกหุบเขามรณะทั้งหมด ตัวภูเขาเองเมื่อเจอการต่อสู้ระหว่างปรมาจารย์ระดับ A ก็ดูน่าเป็นห่วง ราวกับจะพังทลายได้ทุกเมื่อ แม้แต่อากาศก็ยังเกิดบิดเบี้ยวขึ้นบ้าง และมองจากไกลๆ ก็เหมือนกระจกที่ผิดรูปจำนวนมาก

 

 

“เอ๊ะ นั้นใครน่ะ! ” จางเยี่ยนเฟิงเงยหน้าขึ้นและเห็นว่ามีคนสองคนลอยอยู่เหนือหุบเขามรณะ

 

 

ทั้งสองคนสวมเสื้อคลุมสีดำเหมือนกันและมีหุ่นเชิดเหล็กตัวเหมือนกันลอยอยู่ข้างๆ

 

 

เฉาชิงฉือ หลี่ว์เสี่ยวอวี๋ เฉิงชิวเฉี่ยวต่างมีสีหน้าเคร่งขรึม “ปรมาจารย์หุ่นเชิด ทำไมพวกเขามาอยู่ที่นี่พร้อมกัน! “

 

 

ปรมาจารย์หุ่นเชิดทั้งสองสะบัดแขนเสื้อเบาๆ ก็มีหุ่นเชิดไม้หลายสิบตัวบินออกมาจากแขนเสื้อ แขนทั้งสองข้างของหุ่นเชิดตัวเล็กๆ พวกนั้นเชื่อมต่อด้วยไหมสีแดง

 

 

หุ่นเชิดไม้พวกนี้รวดเร็วมาก ในพริบตาก็เกิดเป็นตาข่ายสีแดงขนาดใหญ่คลุมไปทั่วท้องฟ้าพร้อมกับเสียงอื้ออึง แสงสีแดงก็เปล่งประกายไปตามเส้นไหม

 

 

ยอดเขาที่กำลังจะถล่มก็หยุดนิ่งลงราวกับว่าเป็นโลกใบเล็กที่ได้รับการปกป้อง

 

 

“พวกเขา …กำลังปกป้องโลกด้านนั้นเหรอ” เฉิงชิวเฉี่ยวตกใจ “พวกเขาไม่ใช่ตัวร้ายที่คิดทำลายโลกหรอกเหรอ ทำไมต้องปกป้องพื้นที่ตรงนั้นด้วย”

 

 

อย่างไรก็ตาม ทั้งหลี่ว์เสี่ยวอวี๋และเฉาชิงฉือกลับไม่ได้พูดมากแบบเฉินจู่อาน ทั้งสองไม่ได้พูดตอบไป

 

 

หลี่ว์เสี่ยวอวี๋มองปรมาจารย์หุ่นเชิดเงียบๆ และด้วยเหตุผลบางอย่าง เธอมักจะรู้สึกว่าอีกฝ่ายกำลังยิ้มให้ตัวเอง

 

 

ในถ้ำ หลี่ว์ซู่ ไม่ได้เข้าร่วมการต่อสู้ระหว่างเนี่ยถิงและอ๋าวเสี่ยน ส่วนเนี่ยถิงยังยืนนิ่งมั่นคงราวกับภูเขาในเสื้อคลุมสีดำ ไม่มีทีท่าว่าเสียเปรียบให้กับมังกรห้าเล็บตัวนี้

 

 

“เนี่ยถิงใกล้จะปะทุพลังแล้ว เขาติดช่วงคอขวดอยู่ตั้งนาน” ไห่กงจื่อเฝ้ามองอยู่ข้างล่างเงียบๆ “มิน่าถึงอาสามาสู้ด้วยตัวเอง เขาอยากหาโอกาสที่จะปะทุพลังจากการต่อสู้ ดูท่าศัตรูที่เขาเคยเจอมาในอดีต…คงจะอ่อนแอไปสำหรับเขา แต่การต่อสู้ครั้งนี้ก็ยังไม่พอเพราะอ๋าวเสี่ยนก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาเหมือนกัน”

 

 

หลี่ว์ซู่ถึงกับตกใจ ที่แท้เนี่ยถิงเดินทางไกลมาถึงภูเขาคุนหลุนก็เพื่อหาคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งกว่า เขาช่างบ้าระห่ำจริงๆ!

 

 

“พัฒนาตัวเองไปเงียบๆ ไม่ได้เหรอ” หลี่ว์ซู่ถาม

 

 

“เจ้าจะรู้อะไร” ไห่กงจื่อมองเหยียดหลี่ว์ซู่ “ในบรรดาอาวุธทั้งสิบแปดอย่าง สั้นเก้าอย่าง ยาวเก้าอย่าง ดาบเป็นอาวุธที่พัฒนาได้ไม่สิ้นสุด ถ้าเขาไม่มีจิตใจแบบนี้เขาคงไม่มีทางก้าวมาถึงจุดนี้ได้ ชักดาบออกเพียงครั้งเดียว ภูเขาทั้งหมื่นลูกก็ไม่อาจขวางกั้น”

 

 

“ถ้าอย่างนั้น ผมถามหน้าด้านๆ เลยนะ วิชาดาบพัฒนาไร้ที่สิ้นสุดแล้ววิชากระบี่ล่ะ” หลี่ว์ซู่พูด

 

 

ไห่กงจื่อมองไปที่หลี่ว์ซู่ด้วยใบหน้านิ่งเฉย “ถ้าเจ้าเลิกทำตัวอย่างนี้แล้วถามดีๆ ข้าก็คงบอกเจ้าอยู่หรอก”

 

 

[ได้รับแต้มจากเอ๋าไห่ +800!]

 

 

ในตอนนั้นเอง ไห่กงจื่อเห็นหลี่ว์ซู่ไม่สนใจเขาแล้วก็กวักมือเรียกฮุ่นตุ้นที่ยืนดูอยู่ที่มุมหนึ่งบนเพดานถ้ำให้ค่อยเข้ามาใกล้แท่นมังกร

 

 

สำหรับหลี่ว์ซู่ที่มีประสบการณ์จากโบราณสถานหลัวปู้พัวมาแล้ว ถ้าคิดจะกำจัดอ๋าวเสี่ยนก็ไม่ใช่เรื่องยาก แค่ให้ฮุ่นตุ้นกินแท่นมังกรก็สิ้นเรื่องแล้ว!

 

 

อ๋าวเสี่ยนอาจไม่รู้ความสามารถของฮุ่นตุ้นยอดนักกิน ตอนนั้นหลายคนก็พ่ายแพ้เพราะธารน้ำศักดิ์สิทธิ์มาแล้ว พวกเขาคิดว่าอาวุธวิเศษและของวิเศษของตัวเองนั้นแข็งแกร่งและแหลมคม แต่เมื่อเจอธารน้ำศักดิ์สิทธิ์ก็แทบไม่มีพลังที่จะโต้กลับ

 

 

ฮุ่นตุ้นเห็นหลี่ว์ซู่กวักมือเรียกก็ดีอกดีใจ เหมือนเดินตามเจ้านายแล้วได้ของกิน!

 

 

ไห่กงจื่อและเฉินจู่อานต่างมองดูอย่างงงงวย การต่อสู้บนท้องฟ้าที่สะเทือนฟ้าสะเทือนดินแบบนั้น หลี่ว์ซู่และฮุ่นตุ้นกลับแอบย่องไปทางแท่นมังกร

 

 

“พี่ซู่คิดจะทำอะไรนะ”

 

 

อ๋าวเสี่ยนเห็นการกระทำของหลี่ว์ซู่และฮุ่นตุ้น แต่แท่นมังกรแข็งแรงไร้ที่เปรียบ ต่อให้สัตว์วิเศษธรรมดาก็ยังเทียบไม่ได้ แต่เจ้าคนคนนี้กับมังกรหนึ่งตัวคิดจะทำลายแท่นบูชานี้ เป็นเรื่องที่เหลวไหลสิ้นดี

 

 

กร้วม

 

 

ฮุ่นตุ้นกัดลงไปที่มุมหนึ่งของแท่นมังกรดังกร้วม…อร่อยจริงๆ!

 

 

[ได้รับแต้มจากอ๋าวเสี่ยน +999! “]

 

 

“หยุด! ” อ๋าวเสี่ยนตวาดเสียงดังด้วยความโกรธ เขาคาดไม่ถึงว่าฮุ่นตุ้นจะกัดแท่นบูชาได้ง่ายๆ แบบนี้!

 

 

ทันใดนั้น พลังของแท่นบูชาก็รั่วไหลออกมา และสิ่งนี้คือที่พึ่งเดียวในโลกนี้ที่อ๋าวเสี่ยนมีในตอนนี้!

 

 

พอหลี่ว์ซู่เห็นอ๋าวเสี่ยนแบบนั้นก็หันขวับแล้วร้องตะโกนว่า “รีบวิ่งเร็ว ตาแก่โมโหแล้วเดี๋ยวค่อยมากิน! “

 

 

กร้วม! ฮุ่นตุ้นเห็นอ๋าวเสี่ยนพุ่งมาทางแท่นบูชาก็รีบกัดลงไปอีกคำแล้วค่อยบินหนีไป

 

 

อ๋าวเสี่ยนเห็นแท่นมังกรที่เขานั่งมานานนับพันปีถูกกัดแหว่งไปสองมุมก็รู้สึกเจ็บใจเหลือประมาณ…

 

 

[ได้รับแต้มจากอ๋าวเสี่ยน +999!]

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

หลี่ว์ซู่ เป็นเด็กกำพร้าที่หาเลี้ยงตัวเองมาโดยตลอด และก็คงจะหาเลี้ยงตัวเองเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ ถ้าเขาไม่ได้ประสบอุบัติเหตุรถชนเข้าเสียก่อน… แต่เฮ้ย! เขาไม่เป็นอะไรเลยนี่ ไม่เจ็บ ไม่ปวด และไม่ตาย แถมวิญญาณไม่ได้หลุดออกจากร่างด้วย! จะมีก็แต่สัญลักษณ์รูปต้นไม้ที่จู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นมาบนฝ่ามือและพลังพิเศษในตัวที่ตื่นขึ้นมาเท่านั้น! ทว่าเขาไม่ได้เป็นเพียงคนเดียวที่ได้รับพลังพิเศษนี้มา เพราะคนอื่นๆ เองก็เริ่มกลายเป็นผู้มีพลังแล้วเหมือนกัน นี่มันเรื่องบ้าอะไร เกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้กันแน่ นี่เรากำลังจะก้าวเข้าสู่ยุคของผู้มีพลังพิเศษกันแล้วงั้นเหรอ หลี่ว์ซู่ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย ว่าแต่พลังที่ได้มานี่มันฝึกยังไงกันล่ะ เอ๊ะ ต้องสะสมแต้มอารมณ์ด้านลบงั้นเหรอ แค่กวนโมโหคนอื่นก็เพิ่มพลังได้แล้วงั้นเหรอ แบบนี้ก็เข้าทางหลี่ว์ซู่สุดๆ ไปเลยน่ะสิ!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset