ตามตำนาน เสียงร้องของมังกรสามารถดังก้องไปทั่วทุกภพ แม้เสียงร้องของมังกรจะดังจากห้วงลึกอันมืดสนิทก็ทำให้เทพเจ้าสั่นสะท้านได้…
เช่นนั้นแล้ว ทำไมเทพเจ้าต้องสั่นสะท้านเมื่อได้ยินเสียงหงิงๆๆ
ตอนนี้หลี่ว์ซู่อึ้งไปเลย นี่คือเสียงร้องของมังกรในตำนานเหรอ! เสียงร้องของมังกรมันควรจะเป็นเสียงคำรามแล้วก็มีเสียงทิ้งท้ายยาวๆ ประมาณนั้นสิ มันควรเป็นเสียงดังไพเราะแต่มีอาฟเตอร์ช็อกที่อาจทำให้คนเลือดออกจากทวารทั้งเจ็ดได้ไม่ใช่เหรอ!
เสียงหงิงๆๆ ก็น่าฟังอยู่หรอกนะ แต่ดูไม่น่าเกรงขามเอาเสียเลย!
ฮุ่นตุ้นเหมือนจะสังเกตเห็นว่าหลี่ว์ซู่กำลังตกอยู่ในภวังค์ระหว่างความฝันและความจริง สาเหตุก็เหมือนมาจากเสียงของตนเองที่ดูไม่ค่อยน่าเกรงขามซักเท่าไหร่ ดังนั้นฮุ่นตุ้นจึงรวบรวมกำลังอีกครั้งและ “หงิงๆๆ! “
หลี่ว์ซู่ยื่นมือขึ้นแตะหน้าฮุ่นตุ้นและตบเบาๆ “เอาเถอะๆ ตามนี้แหละ ฉันปวดหัวแล้ว”
เมื่อครู่หลี่ว์ซู่รู้ว่าเขาเชื่อมจิตกับฮุ่นตุ้นได้ดังนั้นถ้าอีกฝ่ายจะไม่ร้องหงิงๆ อีกเขาก็พอเข้าใจจิตใจของอีกฝ่ายได้ เพราะตอนนี้ฮุ่นตุ้นรู้สึกอายอยู่บ้าง หลี่ว์ซู่เลยปลอบใจว่า “ที่จริง ร้องหงิงๆๆ ก็ไม่เป็นไร แกไม่ต้องใส่ใจนะ”
เฉินจู่อานที่อยู่ข้างๆ หัวเราะเป็นบ้าเป็นหลัง “พี่ซู่เอาจริงใช่ไหม เลี้ยงมาตั้งนานกลับเป็นปีศาจหงิงๆ เหรอ ดูท่าจะอ่อนแอน่าดู…”
พรวด!
ฮุ่นตุ้นไม่ค่อยชอบใจเฉินจู่อานจึงพ่นน้ำลายใส่เขา…
เฉินจู่อานเช็ดน้ำลายมังกรปีศาจออกจากหน้า “ร้ายกาจนะพี่ซู่ ต้องพูดยังไงนะ ถ้ามีคนมาพ่นน้ำใส่หน้าด้านซ้ายก็ให้พ่นใส่หน้าด้านขวาด้วย…มังกรของพี่นี่ไม่ต้องเลย พ่นทีเดียวเล่นเต็มหน้าเลย… “
[ได้รับแต้มจากเฉินจู่อาน +666!]
ตอนนี้รูปร่างของฮุ่นตุ้นยาวเกินกว่าสิบเมตรไปแล้ว น่าจะยาวห้าสิบเมตรกว่าๆ การกัดกินแท่นมังกรครั้งนี้เป็นโอกาสที่ดีของมันมากจริงๆ ไม่อย่างนั้นไม่มีทางเลื่อนระดับมาที่ระดับ A ได้ง่ายขนาดนี้หรอก ด้วยขนาดที่ใหญ่โต พ่นน้ำนิดหน่อยก็ได้ปริมาณมากแล้ว เฉินจู่อานรู้สึกว่าเมื่อครู่เขาเหมือนโดนกระสุนปืนใหญ่ยิงใส่มากกว่า…
หลี่ว์ซู่รู้สึกว่าตอนนี้เขามีบุคคลระดับ A คอยติดตามตลอดเวลา ถ้าหากเขามีตัวช่วยแบบนี้ที่ซาร์ดิเนียล่ะก็…
พอนึกถึงซาร์ดิเนีย หลี่ว์ซู่ก็รู้สึกเจ็บลึกๆ ในใจ
เนี่ยถิงมองดูฮุ่นตุ้นอย่างสงบ “มันมีพลังอะไร”
หลี่ว์ซู่นิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ จริงสิ เขายังไม่ทันได้ถามเลยว่าฮุ่นตุ้นมีพลังอะไร
ฮุ่นตุ้น “หงิงๆๆ! “
“อืมๆ ฉันรู้ว่าแกพ่นน้ำได้แล้วยังเป็นอย่างอื่นอีกไหม” หลี่ว์ซู่ถาม
“หงิงๆๆ! “
“นอกจากทำฝนตกเป็น อย่างอื่นมีอีกไหม”
“หงิงๆๆๆ …”
“ไม่มีแล้วเหรอ… ” หลี่ว์ซู่อึ้งไป
บทสนทนานี้ทำเอาคนรอบข้างต่างอึ้งไปตามกัน เฉินจู่อานตกใจพูดว่า “พี่ซู่เข้าใจที่มันพูดจริงๆ หรือแสร้งทำ อย่าเนียนว่าเข้าใจนะ… “
หลี่ว์ซู่หันหน้านิ่งๆ ไปมองฮุ่นตุ้นแล้วพูดว่า “หงิงๆๆ! “
เฉินจู่อาน “??? “
“พรวด! ” ฮุ่นตุ้นหน้ามาพ่นน้ำใส่เฉินจู่อาน
เฉินจู่อานเช็ดน้ำลายอีกครั้งและพูดด้วยน้ำเสียงว่า “พี่ซู่ ฉันยอมละ”
[ได้รับแต้มจาก เฉินจู่อาน, +877!]
พูดตามตรง หลี่ว์ซู่ยังรู้สึกเสียใจอยู่บ้าง ทำไมฮุ่นตุ้นของเขาถึงได้กลายเป็นแบบนี้ สัตว์เลี้ยงของเขายังมีอาวุธ ยังมีอะไรพอพึ่งได้บ้างไหม
เอ๊ะ ไม่ถูกซิ หลี่ว์ซู่นิ่งไปครู่หนึ่ง
เหมือนเป็นการยืนยันความคิดของหลี่ว์ซู่ ไห่กงจื่อมองฮุ่นตุ้นและพูดปลอบใจว่า “ยังไม่ต้องพูดถึงว่าวันหลังถ้ามันเรียนรู้ภาษามังกรจากอ๋าวเสี่ยนจะร้ายกาจขนาดไหน เอาตอนนี้ความร้ายกาจของมันไม่ใช่พลังการสังหารแต่เป็นพลังในการกัดกินทุกสิ่งของมัน”
นี่คือสิ่งที่หลี่ว์ซู่คิดพอดี พลังดาบของเนี่ยถิงเมื่อครู่ยังทำลายแท่นมังกรนั่นไม่ได้ซักนิด แต่ฮุ่นตุ้นกลับกัดกินจนไม่เหลือซาก สิ่งนี้คือพลังที่แท้จริงของธารน้ำศักดิ์สิทธิ์ประกายทองและหมอกดำฮุ่นตุ้นไม่ใช่เหรอ
หลี่ว์ซู่ได้ยินก็ดีใจเหมือนกับว่าที่ฮุ่นตุ้นกลายเป็นมังกรเบี่ยงเบนความสนใจของเขาไปทางอื่น ไปหวังว่ามันจะพ่นไฟพ่นน้ำได้ หวังว่ามันจะพูดภาษามังกร บังคับสิ่งต่างๆ แต่กลับทำได้แค่พ่นน้ำจนเขาผิดหวัง
แต่ตอนนี้กลับมาคิดดูแล้ว ในโลกนี้จะมีสิ่งที่แข็งแกร่งกว่าแท่นมังกรซักกี่อย่าง ขีดจำกัดของฮุ่นตุ้นไม่น่ามีเพียงเท่านี้ หลี่ว์ซู่ยังหวังว่าวันหน้าฮุ่นตุ้นจะกินอาวุธวิเศษของคนอื่นได้
ในตอนแรก หลี่ว์ซู่สะสมตรีศูลเอาไว้มากมาย ตอนนี้กลายมาเป็นของกินเล่นของฮุ่นตุ้นแทน ลองนึกภาพดูว่าฮุ่นตุ้นที่มีความยาวมากกว่าห้าสิบเมตรถือตรีศูลและกินมันเหมือนกับเคี้ยวช็อกโกแลตแท่ง
หลี่ว์ซู่มองดวงตาดวงใหญ่ของฮุ่นตุ้นแล้วยิ้ม “ฮุ่นตุ้นเด็กดี วันหลังแกจะมีประโยชน์อีกมากเลย”
มังกรบ้านเราเองจะต้องเลี้ยงดีๆ สำหรับหลี่ว์ซู่ คน สิ่งของและเรื่องต่างๆ ในโลกนี้มีอยู่สองอย่างคือของเขาเองและของคนอื่น แน่นอนว่าของบ้านตัวเองดูยังไงก็ถูกใจแต่ของคนอื่นก็แค่พยายามเอามาเป็นของตนเองเท่านั้น
ตรรกะนี้…ไม่มีมีปัญหาอะไรเนอะ
ฮุ่นตุ้นได้ยินที่หลี่ว์ซู่ชมก็ดีใจยกใหญ่ “หงิงๆๆ! “
เฉินจู่อานอยากจะพูดแต่พอคิดถึงภาพตัวเองเมื่อครู่ก็ไม่พูดอะไร…
“ผู้อาวุโส” เนี่ยถิงมองมาที่ไห่กงจื่อ “ข้าไปก่อนล่ะ”
ไห่กงจื่อก็ตอบกลับเนี่ยถิงว่า “อืม”
เนี่ยถิงลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า เม็ดฝนที่ตกลงมาจากท้องฟ้าก็เหมือนถูกแยกออกด้วยกระแสอากาศที่มองไม่เห็น แต่เขากลับพบว่าเสื้อคลุมดำของเขาถูกหลี่ว์ซู่คว้าเอาไว้ …
“สถานะผู้สังเกตการณ์คืออะไร ทำไมผมเป็นนักศึกษาไม่มีเกรด! ” หลี่ว์ซู่พูดด้วยใบหน้าเคร่งขรึม “เคลียร์เรื่องจบแล้วค่อยไป! “
[ได้รับแต้มจากเนี่ยถิง +199!]
“ปล่อยมือ ฉันเปลี่ยนให้นายแน่นอน” ใบหน้าของเนี่ยถิงดูเคร่งขรึมขึ้น
“ท่านพูดแล้วนะ” หลี่ว์ซู่ปล่อยมือ เนี่ยถิงก็บินจากไปด้วยสีหน้าเรียบเฉย ก่อนจากไปเขายังไปหาหลัวเป่ยในกองหิมะและถือจากไป
ฮ่า ฮ่า หลี่ว์ซู่เห็นเนี่ยถิงบินลับตาไปก็หัวเราะเยาะขึ้น เรื่องนี้ยังไม่จบ!
ตอนนี้พวกเขาทั้งสองคนแกล้งกันขำๆ ไปอย่างนั้น ครั้งนี้เขาถูกแกล้งให้วิ่งมาไกลขนาดนี้ ถึงเขารู้ว่าเรื่องนี้ต้องพาเฉิงอิ่ง แน่จริงเนี่ยถิงก็พูดตรงๆ สิ!
ยิ่งไปกว่านั้น ศูนย์การวิจัยสายพันธุ์ของวิทยาลัยผู้บำเพ็ญใหญ่ทั้งเจ็ดแห่ง มีที่ลั่วเสินที่เขาจับตัวอย่างแล้วยังเป็นการเก็บตัวอย่างให้วิทยาลัยอื่นอีกด้วย เรื่องนี้ไม่จบง่ายๆ แน่นอน!
อ๋าวเสี่ยนสลายหายไปแล้ว ไห่กงจื่อแยกกลับเข้าไปในกระบี่เฉิงอิ่งอย่างเงียบเหงา ฮุ่นตุ้นกลับเข้าไปในตราแผ่นดินและเริ่มกินตรีศูล กินไปซักพักแล้วก็นอนครู่หนึ่ง ทันในนั้นมันเห็นไม้อู่ถงก็รู้สึกสนใจ
หลี่ว์ซู่จึงรีบอธิบายให้มันฟังว่าสิ่งนี้ห้ามไปยุ่ง ถ้าอยากกินของอร่อยละก็จะลองชิมน้ำเต้าบิดคอดีไหม…
ตอนนั้นน้ำเต้าบิดคอก็อึดอัดแทบแย่ ทำไมถึงได้มีเจ้าของที่ใจร้ายแบบนี้อีก!
แต่ฮุ่นตุ้นไม่ได้กินน้ำเต้าบิดคอ หลี่ว์ซู่เองก็ประหลาดใจ ฮุ่นตุ้นไม่เคยเลือกกินอาหาร นอกเสียจาก…อาหารนี้จะมีอันตราย!
เมื่อครู่ที่ฮุ่นตุ้นสนใจแท่นมังกรแต่ก็กลัวอ๋าวเสี่ยนอยู่ไม่น้อย หรือว่าน้ำเต้าอันนี้ยังมีความลับอะไรซ่อนอยู่!
หลี่ว์ซู่รู้สึกว่าการคาดเดานี้ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพราะน้ำเต้านี้ก็เคยช่วยให้เขารอดพ้นภัยพิบัติมาแล้ว!