ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ – ตอนที่ 760 หลี่ว์เสี่ยวซู่

เมืองลั่วเฉิงตั้งอยู่ที่ละติจูด N34  °  37 ′ 9.01 ″  N และลองจิจูด E112  °  26 ′ 50.37 ″  E112  °  26 ′ 50.37 ″  หลี่ว์ซู่วางแผนว่าจะขยายเขตแดนไปให้มากหน่อย แต่ก็พบว่าเมืองลั่วเฉิงดันตั้งอยู่ใจกลางเมืองจีน ขยายไปทางไหนก็ไกลอยู่ดี…

 

 

แล้วจะทำอย่างไรดี จะขยายไปจนถึงต่างประเทศก็ไม่รู้ว่าต้องใช้เวลานานเท่าไหร่

 

 

แม้ว่าเนี่ยถิงจะเตือนว่าอย่าใช้ในทางที่ผิดแต่คำถามคือเขากำลังมองหาวิธีแก้ปัญหาการกลายพันธุ์อยู่ไม่ใช่เหรอ การคลำหาหนทางมันย่อมคดเคี้ยวบ้างและก็ต้องคลำหาไปเรื่อย ในขั้นตอนนี้มันก็อาจจะคลำผิดคลำถูกกันบ้าง

 

 

อย่าตื่นตกใจไป ปัญหาไม่ใหญ่!

 

 

หลี่ว์ซู่วิเคราะห์ว่าเป็นไปได้ไหมที่จะขยายพื้นที่ได้เร็วมากขึ้น เป็นแนวลึก เขาลองข้ามสะพานฟ้าของตราแผ่นดินขึ้นไปบนฟ้าอีกครั้ง หลี่ว์ซู่พยายามควบคุมการขยายเขตแดนอย่างแม่นยำและก็ทำได้จริง

 

 

เดิมทีเขตแดนของตราแผ่นดินไม่มีกฎตายตัว มันเป็นแผนที่อันหนึ่ง แล้วแผนที่ในตอนนี้เหมือนมีหนวดปลาหมึกกว้างประมาณสิบเมตรยืดขึ้นไปทางเหนือ…ดูแล้วแปลกประหลาดมากๆ …

 

 

ทำแบบนี้จะใช้พลังมากขึ้นเพราะเขาต้องการควบคุมการขยายของพื้นที่ซึ่งก็จะใช้พลังดวงดาวมากเช่นกัน

 

 

เขาพักจนถึงตอนเย็นจนพลังดวงดาวกลับมาเต็มเปี่ยมแล้วก็เริ่มขยายพื้นที่เส้นนั้นไปต่อ การขยายพื้นที่ครั้งนี้ในสภาพที่พลังจิตวิญญาณเต็มเปี่ยม เขาสามารถขยายพื้นที่ไปได้ถึงห้าสิบกว่ากิโลเมตร…

 

 

แต่ผลลัพธ์ก็ไม่ดีมากนัก ดูจากประสิทธิภาพแล้ว แบบเดิมที่เปิดพื้นที่ทีละแถบๆ จะดีกว่าแต่หลี่ว์ซู่ไม่สนใจ!

 

 

ในตอนนี้ หลี่ว์ซู่ใช้แรงจนเหงื่อไหลไคลย้อย วันนี้ยังเหนื่อยกว่าเมื่อวานซะอีกเหมือนกับพอฝืนกฎธรรมชาติแล้วต้องจ่ายค่าตอบแทนอย่างไงอย่างงั้น ครั้งก่อนที่ผลักเขตแดนทำไปไม่นานก็เสร็จ ครั้งนี้หลี่ว์ซู่มาดูเวลาอีกทีก็ยังตกใจที่ใช้เวลาไปหลายชั่วโมง

 

 

เฉินจู่อานและคนอื่นๆ สังเกตเห็นว่าหลี่ว์ซู่มาห้องแล็ปทุกวันแล้วอยู่ไม่นานก็กลับบ้านไป ไม่รู้ว่าเขากำลังทำอะไรอยู่

 

 

“พี่ซู่ เรื่องอาจารย์ของพวกเราล่ะเป็นไงบ้าง” เฉินจู่อานดึงแขนหลี่ว์ซู่ที่กำลังจะกลับบ้าน

 

 

“ไม่ต้องรีบๆ ” หลี่ว์ซู่โบกมือ “เรื่องนี้ปล่อยไปก่อน ฉันมีเรื่องที่สำคัญกว่านี้! “

 

 

พูดเสร็จ หลี่ว์ซู่ก็เดินจากไป …

 

 

เฉินจู่อานและเฉิงชิวเฉี่ยวมองหน้ากัน “พี่ซู่เป็นอะไร ทำไมดูฮึกเหิมขนาดนั้นเป็นโรคผีบ้ากำเริบเหรอ”

 

 

เฉิงชิวเฉี่ยวหันมาถามหลี่ว์เสี่ยวอวี๋ “พี่ซู่เป็นอะไรเหรอ”

 

 

หลี่ว์เสี่ยวอวี๋ ไม่ได้ตอบหลี่ว์ซู่ สองสามวันนี้หลี่ว์ซู่ทำตัวผิดปกติอมากๆ ไม่ต้องพูดถึงพวกเฉินจู่อานว่ารู้สึกแปลก ขนาดเสี่ยวอวี๋ก็ยังแปลกใจมากเช่นกัน หลี่ว์ซู่ตอนนี้ไม่แม้แต่จะร้องเพลงดวงดาวเลย …

 

 

“พี่ซู่คงไม่ได้ไปเจอเรื่องอะไรเข้านะ ไม่บอกพวกเราคงคิดจะเก็บเอาไว้คนเดียวละซิ” เฉิงชิวเฉี่ยวพูดซะเหมือนกับหลี่ว์ซู่เป็นคนที่ชอบเก็บซ่อนความแค้นและแบกรับความกดดันเอาไว้ จนตัวเขาเกือบจะร้องไห้เลย

 

 

เฉินจู่อานหัวเราะเยาะ “พี่ซู่เป็นคนแบบนั้นเหรอ”

 

 

“พวกเราตามไปดูกันเถอะ! พี่ซู่ดูน่าเป็นห่วงแบบนี้ พวกเราต้องรู้ให้ได้ว่าเขากำลังทำอะไรอยู่” เฉิงชิวเฉี่ยวพูด

 

 

ตอนนี้ หลี่ว์ซู่อยู่ในสภาพนี้มาเกือบสองสัปดาห์แล้ว มันดูผิดปกติมาก!

 

 

 

 

หลี่ว์ซู่กลับถึงบ้านก็เอาตราแผ่นดินออกมา ตอนนี้เขตแดนที่เขาผลักไปใกล้ถึงเป้าหมายของเขาแล้ว ที่จริงพื้นที่กว้างประมาณสิบเมตรกว่าก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเพราะแต่ละเมืองมีพื้นที่อีกนับไม่ถ้วนแต่เขามีแผนอย่างอื่นมากกว่า

 

 

เขาก้มมองกวาดสายไปของเขตแดนไปทั่วแค่ผลักไปอีกหน่อยก็เสร็จแล้ว ตอนนี้เหลืออีกห้าสิบกิโลเมตรสุดท้ายแล้ว!

 

 

พื้นที่สีเทาจากมุมบนที่มีเส้นสีรุ้งตัดผ่านขึ้นไปทางเหนือเรื่อยๆ เส้นทางที่เส้นนี้ผ่านจึงเป็นจากสีเทาเป็นสีสันต่างๆ

 

 

ตลอดเส้นทางผ่านทั้งภูเขาและแม่น้ำ หลี่ว์ซู่ พบว่าที่จริงขยายเขตแดนด้วยวิธีนี้ก็ไม่ใช่ไม่มีข้อดี นั่นก็คือเส้นทางที่เปิดออก หลี่ว์ซู่สามารถใช้สัญชาตญาณจิตหยั่งรู้ลงไปสังเกตพื้นที่บนพื้นราบ

 

 

พูดอีกนัยหนึ่งก็คือ เวลานี้พื้นที่นับหลายร้อยกิโลเมตรที่ตราแผ่นดินของหลี่ว์ซู่ครอบครองนั้น เพียงเขาใช้เพียงจิตเพียงช่วงขณะเดียวก็สามารถไปถึงได้

 

 

ความรู้สึกนี้ … เหมือนเล่นเกมเปิดแผนที่ หลี่ว์ซู่เหมือนได้เปิดพื้นที่มืดบนแผนที่ในสงครามไปทีละน้อยๆ

 

 

ทันใดนั้นแววตาของหลี่ว์ซู่ก็ลุกวาวขึ้นทันที เส้นเขตแดนนั้น … ในที่สุดก็มาถึงตรอกหลิวไห่ เมืองหลวง จากนั้นก็เข้าไปยังบ้านหลังที่เนี่ยถิงและสือเสวจิ้นตั้งอยู่

 

 

เฉินจู่อานและคนอื่นๆ เปิดประตูเข้ามา พวกเขากก็ได้ยินเสียงหัวเราะบ้าคลั่งของหลี่ว์ซู่ดังขึ้นมา “ฮ่าๆๆ ไม่คิดว่านายก็มีวันนี้

 

 

เฉินจู่อานและเฉิงชิวเฉี่ยวขนลุกซู่เลย มันเรื่องอะไรกัน พี่ซู่เป็นอะไรเหรอ ฉันบอกแล้วว่าเขาผีเข้าเห็นไหม ทำยังไงดีละทีนี้! “

 

 

หลี่ว์ซู่ถือเป็นพี่ใหญ่ที่พึ่งพาของเฉินจู่อานเลย เขาถูกพามาเรียนที่นี่ก็เพราะได้เขาช่วยแต่ทำไมยังไม่ทันไร พี่ใหญ่ก็มาบ้าเสียได้

 

 

พื้นที่ควบคุมของตราแผ่นดินกว้างที่สิบกว่าเมตรมันทำอะไรไม่ค่อยได้ ถ้าอยากจะหาอะไรบนภูเขาละก็ เทือกเขาเหล่านั้นก็กว้างใหญ่เป็นสิบเป็นร้อยกิโลเมตร พื้นที่แค่สิบกว่าเมตรจะไปหาอะไรได้

 

 

แต่ตอนนี้มันต่างกัน สิบเมตรถึงจะแคบแต่ถ้าเขารู้ว่าจะขยายไปทางไหนล่ะ

 

 

โอกาสมาถึงแล้ว!

 

 

หลี่ว์ซู่ขยายเขตแดนเข้าไปในลานบ้าน จากนั้นในตอนนี้เขาใช้จุดนี้เป็นศูนย์กลางในการขยายวงพื้นที่ให้กว้างขึ้นแต่กลับพบว่าอาจจะเป็นเพราะอยู่ห่างจากเมืองลั่วเฉิง จึงขยายวงกว้างได้เหนื่อยกว่าขยายแนวลึก

 

 

แต่ก็ไม่เป็นไรเพราะเขาต้องการเพียงห้าร้อยตารางเมตรเท่านั้น!

 

 

สัญชาตญาณจิตหยั่งรู้ลอยอยู่กลางอากาศ แต่ร่างกายหลี่ว์ซู่กลับเหงื่อไหลเป็นเม็ดออกจากหน้า เขากัดฟันคำรามออกไป ขยายพื้นที่ตราแผ่นดินให้ครอบคลุมบนตรอกหลิวไห่ เขาเห็นเนี่ยถิงกำลังนั่งอ่านหนังสือและสือเสวจิ้นกำลังหัวเราะเป็นบ้าเป็นหลัง ห่าวจื้อเชาที่อยู่ข้างๆ เนี่ยถิงกำลังรอเขาเซ็นเอกสารอยู่

 

 

เนี่ยถิงกำลังพลิกดูเอกสาร ทันใดนั้นก็ขมวดคิ้วและมองขึ้นไปบนฟ้า ในตอนนี้เนี่ยถิงอยู่ห่างจากการปะทุเพียงก้าวเดียวก็ฝ่าด่านความเป็นความตายของระดับ Aได้แล้ว เขาจึงสัมผัสได้เมื่อหลี่ว์ซู่มองมาที่เขา แต่ก็ไม่มีอะไรอยู่ที่นั่น!

 

 

ถัดมา ห่าวจื้อเชาก็ตกอกตกใจ “ทำไมอยู่พลังจิตวิญญาณถึงหายไป … “

 

 

[ได้รับแต้มจากเนี่ยถิง +666!]

 

 

หลี่ว์ซู่ยุ่งมาสองสัปดาห์ก็เพื่อรอวันนี้ ในตอนนี้เขาสะใจสุดคำบรรยาย การแกล้งคนอื่นนั้นแม้จะรู้สึกผิดบาปในใจแต่กลับไม่รู้สึกอะไรกับเนี่ยถิงเลย

 

 

คำโบราณกล่าวไว้ว่า อดกลั้นชั่วครู่ยิ่งคิดยิ่งโกรธ ถอยหนึ่งก้าวยิ่งคิดยิ่งเสียเปรียบ หลี่ว์เสี่ยวซู่อดกลั้นความคับแค้นใจที่มีแค้นแล้วไม่ล้างแค้นไม่ได้!

 

 

ในตอนนี้ เนี่ยถิงก็บินขึ้นไปบนท้องฟ้าและพูดน้ำเสียงเย็นชากับความว่างเปล่า “หลี่ว์ซู่! “

 

 

จากนั้นก็ฟันออกไปหนึ่งดาบ!

 

 

หลี่ว์ซู่ได้ยินที่เนี่ยถิงตะโกนเรียกเขา ก็สะดุ้งตกใจเสียวสันหลัง จนสัญชาตญาณจิตหยั่งรู้กลับเข้าสู่ร่าง ในทันใดนั้นเองก็ได้ยินเสียงเคาะประตูดังลั่น…

 

 

[ได้รับแต้มจากเนี่ยถิง +999!]

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

หลี่ว์ซู่ เป็นเด็กกำพร้าที่หาเลี้ยงตัวเองมาโดยตลอด และก็คงจะหาเลี้ยงตัวเองเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ ถ้าเขาไม่ได้ประสบอุบัติเหตุรถชนเข้าเสียก่อน… แต่เฮ้ย! เขาไม่เป็นอะไรเลยนี่ ไม่เจ็บ ไม่ปวด และไม่ตาย แถมวิญญาณไม่ได้หลุดออกจากร่างด้วย! จะมีก็แต่สัญลักษณ์รูปต้นไม้ที่จู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นมาบนฝ่ามือและพลังพิเศษในตัวที่ตื่นขึ้นมาเท่านั้น! ทว่าเขาไม่ได้เป็นเพียงคนเดียวที่ได้รับพลังพิเศษนี้มา เพราะคนอื่นๆ เองก็เริ่มกลายเป็นผู้มีพลังแล้วเหมือนกัน นี่มันเรื่องบ้าอะไร เกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้กันแน่ นี่เรากำลังจะก้าวเข้าสู่ยุคของผู้มีพลังพิเศษกันแล้วงั้นเหรอ หลี่ว์ซู่ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย ว่าแต่พลังที่ได้มานี่มันฝึกยังไงกันล่ะ เอ๊ะ ต้องสะสมแต้มอารมณ์ด้านลบงั้นเหรอ แค่กวนโมโหคนอื่นก็เพิ่มพลังได้แล้วงั้นเหรอ แบบนี้ก็เข้าทางหลี่ว์ซู่สุดๆ ไปเลยน่ะสิ!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset