ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ – ตอนที่ 771 ยกเลิกการแข่งขัน

หัวข้อร้อนแรงที่สุดในตอนนี้คือการแข่งขันระหว่างวิทยาลัยผู้บำเพ็ญทั้งเจ็ดแห่ง แต่ละวิทยาลัยต่างส่งสาขาการต่อสู้เข้าร่วม มีแค่เมืองหลวงที่ส่งสาขาสืบสวน ถ้าไม่ใช่หลี่ว์ซู่ไปตัดตัวเลือกอื่นของวิทยาลัยลั่วเสิน วันนี้ก็คงจะลงแข่งด้วย เพราะก่อนหน้านี้สาขาการต่อสู้ก็เตรียมตัวอย่างจริงจัง

 

 

พูดอย่างนี้ก็ไม่ถูก วิทยาลัยลั่วเสินได้กำหนดทีมผู้แข่งขันแล้ว ไม่ใช่วิทยาลัยเรื่องนักศึกษาแต่เป็นนักศึกษาเลือกเอง

 

 

นักศึกษาแต่ละมหาวิทยาลัยต่างถกเถียงว่าตัวแทนที่เข้าร่วมจะแข็งแกร่งขนาดไหน เพราะส่วนใหญ่ผู้แข่งขันต่างเป็นอัจฉริยะระดับ A แต่ละคนมีพลังและความสามารถที่โดดเด่น

 

 

“จางอวี่จากวิทยาลัยซีเป่ยเมื่อก่อนฝึกกังฟู มีพลังไม่น้อยเวลาต่อสู้ไม่ได้ใช้แค่ลูกไม้เดิมๆ แต่ก่อนที่พลังจิตวิญญาณฟื้นคืนก็เป็นนักกีฬาที่ร้ายกาจ”

 

 

“คนแบบนี้ที่เมืองหลวงก็มี แต่ก็แพ้ให้กับสาขาสืบสวนไปแล้วไม่ใช่เหรอ หม่าเจิ้งอี้ของพวกเราก็กลับมาฝึกได้ระดับ C สูงสุด ใกล้จะขึ้นระดับ B แล้ว”

 

 

“แหะๆ จูเทียนอวี่จากวิทยาลัยซีเป่ยจะทำให้พวกนายรู้ว่าอะไรคือผู้แข็งแกร่งที่แท้จริง”

 

 

ทุกคนก็คุยกันไปต่างๆ นานา โม้ไปบ้าง แต่วิทยาลัยใหญ่อื่นๆ ก็พบว่าทำไมคนของวิทยาลัยลั่วเสินไม่พูดอะไรเลย

 

 

จากนั้นก็มีคนโพสต์ถาม ลั่วเสินส่งสาขาไหนเข้าร่วม มีใครเป็นตัวแทนเหรอ ได้ยินว่าหลี่จื่อมู่จากสาขาต่อสู้แข็งแกร่งมากตอนที่ทำภารกิจจิตสังหารแรงมาก

 

 

แต่คนของวิทยาลัยลั่วเสินก็โพสต์ตอบเงียบๆ ว่า “พวกเรา…สาขาวิจัยสายพันธุ์”

 

 

วิทยาลัยอีกหกแห่งก็ตกใจ ว่าไงนะ! สาขาวิจัยสายพันธุ์เหรอ

 

 

เมื่อทุกๆ วิทยาลัยเข้ามาที่เว็บบอร์ดนี้ เรื่องที่คุยกันตอนแรกๆ ก็ตกลงไปข้างล่าง ทุกคนคุยกันเรื่องประวัติของ “ใต้เท้าหลี่ว์” ดังนั้นวิทยาลัยอื่นๆ ก็ไม่รู้ว่าคุยกันเรื่องฉายานี้เพราะอะไร

 

 

“ฮ่าๆๆ ไม่ใช่มั้งพี่น้อง ไม่มีคนแล้วเหรอถึงให้สาขาวิจัยสายพันธุ์มาลงแข่ง”

 

 

“โพสต์ข้างบนซื่อจัง รีบบอกเขาเร็ว เจ้าของกระทู้บอกว่าล้อเล่นเธอเอาจริงทำไม”

 

 

ทางคนจากวิทยาลัยลั่วเสินปวดตับเลย “ฉันไม่ได้ล้อเล่น พวกเราส่งสาขาวิจัยสายพันธุ์ลงแข่ง”

 

 

ทุกคนที่เห็นประโยคนี้หายใจเข้าลึกๆ “สาขาการต่อสู้กับสาขาสืบสวนของพวกนายกลัวเหรอ ทำไมถึงให้สาขาวิจัยสายพันธุ์มาแข่ง พวกเขาจะไหวเหรอ”

 

 

“ใช่ พวกนายอย่าหาเรื่องใส่สาขาวิจัยสายพันธุ์เลย… มีเรื่องอะไรก็ให้สาขาการต่อสู้กับสาขาสืบสวนรับไปซิ อย่าไปกลัวซิ ยังไงๆ สาขาวิจัยสายพันธุ์ก็เป็นสายภาษานะ! “

 

 

ทางลั่วเสินก็ไม่ยอม “พวกนายจะรู้เรื่องอะไร สาขาวิจัยแข็งแกร่งมากนะ”

 

 

“ฮ่าๆๆ สาขาวิจัยสายพันธุ์แข็งแกร่งมากเหรอ! “

 

 

“อย่าตลกน่าพี่น้อง ฝันกลางวันหรือเปล่า”

 

 

ในขณะนี้ ทางฝั่งลั่วเสินก็มีคนโพสต์ว่า “สาขาวิจัยสายพันธุ์ของวิทยาลัยลั่วเสินของเรามีอยู่ห้าคน อยู่ระดับ B สองคน อยู่ระดับ C สามคน เข้าใจไหม”

 

 

วิทยาลัยอื่นๆ ต่างตกใจ “ใช่สาขาวิจัยสายพันธุ์แน่เหรอ สาขาราชันฟ้ามากกว่ามั้ง”

 

 

“ไปหาข้อมูลเรื่องระลอกลทองแดงในโบราณสถานหลัวปู้พัวดูนะ… “

 

 

สมาชิกหลายคนของระลอกทองแดงต่างรู้สึกตื่นเต้น “ใช่พี่ซู่จริงๆ เหรอ! จบกันๆ วิทยาลัยอื่นไม่รอดแน่ๆ! “

 

 

ก่อนหน้าทางวิทยาลัยลั่วเสินก็มีเรื่องปวดหัวไม่น้อย เพราะหลี่ว์ซู่ไปดับไฟความปรารถนาที่จะลงแข่งของสาขาอื่นๆ เสียหมด ทั้งวิทยาลัยโดนคนคนเดียวข่มจนน่าอึดอัด

 

 

แต่ตอนนี้ถึงคราวที่คนอื่นอึดอัดใจ พวกเขาก็ได้สบายใจขึ้นบ้าง

 

 

ความแข็งแกร่งของหลี่ว์ซู่ เฉาชิงฉือและคนอื่นๆ นั้นแทบไม่ต้องเป็นห่วงเลย ถึงการแข่งขันจะกำหนดให้ลงยี่สิบคนแต่ทุกคนก็ไม่สงสัยเลยว่าพวกเขาทั้งห้าคนสามารถเอาชนะได้ เผลอๆ อาจจะบดขยี้อีกฝ่ายด้วยซ้ำ

 

 

พวกเขาเรียนอยู่ที่วิทยาลัยลั่วเสินเหมือนกัน ถึงตัวเองจะลงแข่งไม่ได้แต่ถ้าฝ่ายตัวเองชนะก็เป็นเรื่องภาคภูมิใจเหมือนกัน ยิ่งไปกว่านั้นสาขาวิจัยสายพันธุ์เองก็ถูกประเมินไว้ต่ำ แล้วอยู่ๆ สาขาวิจัยสายพันธุ์ก็อาสาออกไปบดขยี้วิทยาลัยอื่นๆ เรื่องนี้…แค่คิดก็สนุกแล้ว

 

 

วิทยาลัยอื่นๆ พอได้ฟังเรื่องระดับของพวกหลี่ว์ซู่ก็รู้สึกประหม่า แบบนี้ถือว่าผิดกติกาใช่ไหม!

 

 

ระดับ B สองคนมันหมายถึงอะไร สองคนนั้นขึ้นไปสู้ สามารถสู้กับระดับ C ได้ยี่สิบคนทีเดียว…

 

 

อีกอย่าง คนตั้งยี่สิบคนสู้กับห้าคน ถ้าชนะก็ไม่ค่อยน่าภูมิใจเท่าไหร่ ถ้าแพ้ก็น่าขายหน้าน่าดู

 

 

และในตอนนี้เอง ทั้งเจ็ดวิทยาลัยก็ได้รับแจ้งพร้อมกันว่า การแข่งขันระหว่างวิทยาลัยทั้งเจ็ดถูกยกเลิกเพราะเกรงว่ามีนักศึกษาได้รับบาดเจ็บที่ไร้ความหมายระหว่างการแข่งขัน

 

 

ทันใดนั้นเองเว็บบอร์ดก็เหมือนกับโดนระเบิดลง มันเรื่องอะไรกัน กิจกรรมใหญ่แบบนี้จะยกเลิกก็ยกเลิกดื้อๆ

 

 

แล้วที่กลัวทุกคนได้รับบาดเจ็บมันหมายความว่าอะไร

 

 

เครือข่ายฟ้าดินกลัวทุกคนบาดเจ็บตั้งแต่เมื่อไหร่ ได้ยินมาว่าตอนค่ายฝึกก็มีบาดเจ็บถึงขั้นล้มตายเลยไม่ใช่เหรอ

 

 

ในตอนแรกทุกคนยอมรับไม่ค่อยได้ แต่ท้ายที่สุดจำนวนผู้เสียชีวิตในค่ายฝึกในยามสงบแบบนี้เห็นแล้วน่าขนลุกแต่แล้ว พวกเขาก็ค่อยๆ ยอมรับมัน เครือข่ายฟ้าดินก็เป็นแบบนี้ที่ไม่เคยประคบประหงมเอาใจนักเรียนนักศึกษา

 

 

แต่ทำไมเรื่องการแข่งขันนี้ พวกเขาถึงเปลี่ยนท่าที

 

 

“พวกนายคิดว่า เป็นไปได้ไหมที่หลี่ว์ซู่ทำคนตายได้ “

 

 

มีคนตกใจไปชั่วครู่ “เหมือนว่าจะเป็นไปได้ นายเห็นเรื่องที่เขาทำมาก่อนหน้านี้ ถ้าบอกว่านักศึกษาวิทยาลัยอื่นจะไม่ได้รับบาดเจ็บ ฉันไม่เชื่อ”

 

 

“อย่าเดาเลยยกเลิกก็เพราะเขานั่นแหละ” นักศึกษาจากวิทยาลัยลั่วเสินพูดว่า “ฉันได้ยินอาจารย์พูดมา สาเหตุที่สาขาวิจัยสายพันธุ์กวาดล้างสาขาอื่นก็เพราะไม่อยากให้พวกเขาเข้าร่วมการแข่ง กลัวว่าพวกเขาจะเกิดเรื่อง

 

 

“ดังนั้นใต้เท้าหลี่ว์ใช้กำลังภายในไปเปลี่ยนการตัดสินใจครั้งสำคัญของเครือข่ายฟ้าดิน”

 

 

ทันใดนั้นทั้งเว็บบอร์ดก็เริ่มสรรเสริญ “ใต้เท้าหลี่ว์ เยี่ยมยอดๆๆ! “

 

 

“ใต้เท้าหลี่ว์สุดยอด!”

 

 

“ใต้เท้าหลี่ว์ไร้เทียมทาน!”

 

 

หลี่ว์ซู่ตกใจมากเมื่อได้รู้ข่าวนี้ เพราะเขาจะเข้าร่วมการแข่งขันวิทยาลัยทั้งเจ็ดนี้ แต่กลับถูกยกเลิกเสียดื้อๆ แบบนี้เลย!

 

 

เขาแค่อยากได้แต้มอารมณ์เท่านั้น แค่อยากเป็นแชมป์แล้วได้ไปพูดต่อหน้าสาธารณชน แค่นี้ทำไมมันยากขนาดนี้

 

 

กลัวว่านักศึกษาได้รับบาดเจ็บเหรอ เขาเป็นคนโหดร้ายแบบนั้นเหรอ!

 

 

ใช่

 

 

“ฉันรู้สึกว่าเนี่ยถิงหาเรื่อง” หลี่ว์ซู่พูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

 

 

เฉินจู่อานก็โพสต์เหมือนคนอื่นในเว็บบอร์ด “ใต้เท้าหลี่ว์ เยี่ยมยอดๆๆ ” พร้อมหัวเราะชอบใจ “ทำไมผอ.เนี่ยจะต้องหาเรื่องพี่ด้วย พี่คิดอะไร…”

 

 

ผัวะ เฉินจู่อานโดนตบกะโหลกไปฉาดหนึ่ง จนเกือบตกเก้าอี้ไปพร้อมกับมือถือ

 

 

[ได้แต้มจากเฉินจู่อาน +666!]

 

 

หลี่ว์ซู่ลุกขึ้นและเดินไปที่ห้องทำงานของจงอวี้ถัง พอใกล้จะถึงประตูห้องทำงานก็ถูกผลักออกแต่ก็ไม่เห็นว่าจงอวี้ถังอยู่ข้างในแต่เป็นโยวหมิงอวี่นั่งอยู่แทน!

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

หลี่ว์ซู่ เป็นเด็กกำพร้าที่หาเลี้ยงตัวเองมาโดยตลอด และก็คงจะหาเลี้ยงตัวเองเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ ถ้าเขาไม่ได้ประสบอุบัติเหตุรถชนเข้าเสียก่อน… แต่เฮ้ย! เขาไม่เป็นอะไรเลยนี่ ไม่เจ็บ ไม่ปวด และไม่ตาย แถมวิญญาณไม่ได้หลุดออกจากร่างด้วย! จะมีก็แต่สัญลักษณ์รูปต้นไม้ที่จู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นมาบนฝ่ามือและพลังพิเศษในตัวที่ตื่นขึ้นมาเท่านั้น! ทว่าเขาไม่ได้เป็นเพียงคนเดียวที่ได้รับพลังพิเศษนี้มา เพราะคนอื่นๆ เองก็เริ่มกลายเป็นผู้มีพลังแล้วเหมือนกัน นี่มันเรื่องบ้าอะไร เกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้กันแน่ นี่เรากำลังจะก้าวเข้าสู่ยุคของผู้มีพลังพิเศษกันแล้วงั้นเหรอ หลี่ว์ซู่ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย ว่าแต่พลังที่ได้มานี่มันฝึกยังไงกันล่ะ เอ๊ะ ต้องสะสมแต้มอารมณ์ด้านลบงั้นเหรอ แค่กวนโมโหคนอื่นก็เพิ่มพลังได้แล้วงั้นเหรอ แบบนี้ก็เข้าทางหลี่ว์ซู่สุดๆ ไปเลยน่ะสิ!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset