ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ – ตอนที่ 794 ราชาเจอราชา

หลี่ว์ซู่นำคนอื่นๆ ออกไปจากสนาม รอบแรกเป็นการแข่งขันระหว่างวิทยาลัยตะวันตกเฉียงเหนือและวิทยาลัยหลู่โจว ไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเขา พวกเขาก็เลยเอาเวลานี้ไปเพื่อจัดการเรื่องอื่นๆ แทน  

 

 

ทันใดนั้นเองผู้ชมก็เห็นว่าก่อนที่ผู้เข้าแข่งขันจากวิทยาลัยตะวันตกเฉียงเหนือและวิทยาลัยหลู่โจวจะมาถึง เฉินจู่อานและเฉิงชิวเฉี่ยวก็เดินออกไปจากสนามพร้อมกับธง  

 

 

หลี่ว์ซู่หาโฆษณาของธงสี่ด้านนี้มาได้อย่างยากลำบาก เขารู้สึกว่าตัวเองมีคุณธรรมมากพอควรเลย เขาได้รับเงินมาแล้วก็ต้องช่วยโฆษณาบริษัทพวกนี้ให้คนเห็นหน่อยสิ  

 

 

ถ้าไม่ทำแล้วใครจะอยากจ้างเขาโฆษณาอีกล่ะ  

 

 

จ่ายมาแล้วคุ้มค่าแน่ๆ ทีมอื่นๆ สู้ความขี้โม้ของเขาไม่ได้หรอก หลี่ว์ซู่เป็นคนชอบแข่งขันโดยกำเนิดอยู่แล้ว ไม่ใช่ทุกคนที่จะหาโฆษณามาได้นะ ตอนนี้พวกเขากลายเป็นคู่แข่งที่คู่ควรแล้วใช่ไหมล่ะ  

 

 

เฉินจู่อานและเฉิงชิวเฉี่ยวเดินไปรอบสนามและแกว่งธงไปทั่วอย่างกับว่าพวกเขาเป็นทีมเชียร์ลีดเดอร์ ถ้าพวกเขาทั้งสองคนไม่ได้เป็นเด็กอ้วนและเด็กผิวแทน พวกเขาก็คงได้เป็นสาวสวยสุดเซ็กซี่ที่จะเพิ่มสีสันให้กับสังเวียนมวยแล้ว…  

 

 

วิทยาลัยตะวันตกเฉียงเหนือและวิทยาลัยหลู่โจวเริ่มมีไฟขึ้นมาแล้ว พลังงานของพวกเขาที่ส่งออกมานั้นอยู่ในระดับสูงสุด และสภาพร่างกายของพวกเขาก็อยู่ในสภาพดีมากด้วย  

 

 

แต่เมื่อเฉินจู่อานและเฉิงชิวเฉียวออกมาก็ทำให้ทุกอย่างถูกทำลายไปหมด พลังงานของพวกเขาลดลงไปประมาณหนึ่งในสามแล้ว…  

 

 

หลี่ว์ซู่ไม่เคยสนใจว่าคู่ต่อสู้ของเขาหรือทีมอื่นๆ จะแข็งแกร่งแค่ไหนเลย บอกตรงๆ เลยว่าพวกเขาไม่แข็งแกร่งเท่าเขาหรอก พวกเขายังอยู่ห่างชั้นหลี่ว์เสี่ยวอวี๋ด้วย  

 

 

ก่อนหน้านี้หลี่ว์ซู่คิดว่าหลี่ว์เสี่ยวอวี๋จะใช้จอห์นสันและแอนโทนีในการแข่งขันได้หรือเปล่า แต่หลังจากที่พวกเขาโดนเล็งเป้าโจมตี ก็คงจะดีกว่าถ้าไม่ใช้ตอนนี้  

 

 

หลี่ว์เสี่ยวอวี๋คิดเหมือนกัน เมื่อเป็นอย่างนี้หลี่ว์เสี่ยวอวี๋จึงไม่มีอาวุธอื่นๆ อย่างมีดบิน ปกติแล้วเธอจะหวังพึ่งจอห์นสันและแอนโทนีในการต่อสู้ตลอด และเธอก็ชินไปแล้วด้วย ถ้าเธอไม่สามารถใช้จอห์นสันและแอนโทนีได้ ความแข็งแกร่งของเธอก็จะลดลง  

 

 

แต่หลี่ว์ซู่ก็คิดทะลุปรุโปร่งไปแล้ว พวกเขาไม่สนใจอดีตเท่าไหร่ พวกเขาแค่ระวังที่จะไม่ใช้ความสามารถนี้ตอนที่มีคนดูอยู่ อย่างตอนที่ฝูงมดบุกถล่มอาคารในเมือง หลี่ว์เสี่ยวอวี๋ก็ใช้ความสามารถทำให้เป็นทรายไปแทน และนั่นไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอใช้ความสามารถของการเสกสรร ถ้ามีคนจับตาหลี่ว์เสี่ยวอวี๋นานขนาดนั้นเธอก็คงถูกจับได้ก่อนหน้านี้นานแล้ว  

 

 

เขาก็เลยตัดสินใจว่าให้เธอทำใจสบายๆ และใช้ไปเลย เธอจะให้แอนโทนีซ่อนตัวใต้พื้นและใช้จอห์นสันโจมตีก็ได้  

 

 

หลี่ว์ซู่ยืนอยู่ข้างๆ สนามแข่งขันและคิด โลกนี้ไม่เข้าใจความสามารถที่หลี่ว์เสี่ยวอวี๋มี แล้วใครสนกันล่ะ  

 

 

เด็กหนุ่มที่ยอมคิดย้อนถึงอดีตได้เติบโตขึ้นแล้ว และแสงดวงดาวของเขาก็เจิดจรัสกว่าดวงอาทิตย์ที่แผดเผา  

 

 

หลี่ว์ซู่มองไปที่สนามต่อสู้ อย่างที่คิดไว้เลยว่ายอดฝีมือของทั้งสองทีมเป็นสองคนสุดท้ายที่ยังยืนอยู่ แต่หลี่ว์ซู่รู้สึกว่าการต่อสู้นี้อ่อนชะมัด  

 

 

ไม่ใช่ว่านักศึกษาพวกนี้จะอ่อนแอ แต่พวกเขาไม่กล้าสู้กันถึงตายที่นี่ต่างหาก  

 

 

หลี่ว์ซู่เห็นการต่อสู้มานักต่อนักแล้ว และเมื่อเขาเห็นว่าการต่อสู้จบลงแบบนี้ การต่อสู้นี้ก็คงจะแตกต่างจากการต่อสู้ที่เอาความเป็นความตายเข้าแลกแน่นอน  

 

 

เมื่อคนคนหนึ่งเดินเข้าสู่สนามรบด้วยใจพร้อมสู้จนลมหายใจเฮือกสุดท้าย ความเมตตาและแผนการที่วางมาก็กลายเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นอีกแล้ว แม้ว่าหลี่ว์ซู่จะต้องกัดคู่ต่อสู้ของเขาเพื่อชัยชนะ เขาก็เต็มใจที่จะทำเช่นนั้น  

 

 

สนามรบเป็นที่เดียวที่คนที่บ้าคลั่งที่สุดจะเป็นคนสุดท้ายที่ยืนอยู่  

 

 

หลี่ว์ซู่ไม่สนใจพวกเขาอีกต่อไป เขาไม่รู้ว่าตอนนี้เกิดอะไรขึ้นที่ภูเขาจั่งไป๋ ป่านนี้เฟิงเยี่ยหมิง เฟิงอวิ๋นลู่ หลี่อีเสี้ยว และน่าหลานเชวี่ยก็คงไปถึงที่ภูเขาจั่งไป๋แล้ว ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับพวกเขาเครือข่ายฟ้าก็คงจะเริ่มฆ่าผู้บำเพ็ญลับที่แอบเข้ามาในชายแดนแล้ว  

 

 

อีกอย่างหลี่ว์ซู่ก็ได้ข้อมูลมาเช้านี้ว่ามีสมาชิกของเครือข่ายฟ้าดินตายไปมากกว่าสิบคน มียอดฝีมือจากองค์กรต่างประเทศที่ประสงค์ร้ายแฝงตัวเข้ามากับผู้บำเพ็ญลับ ส่วนสัตว์และพืชกลายพันธุ์ในภูเขาจั่งไป๋ก็อันตรายกว่าที่อื่นๆ มากด้วย  

 

 

ภูเขาจั่งไป๋กำลังจะกลายเป็นสนามรบนองเลือด แต่หลี่ว์ซู่ก็ไม่ได้ข่าวว่าเนี่ยถิงเริ่มโจมตีใดๆ   

 

 

หลี่ว์ซู่ไม่เข้าใจเลย เนี่ยถิงทำอะไรอยู่นะ แปลกมาก!  

 

 

ตั้งแต่เกิดเรื่องที่ภูเขาจั่งไป๋แล้วทุกอย่างก็กลายเป็นเรื่องแปลกประหลาดไปหมด!  

 

 

การแข่งขันรอบแรกจบลงไป และวิทยาลัยหลู่โจวเป็นผู้ชนะ แต่หลี่ว์ซู่ก็ไม่มีอารมณ์จะมาสนใจเรื่องนี้  

 

 

รอบต่อไปเป็นการแข่งขันระหว่างวิทยาลัยลั่วเสินและวิทยาลัยตะวันตกเฉียงใต้ มีคนเข้ามาดูมาก ทุกคนอยากรู้ว่าวิทยาลัยลั่วเสินแข็งแกร่งมากขนาดไหน และพวกเขาอยากจะเห็นด้วยว่าวิทยาลัยตะวันตกเฉียงใต้จะงัดเอาอะไรมาสู้ระดับ B จากลั่วเสินทั้งสามคนนี้  

 

 

เฉินจู่อานและเฉิงฉิวเฉี่ยวถือธงวิ่งไปวิ่งมาอย่างกับผึ้งงาน หลี่ว์เสี่ยวอวี๋เดินขึ้นไปบนสนามต่อสู้อย่างช้าๆ แอนโทนี่และจอห์นสันตามเธอมาที่ใต้ดินอย่างเงียบๆ   

 

 

ในตอนที่หลี่ว์เสี่ยวอวี๋เดินขึ้นไปบนสนามต่อสู้ก็มีเสียงเชียร์ดังลั่น โดยเฉพาะเสียงของนักศึกษาหญิง  

 

 

ระหว่างที่ฝึกทหารอยู่นั้น หลี่ว์เสี่ยวอวี๋ได้ออกไปโน้มน้าวใจคน และพวกผู้หญิงที่อยู่ที่นั่นก็ชอบหลี่ว์เสี่ยวอวี๋ในช่วงฝึกทหารกันหมด เธอก็เลยมีคนเชียร์มากขนาดนี้   

 

 

หลินอี้ซินจากวิทยาลัยตะวันตกเฉียงใต้เดินขึ้นมา การจับคู่นี้ทำให้คนอื่นๆ ประหลาดใจเป็นอย่างมาก วิทยาลัยอื่นๆ จะเอาคนที่แข็งแกร่งที่สุดออกมาทีหลัง ไม่มีใครคิดว่าราชาทั้งสองจะมาเจอกันในรอบแรกอย่างนี้!  

 

 

หลี่ว์เสี่ยวอวี๋รอให้การแข่งขันเริ่มต้นขึ้น เธออยากจะกำจัดคู่แข่ง เพราะหลี่ว์ซู่บอกให้เธอทำให้คู่ต่อสู้ทรมาน  

 

 

ก่อนการแข่งขันจะเริ่มขึ้น หลินอี้ซินก็ยิ้มออกมา “เธอคงไม่คิดมาก่อนสินะว่าฉันเลื่อนระดับเป็นระดับ B แล้ว ขอโทษนะแต่วิทยาลัยลั่วเสินคงจบแค่นี้ล่ะ ถ้าฉันกำจัดเธอได้ก็อย่าได้หวังว่าการต่อสู้อื่นๆ จะชนะเลย”  

 

 

ทุกคนในสนามส่งเสียงเชียร์กันอย่างบ้าคลั่ง ไม่มีใครคิดว่าหลินอี้ซินหัวกะทิศักยภาพระดับ A จากวิทยาลัยตะวันตกเฉียงใต้จะเลื่อนระดับเป็นระดับ B แล้ว!  

 

 

ถ้าหลินอี้ซินเอาชนะหลี่ว์เสี่ยวอวี๋ได้ การต่อสู้อื่นๆ ก็จะง่ายขึ้นมาก  

 

 

แต่เรื่องนี้ไม่สำคัญหรอก สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือหลี่ว์เสี่ยวอวี๋โดนยุแหย่เข้าให้ เหมือนกับว่าพวกเขาชนะไปแล้วอย่างนั้นแหละ!  

 

 

ประโยคเรียบง่ายไร้สาระนี้อาจรบกวนความรู้สึกของฝ่ายตรงข้าม หลินอี้ซินคงพยายามอยากจะทำให้หลี่ว์เสี่ยวอวี๋โกรธจนเสียสติ แล้วทั้งสนามก็เงียบไป ทุกอยากจะรู้ว่าหลี่ว์เสี่ยวอวี๋จะตอบกลับว่าอะไร!  

 

 

หลี่ว์เสี่ยวอวี๋เงียบไปสองวินาที เธอพูดออกมา “ยางมิชลิน กรุยทางสู่ความสำเร็จ ถ้าให้พูดประโยคนี้เพิ่มจะต้องจ่ายเงินนะ”  

 

 

[ได้รับแต้มจากจงอวี้ถัง +666]  

 

 

[ได้รับแต้มจาก…]  

 

 

[ได้รับแต้มจาก…]  

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

หลี่ว์ซู่ เป็นเด็กกำพร้าที่หาเลี้ยงตัวเองมาโดยตลอด และก็คงจะหาเลี้ยงตัวเองเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ ถ้าเขาไม่ได้ประสบอุบัติเหตุรถชนเข้าเสียก่อน… แต่เฮ้ย! เขาไม่เป็นอะไรเลยนี่ ไม่เจ็บ ไม่ปวด และไม่ตาย แถมวิญญาณไม่ได้หลุดออกจากร่างด้วย! จะมีก็แต่สัญลักษณ์รูปต้นไม้ที่จู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นมาบนฝ่ามือและพลังพิเศษในตัวที่ตื่นขึ้นมาเท่านั้น! ทว่าเขาไม่ได้เป็นเพียงคนเดียวที่ได้รับพลังพิเศษนี้มา เพราะคนอื่นๆ เองก็เริ่มกลายเป็นผู้มีพลังแล้วเหมือนกัน นี่มันเรื่องบ้าอะไร เกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้กันแน่ นี่เรากำลังจะก้าวเข้าสู่ยุคของผู้มีพลังพิเศษกันแล้วงั้นเหรอ หลี่ว์ซู่ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย ว่าแต่พลังที่ได้มานี่มันฝึกยังไงกันล่ะ เอ๊ะ ต้องสะสมแต้มอารมณ์ด้านลบงั้นเหรอ แค่กวนโมโหคนอื่นก็เพิ่มพลังได้แล้วงั้นเหรอ แบบนี้ก็เข้าทางหลี่ว์ซู่สุดๆ ไปเลยน่ะสิ!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset