ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ – ตอนที่ 797 หัวหน้าผู้จัดการเมืองหยู่โจว

เฉินจู่อานเงียบไปเลย และฝั่งหลี่ว์เสี่ยวอวี๋เองก็กำลังจะเอาชนะหลินอี้ซินจากวิทยาลัยตะวันตกเฉียงใต้ได้

 

 

ทั้งสนามต่อสู้คนแน่นไปหมด และคนกว่าหนึ่งในสามก็ต้องยืนดู ทางเดินเริ่มแน่นขึ้นเรื่อยๆ

 

 

ตอนที่หลี่ว์เสี่ยวอวี๋เสกร่างปลอมของหลี่ว์ซู่เจ็ดร่างขึ้นมาหลี่ว์ซู่ก็ได้รับแต้มอารมณ์มาอย่างไม่ขาดสาย บางแต้มก็มาจากเขา บางแต้มก็มาจากหลี่ว์เสี่ยวอวี๋

 

 

หลี่ว์ซู่รู้สึกว่าเขาตัดสินใจไปถูกต้องแล้ว ตราบใดที่หลี่ว์เสี่ยวอวี๋ออกไปเป็นคนแรกและเอาชนะคู่ต่อสู้ได้ เขาก็จะได้รับแต้มอารมณ์อย่างต่อเนื่อง

 

 

เขาต้องการสองล้านแต้มเพื่อมาจุดประกายดวงดาวดวงที่สาม ตอนนี้เขาได้มา 1.7 ล้านแต้มแล้ว

 

 

หลี่ว์ซู่หยุดคิดเรื่องจุดชี่ไห่ไม่ได้ พอเข้าได้แต้มอารมณ์มาแล้ว เขาก็จะกินผลชี่ไห่เพื่อสร้างภูเขาหิมะ และการทำแบบนี้จะทำให้เขาสร้างวิญญาณกระบี่เล่มที่สามออกมาได้อย่างรวดเร็ว ถึงมันจะไม่ใช้วิญญาณกระบี่ที่ได้มาตรฐานแต่มันก็มีประโยชน์ของมันอยู่เหมือนกัน ถ้าเขาเอาชนะคู่ต่อสู้ได้โดยการโจมตีแบบไม่ทันตั้งตัวล่ะ

 

 

ตอนที่เขาฆ่าทาคาชิมะ ทาอิรัตสึได้ เขาก็ต้องพึ่งวิญญาณกระบี่เหมือนกัน แล้วตอนที่เขาอยู่ในซาร์ดิเนีย วิญญาณกระบี่เล่มที่สองของเขาก็แสดงความสามารถอันโดดเด่นและเอาชนะซาตานได้

 

 

หลี่ว์ซู่ได้ประโยชน์จากวิญญาณกระบี่สองเล่มนี่แล้ว เพราะฉะนั้นถึงมันจะไม่ใช่วิญญาณกระบี่ที่ได้มาตรฐาน เขาก็ยังอยากได้อยู่ดี

 

 

ส่วนเรื่องการจุดประกายดวงดาว หลี่ว์ซู่รู้สึกว่าหากไม่มีการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพที่ชัดเจน เขาก็ยังไม่ได้ต้องการแสงดวงดาวอย่างเร่งด่วนขนาดนั้น

 

 

แต่เขารู้ว่าดวงดาวแต่ละดวงที่เขาจุดประกายไปจะสามารถจุดประกายกลุ่มดาวที่สี่ได้ และเส้นของกระบี่เฉวียอินก็จะเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน หลี่ว์ซู่จะสนใจเรื่องการเลื่อนระดับของเขาอีกรอบหนึ่งแล้ว เพราะตั้งแต่เขาเสียธารน้ำศักดิ์สิทธิ์ไป อาวุธที่สำคัญที่สุดของเขาในตอนนี้ก็คือกระบี่เฉวียอิน ยิ่งกระบี่มีเส้นมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งรับมือกับศัตรูจำนวนมากขึ้นได้เท่านั้น

 

 

เขาลองคิดคำนวณดู ถ้าเขาจุดประกายดวงดาวทั้งเจ็ดได้แล้ว เขาคงจะมีเส้นจากกระบี่เฉวียอินได้ 4608 เส้นเลย เจ๋งมาก!

 

 

หลี่เสียนอีมีต้นแบบกระบี่แสงล่องหนอยู่พันเล่ม ในขณะที่หลี่ว์ซู่มีอยู่พันห้าร้อยเล่ม แต่ถ้าเขาเลื่อนระดับได้ เขาก็จะมีพลังเท่านั้นเหมือนกัน ถึงเขาจะมีจำนวนที่สู้ไม่ได้ แต่เส้นของกระบี่เฉวียอินก็ยังมีคุณภาพที่ดีกว่ากระบี่แสงล่องหน

 

 

ตอนที่หลี่ว์ซู่เอาผลต่างๆ ให้หลี่ว์เสี่ยวอวี๋กิน เขาก็กินไปด้วยเหมือนกัน การแข่งขันวันนี้หลี่ว์เสี่ยวอวี๋จะต้องเจอกับวิทยาลัยทั้งหมดและเธอก็จะได้แต้มอารมณ์มา หลี่ว์ซู่ก็จะได้แต้มอารมณ์นั้นผ่านหลี่ว์เสี่ยวอวี๋ได้

 

 

เขาเริ่มคำนวณแล้ว เขาน่าจะจุดประกายดวงดาวดวงที่สามภายในคืนนี้ได้เลย!

 

 

วิทยาลัยตะวันตกเฉียงใต้คิดว่าหลินอี้ซินนั้นคือไพ่ตายของพวกเขา ตราบใดที่เขาเอาชนะหลี่ว์เสี่ยวอวี๋ได้ การแข่งขันรอบอื่นๆ ก็คงจะง่ายขึ้นมาก

 

 

ถึงแม้ว่าการชนะครั้งนี้จะไม่ทำให้พวกเขาเป็นแชมป์ แต่ถ้าพวกเขาเอาชนะทีมวิจัยสายพันธุ์ตอนที่พวกเขากำลังทรงพลังแบบนี้ได้ ก็จะทำให้พวกเขาได้เกียรติยศมาอย่างมากเลยล่ะ

 

 

แต่พวกเขาดูถูกความสามารถของหลี่ว์เสี่ยวอวี๋ไปและประเมินความสามารถของหลินอี้ซินสูงไป ถึงหลี่ว์เสี่ยวอวี๋จะเพิ่งเลื่อนระดับมาเป็นระดับ B แต่เธอก็สามารถควบคุมจอห์นสันและแอนโทนี่ได้มาเป็นเวลานาน เธอแข็งแกร่งสุดๆ

 

 

หลินอี้ซินยังคงกังวลว่าเขาจะไม่คุ้นเคยกับพลังใหม่ของเขาหลังจากที่เลื่อนระดับมา แต่หลี่ว์เสี่ยวอวี๋ไม่กังวลเลย

 

 

ถึงการโจมตีของหลี่ว์เสี่ยวอวี๋จะรุนแรง แต่เธอก็ไม่ได้ขู่เอาชีวิตหลินอี้ซิน เมื่อเธอเห็นว่าหลินอี้ซินสู้ไม่ได้เธอก็หยุด และไม่ได้ใช้โอกาสนั้นเพื่อกำจัดเขา

 

 

หลี่ว์ซู่บอกเธอว่าพวกเขายังเป็นแค่นักศึกษาและเธอจะต้องอ่อนให้พวกเขาหน่อย หลี่ว์เสี่ยวอวี๋จำสิ่งที่หลี่ว์ซู่บอกเธอได้แม่น และถ้าเขาบอกให้เธอทำให้คู่ต่อสู้ทรมาน เธอก็จะทำอย่างนั้น ถ้าเขาบอกให้เธออ่อนข้อ เธอก็จะทำตาม

 

 

หลังจากที่หลี่ว์เสี่ยวอวี๋หยุดไปและก็เอาร่างปลอมของหลี่ว์ซู่ออก หลินอี้ซินก็นั่งจ๋องอยู่ตรงขอบสนามต่อสู้และหอบหายใจออกมาอย่างหนักหน่วง เขาถามเธอ “นี่เธอเป็นผู้เสกท่าน…เอ่อ อาจารย์หลี่ว์ได้ไงกัน”

 

 

หลินอี้ซินเกือบเรียกเขาว่าท่านหลี่ว์แล้ว แต่เขายังอยากรอดชีวิตอยู่เลยเปลี่ยนคำ ทุกคนอยากรู้เรื่องนั้นเหมือนกัน ถ้าหลี่ว์เสี่ยวอวี๋เป็นผู้มีพลังแบบผสมผสานก็แล้วไป แต่เธอเสกมนุษย์ขึ้นมาได้อย่างไรในขณะที่ผู้มีพลังสายเสกสรรคนอื่นทำไม่ได้!

 

 

เหมือนกับว่าหลี่ว์เสี่ยวอวี๋มีคัมภีร์ลับมากมายที่ทำให้เธอทำอะไรได้ตั้งเยอะ แต่คนอื่นทำเหมือนเธอไม่ได้

 

 

ทั้งสนามเงียบลง และทุกคนก็งงงวยไปหมด

 

 

หลี่ว์เสี่ยวอวี๋มองหลินอี้ซินกลับอย่างใจเย็น เขาดูอยากจะพูดอะไร ทุกคนเห็นว่าหลี่ว์เสี่ยวอวี๋อยากจะพูดอะไรขึ้นมาเหมือนกัน แต่เธอก็หยุด เธอกำลังจะซ่อนความลับอะไรหรือเปล่านะ

 

 

เธอมองหน้าหลี่ว์ซู่ “โฆษณาท่อนสุดท้ายว่าไงนะ”

 

 

ทุกคนในสนามหันมองไปที่หลี่ว์ซู่เช่นกัน แล้วหลี่ว์ซู่ก็พูดขึ้นมาอย่างอายๆ “อะแฮ่ม สนิกเกอร์…”

 

 

หลี่ว์เสี่ยวอวี๋มองหน้าหลินอี้ซิน แล้วเขาก็เข้าใจ “เพราะเธอกินสนิกเกอร์ไปเหรอ”

 

 

หลี่ว์เสี่ยวอวี๋พยักหน้าอย่างใจเย็น “ดี ไปกันต่อเลย”

 

 

แต่การแข่งขันรอบต่อไปไม่ได้เริ่มในทันที ทีมจากวิทยาลัยผู้บำเพ็ญตะวันตกเฉียงใต้บ่นกับจงอวี้ถังใหญ่ พวกเขาบอกว่าการใช้วิธีการสู้แบบนี้กินเวลามากเกินไปและควรถูกห้ามให้ใช้ในการต่อสู้ครั้งในอนาคตด้วย!

 

 

จงอวี้ถังหัวเราะแล้วพูดว่า “ก็ตอนแรกฉันขอให้ทีมลั่วเสินผ่านรอบแรกเข้าไปก่อนแล้วไม่ยอมกันนี่ บอกเองไม่ใช่เหรอว่าต้องหวังพึ่งความสามารถของตัวเอง แล้วจะให้ลั่วเสินผ่านเข้าไปได้ยังไง”

 

 

“ตอนนี้มาบ่นว่าวิธีที่พวกเขาใช้มันมากเกินไป จะให้ฉันไปสนใจได้ไงล่ะ”

 

 

“หวังพึ่งความสามารถของตัวเองสิ!”

 

 

หลี่ว์ซู่เข้าไปตรวจสอบระบบหลังบ้านและเห็นว่าเขาได้แต้มอารมณ์มากว่าสองล้านแต้มแล้ว ไม่เพียงแต่เขาจะได้จุดประกายดวงดาวดวงที่สามคืนนี้นะ แต่หลี่ว์เสี่ยวอวี๋เองก็สามารถจุดประกายดวงดาวดวงแรกได้เหมือนกัน

 

 

ตอนนั้นเองก็มีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่เทือกเขาจั่งไป๋ และส่งผลให้เกิดปฏิกิริยาลูกโซ่ขึ้น

 

 

ข่าวที่ว่าเนี่ยถิงไม่สามารถโจมตีได้ถูกโพสต์ไปในกระทู้มูลนิธิแล้วในระหว่างที่หลี่ว์เสี่ยวอวี๋และหลินอี้ซินสู้กัน ตอนแรกก็ไม่มีใครใส่ใจว่าจะเกิดอะไรขึ้นในกระทู้หรอก แต่เมื่อการต่อสู้ของหลี่ว์เสี่ยวอวี๋จบลง ข่าวก็ดังไปทั่วอย่างกับคลื่นใต้น้ำที่ท่วมทั้งสนาม

 

 

ทุกคนมองหน้ากันอย่างไม่รู้จะทำอย่างไร พวกเขาคิดว่าเมื่อราชันฟ้าเนี่ยเลื่อนระดับเป็นเสินฉังจิ้งแล้วเขาก็คงแข็งแกร่งแบบไม่มีใครมาเอาชนะได้ แต่พวกเขาไม่คิดว่าจะกลายเป็นเหตุการณ์ที่กระอักกระอ่วนแบบนี้เลย

 

 

องค์กรขนาดใหญ่กำลังมุ่งหน้าไปยังเทือกเขาจั่งไป๋ สงครามกำลังจะเกิดขึ้นแล้ว!

 

 

จงอวี้ถังมองโทรศัพท์ของตัวเองและเขาก็มีสีหน้าจริงจัง เขารวบรวมผู้เข้าแข่งขันและตัวแทนของแต่ละสาขาในวิทยาลัยลั่วเสิน “เราจะเลื่อนการแข่งขันระหว่างเจ็ดวิทยาลัยไปก่อน เดี๋ยวจะบอกรายละเอียดอีกที ตอนนี้ทุกสาขากลับไปเรียนกันได้ รักษาความสงบในหมู่นักเรียนไว้ให้ได้ล่ะ!”

 

 

การแจ้งเตือนถูกส่งออกไปแล้ว หลี่ว์ซู่เพิ่งเห็นว่าจงอวี้ถังกลายมาเป็นหัวหน้าผู้จัดการเมืองหยู่โจวแล้ว เขาจะต้องจัดการทุกอย่างให้เป็นระบบถึงแม้ว่าจะเจอกับภัยพิบัติก็ตาม

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

หลี่ว์ซู่ เป็นเด็กกำพร้าที่หาเลี้ยงตัวเองมาโดยตลอด และก็คงจะหาเลี้ยงตัวเองเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ ถ้าเขาไม่ได้ประสบอุบัติเหตุรถชนเข้าเสียก่อน… แต่เฮ้ย! เขาไม่เป็นอะไรเลยนี่ ไม่เจ็บ ไม่ปวด และไม่ตาย แถมวิญญาณไม่ได้หลุดออกจากร่างด้วย! จะมีก็แต่สัญลักษณ์รูปต้นไม้ที่จู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นมาบนฝ่ามือและพลังพิเศษในตัวที่ตื่นขึ้นมาเท่านั้น! ทว่าเขาไม่ได้เป็นเพียงคนเดียวที่ได้รับพลังพิเศษนี้มา เพราะคนอื่นๆ เองก็เริ่มกลายเป็นผู้มีพลังแล้วเหมือนกัน นี่มันเรื่องบ้าอะไร เกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้กันแน่ นี่เรากำลังจะก้าวเข้าสู่ยุคของผู้มีพลังพิเศษกันแล้วงั้นเหรอ หลี่ว์ซู่ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย ว่าแต่พลังที่ได้มานี่มันฝึกยังไงกันล่ะ เอ๊ะ ต้องสะสมแต้มอารมณ์ด้านลบงั้นเหรอ แค่กวนโมโหคนอื่นก็เพิ่มพลังได้แล้วงั้นเหรอ แบบนี้ก็เข้าทางหลี่ว์ซู่สุดๆ ไปเลยน่ะสิ!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset