ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ – ตอนที่ 831 เปลี่ยนแผน

เหนือความคาดหมายมากที่ปฏิกิริยาแรกต่อการต่อสู้ของหลี่ว์ซู่คือการพุ่งตรงไปยังรถบรรทุกคันที่สิบเจ็ด

 

 

คลื่นพลังระเบิดขึ้นในชั้นบรรยากาศ ปรากฏให้เห็นผู้มีพลังธาตุลมระดับ B ที่สามารถบินได้หลังจากผสานตัวตนเข้ากับสายลม พลังแต่ละประเภทมาพร้อมกับพรสวรรค์ในแบบของตนเอง และความสามารถธาตุน้ำของหลี่ว์ซู่…ยังเป็นที่สงสัยว่าอาจจะมีอะไรผิดพลาด หรือบางทีอาจจะเป็นเพราะว่าหลี่ว์ซู่มีความคิดสร้างสรรค์มากเกินไป

 

 

ระหว่างทางที่หลี่ว์ซู่กำลังมุ่งตรงไปยังรถบรรทุกคันที่สิบเจ็ด ความชื้นรอบๆ ตัวพวกเขาก็เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และในวินาทีต่อมา ยอดฝีมือธาตุลมก็รีบหนีออกจากสายลมของเขาด้วยใบหน้าตื่นตระหนก

 

 

ไอน้ำที่รวมตัวกันอยู่ในอากาศเกือบจะบดขยี้ทุกอณูหากว่าเขาเคลื่อนที่ช้าลงเพียงเล็กน้อย!

 

 

ในความเป็นจริงแล้ว ความสามารถธาตุลมและธาตุดิน ได้รับการยอมรับว่าเหมาะสมที่สุดสำหรับเหล่ามือสังหาร อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้เองที่ยอดฝีมือธาตุลมได้ตระหนักว่าธาตุน้ำคือศัตรูตามธรรมชาติของธาตุลม!

 

 

สิ่งนี้ไม่เคยเป็นที่รู้กันมาก่อน เขาจึงได้แต่สงสัยว่าเจ้าคนธาตุน้ำได้ความคิดนี้มาได้อย่างไร!

 

 

แทนที่จะเข้าใกล้ศัตรูอย่างประมาท ผู้มีพลังธาตุลมกลับพยายามรักษาระยะห่าง เขารู้ว่ามีพวกระดับ B หกคนกำลังรีบตรงกลับไปที่ท่าเรือ

 

 

และเมื่อคนพวกนี้ไปถึง พวกเขาจะเป็นต่อผู้มีพลังธาตุน้ำนี้ทันที

 

 

ดังนั้นงานของเขาในตอนนี้ก็คือการทำให้ผู้มีพลังธาตุน้ำไม่สามารถหนีไปทางทะเลได้ กลุ่มแก่นความเชื่อจะต้องแพ้อย่างแน่นอนถ้าคนคนนี้สามารถหนีลงทะเลไปได้ เพราะทะเลคือเวทีของเขา!

 

 

ผู้มีพลังธาตุลมจึงเริ่มพูดจาถากถางหลี่ว์ซู่เพื่อพยายามทำให้เขาเสียสมาธิและเคลื่อนที่ช้าลง แต่ถึงแม้แม้เขาจะพยายามมากแค่ไหน หลี่ว์ซู่ก็ไม่แม้แต่จะเหลือบมองมาด้วยซ้ำ จนผู้มีพลังธาตุลมเข้าใจได้ในที่สุดว่า… ผู้ชายคนนี้คงไม่เข้าใจภาษาอิตาลี…

 

 

เขาจึงเปลี่ยนเป็นภาษาอังกฤษและพูดว่า “ยังไงนายก็แพ้สงครามนี้อยู่แล้ว แล้วทำไมนายต้องยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อองค์กรที่กำลังจะล่มสลายด้วยล่ะ ฉันขอเสนอให้นายเข้าร่วมกับกลุ่มแก่นความเชื่อ แล้วนายจะได้ทำในสิ่งที่เหมาะสมกับระดับความแข็งแกร่งของนาย”

 

 

ในขณะเดียวกันพวกผู้มีพลังคนอื่นๆ ก็ได้แต่มองหลี่ว์ซู่มาจากที่ไกลๆ เพราะความหวาดกลัวที่มีต่อกระบี่เฉวียอินของเขา!

 

 

หลี่ว์ซู่มองมาที่ผู้มีพลังธาตุลมเพียงแค่แวบเดียว ก่อนที่เขาจะรีบมุ่งหน้าตรงไปยังรถบรรทุกคันที่สิบแปด และคันที่สิบเก้า…

 

 

ผู้มีพลังธาตุลมรู้สึกราวกับว่าถูกเมิน หรือเจ้าคนธาตุน้ำนี่ก็ไม่เข้าใจภาษาอังกฤษเหมือนกัน?

 

 

ทันใดนั้นหลี่ว์ซู่ก็ตอบกลับมาว่า “เอาสิ”

 

 

นั่นทำให้ผู้มีพลังธาตุลมรู้สึกแปลกใจ ง่ายขนาดนั้นเลยเรอะ

 

 

อย่างไรก็ตาม หลี่ว์ซู่ไม่ได้หยุดเคลื่อนไหวเลย ตอนนี้เขาไปถึงรถบรรทุกคันที่ยี่สิบเก้าแล้ว!

 

 

ขณะที่เวลาผ่านไปเรื่อยๆ ผู้มีพลังธาตุลมพยายามอย่างเต็มที่เพื่อรั้งหลี่ว์ซู่ไว้ ในขณะที่กำลังจัดแนวป้องกันที่แข็งแกร่งบนชายฝั่งทะเล พร้อมที่จะปิดกั้นเส้นทางหนีของหลี่ว์ซู่ได้ทุกเมื่อ

 

 

เป้าหมายสูงสุดก็คือการจับตัวหลี่ว์ซู่ที่ท่าเรือให้ได้ จากนั้นพวกเขาก็จะได้กระบี่ทั้งหมดคืนหลังจากหลี่ว์ซู่ตาย

 

 

ใบหน้าของผู้มีพลังธาตุลมค่อยๆ เย็นชาขึ้น และในขณะนั้นเองที่หลี่ว์ซู่เกือบจะเก็บรถบรรทุกทั้งหมดเสร็จ นั่นทำให้ผู้มีพลังธาตุลมเกิดความสงสัยว่าคลังไร้รูปของหลี่ว์ซู่นั้นใหญ่แค่ไหนกัน!

 

 

“ตรวจสอบเวลา พวกคาร์ดินัลจะมาถึงเมื่อไหร่”

 

 

“ภายในห้านาที!”

 

 

ผู้มีพลังธาตุลมถอนหายใจด้วยความโล่งอก จากนั้นใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความดุดัน “ขัดขวางเจ้าหัวขโมยด้วยชีวิต!”

 

 

วงล้อมของกลุ่มแก่นความเชื่อเริ่มตีวงแคบลงเรื่อยๆ พวกระดับ C ทั้งหมด ค่อยๆ เคลื่อนตรงไปยังรถบรรทุกคันสุดท้าย เตรียมพร้อมที่จะรับมือกับความตายเมื่อหลี่ว์ซู่มาถึง

 

 

อย่างไรก็ตาม จู่ๆ หลี่ว์ซู่ก็พุ่งตรงไปทางทิศตะวันออกโดยไม่ยอมไปเก็บรถบรรทุกคันสุดท้าย!

 

 

ขณะที่ทุกคนกำลังประหลาดใจ ก็กลับมีกระแสน้ำขึ้นสูง คลื่นสาดซัดข้ามเขื่อนตรงมายังทุกคนที่ท่าเรือ

 

 

ผู้มีพลังธาตุลมรู้สึกตกตะลึง เขาไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าศัตรูจะสามารถควบคุมกระแสน้ำได้จากที่ไกลๆ เจ้านี่จะต้องอยู่ขั้นสูงสุดของระดับ B แน่นอน!

 

 

“ขวางมันไว้!” ผู้มีพลังธาตุลมตะโกน ขณะนี้พวกคาร์ดินัลอยู่ห่างไปเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น เขาจะต้องได้รับโทษหนักแน่ๆ ถ้าปล่อยให้เจ้าหัวขโมยหนีไปในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้!

 

 

เขาหัวเราะเยาะหลี่ว์ซู่ “แกคิดว่าเครือข่ายฟ้าดินจะชนะเพราะอาวุธพวกนั้นได้จริงๆ น่ะเหรอ ฉันจะบอกอะไรให้นะ คนของพวกแกทุกคนกำลังเป็นที่ต้องการของอาณาจักรมืด หนึ่งชีวิตของพวกเครือข่ายฟ้าดิน แลกกับศิลาวิญญาณสิบเม็ด ทางฝั่งเรามีคนเยอะกว่า และคนอีกจำนวนมากก็กำลังจะมาที่นี่เพื่อไล่ล่าแก ความพยายามทั้งหมดของแกจะสูญเปล่า”

 

 

หลี่ว์ซู่ไม่อยากใส่ใจจนต้องเสียเวลาไปมากกว่านี้ ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือการหนีไปในทะเล ในความเป็นจริงแล้ว หลี่ว์ซู่รู้ดีว่าทีมสนับสนุนของพวกนี้มาถึงแล้ว เนื่องจากเจ้าระดับ B นี่ดูไม่ค่อยเต็มใจที่จะเผชิญหน้ากับเขาสักเท่าไหร่ แต่กลับสั่งให้พวกระดับต่ำกว่าขัดขวางเขาไว้ทุกทางแทน

 

 

ในตอนแรก หลี่ว์ซู่อยากจะโจมตีเจ้าระดับ B กลับไปสักหน่อยตอนที่เจ้านี่ไล่ล่าเขา ดังนั้นเขาจึงรู้สึกเสียใจที่ไม่มีโอกาสนั้นเนื่องจากเจ้านี่ระมัดระวังตัวมาก

 

 

แต่หลี่ว์ซู่รู้สึกได้ว่ามีบางอย่างกำลังเปลี่ยนไป ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา อาณาจักรมืดวางตัวเป็นกลางเสมอมา แม้ว่าพวกนี้จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ในโลกแห่งการฝึกฝน และยังถึงขั้นเปิดโอกาสให้มีการซื้อขายเหล่าวัยรุ่นที่มีศักยภาพในการฝึกฝน แต่ก็ไม่เคยแสดงความสนใจใดๆ ในการต่อสู้ แล้วทำไมตอนนี้ถึงเปลี่ยนไป

 

 

หลี่ว์ซู่รู้สึกได้ว่าอาณาจักรมืดยังมีบทบาทที่ไม่สามารถถูกแทนที่ได้ในสงครามขณะนี้อีกด้วย

 

 

เมื่อเห็นว่าหลี่ว์ซู่เริ่มไขว้เขว ผู้มีพลังธาตุลมจึงพูดต่อ “นอกจากนี้นะ พวกแกมีระดับ B กันกี่คน พวกเรามีระดับ B เยอะกว่าของพวกแกถึงสามเท่า อัตราต่อรองของแกคือเท่าไหร่ล่ะ”

 

 

ในความเป็นจริงแล้ว เครือข่ายฟ้าดินมีพวกระดับ A มากกว่าองค์กรอื่นๆ นอกจากนี้ยังไม่รวมที่ชายคนนี้ตั้งใจไม่พูดถึงว่าผู้บำเพ็ญลับของพวกเขามีช่องโหว่มากเพียงใด

 

 

ในตอนนี้เองที่จู่ๆ หลี่ว์ซู่ก็หยุดยืนนิ่งๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้เขา

 

 

ราวกับว่าเพียงแค่การมีอยู่ของเขา ก็สามารถที่จะขับไล่ผู้คนออกไปได้

 

 

หลี่ว์ซู่ยิ้ม และในตอนนั้นเองที่เขาตัดสินใจที่จะไม่หนี

 

 

เขาหันกลับมาและหัวเราะให้กับคนที่เพิ่งจะเยาะเย้ยเขาไป “นายพูดเองนะ จะฆ่าฉันเหรอ ถ้ากล้าก็เอาสิ แล้วมารอดูกันว่า…ใครจะเหลือรอดเป็นคนสุดท้าย!”

 

 

ตอนนี้เขาอยู่ในถิ่นของศัตรู และยังได้ยั่วยุสมาชิกที่มีอำนาจสูงสุดบางคนอีกด้วย เพราะมันคงจะน่าเสียดายไม่น้อยถ้าเขาจากไปโดยไม่ได้เก็บเกี่ยวเอาชีวิตของคนพวกนี้ไปด้วย

 

 

ในเมื่อคนพวกนี้บอกว่าตัวเองมีพวกระดับ B มากกว่า ถ้าอย่างนั้นก็ให้ฉันจัดการพวกมันบางส่วน เพื่อทำให้อะไรๆ ง่ายขึ้นสำหรับเครือข่ายฟ้าดินของฉันก็แล้วกัน!

 

 

เมื่อหลี่ว์ซู่พูดจบ เขาก็ตรงกลับไปที่รถบรรทุกคันสุดท้าย และเก็บมันใส่ลงในตราแผ่นดิน!

 

 

ในขณะนั้น แนวป้องกันของกลุ่มแก่นความเชื่อกำลังจดจ่ออยู่ที่ชายทะเล พวกเขาไม่ได้คาดคิดเลยว่าหลี่ว์ซู่จะเปลี่ยนแผน และกำลังพุ่งขึ้นเหนือไปยังป่า!

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

หลี่ว์ซู่ เป็นเด็กกำพร้าที่หาเลี้ยงตัวเองมาโดยตลอด และก็คงจะหาเลี้ยงตัวเองเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ ถ้าเขาไม่ได้ประสบอุบัติเหตุรถชนเข้าเสียก่อน… แต่เฮ้ย! เขาไม่เป็นอะไรเลยนี่ ไม่เจ็บ ไม่ปวด และไม่ตาย แถมวิญญาณไม่ได้หลุดออกจากร่างด้วย! จะมีก็แต่สัญลักษณ์รูปต้นไม้ที่จู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นมาบนฝ่ามือและพลังพิเศษในตัวที่ตื่นขึ้นมาเท่านั้น! ทว่าเขาไม่ได้เป็นเพียงคนเดียวที่ได้รับพลังพิเศษนี้มา เพราะคนอื่นๆ เองก็เริ่มกลายเป็นผู้มีพลังแล้วเหมือนกัน นี่มันเรื่องบ้าอะไร เกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้กันแน่ นี่เรากำลังจะก้าวเข้าสู่ยุคของผู้มีพลังพิเศษกันแล้วงั้นเหรอ หลี่ว์ซู่ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย ว่าแต่พลังที่ได้มานี่มันฝึกยังไงกันล่ะ เอ๊ะ ต้องสะสมแต้มอารมณ์ด้านลบงั้นเหรอ แค่กวนโมโหคนอื่นก็เพิ่มพลังได้แล้วงั้นเหรอ แบบนี้ก็เข้าทางหลี่ว์ซู่สุดๆ ไปเลยน่ะสิ!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset