ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ – ตอนที่ 843 ไปกันเถอะ

สำหรับเครือข่ายฟ้าดินแล้ว การช่วยหลี่ว์เสี่ยวอวี๋ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาต้องคิดให้มากมาย เพราะอย่างไรเธอก็เป็นเพียงแค่เด็กสาวธรรมดาคนหนึ่ง เธอจะต้องได้รับความช่วยเหลือ เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงผลได้ผลเสียใดๆ  

 

 

เฟิงเยี่ยหมิงและเฟิงอวิ๋นลู่แต่ละคนนำทหารในชุดเกราะทองแดงสองพันนายเพื่อไปช่วยเสี่ยวอวี๋ แต่พวกเขาต้องเผชิญหน้ากับสมาชิกของกลุ่มฟีนิกซ์หลายพันนาย ทุกคนๆ ดูท่าทางค่อนข้างมั่นใจ ตราบเท่าที่พวกเขาสามารถช่วยเธอได้อย่างรวดเร็วและกลับไปที่ป้อมปราการ ฝ่ายตรงข้ามคงจะไม่สามารถตามพวกเขาไปได้ไกลนัก  

 

 

สิ่งที่พวกเขากำลังจะทำนี้ย่อมต้องแลกด้วยอะไรบางอย่าง แต่เมื่อพิจารณาถึงผลได้ผลเสีย สิ่งที่หลี่ว์เสี่ยวอวี๋ได้ทำลงไปเปรียบเทียบได้กับทหารในชุดเกราะทองแดงถึงสี่พันนาย แต่อย่างไรสุดท้ายแล้ว ทหารสี่พันนายก็คงไม่สามารถต้านทานเหล่าผู้บำเพ็ญลับหลายพันคนเหมือนที่หลี่ว์เสี่ยวอวี๋ทำได้ และก็คงไม่สามารถทำลายรูปขบวนของพวกองค์กรใหญ่ได้เช่นกัน  

 

 

หลี่ว์เสี่ยวอวี๋ไม่ได้ตั้งใจทำให้ตัวเองตกอยู่ในอันตราย ไม่มีข้อผิดพลาดใดๆ แต่เธออ่อนแอเกินไปเมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มฟีนิกซ์ของเหล่าองค์กรใหญ่  

 

 

ดังนั้น ทั้งหมดที่เธอทำลงไปก็เพื่อเครือข่ายฟ้าดิน พวกเขาจึงจำเป็นต้องรับผิดชอบเรื่องนี้  

 

 

หลี่ว์ซู่และหลี่ว์เสี่ยวอวี๋ยอมเสี่ยงชีวิตเพื่อเครือข่ายฟ้าดิน ไม่ว่าสิ่งนี้จะถูกหรือผิด พวกเขาก็ต้องยอมแลก!  

 

 

ถ้าการส่งทหารสี่พันนายออกจากป้อมปราการเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด ก็คงต้องยอมให้เป็นเช่นนั้น  

 

 

พวกผู้บำเพ็ญลับวิ่งตรงไปยังช่องว่าง แต่กลุ่มฟีนิกซ์เป็นเหมือนกระบี่ที่เรียวและคม ตัดผ่านกลุ่มผู้บำเพ็ญลับไป ใครก็ตามที่ได้สัมผัสกระบี่เหล่านี้จะต้องตายอย่างน่าอนาถ  

 

 

ผู้บำเพ็ญลับมากกว่าหนึ่งแสนคนกระจัดกระจายไปทั่วทั้งเทือกเขาจั่งไป๋ พวกเขาอยู่รวมกันอย่างแออัดจนเหมือนมด  

 

 

แต่ท่ามกลางมดเหล่านั้น กลุ่มฟีนิกซ์เคลื่อนที่จากตะวันตกมุ่งสู่ตะวันออก ในขณะที่เหล่าระลอกทองแดงกำลังเคลื่อนที่จากตะวันออกไปตะวันตก พวกเขาดูเหมือนเส้นสีสองเส้นที่แตกต่างกันบนงานศิลปะนามธรรม!  

 

 

เหล่าผู้บำเพ็ญลับต่างยอมจำนนต่อคลื่นมหาชนจากทั้งสองฝั่ง เสียงครวญครางอย่างโศกเศร้าและเสียงกรีดร้องอย่างน่ากลัวดังระงมไปทั่ว เมื่อเวลาผ่านไปก็ไม่สามารถแยกเสียงเหล่านี้ออกจากกันได้อีก กลายเป็นความวุ่นวายจนเกินควบคุม  

 

 

คลื่นมหาชนทั้งสองฝั่งยืนห่างกันโดยหันหน้าเข้าหากัน พวกเขาจ้องเขม็งไปยังฝั่งตรงข้าม ราวกับว่าผู้บำเพ็ญลับที่อยู่ตรงกลางนั้นไร้ตัวตน  

 

 

และในตอนนั้นเอง พื้นดินที่อยู่ใต้กลุ่มฟีนิกซ์ก็ระเบิดออก ราวกับว่ามีใครบางคนกำลังฆ่าคนอยู่ที่ใต้ดินอย่างบ้าคลั่ง จนทำให้เกิดแรงระเบิดปะทุออกมาจากใต้ดิน  

 

 

พื้นที่อื่นๆ เองก็เริ่มระเบิด เหมือนกับว่ามีระเบิดกำลังระเบิดทีละลูกๆ อยู่ในมหาสมุทรลึก  

 

 

ผู้บำเพ็ญลับบางคนไม่สามารถหนีได้ทันจึงถูกแรงระเบิดส่งให้ลอยออกไป พวกเขารู้สึกเหมือนกระดูกทั่วทั้งตัวกำลังจะแตกเป็นเสี่ยงๆ  

 

 

เฟิงอวิ๋นลู่เริ่มตื่นตระหนก เพราะกลุ่มฟีนิกซ์ไปถึงระยะการต่อสู้ของหลี่ว์เสี่ยวอวี๋แล้ว เขากลัวว่าพวกตนอาจจะช้าเกินไปจนอาจจะทำให้เกิดอะไรขึ้นกับหลี่ว์เสี่ยวอวี๋ นอกจากนี้กลุ่มฟีนิกซ์ยังมีผู้มีพลังธาตุดินอีกหลายร้อยคน!  

 

 

ทันใดนั้นเองพื้นดินบริเวณที่อยู่ใต้สมาชิกกลุ่มฟีนิกซ์ก็ระเบิดออก  

 

 

สมาชิกหลายคนของกลุ่มฟีนิกซ์ได้รับผลกระทบไปด้วย เหมือนกับว่ามีระเบิดระเบิดขึ้นท่ามกลางกลุ่มคน หลุมขนาดมหึมาปรากฏขึ้นต่อหน้าพวกเขา  

 

 

พวกเขากลัวว่าหลี่ว์เสี่ยวอวี๋อาจจะไม่สามารถเอาชนะผู้มีพลังธาตุดินหลายร้อยคนได้ แต่หลี่ว์เสี่ยวอวี๋คนเดียวกับที่พวกเขากำลังเป็นห่วงกลับยืนอยู่กลางหลุมนั่น เงาดำสามสายหายไปใต้ผิวดินอย่างรวดเร็ว แต่รอบๆ ตัวเธอ… กลับเต็มไปด้วยซากศพของผู้มีพลังธาตุดิน!  

 

 

ทุกคนรู้สึกตกตะลึง ไม่มีใครคิดว่าหลี่ว์เสี่ยวอวี๋จะปรากฏตัวอีกครั้งด้วยท่าทางน่ากลัวเช่นนี้ เธอฆ่าพวกผู้มีพลังธาตุดินทั้งหมดด้วยตัวคนเดียว!  

 

 

เฟิงอวิ๋นลู่เข้าใจในทันทีว่าเขากังวลจนเกินเหตุ เพราะอีกฝ่ายถือเป็นจ้าวแห่งใต้ดินตัวจริง!  

 

 

บนใบหน้าของหลี่ว์เสี่ยวอวี๋มีฝุ่นติดอยู่เล็กน้อย ซึ่งคนที่คุ้นเคยกับผู้มีพลังธาตุดินจะรู้ดีว่า ใบหน้าของผู้มีพลังเหล่านี้จะไม่เปื้อนฝุ่นเมื่ออยู่ใต้ดิน นอกเสียจากว่าพวกเขากำลังหมดแรง!  

 

 

แครก! รอยแตกปรากฏบนหาดทรายขาวและทะเลลึกในมือของหลี่ว์เสี่ยวอวี๋  

 

 

นักบุญและเฉินไป่หลี่ต่อสู้กันอยู่ในที่ไกลๆ ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้หลุมขนาดมหึมานั่น ทุกสิ่งที่หลี่ว์เสี่ยวอวี๋ทำนั้นเกินกว่าคำว่าน่ากลัวไปแล้ว!  

 

 

หลี่ว์เสี่ยวอวี๋มองไปที่สมาชิกกลุ่มฟีนิกซ์รอบๆ ตัวเธออย่างใจเย็น… หลี่ว์ซู่อยู่ที่ไหน เขาไม่ได้อยู่ที่นี่  

 

 

คนเหล่านี้ล้วนเป็นคนที่เธออยากฆ่าให้ตาย หลี่ว์เสี่ยวอวี๋คิดว่าถ้าหลี่ว์ซู่อยู่ที่นี่ เขาคงไม่ยอมให้เธออยู่ในอันตรายแน่  

 

 

หลี่ว์เสี่ยวอวี๋ยิ้ม หาดทรายขาวและทะเลลึกซ่อมแซมตัวเองแล้ว เธอทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น และพูดกับหาดทรายขาวและทะเลลึกว่า “ไปกันเถอะ”  

 

 

ในชั่วพริบตา น้ำเสียงอันสงบของเธอก็ช่วยให้เธอได้แต้มมากมายจากสมาชิกกลุ่มฟีนิกซ์ พวกเขารู้สึกราวกับว่าเด็กสาวที่เหนื่อยล้าคนนี้มีอำนาจเหนือชีวิตพวกเขา แต่ทุกคนก็รู้ว่าตอนนี้เธอหมดแรงแล้ว!  

 

 

ตรงหน้ากลุ่มฟีนิกซ์นี่เอง!  

 

 

เฟิงเยี่ยหมิงนำขบวนและคำราม ”สนับสนุนหลี่ว์เสี่ยวอวี๋! อย่ากระตือรือร้นเกินไปในการต่อสู้!”  

 

 

เขาพุ่งตรงเข้าหาฝูงชน ในขณะที่เฟิงอวิ๋นลู่ตามาติดๆ ทางด้านหลัง พวกเขาเสกหอกยาวขึ้นมาในเวลาเดียวกัน หอกสาดประกายเจิดจ้าในขณะที่พวกเขาใช้มันโจมตีฝ่ายตรงข้าม รูปขบวนของกลุ่มฟีนิกซ์ถูกทำให้แตกกระเจิง สร้างเส้นทางหลบหนีให้หลี่ว์เสี่ยวอวี๋!  

 

 

กลุ่มฟีนิกซ์เริ่มโจมตีพวกเขาทั้งสองคนทันที ดูไปเหมือนกับทะเลแห่งแสง  

 

 

แต่เมื่อการโจมตีด้วยพลังสายธาตุของพวกเขาถูกส่งไปถึงเฟิงเยี่ยหมิงและเฟิงอวิ๋นลู่ การโจมตีเหล่านั้นก็เหมือนกับถูกปิดกั้นและเริ่มแผ่กระจายออกไป!  

 

 

นี่คือความสามารถอะไร แปลกมาก!  

 

 

หลี่ว์เสี่ยวอวี๋ตกตะลึง เธอไม่คาดคิดว่าพวกระลอกทองแดงจะมาช่วยเธอ เพราะถ้าเป็นเธอแล้ว เธอคงจะไม่ยอมมาช่วยใครสักคนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตนเอง ที่เธอกำลังต่อสู้อยู่ตอนนี้ก็เพื่อหลี่ว์ซู่ ไม่ใช่เพื่อตัวเธอเอง  

 

 

“เสี่ยวอวี๋ มานี่เร็ว!” เฟิงอวิ๋นลู่วิ่งตรงไปทางหลี่ว์เสี่ยวอวี๋พร้อมกับตะโกนเสียงดัง แต่ก่อนที่คำพูดของเขาจะส่งไปถึงเธอ ผู้มีพลังระดับ B สามคนจากกลุ่มฟีนิกซ์ก็ผละออกจากรูปขบวนของพวกเขาและเอาตัวเข้ากั้นระหว่างเฟิงอวิ๋นลู่และหลี่ว์เสี่ยวอวี๋!  

 

 

เฟิงเยี่ยหมิงและเฟิงอวิ๋นลู่ต่างก็ตื่นตระหนก พวกเขาต้องการฝ่าฟันเส้นทางเพื่อไปช่วยสนับสนุนหลี่ว์เสี่ยวอวี๋ แต่พวกเขามีคนเพียงสี่พันคนเท่านั้น ในขณะที่ฝ่ายตรงข้ามมีคนมากถึงหนึ่งหมื่น และพวกเขามีระดับ B เพียงสองคน ในขณะที่ฝ่ายตรงข้ามมีสาม!  

 

 

กลุ่มระลอกทองแดงเริ่มสูญเสีย ในฝูงชนไม่มีใครเทียบชั้นเฟิงเยี่ยหมิงและเฟิงอวิ๋นลู่ได้ แต่ฝ่ายตรงข้ามมีมากเกินไป พวกเขาเริ่มรู้สึกถึงความพ่ายแพ้  

 

 

เฟิงเยี่ยหมิงและเฟิงอวิ๋นลู่พยายามที่จะต่อสู้กับผู้มีพลังระดับ B สามคนของฝ่ายตรงข้าม แต่ก็ไม่มีประโยชน์!  

 

 

แต่ในขณะที่ผู้มีพลังจากกลุ่มฟีนิกซ์พุ่งเข้าใส่หลี่ว์เสี่ยวอวี๋ ท้องฟ้าก็กลายเป็นมืดครึ้ม  

 

 

ทุกคนอดไม่ได้ที่จะมองขึ้นไป เงาที่พาดผ่านดวงอาทิตย์โผล่มาอย่างกะทันหัน พวกเขายังไม่พร้อมสำหรับสิ่งนี้!  

 

 

ในตอนที่มองขึ้นไป สิ่งที่ทุกคนเห็นคือมังกรสีดำความยาวหนึ่งร้อยเมตรกำลังบินอยู่บนฟ้า มันดูเหมือนกับโทเทมที่ดูเหมือนจะมีอยู่แค่ในตำนานปรัมปรา  

 

 

เฉินจู่อานยืนอยู่ที่ป้อมปราการอย่างตกตะลึง เขามองไปที่ฮุ่นตุ้นและร่างที่ยืนอยู่บนนั้น “ฉันบอกแล้วว่าอย่าไปยุ่งกับเสี่ยวอวี๋ พี่ซู่จะฆ่าคนไม่เลือกแน่ถ้าไปทำให้เขาโกรธ!”  

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

หลี่ว์ซู่ เป็นเด็กกำพร้าที่หาเลี้ยงตัวเองมาโดยตลอด และก็คงจะหาเลี้ยงตัวเองเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ ถ้าเขาไม่ได้ประสบอุบัติเหตุรถชนเข้าเสียก่อน… แต่เฮ้ย! เขาไม่เป็นอะไรเลยนี่ ไม่เจ็บ ไม่ปวด และไม่ตาย แถมวิญญาณไม่ได้หลุดออกจากร่างด้วย! จะมีก็แต่สัญลักษณ์รูปต้นไม้ที่จู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นมาบนฝ่ามือและพลังพิเศษในตัวที่ตื่นขึ้นมาเท่านั้น! ทว่าเขาไม่ได้เป็นเพียงคนเดียวที่ได้รับพลังพิเศษนี้มา เพราะคนอื่นๆ เองก็เริ่มกลายเป็นผู้มีพลังแล้วเหมือนกัน นี่มันเรื่องบ้าอะไร เกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้กันแน่ นี่เรากำลังจะก้าวเข้าสู่ยุคของผู้มีพลังพิเศษกันแล้วงั้นเหรอ หลี่ว์ซู่ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย ว่าแต่พลังที่ได้มานี่มันฝึกยังไงกันล่ะ เอ๊ะ ต้องสะสมแต้มอารมณ์ด้านลบงั้นเหรอ แค่กวนโมโหคนอื่นก็เพิ่มพลังได้แล้วงั้นเหรอ แบบนี้ก็เข้าทางหลี่ว์ซู่สุดๆ ไปเลยน่ะสิ!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset