ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ – ตอนที่ 923 เอารถขนธัญพืชของพวกเราไปซ่อนไว้ที่ไหน

ขบวนยานพาหนะที่ทอดยาวกว่าหนึ่งพันเมตรหยุดและหันกลับไปมอง ด้วยความตกใจ พวกเขาพบว่ารถม้าที่อยู่ท้ายสุดของขบวนกำลังจมลงสู่พื้น พื้นดินเป็นเหมือนพื้นผิวของน้ำ ! รถม้าร่วงลงสู่พื้นและหายไป  

 

 

ยิ่งไปกว่านั้น จำนวนรถม้าที่หายไปก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยไม่มีวี่แววว่าจะหยุด  

 

 

ทหารจากทัพหลงเหมิ่งรีบปกป้องรถม้าของพวกเขา พวกเขาไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้น! พวกเขาอยากจะทักทายศัตรูด้วยการโจมตี แต่พวกเขามองไม่เห็นแม้แต่ว่าศัตรูอยู่ที่ไหน!  

 

 

ในท้ายที่สุด เมื่อรถม้ากว่าสามสิบคันหายไป ผู้บัญชาการระดับสองของทัพหลงเหมิ่งก็ตะโกนว่า “ฉันเกรงว่าทัพเฮยอวี่จะเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว ทุกคนต้องระวังตัวให้ดี! ยกรถม้าขึ้นจากพื้น!”  

 

 

ในขณะนั้น ทัพหลงเหมิ่งได้ยกรถม้าที่เหลืออีกยี่สิบคัน ในที่สุดพวกเขาก็ป้องกันไม่ให้รถม้าหายไปได้  

 

 

หลี่ว์เสี่ยวอวี๋สามารถลากคนเหล่านี้ลงไปใต้ดินพร้อมกับรถม้าก็ได้ แต่หลี่ว์ซู่บอกเธอว่าห้ามฆ่าคน แหวนอวกาศของเธอไม่สามารถเก็บได้มากกว่านี้เช่นกัน หลี่ว์เสี่ยวอวี๋หันหลังและจากไป  

 

 

ทหารของทัพหลงเหมิ่งตระหนักได้ว่านี่เป็นวิธีที่ได้ผล พวกเขาเริ่มชื่นชมผู้บัญชาการของพวกเขา “ผู้บัญชาการของพวกเราฉลาดมาก!”  

 

 

สำหรับทัพหลงเหมิ่ง ยังจะมีใครมาขโมยธัญพืชอีก หากไม่ใช่ทัพเฮยอวี่ มีวิธีการในโลกนี้ที่ให้คนซ่อนตัวอยู่ในพื้นดินได้ แต่มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่ใช้วิธีการนี้ได้ ว่ากันว่าชนชั้นสูงในทัพเฮยอวี่สามารถทำแบบนี้ได้  

 

 

หลี่ว์ซู่อยู่ในถ้ำหินปูนของภูเขาราชาหลี่ว์เพื่อฝึกฝนท่วงท่าวิชากระบี่ของเขา เขาพบว่าหลี่ว์เสี่ยวอวี๋ได้รับแต้มเป็นจำนวนมาก แต่ที่ว่ามีจำนวนหลายร้อย ทันใดนั้น หลี่ว์ซู่รู้ก็สึกว่าอัตราที่หลี่ว์เสี่ยวอวี๋ได้รับแต้มอารมณ์นั้นเร็วพอๆ กับเขา…  

 

 

บนเส้นทางทางตอนเหนือของช่องเขาเป่ยเว่ย มีคนห้าคนนั่งเรียงแถวกันเงียบๆ อยู่บนกิ่งไม้ พวกเขาหลับตาลงและพักผ่อน ทันใดนั้นก็มีม้าควบม้าเข้ามา พวกเขาทั้งห้าคนลืมตาขึ้นพร้อมกัน “พวกเขาอยู่ที่นี่”  

 

 

“โจมตีแล้ววิ่งทันที” ผู้เป็นหัวหน้าพูดขึ้น “ผู้บัญชาการต้องการช่องเขาเว่ยเป่ย เราต้องไม่ประมาท”  

 

 

“รับทราบ” อีกสี่คนที่เหลือพูดขึ้นพร้อมกัน  

 

 

ห้าคนนี้เป็นหน่วยสอดแนมที่ยอดเยี่ยมที่สุดของทัพเฮยอวี่ หนึ่งในพวกเขาคือยอดฝีมือระดับสอง แม้ว่าพวกเขาจะถูกเรียกว่าหน่วยสอดแนม แต่พวกเขาก็แตกต่างจากหน่วยสอดแนมที่มักจะอยู่ในแนวหน้าของกองทัพ หน้าที่ของพวกเขาคือการแทรกซึมเข้าไปในพื้นที่และทำงานให้สำเร็จ  

 

 

พวกเขาได้รับหน้าที่ให้มาเผาธัญพืชในช่องเขาเว่ยเป่ย พวกเขาแทรกซึมอยู่ในช่องเขาเว่ยเป่ยมาเป็นเวลากว่าห้าปีเต็ม เมื่อกองทัพเฮยอวี่มาถึงในเช้าวันนี้พวกเขาจึงได้จัดการกับช่องเขาเว่ยเป่ยอย่างเด็ดขาด  

 

 

อย่างไรก็ตาม พวกเขารู้ดีว่าแม้พวกเขาจะทำลายธัญพืชทั้งหมดในช่องเขาเว่ยเป่ย แต่ทัพหลงเหมิ่งก็มีสิทธิ์ที่จะได้รับธัญพืชจากเมืองใกล้เคียงทั้งห้าเมือง ดังนั้น หลังจากที่พวกเขาจัดการกับช่องเขาเว่ยเป่ยแล้ว พวกเขาทั้งห้าคนจึงซ่อนตัวอยู่ใกล้ๆ และรอให้ขบวนขนส่งมาถึง  

 

 

เพราะพวกเขาต้องการเริ่มการโจมตีที่รุนแรง พวกเขาจึงต้องทำลายรากฐานของฝ่ายตรงข้าม  

 

 

แต่ในตอนนั้นเอง พวกเขาทั้งห้าคนก็ต้องตกตะลึง “มีบางอย่างไม่ถูกต้อง!”  

 

 

เมื่อขบวนขนส่งเข้ามาอยู่ในระยะสายตาของพวกเขา ทั้งห้าคนถึงได้เข้าใจว่าจำนวนธัญพืชที่ขนส่งมานั้นมีน้อยมาก “หรือพวกนั้นจะรู้ว่าพวกเรากำลังซุ่มอยู่เพื่อรอทำลายธัญพืช ทำไมพวกนั้นถึงมีรถม้าน้อยขนาดนี้”  

 

 

“เป็นไปไม่ได้” คนที่เป็นผู้นำส่ายหัว “พวกเราแฝงตัวอยู่ในทัพหลงเหมิ่งมาห้าปีแล้ว พวกเราจะไม่รู้ได้ยังไงว่าพวกเขาขนส่งธัญพืชกันยังไง ทุกคนอยู่ที่นี่ แต่รถม้าหายไป!”  

 

 

เขาพูดถูก ทุกคนอยู่ที่นี่ แต่รถขนส่งล่ะ พวกเขามีรถขนส่งเสบียงจำนวนมหาศาล รถเหล่านั้นหายไปได้อย่างไร  

 

 

“มีบางอย่างแปลกๆ” จู่ๆ ใครคนหนึ่งก็พูดขึ้น “ดูสิ…”  

 

 

ทุกคนมองไปยังทิศทางนั้นทันที พวกเขาสังเกตเห็นทัพหลงเหมิ่งไม่ได้ใช้ล่อดึงในการลากรถม้า แต่พวกเขาเพียงแค่ยกรถม้าขึ้นแล้วเดิน…  

 

 

“นี่มันเรื่องอะไรกัน พวกเรารออยู่ในทัพหลงเหมิ่งมาห้าปีแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันเห็นพวกเขาแบกรถขนส่งเดิน…” ใครบางคนถอนหายใจ  

 

 

“ต้องมีบางอย่างผิดปกติแน่…”  

 

 

ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเข้าใจว่าทำไมทัพหลงเหมิ่งจึงต้องเดินแบกรถม้า แต่ฉากตรงหน้าของพวกเขานั้นแปลกเกินไป หน่วยสอดแนมทั้งห้าคนจากทัพเฮยอวี่คงไม่เชื่อว่าไม่มีปัญหาอะไรอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้…  

 

 

“พวกเรายังต้องโจมตีอยู่ไหม” ใครบางคนถามเสียงต่ำ  

 

 

ผู้เป็นหัวหน้าครุ่นคิดและพูดว่า “เดี๋ยวก่อนนะ เดี๋ยวก่อน ฉันขอคิดก่อนว่าทำไมพวกเขาถึงทำแบบนั้น…หรือนี่จะเป็นกับดัก แต่กับดักนี้แปลกเกินไป…”  

 

 

หน่วยสอดแนมจากทัพเฮยอวี่ไม่เข้าใจว่าทำไมคนเหล่านี้ถึงต้องแบกรถขนส่ง ทัพหลงเหมิ่งไม่เข้าใจว่าทำไมยอดจึงขัดขวางกองเรือขนส่งขนาดเล็กเช่นพวกเขา …  

 

 

ไม่ใช่ว่าทัพหลงเหมิ่งต้องการแบกรถขนส่ง ในความเป็นจริง ทุกคนคิดว่าถ้าเป็นยอดฝีมือที่พวกเขานึกถึง พวกเขาอาจถูกดึงลงใต้ดินไปพร้อมกับรถม้าแล้ว แต่หลังจากที่พวกเขายกรถม้าขึ้น ก็ไม่มีการโจมตีอีก…  

 

 

นี่ให้ความรู้สึกเหมือนการทดลองในสัตว์ หากลิงในกรงยื่นมือออกไปเพื่อจับกล้วย มันจะถูกไฟช็อต และมันจะได้เรียนรู้ว่ามันจะถูกไฟช็อตถ้ามันพยายามจะหยิบกล้วย ดังนั้นมันจึงไม่กล้าหยิบกล้วยอีกต่อไป  

 

 

พวกเขาจะทำอะไรได้ พวกเขาเองก็รู้สึกสิ้นหวังเช่นกัน  

 

 

“ขบวนขนส่งหายไปก่อนที่พวกเราจะเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น…” หนึ่งในหน่วยสอดแนมจากทัพเฮยอวี่ถอนหายใจ  

 

 

“เดี๋ยวก่อนนะ เดี๋ยวก่อน…ลืมมันไปก่อน นี่แปลกเกินไปแล้ว แยกย้าย!” หน่วยสอดแนมจากทัพเฮยอวี่แยกย้ายกันไป พวกเขามีเพียงห้าคนและแข็งแกร่งมาก พวกเขาจะจัดการเฉพาะการโจมตีขั้นเด็ดขาดเท่านั้น พวกเขาจะไม่ทำอะไรที่เสี่ยงเกินไป  

 

 

แต่ในขณะนั้น จู่ๆ พวกเขาก็รู้สึกถึงแรงกดดันมหาศาลจากท้องฟ้า ผู้ที่เป็นผู้นำตะโกนว่า “มียอดฝีมือระดับหนึ่งมาจากทางเขตเหนือ!”  

 

 

พวกเขาเห็นยอดฝีมือระดับหนึ่งยกมือขึ้นและออกแรงกดลงบนพื้น ฝ่ามือสีดำขนาดใหญ่ตกลงมาจากท้องฟ้า ลมกระโชกแรงพัดอยู่ในป่า ยอดฝีมือกดป่าที่พวกเขาอยู่ลงไป หน่วยสอดแนมของทัพเฮยอวี่ทั้งห้าคนนอนอยู่บนพื้นและไม่สามารถขยับตัวได้  

 

 

พวกเขาพยายามดิ้นรน แต่ก็ถูกมือสีดำกดเอาไว้ พวกเขาไม่สามารถแม้แต่จะยกนิ้วขึ้นมา  

 

 

คนที่อยู่บนฟ้าพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “คืนทุกอย่างที่พวกนายขโมยมาซะ ถ้าพวกนายกล้าขโมยธัญพืชของทัพหลงเหมิ่ง งั้นก็เตรียมร้องขอความเมตตาซะเถอะ”  

 

 

เมื่อหน่วยสอดแนมทั้งห้าคนถูกโยนเข้าไปในคุกในช่องเขาเว่ยเป่ย ชายชราสวมเสื้อคลุมสีดำก็เดินเข้ามา เขามองไปที่หน่วยสอดแนมของทัพเฮยอวี่ที่ถูกขังอยู่และพูดว่า “บอกฉันสิ พวกนายซ่อนรถขนส่งธัญพืชของพวกเราที่หายไปไว้ที่ไหน”  

 

 

หน่วยสอดแนมของทัพเว่ยอวี่หวาดกลัวอย่างมาก “พวกเราอธิบายได้นะ เมื่อเช้านี้พวกเราเพียงแค่นั่งอยู่บนต้นไม้ จากนั้นพวกเราก็เห็นทัพหลงเหมิ่งแบกรถม้าเดินผ่านไป…พวกเราไม่มีแม้แต่เวลาให้ตอบโต้ด้วยซ้ำ!”  

 

 

ชายชราขมวดคิ้ว “ไม่สำนึกผิดใช่ไหม บอกฉันมา รถม้าขนส่งของพวกเราหายไปไหน!”  

 

 

หน่วยสอดแนมของทัพเฮยอวี่แทบจะร่ำไห้ พวกเขาไม่ได้ขโมยรถม้าจริงๆ!  

 

 

ในคืนนั้น ทัพหลงเหมิ่งได้ส่งชนชั้นสูงจำนวนมากออกค้นหาพื้นที่ พวกเขาต้องการค้นหาทหารของทัพเฮยอวี่ที่แทรกซึมเข้ามาในกองทัพของพวกเขา…  

 

 

กลับไปที่ภูเขาราชาหลี่ว์ หลี่ว์ซู่มองไปที่รถขนส่งด้วยความตะลึง “เธอจ่ายไปเท่าไหร่”  

 

 

“ฉันไม่ได้จ่ายอะไรเลย!” หลี่ว์เสี่ยวอวี๋ฟังดูพึงพอใจในตนเองมาก “และฉันก็ไม่ได้ทำร้ายใครด้วย ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทุกอย่างอยู่ภายใต้การควบคุม!”  

Related

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

Status: Ongoing
หลี่ว์ซู่ เป็นเด็กกำพร้าที่หาเลี้ยงตัวเองมาโดยตลอด และก็คงจะหาเลี้ยงตัวเองเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ ถ้าเขาไม่ได้ประสบอุบัติเหตุรถชนเข้าเสียก่อน… แต่เฮ้ย! เขาไม่เป็นอะไรเลยนี่ ไม่เจ็บ ไม่ปวด และไม่ตาย แถมวิญญาณไม่ได้หลุดออกจากร่างด้วย! จะมีก็แต่สัญลักษณ์รูปต้นไม้ที่จู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นมาบนฝ่ามือและพลังพิเศษในตัวที่ตื่นขึ้นมาเท่านั้น! ทว่าเขาไม่ได้เป็นเพียงคนเดียวที่ได้รับพลังพิเศษนี้มา เพราะคนอื่นๆ เองก็เริ่มกลายเป็นผู้มีพลังแล้วเหมือนกัน นี่มันเรื่องบ้าอะไร เกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้กันแน่ นี่เรากำลังจะก้าวเข้าสู่ยุคของผู้มีพลังพิเศษกันแล้วงั้นเหรอ หลี่ว์ซู่ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย ว่าแต่พลังที่ได้มานี่มันฝึกยังไงกันล่ะ เอ๊ะ ต้องสะสมแต้มอารมณ์ด้านลบงั้นเหรอ แค่กวนโมโหคนอื่นก็เพิ่มพลังได้แล้วงั้นเหรอ แบบนี้ก็เข้าทางหลี่ว์ซู่สุดๆ ไปเลยน่ะสิ!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset