ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ – ตอนที่ 941 การต่อสู้ที่เต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยม

ตอนนี้เส้นทาของกองทัพเฮยอวี่ที่จะไปทางเหนือคือเมืองหนานเกิง เมืองอวิ๋นอาน เมืองก่วงเหลียว และช่องเขาเว่ยเป่ย  

 

 

เสบียงขนส่งของกองทัพเฮยอวี่ยังคงถูกขนส่งไปตามเส้นทางนี้อย่างต่อเนื่อง เมื่อพวกเขาต่อสู้ในช่องเขาเว่ยเป่ย พวกเขาก็ไม่มีอาหารเก็บเอาไว้ที่นี่ ขณะที่เมืองหนานเกิงถูกหลิวอี้เจาเผาทำลายก่อนที่จะจากไป และเมืองอวิ๋นอานก็ถูกหลี่ว์ซู่เผาและเอาอาหารธัญพืชที่มีเหลืออยู่ทั้งหมดออกไป ส่วนเมืองก่วงเหลียวยังคงมีเหลือสำรองเอาไว้อยู่บ้าง แต่ก็ยังไม่เพียงพอสำหรับการบริโภคประจำวันของกองทัพขนาดใหญ่อย่างกองทัพเฮยอวี่ได้  

 

 

เดิมทีผู้บัญชาการกองทัพเฮยอวี่หวังว่าพวกเขาจะยึดอาหารบางส่วนในช่องเขาเว่ยเป่ยมาได้ แต่พวกเขาก็พบว่าพื้นที่นี้ยากจนข้นแค้นมาก ต้องรู้ว่าเมื่อกองทัพหลงเหมิ่งจากไป พวกเขาก็ไม่มีโอกาสเผาหรือนำเสบียงอาหารไปเลย ดังนั้นเวลานี้จึงมีเสบียงเหลืออยู่เล็กน้อย  

 

 

ผู้บัญชาการกองทัพเฮยอวี่ฉุนเฉียวเล็กน้อย ว่ากันว่ากองทัพหลงเหมิ่งได้รับปันส่วนกองทัพแล้วไม่ใช่หรือ? แล้วทำไมพวกเขาถึงเหลือแค่เล็กน้อยอย่างนี้ล่ะ?  

 

 

แต่ความจริงแล้ว อาหารของกองทัพหลงเหมิ่งก็ถูกหลี่ว์ซู่และคนอื่นๆ ปล้นเอาไปเช่นกัน…  

 

 

ซึ่งหากผู้บัญชาการกองทัพเฮยอวี่รู้ความจริงก็คงจะยิ่งเกรี้ยวกราดมากขึ้น เมื่อกองทัพอู่เว่ยต่อสู้ พวกเขาจะไม่ปล่อยให้คนของพวกเขาเหลือทิ้งเอาไว้…  

 

 

…  

 

 

แต่สำหรับหลี่ว์ซู่ คนในจักรวาลหลี่ว์นั้นล้วนประหลาด พวกเขามาจากไหนกัน ในขณะที่กองทัพอู่เว่ยเป็นคนของเขาเอง ส่วนคนอื่นๆ นั้นนับไม่ได้  

 

 

ดังนั้นอันตรายซ่อนเร้นที่ใหญ่ที่สุดสำหรับกองทัพเฮยอวี่ที่มุ่งหน้าไปทางเหนือนั้นก็คือกองหลังของพวกเขาไม่มั่นคง พวกเขาจะแน่ใจได้อย่างไรว่าการขนส่งเสบียงและทรัพยากรของพวกเขาจะราบรื่น และยังไม่รู้ว่าจะจัดการกับกองทัพอู่เว่ยได้อย่างไรเช่นกัน  

 

 

ผู้บัญชาการกองทัพเฮยอวี่ก็ไม่ใช่คนระดับรากหญ้าที่ไม่มีรากฐานใดๆ ดังนั้นเมื่อเขาเริ่มให้ความสนใจกับการเดิมพันในเมืองหลวง เขาก็ได้ยินมาว่าตระกูลซ่งกำลังซื้อชุดเกราะเวทเป็นจำนวนมาก  

 

 

ตระกูลซ่งเป็นตระกูลขุนนางชั้นสูงและไม่เคยทำสงครามกับใครมาหลายปีแล้ว แต่ทำไมพวกเขาถึงต้องการชุดเกราะเวทล่ะ?เพียงแค่ใช้นิ้วเท้าคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็รู้แล้วว่านี่เป็นของสำหรับกองทัพอู่เว่ย พวกเขากำลังร่วมงานกับกองทัพอู่เว่ย  

 

 

เดิมทีความแข็งแกร่งโดยรวมของกองทัพอู่เว่ยนั้นก็แข็งแกร่งมากอยู่แล้ว เพียงแค่พวกเขามีจำนวนคนน้อยไปสักหน่อยเท่านั้น แล้วบัดนี้พวกเขาทั้งหมดสวมชุดเกราะเวทเสริมเข้าไปอีก แล้วจะสู้กันอย่างไรล่ะ?   

 

 

พวกเขาคงทิ้งช่องเขาเว่ยเป่ย และต่อสู้กับกองทัพอู่เว่ยจนตายไม่ได้ใช่ไหม?  

 

 

ผู้คนนับแสนคนกำลังจะสู้ตายกับคนห้าพันคนเหรอ? ช่างใช้กำลังคนอย่างเสียเปล่า ไม่ว่าจะคิดอย่างไรก็น่าอัปยศจริงๆ!  

 

 

ปัญหาอีกประการหนึ่งคือหลังจากที่ความแข็งแกร่งโดยรวมของกองทัพอู่เว่ยเพิ่มสูงขึ้น ไม่เพียงแต่พวกเขาจะต่อสู้ได้เท่านั้น แต่พวกเขายังวิ่งได้อย่างรวดเร็วขึ้นอีกด้วย พวกเขาจะวิ่ง หากพวกเขาถูกสั่งให้วิ่ง และกองทัพเฮยอวี่ก็ไล่ตามไม่ทันด้วยซ้ำ แล้วเชื่อไหมล่ะว่า พวกเขายังมีสี่ยอดฝีมือระดับหนึ่งที่คอยคุ้มกันการล่าถอยของพวกเขาด้วย?  

 

 

ในช่วงสองสามวันที่ผ่านมานี้ ผู้บัญชาการกองทัพเฮยอวี่กำลังยุ่งอยู่กับการปรับระบบการจัดในกองทัพ เขาต้องการสร้างกองกำลังที่ทัดเทียมกับกองทัพอู่เว่ย  

 

 

ก่อนหน้านี้จะมีการกระจายยอดฝีมือระดับหนึ่งไปถึงระดับห้าอย่างเท่าเทียมกันในแต่ละกอง แต่ตอนนี้เขาจัดการให้ต่างออกไป ผู้บัญชาการกองทัพตัดสินใจให้ทหารบางกองยกระดับทหารผู้ที่ทรงพลังการต่อสู้ระดับสูงสองสามคนและสร้างหน่วยดังกล่าวขึ้นมาเพื่อที่พวกเขาจะได้สร้างกองกำลังที่เทียบเท่ากับกองทัพอู่เว่ยและไล่ตามกองทัพอู่เว่ยได้  

 

 

และเป็นผลให้เขาพบว่าเหล่านักรบผู้ทรงพลังการต่อสู้ระดับสูงของกองทัพเฮยอวี่ทั้งหมดนั้นแทบจะไม่เหลือแล้ว มีเพียงสี่ยอดฝีมือระดับหนึ่ง และมียอดฝีมือระดับสามมากกว่าสองพันคนเท่านั้น เวลานี้แม้แต่จอมยุทธ์ชั้นยอดของพวกเขาก็ยังเทียบกับกองทัพอู่เว่ยไม่ได้… แล้วกองทัพอู่เว่ยก็ยังมีเกราะเวทเสริมเข้ามาอีกด้วย!  

 

 

แต่อย่างไรก็ตาม ผู้บัญชาการกองทัพเฮยอวี่ก็ตระหนักดีว่าความคล่องตัวสูงของกองทัพอู่เว่ยนั้นสำคัญอย่างยิ่งในการสู้รบ ตอนนี้เขากำลังรอและหวังว่าบ่อนพนันในเมืองหลวงจะเปิดวางเดิมพันใหม่หรือไม่ และด้วยวิธีนี้ เขาก็จะรู้ว่ากองทัพอู่เว่ยกำลังวางแผนอะไรต่อไป และจะได้กำหนดเป้าหมายพวกเขาได้  

 

 

ผู้บัญชาการกองทัพเฮยอวี่ก็หงุดหงิดเล็กน้อยเช่นกัน กองทัพอู่เว่ยนี้แปลกประหลาดและไม่อาจคาดเดาได้ หากอยากรู้ข้อมูล เขาต้องอาศัยดูข้อมูลการเดิมพัน… เป็นครั้งแรกที่ผู้บัญชาการกองทัพเฮยอวี่ทำข่าวกรองโดยใช้วิธีอันชาญฉลาดนี้  

 

 

หากทั้งหมดนี้ล้มเหลว เขาก็จะวางเดิมพันว่า กองทัพเฮยอวี่จะแพ้ และในกรณีที่เลวร้ายที่สุด เขาก็จะสละตำแหน่งผู้บัญชาการกองทัพและกลายเป็นผู้มั่งคั่งในเมืองหลวงแทน…  

 

 

ขณะที่กองทัพเฮยอวี่กำลังปรับระบบกองทัพอย่างเงียบๆ และเตรียมซุ่มโจมตีกองทัพอู่เว่ยอยู่นั้น เหล่าขุนนางทางเหนือก็มีการพูดคุยกันอย่างลับๆ เช่นกัน  

 

 

เดิมทีพวกเขาวางแผนที่จะรอดูท่าทีจนกว่ากองทัพเฮยอวี่จะเคลื่อนกำลังพลไปทางเหนือเพื่อขยายอาณาเขตและแบ่งกำลังพลก่อน และหลังจากที่กองกำลังแยกย้ายกันไป พวกเขาก็จะส่งกองกำลังไปปราบกองทัพเฮยอวี่  

 

 

อย่างไรก็ตาม หากกองทัพเฮยอวี่มาที่นี่และไม่ต้องการให้การเคลื่อนพลของพวกเขาถูกปิดกั้น พวกเขาจะต้องยึดเมืองและจัดกำลังทหารเพื่อปกป้องเมืองนั้น ทว่าเมื่อแนวป้องกันของพวกเขาขยายขึ้นเรื่อยๆ ความแข็งแกร่งของกองทัพเฮยอวี่ก็จะลดลง  

 

 

และผลก็คือ หลังจากที่รอมาเกือบเดือน กองทัพเฮยอวี่ก็ถูกกองทัพอู่เว่ยดึงไว้ที่ช่องเขาเว่ยเป่ย!   

 

 

ทุกคนต่างส่งทาสไปพูดคุยกับกองทัพอู่เว่ย แต่พวกเขาทั้งหมดล้วนคว้าน้ำเหลว เวลานี้มีคำกล่าวกันว่าจอมทัพสวรรค์กำลังจะมา หากพวกเขาขับไล่กองทัพเฮยอวี่ในเวลานั้นมันย่อมจะดีกว่า แต่หากกองทัพเฮยอวี่ไม่ถูกขับไล่ พวกเขาทั้งหมดจะต้องรับผิดชอบกับการนิ่งเฉย  

 

 

และหากพวกเขาไม่เคลื่อนไหว กองทัพอู่เว่ยก็จะได้รับความชื่นชมมากที่สุด และเมื่อเหล่าขุนนางนึกถึงว่ากองทัพอู่เว่ยที่แตกสลายจะได้รับความชื่นชมและผลตอบแทนเพียงฝ่ายเดียว พวกเขาก็ค่อนข้างไม่มีความสุขเท่าใดนัก…  

 

 

ดังนั้นเจ็ดขุนนางชั้นสูงจึงมุ่งความสนใจไปที่สถานการณ์นี้ มีขุนนางชั้นสูงสามคนที่บรรลุข้อตกลงลับเพื่อต่อสู้กับกองทัพเฮยอวี่ล่วงหน้าแล้ว! เมื่อพวกเขาทุกคนเห็นว่ากองทัพเฮยอวี่รับมือกองทัพอู่เว่ยไม่ได้ พวกเขาก็จะเริ่มคิดพิจารณาอย่างจริงจังว่ากองทัพเฮยอวี่อาจไม่ได้แข็งแกร่งอย่างที่คิดไว้?  

 

 

ในขณะที่กองทัพเฮยอวี่กำลังรอให้มีการเปิดวางเดิมพันใหม่ในเมืองหลวง แต่แทนที่จะรอกองทัพอู่เว่ย พวกเขากลับรอขุนนางชั้นสูงในทางเหนือที่เริ่มเคลื่อนไหวแล้ว…  

 

 

ผู้บัญชาการกองทัพเฮยอวี่เครียดจัด พวกเขาจัดการกองทัพอู่เว่ยไม่ได้ แล้วตอนนี้พวกเขายังต้องจัดการกับเหล่าขุนนางชั้นสูงอีกด้วย? ทุกคนในโลกนี้ล้วนกล้ามีเรื่องกับกองทัพเฮยอวี่หรืออย่างไรกัน? มียอดฝีมือหลายคนจากจอมทัพสวรรค์ในกองทัพเฮยอวี่ พวกเขาจะเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ตามแผนการอันยอดเยี่ยม   

 

 

พวกเขาผิดหวังมากที่กองกำลังทางเหนือถูกกองทัพอู่เว่ยกักขังเอาไว้ ทุกคนต้องการมีเรื่องกับกองทัพเฮยอวี่จริงๆ ใช่ไหม?  

 

 

อย่างไรก็ตาม เขายังกังวลอยู่เล็กน้อย จะเกิดอะไรขึ้นหากเหล่าขุนนางและกองทัพอู่เว่ยร่วมมือกัน? พวกเขาจะทำอะไร?  

 

 

เวลานี้มีการเดิมพันใหม่ในเมืองหลวงแล้ว กองทัพอู่เว่ยจะร่วมมือกับกองกำลังทหารที่ขุนนางทางเหนือส่งมาหรือไม่?  

 

 

ผู้บัญชาการกองทัพเฮยอวี่ต้องการใช้สิ่งนี้เพื่อตัดสินว่ากองทัพอู่เว่ยจะส่งกองทหารของพวกเขามาหรือไม่ แต่การเดิมพันทั้งสองฝ่ายนั้นมีอัตราต่อรองต่ำมาก และไม่มีทิศทางที่จะชี้ไปยังข้อสรุปใดๆ เลย  

 

 

ในขณะนั้นก็มีแขกจากกองทัพชิงไส้มาเยี่ยมเยียน กองทัพชิงไส้มาถึงช่องเขาเว่ยเป่ย เวลานี้ผู้บัญชาการกองทัพเฮยอวี่นั่งอยู่ในกระโจมกลางค่ายทหาร เขามองไปที่ชายหนุ่มรูปงามผู้กล้าหาญที่อยู่ตรงหน้าอย่างสงบแล้วพูดอย่างใจเย็นว่า “เป็นเรื่องน่าสนใจทีเดียวที่ผู้บัญชาการกองทัพชิงไส้ยินดีที่จะเป็นหน่วยสอดแนมให้กับคนอื่น และตอนนี้คุณกล้าดียังไงหรือถึงมาที่นี่คนเดียว? บอกมาเถอะว่าคุณมาที่นี่ทำไม”  

 

 

หลิวอี้เจายิ้มและพูดว่า “หนึ่งล้านห้าแสน นี่เป็นราคาที่ดีมาก”  

 

 

 

 

 

ผู้บัญชาการกองทัพเฮยอวี่ตะลึงงันไปครู่หนึ่ง “หนึ่งล้านห้าแสนคืออะไร?”  

 

 

อย่างไรก็ตามในเวลาต่อมา ผู้บัญชาการกองทัพเฮยอวี่ก็แทบจะระเบิดโทสะออกมาอย่างโกรธจัด นี่เขามาที่นี่เพื่อจะขู่กรรโชกพวกเขาหรือ?!   

 

 

กองทัพอู่เว่ยต่อสู้อย่างถูกต้องเหมาะสมไม่ได้หรือไง? พวกเขาจะใช้กลอุบายเล่ห์เหลี่ยมทุกอย่างในการต่อสู้ครั้งนี้หรือ? หือ?  

 

 

อย่างไรก็ตาม ผู้บัญชาการกองทัพเฮยอวี่ย่อมไม่ใช่คนธรรมดา เขากลับสู่ความนิ่งสงบได้อย่างรวดเร็ว  

 

 

นี่ไม่ใช่เวลามานั่งหัวเสีย ในฐานะผู้นำของกองทัพ เขาไม่อาจปล่อยให้อารมณ์มาควบคุมเขาได้ เขาต้องควบคุมอารมณ์ของเขาเอง  

 

 

เวลานี้กองทัพอู่เว่ยนั้นทรงพลังมาก และกองทัพเฮยอวี่ก็ยังจับทางคู่ต่อสู้อย่างพวกเขาไม่ถูกเลย ดังนั้นสิ่งที่พวกเขาต้องคิดในตอนนี้คือวิธีที่จะเพิ่มผลประโยชน์ของตนเองให้ได้มากที่สุด  

 

 

ดังนั้น ผู้บัญชาการกองทัพเฮยอวี่จึงสั่งให้คนของเขามอบเงินหนึ่งล้านห้าแสนหยวนให้หลิวอี้เจา หลังจากนั้นก็แจ้งเรื่องนี้ไปให้สหายของเขาในเมืองหลวงรับรู้โดยใช้อาวุธเวทสื่อสารพร้อมกับวางเดิมพันห้าล้านหยวนว่ากองทัพอู่เว่ยจะไม่ส่งกองกำลังของพวกเขามา…  

 

 

นี่เป็นการซื้ออย่างลับๆ และไม่มีใครรู้ว่ากองทัพเฮยอวี่รู้ข่าวล่วงหน้าแล้ว  

 

 

ผู้บัญชาการกองทัพเฮยอวี่คิดอย่างเศร้าสร้อยและรู้สึกว่านี่เป็นหนทางหนีสำหรับตัวเขาเองเช่นกัน

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

Status: Ongoing
หลี่ว์ซู่ เป็นเด็กกำพร้าที่หาเลี้ยงตัวเองมาโดยตลอด และก็คงจะหาเลี้ยงตัวเองเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ ถ้าเขาไม่ได้ประสบอุบัติเหตุรถชนเข้าเสียก่อน… แต่เฮ้ย! เขาไม่เป็นอะไรเลยนี่ ไม่เจ็บ ไม่ปวด และไม่ตาย แถมวิญญาณไม่ได้หลุดออกจากร่างด้วย! จะมีก็แต่สัญลักษณ์รูปต้นไม้ที่จู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นมาบนฝ่ามือและพลังพิเศษในตัวที่ตื่นขึ้นมาเท่านั้น! ทว่าเขาไม่ได้เป็นเพียงคนเดียวที่ได้รับพลังพิเศษนี้มา เพราะคนอื่นๆ เองก็เริ่มกลายเป็นผู้มีพลังแล้วเหมือนกัน นี่มันเรื่องบ้าอะไร เกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้กันแน่ นี่เรากำลังจะก้าวเข้าสู่ยุคของผู้มีพลังพิเศษกันแล้วงั้นเหรอ หลี่ว์ซู่ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย ว่าแต่พลังที่ได้มานี่มันฝึกยังไงกันล่ะ เอ๊ะ ต้องสะสมแต้มอารมณ์ด้านลบงั้นเหรอ แค่กวนโมโหคนอื่นก็เพิ่มพลังได้แล้วงั้นเหรอ แบบนี้ก็เข้าทางหลี่ว์ซู่สุดๆ ไปเลยน่ะสิ!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset