เกิดอะไรขึ้น!
คืนนั้น คิตะมุระพาพวกไปบ้านซากุราอิเพียงเพื่อจะพบว่าไม่มีใครอยู่บ้านนั้นอย่างแท้จริง
ยาเอโกะมุ่งมั่นที่จะเอาชีวิตของคิตะมุระ แม้ว่าเธอจะไม่แน่ใจว่ามันเป็นเพราะการแสดงความคิดเห็นสบประมาทของเขาหรือเพราะการขู่ฆ่าคิริฮาระกันแน่ แต่มันก็ดูเหมือนจะไม่สำคัญอีกต่อไป
แทนที่จะดักซุ่มโจมตีอยู่ใกล้ๆ ห้องพักของเธอ เธอกลับเลือกถนนหน้าบ้านของคิตะมุระ และแล้วเธอก็ดันมาเจอกับหลี่ว์ซู่
ในตอนนี้ แขนเสื้อและขากางเกงของยาเอโกะรวบเข้าหากัน และกิโมโนชุดหลวมของเธอก็พลันแปรสภาพไปเป็นชุดฝึกแบบมืออาชีพ ความจริงแล้วกิโมโนซากุระของเธอเป็นชิ้นส่วนหนึ่งของอาวุธวิเศษที่เปลี่ยนสภาพได้
ในเสี้ยววินาทีเดียว กลิ่นอายแห่งการฆาตกรรมก็ฟุ้งกระจายไปทั่วค่ำคืนอันแสนงดงาม ดาบสั้นของยาเอโกะนั้นทำงานประสานร่วมกันกับชุดใหม่ของเธอ ส่งให้เธอดูอันตรายยิ่งนัก
หลี่ว์ซู่คิดหนักแต่ก็ไม่อาจหาทางออกได้
ยิ่งไปกว่านั้น เขาก็ไม่เต็มใจจะฆ่าเธอหลังจากที่ได้รู้ว่าเธอเป็นคนจิตใจดีในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา
และที่สำคัญที่สุด มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดทั้งหมด!
ณ วินาทีนั้น กลีบดอกซากุระบนชุดกิโมโนของเธอได้ร่วงหล่นลงมาที่พื้นจริงๆ เหลือไว้เพียงรอยด่างสีดำสนิทที่มืดมิดราวกับหุบเหวลึก
มันทั้งสง่างามและทั้งอันตรายถึงตายในเวลาเดียวกัน จู่ๆ กลีบดอกเหล่านั้นก็กระเด้งขึ้นไปยังหลี่ว์ซู่อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยราวกับใบมีดนับสิบเล่ม และหมุนคว้างเป็นสายน้ำสีชมพูที่ไหลทะลักทลาย
ชุดกิโมโนของเธอไม่ได้เป็นเพียงอาวุธวิเศษเท่านั้น แต่มันยังเป็นอาวุธที่ร้ายกาจมากอีกด้วย!
“รอเดี๋ยว!” หลี่ว์ซู่ร้อง “รอแป๊บเดียว!”
ยาเอโกะหยุดชะงักไปชั่วขณะด้วยความตกใจและความสงสัยว่าคิตะมุระมีแผนอะไร เขา…ดูต่างจากผู้ชายที่เธอได้ข้อมูลมา คิตะมุระ ฮิโรโนะควรจะเป็นนักสู้ที่จริงจังในระหว่างการต่อสู้ใดๆ ไม่ใช่เหรอ
แต่เธอไม่มีเจตนาจะหยุด ความมุ่งมั่นของเธอไม่มีวันโอนอ่อนไปตามคำพูดที่ทำให้เสียสมาธิไม่กี่คำหรอก
ผลก็คือ แม้ว่าจะโดนคลื่นของกลีบดอกซากุระไล่ตามมา หลี่ว์ซู่ก็ยังแบกกระป๋องสีแดงและเขียนตัวอักษรจีนว่า ‘拆 [1] ’ และล้อมคำไว้ด้วยวงกลมวงใหญ่ ครั้งนี้เขาไม่มีเวลาพอที่จะใส่ร้ายคนอื่นและเขียนมันด้วยภาษาจีนแทน
นี่ทำให้ยาเอโกะสับสนหนักเข้าไปใหญ่ เกิดอะไรขึ้น! ทำไมแกต้องวาดรูปนั้นบนประตูของตัวเองตอนที่ฉันกำลังจะฆ่าแกด้วย มันเป็นสัญลักษณ์วิเศษอีกอันหนึ่งที่พวกลัทธิคลั่งชาติสร้างขึ้นมาเหรอ แต่มันหมายความว่าอะไร
ในภาษาญี่ปุ่น ตัวคันจิที่เขียนว่า ‘拆’ มีความหมายที่แตกต่างจากคำภาษาจีนที่เขียนคล้ายกัน
ทันใดนั้นยาเอโกะก็นึกขึ้นได้และเตรียมพร้อมในทันที ถ้าสัญลักษณ์นี้สามารถปล่อยพลังที่ร้ายแรงบางอย่างออกมาได้ล่ะ
ทว่าในวินาทีต่อมา หลี่ว์ซู่ก็โยนกระป๋องสีของเขาทิ้งไปและออกวิ่ง ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจในการสัประยุทธ์นั้นเอาเสียเลย!
[ได้แต้มจากซากุราอิ ยาเอโกะ +199!]
อะไร! แล้วตกลงเมื่อกี้แกวาดอะไรเหรอ!
ยาเอโกะจ้องรูปร่างที่ห่างออกไปของหลี่ว์ซู่ด้วยความงุนงง กลีบดอกซากุระคืนกลับไปที่ชุดกิโมโนของเธอเพราะเป้าหมายได้วิ่งออกไปไกลเกินวิถีต่อสู้ที่มีประสิทธิภาพของพวกมัน อย่างไรก็ตาม เธอยังคงไม่อาจอธิบายปฏิกิริยาของคิตะมุระได้ เขาต้องเป็นนักฆ่าบ้าระห่ำที่อำพรางตัวเอาไว้ภายใต้โฉมหน้าของผู้ที่อ่อนโยนไม่ใช่เหรอ
ไอ้บ้านั่นวิ่งหนีทำไม!
“คิตะมุระ ฮิโรโนะ! หยุดนะ!” สีหน้าความเป็นนักฆ่าคืบคลานอยู่ทั่วใบหน้าของยาเอโกะ คิ้วบางๆ ของเธอนั้นคมกริบเหมือนมีดปลายแหลม
…
ก่อนที่คิตะมุระจะไปที่ห้องพักของยาเอโกะในคืนนั้น เขาได้ทำการตรวจสอบภูมิหลังทั้งหมดของซากุราอิ ยาเอโกะซึ่งแน่นอนว่าหาได้ในท้องตลาดอยู่แล้ว
แม้ว่าเธอจะมีประวัติที่ดูใสสะอาด คิตะมุระก็มีประสบการณ์พอที่จะสังเกตเห็นจุดด่างพร้อยในนั้น ยกตัวอย่างเช่น การไม่มีบันทึกเกี่ยวกับอุบัติเหตุที่พรากชีวิตของพ่อแม่ของเธอ นอกเหนือไปจากนั้น ซากุราอิมีชีวิตรอดและใช้ชีวิตในวัยเรียนที่ดีขนาดนี้โดยปราศจากรายได้และผู้ดูแลได้อย่างไร
มีประเด็นที่เป็นคำถามอยู่มากมายเกินไปที่สามารถสนับสนุนความคิดของคิตะมุระ แต่ความจริงแล้ว เป้าหมายของเขาแสนจะธรรมดา เขาต้องการซากุราอิ ยาเอโกะและต้องการใช้เธอล้างบางกองกำลังอนุรักษ์นิยมที่ยังเหลืออยู่ให้หมดสิ้น นั่นจะมีส่วนสำคัญต่อเส้นทางในอนาคตของเขาในองค์กร
แต่มันอยู่เหนือความคาดฝันโดยสิ้นเชิงที่เขาจะต้องมาโดนเธอหลอก
ก่อนที่เขาจะระงับความโกรธของตัวเองไว้ได้ก็มีการส่งข่าวมาว่าใครบางคนปลอมตัวเป็นเขาแล้วไปกระหน่ำฆ่าคนที่หน้าคฤหาสน์
ทว่าครั้งนี้คิตะมุระไม่ต้องกังวลเพราะมีพยานรอบๆ ตัวอยู่มากพอที่จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเขาได้ ยิ่งไปกว่านั้น สัญลักษณ์ที่ผู้โจมตีทิ้งไว้ข้างหลังนั้นเป็นตัวแทนของคนทำได้ดีมาก…
ตอนนี้มีการยืนยันแล้วว่าตัวการนั้นมาจากเครือข่ายฟ้าดิน เรื่องนี้ไม่มีสองแง่สองมุมแน่
ฉะนั้นเสียงที่ไม่ดีต่อคิตะมุระก็จะค่อยๆ เงียบหายไปในไม่ช้า
คิตะมุระโล่งใจที่คดีนั้นแก้ปมได้แล้ว จริงๆ แล้วชายผู้นี้ไม่ได้คิดมากกับคำครหานินทามากมายนัก…
ตอนนี้เครื่องจักรแห่งสงครามอย่างทวยเทพได้เดินเครื่องเต็มกำลังแล้ว ผู้มีพลังสายธาตุดินทุกคนถูกส่งไปใต้ดินเพื่อค้นหาเบาะแสที่อาจเกิดขึ้นจากฝีมือของผู้บุกรุก ในขณะที่เส้นทางการจราจรสำคัญๆ ทั้งหมดบนพื้นดินก็ถูกปิดลงเพื่อการตรวจสอบทั้งเมือง
หลังจากทำหน้าที่เสร็จสิ้น คิตะมุระจึงกลับบ้านเพื่อพักผ่อน ทวยเทพมีการแบ่งลำดับขั้นของการปกครองคนอย่างชัดเจน และเขารู้ว่าหน้าที่เดียวของเขาในคดีนี้คือการรับสายจากผู้บังคับบัญชาอย่างทันท่วงทีเมื่อมีเหตุจำเป็น
ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น อาจารย์ของเขาได้ตักเตือนว่าเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของศัตรูระดับ B อย่างไรเสียชายคนนั้นก็ลงมือฆ่าผู้รักษาความปลอดภัยระดับ C ได้ภายในชั่วพริบตา
เนื่องจากอาจารย์ของเขาเป็นผู้นำคนปัจจุบันของทวยเทพ จึงไม่มีความจำเป็นที่คิตะมุระจะต้องเสี่ยงภัย
แต่เพื่อแสดงออกถึงความห่วงใยและความจริงใจ คิตะมุระจึงได้ส่งคนของเขาทั้งหมดออกไปเพื่อทำงานอเนกประสงค์ต่างๆ ในระหว่างทางกลับบ้านขณะที่เขาจอดรถและกำลังเดินถึงบ้าน เขาก็ได้ยินเสียงซากุราอิตะโกนว่า “คิตะมุระ ฮิโรโนะ! หยุดนะ!”
คิตะมุระชำเลืองมองไปรอบๆ แต่ก็ไม่เห็นซากุราอิอยู่ที่ไหนเลย
แล้วซากุราอิก็พุ่งออกมากลางสี่แยก รูปร่างเพรียวบางของเธอดูทรงเสน่ห์ในชุดกิโมโนที่ปรับทรงแล้ว แต่เห็นได้ชัดว่าเธอถูกล้อมไว้ด้วยรังสีอำมหิต อย่างไรก็ตาม…ดูเหมือนว่าเธอจะมองไม่เห็นเขาด้วยซ้ำ!
[ได้แต้มจากคิตะมุระ ฮิโรโนะ +666!]
เกิดอะไรขึ้นเหรอ! คิตะมุระรู้สึกหัวหมุนไปหมดด้วยความสับสน
——
[1] รื้อ