ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ – ตอนที่ 494 เกิดอะไรขึ้น!

เกิดอะไรขึ้น!

 

คืนนั้น คิตะมุระพาพวกไปบ้านซากุราอิเพียงเพื่อจะพบว่าไม่มีใครอยู่บ้านนั้นอย่างแท้จริง

 

ยาเอโกะมุ่งมั่นที่จะเอาชีวิตของคิตะมุระ แม้ว่าเธอจะไม่แน่ใจว่ามันเป็นเพราะการแสดงความคิดเห็นสบประมาทของเขาหรือเพราะการขู่ฆ่าคิริฮาระกันแน่ แต่มันก็ดูเหมือนจะไม่สำคัญอีกต่อไป

 

แทนที่จะดักซุ่มโจมตีอยู่ใกล้ๆ ห้องพักของเธอ เธอกลับเลือกถนนหน้าบ้านของคิตะมุระ และแล้วเธอก็ดันมาเจอกับหลี่ว์ซู่

 

ในตอนนี้ แขนเสื้อและขากางเกงของยาเอโกะรวบเข้าหากัน และกิโมโนชุดหลวมของเธอก็พลันแปรสภาพไปเป็นชุดฝึกแบบมืออาชีพ ความจริงแล้วกิโมโนซากุระของเธอเป็นชิ้นส่วนหนึ่งของอาวุธวิเศษที่เปลี่ยนสภาพได้

 

ในเสี้ยววินาทีเดียว กลิ่นอายแห่งการฆาตกรรมก็ฟุ้งกระจายไปทั่วค่ำคืนอันแสนงดงาม ดาบสั้นของยาเอโกะนั้นทำงานประสานร่วมกันกับชุดใหม่ของเธอ ส่งให้เธอดูอันตรายยิ่งนัก

 

หลี่ว์ซู่คิดหนักแต่ก็ไม่อาจหาทางออกได้

 

ยิ่งไปกว่านั้น เขาก็ไม่เต็มใจจะฆ่าเธอหลังจากที่ได้รู้ว่าเธอเป็นคนจิตใจดีในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา

 

และที่สำคัญที่สุด มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดทั้งหมด!

 

ณ วินาทีนั้น กลีบดอกซากุระบนชุดกิโมโนของเธอได้ร่วงหล่นลงมาที่พื้นจริงๆ เหลือไว้เพียงรอยด่างสีดำสนิทที่มืดมิดราวกับหุบเหวลึก

 

มันทั้งสง่างามและทั้งอันตรายถึงตายในเวลาเดียวกัน จู่ๆ กลีบดอกเหล่านั้นก็กระเด้งขึ้นไปยังหลี่ว์ซู่อย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยราวกับใบมีดนับสิบเล่ม และหมุนคว้างเป็นสายน้ำสีชมพูที่ไหลทะลักทลาย

 

ชุดกิโมโนของเธอไม่ได้เป็นเพียงอาวุธวิเศษเท่านั้น แต่มันยังเป็นอาวุธที่ร้ายกาจมากอีกด้วย!

 

“รอเดี๋ยว!” หลี่ว์ซู่ร้อง “รอแป๊บเดียว!”

 

ยาเอโกะหยุดชะงักไปชั่วขณะด้วยความตกใจและความสงสัยว่าคิตะมุระมีแผนอะไร เขา…ดูต่างจากผู้ชายที่เธอได้ข้อมูลมา คิตะมุระ ฮิโรโนะควรจะเป็นนักสู้ที่จริงจังในระหว่างการต่อสู้ใดๆ ไม่ใช่เหรอ

 

แต่เธอไม่มีเจตนาจะหยุด ความมุ่งมั่นของเธอไม่มีวันโอนอ่อนไปตามคำพูดที่ทำให้เสียสมาธิไม่กี่คำหรอก

 

ผลก็คือ แม้ว่าจะโดนคลื่นของกลีบดอกซากุระไล่ตามมา หลี่ว์ซู่ก็ยังแบกกระป๋องสีแดงและเขียนตัวอักษรจีนว่า ‘ [1] ’ และล้อมคำไว้ด้วยวงกลมวงใหญ่ ครั้งนี้เขาไม่มีเวลาพอที่จะใส่ร้ายคนอื่นและเขียนมันด้วยภาษาจีนแทน

 

นี่ทำให้ยาเอโกะสับสนหนักเข้าไปใหญ่ เกิดอะไรขึ้น! ทำไมแกต้องวาดรูปนั้นบนประตูของตัวเองตอนที่ฉันกำลังจะฆ่าแกด้วย มันเป็นสัญลักษณ์วิเศษอีกอันหนึ่งที่พวกลัทธิคลั่งชาติสร้างขึ้นมาเหรอ แต่มันหมายความว่าอะไร

 

ในภาษาญี่ปุ่น ตัวคันจิที่เขียนว่า ‘’ มีความหมายที่แตกต่างจากคำภาษาจีนที่เขียนคล้ายกัน

 

ทันใดนั้นยาเอโกะก็นึกขึ้นได้และเตรียมพร้อมในทันที ถ้าสัญลักษณ์นี้สามารถปล่อยพลังที่ร้ายแรงบางอย่างออกมาได้ล่ะ

 

ทว่าในวินาทีต่อมา หลี่ว์ซู่ก็โยนกระป๋องสีของเขาทิ้งไปและออกวิ่ง ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจในการสัประยุทธ์นั้นเอาเสียเลย!

 

[ได้แต้มจากซากุราอิ ยาเอโกะ +199!]

 

อะไร! แล้วตกลงเมื่อกี้แกวาดอะไรเหรอ!

 

ยาเอโกะจ้องรูปร่างที่ห่างออกไปของหลี่ว์ซู่ด้วยความงุนงง กลีบดอกซากุระคืนกลับไปที่ชุดกิโมโนของเธอเพราะเป้าหมายได้วิ่งออกไปไกลเกินวิถีต่อสู้ที่มีประสิทธิภาพของพวกมัน อย่างไรก็ตาม เธอยังคงไม่อาจอธิบายปฏิกิริยาของคิตะมุระได้ เขาต้องเป็นนักฆ่าบ้าระห่ำที่อำพรางตัวเอาไว้ภายใต้โฉมหน้าของผู้ที่อ่อนโยนไม่ใช่เหรอ

 

ไอ้บ้านั่นวิ่งหนีทำไม!

 

“คิตะมุระ ฮิโรโนะ! หยุดนะ!” สีหน้าความเป็นนักฆ่าคืบคลานอยู่ทั่วใบหน้าของยาเอโกะ คิ้วบางๆ ของเธอนั้นคมกริบเหมือนมีดปลายแหลม

 

 

ก่อนที่คิตะมุระจะไปที่ห้องพักของยาเอโกะในคืนนั้น เขาได้ทำการตรวจสอบภูมิหลังทั้งหมดของซากุราอิ ยาเอโกะซึ่งแน่นอนว่าหาได้ในท้องตลาดอยู่แล้ว

 

แม้ว่าเธอจะมีประวัติที่ดูใสสะอาด คิตะมุระก็มีประสบการณ์พอที่จะสังเกตเห็นจุดด่างพร้อยในนั้น ยกตัวอย่างเช่น การไม่มีบันทึกเกี่ยวกับอุบัติเหตุที่พรากชีวิตของพ่อแม่ของเธอ นอกเหนือไปจากนั้น ซากุราอิมีชีวิตรอดและใช้ชีวิตในวัยเรียนที่ดีขนาดนี้โดยปราศจากรายได้และผู้ดูแลได้อย่างไร

 

มีประเด็นที่เป็นคำถามอยู่มากมายเกินไปที่สามารถสนับสนุนความคิดของคิตะมุระ แต่ความจริงแล้ว เป้าหมายของเขาแสนจะธรรมดา เขาต้องการซากุราอิ ยาเอโกะและต้องการใช้เธอล้างบางกองกำลังอนุรักษ์นิยมที่ยังเหลืออยู่ให้หมดสิ้น นั่นจะมีส่วนสำคัญต่อเส้นทางในอนาคตของเขาในองค์กร

 

แต่มันอยู่เหนือความคาดฝันโดยสิ้นเชิงที่เขาจะต้องมาโดนเธอหลอก

 

ก่อนที่เขาจะระงับความโกรธของตัวเองไว้ได้ก็มีการส่งข่าวมาว่าใครบางคนปลอมตัวเป็นเขาแล้วไปกระหน่ำฆ่าคนที่หน้าคฤหาสน์

 

ทว่าครั้งนี้คิตะมุระไม่ต้องกังวลเพราะมีพยานรอบๆ ตัวอยู่มากพอที่จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของเขาได้ ยิ่งไปกว่านั้น สัญลักษณ์ที่ผู้โจมตีทิ้งไว้ข้างหลังนั้นเป็นตัวแทนของคนทำได้ดีมาก…

 

ตอนนี้มีการยืนยันแล้วว่าตัวการนั้นมาจากเครือข่ายฟ้าดิน เรื่องนี้ไม่มีสองแง่สองมุมแน่

 

ฉะนั้นเสียงที่ไม่ดีต่อคิตะมุระก็จะค่อยๆ เงียบหายไปในไม่ช้า

 

คิตะมุระโล่งใจที่คดีนั้นแก้ปมได้แล้ว จริงๆ แล้วชายผู้นี้ไม่ได้คิดมากกับคำครหานินทามากมายนัก…

 

ตอนนี้เครื่องจักรแห่งสงครามอย่างทวยเทพได้เดินเครื่องเต็มกำลังแล้ว ผู้มีพลังสายธาตุดินทุกคนถูกส่งไปใต้ดินเพื่อค้นหาเบาะแสที่อาจเกิดขึ้นจากฝีมือของผู้บุกรุก ในขณะที่เส้นทางการจราจรสำคัญๆ ทั้งหมดบนพื้นดินก็ถูกปิดลงเพื่อการตรวจสอบทั้งเมือง

 

หลังจากทำหน้าที่เสร็จสิ้น คิตะมุระจึงกลับบ้านเพื่อพักผ่อน ทวยเทพมีการแบ่งลำดับขั้นของการปกครองคนอย่างชัดเจน และเขารู้ว่าหน้าที่เดียวของเขาในคดีนี้คือการรับสายจากผู้บังคับบัญชาอย่างทันท่วงทีเมื่อมีเหตุจำเป็น

 

ที่สำคัญยิ่งกว่านั้น อาจารย์ของเขาได้ตักเตือนว่าเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของศัตรูระดับ B อย่างไรเสียชายคนนั้นก็ลงมือฆ่าผู้รักษาความปลอดภัยระดับ C ได้ภายในชั่วพริบตา

 

เนื่องจากอาจารย์ของเขาเป็นผู้นำคนปัจจุบันของทวยเทพ จึงไม่มีความจำเป็นที่คิตะมุระจะต้องเสี่ยงภัย

 

แต่เพื่อแสดงออกถึงความห่วงใยและความจริงใจ คิตะมุระจึงได้ส่งคนของเขาทั้งหมดออกไปเพื่อทำงานอเนกประสงค์ต่างๆ ในระหว่างทางกลับบ้านขณะที่เขาจอดรถและกำลังเดินถึงบ้าน เขาก็ได้ยินเสียงซากุราอิตะโกนว่า “คิตะมุระ ฮิโรโนะ! หยุดนะ!”

 

คิตะมุระชำเลืองมองไปรอบๆ แต่ก็ไม่เห็นซากุราอิอยู่ที่ไหนเลย

 

แล้วซากุราอิก็พุ่งออกมากลางสี่แยก รูปร่างเพรียวบางของเธอดูทรงเสน่ห์ในชุดกิโมโนที่ปรับทรงแล้ว แต่เห็นได้ชัดว่าเธอถูกล้อมไว้ด้วยรังสีอำมหิต อย่างไรก็ตาม…ดูเหมือนว่าเธอจะมองไม่เห็นเขาด้วยซ้ำ!

 

[ได้แต้มจากคิตะมุระ ฮิโรโนะ +666!]

 

เกิดอะไรขึ้นเหรอ! คิตะมุระรู้สึกหัวหมุนไปหมดด้วยความสับสน

 

 

——

 

[1] รื้อ

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

ท่านเทพ ละเว้นข้าเถอะ

หลี่ว์ซู่ เป็นเด็กกำพร้าที่หาเลี้ยงตัวเองมาโดยตลอด และก็คงจะหาเลี้ยงตัวเองเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ ถ้าเขาไม่ได้ประสบอุบัติเหตุรถชนเข้าเสียก่อน… แต่เฮ้ย! เขาไม่เป็นอะไรเลยนี่ ไม่เจ็บ ไม่ปวด และไม่ตาย แถมวิญญาณไม่ได้หลุดออกจากร่างด้วย! จะมีก็แต่สัญลักษณ์รูปต้นไม้ที่จู่ๆ ก็ปรากฏขึ้นมาบนฝ่ามือและพลังพิเศษในตัวที่ตื่นขึ้นมาเท่านั้น! ทว่าเขาไม่ได้เป็นเพียงคนเดียวที่ได้รับพลังพิเศษนี้มา เพราะคนอื่นๆ เองก็เริ่มกลายเป็นผู้มีพลังแล้วเหมือนกัน นี่มันเรื่องบ้าอะไร เกิดอะไรขึ้นกับโลกใบนี้กันแน่ นี่เรากำลังจะก้าวเข้าสู่ยุคของผู้มีพลังพิเศษกันแล้วงั้นเหรอ หลี่ว์ซู่ได้แต่คิดแล้วก็สงสัย ว่าแต่พลังที่ได้มานี่มันฝึกยังไงกันล่ะ เอ๊ะ ต้องสะสมแต้มอารมณ์ด้านลบงั้นเหรอ แค่กวนโมโหคนอื่นก็เพิ่มพลังได้แล้วงั้นเหรอ แบบนี้ก็เข้าทางหลี่ว์ซู่สุดๆ ไปเลยน่ะสิ!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset