ท้าทายลิขิตสวรรค์ – ตอนที่ 27 หลีกเลี่ยงไม่ได้

นิยาย อ่านนิยาย

ตอนที่ 27 หลีกเลี่ยงไม่ได้

 

ก่อนที่หยางซือเหมยจะเดินมาถึงจุดนี้ เธอได้กวาดสายตามองไปบริเวณโดยรอบและพบว่าบริเวณพื้นที่ทางทิศตะวันตกมีกลุ่มหมอกสีทองอ่อน ๆ ปกคลุมอยู่ ตอนนี้เธอจึงมองไปรอบ ๆ อย่างระมัดระวังอีกครั้ง

 

ทำให้พบว่าภูเขาที่เธอพบเมื่อครู่นั้นมีลักษณะที่ดีด้วยรูปแบบที่มีภูเขาหลักให้พักพิง โดยมันทำหน้าที่เหมือนคลังแห่งความมั่งคั่ง ซึ่งเป็นประโยชน์สูงสุดสำหรับครอบครัวที่มีความต้องการความเจริญรุ่งเรืองในการประกอบธุรกิจ

 

ซึ่งแน่นอนว่าความต้องการของบ้านตระกูลฮัวนั้นมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจ และหากหาตำแหน่งที่เหมาะสมที่สุดได้ มันจะยิ่งเอื้ออำนวยต่อการพัฒนาของเขาในอนาคต โดยมันจะทำให้เขากลายเป็นผู้ประกอบการรุ่นใหม่และมีความเจริญรุ่งเรืองสืบต่อไปจนชั่วลูกชั่วหลาน

 

ดังนั้นเธอจึงพาฮัวเหวินหัวกับเฮาจ้าวกวงไปที่นั่น และเมื่อเดินทางไปถึงเฮาจ้าวกวงพร้อมด้วยเข็มทิศในมือก็เดินวนไปมานับหลายสิบรอบกับ จนในที่สุดเขาได้หันมาหาหยางซือเหมยด้วยความชื่นชมพลางกล่าวว่า

 

“ที่นี่เป็นสถานที่ที่เหมาะสมที่สุดจริงๆ “

 

และทันทีที่ฮัวเหวินหัวได้ยินเช่นนั้นดวงตาของเขาก็เป็นประกายสว่างขึ้น

 

“สถานที่นี้เหมาะจริง ๆ หรือครับ?”

 

เฮาจ้าวกวงพยักหน้าพร้อมกับกล่าวว่า

 

“ที่นี่เป็นเหมือนแหล่งขุมทรัพย์ที่รวบรวมความมั่งคั่งเอาไว้ สาวน้อยเข้าใจถูกต้องแล้ว!”

 

“เยี่ยมมาก! ขอบคุณอาจารย์น้อย! ขอบคุณอาจารย์น้อย!”

 

ฮัวเหวินหัวมีความรู้สึกตื่นเต้นมากจนลืมตัว ขณะที่เขาอุ้มร่างของหยางซือเหมยตัวน้อยขึ้นมาและหมุนตัวเธอไปมาสองสามครั้ง

 

เนื่องจากบิดาของเขาได้เสียชีวิตไปแล้ว และหากเขาหาจุดฝังศพที่เหมาะสมไม่ได้เขาคงจะรู้สึกวิตกกังวลมาก แต่ตอนนี้หยางซือเหมยช่วยแก้ปัญหานี้ให้กับเขาได้แล้ว ดังนั้นเขาจึงสามารถเดินทางกลับฮ่องกงเพื่อที่จะได้จัดการเรื่องฝังศพของบิดาได้อย่างสบายใจ

 

“เหลยเฉิง! ไปนำเงินรางวัลมามอบให้อาจารย์น้อยหนึ่งแสนเหรียญ และแจ้งกับทางครอบครัวของเธอด้วยว่าสิ่งนี้แทนคำขอบคุณจากผม” ฮัวเหวินหัวกล่าวกับเหลยเฉิง

 

โอ้โห! แสนเหรียญเลยเหรอ?

 

หยางซือเหมยคิดไม่ถึงว่าฮัวเหวินหัวจะใจกว้างขนาดนี้โดยให้รางวัลแก่เธอถึงหนึ่งแสนเหรียญโดยเธอทำงานให้กับเขาเพียงแค่ครู่เดียว ซึ่งเดิมทีเธอคิดว่าเขาจะให้รางวัลตอบแทนเป็นเงินหลักพัน

 

และใครจะรู้ว่าเขาได้ว่าจ้างเฮาจ้าวกวงให้มาช่วยหาตำแหน่งมังกรด้วยค่าตอบแทนสองแสนเหรียญ ดังนั้นเงินหนึ่งแสนเหรียญจึงถือว่าเป็นจำนวนเงินที่ไม่สูงมากนัก

 

***

 

เมื่อเหลยเฉิงส่งมอบถุงธนบัตรให้กับชายชราหยางไป๋มือของเขาก็สั่นเทาจนแทบจะทำถุงนั้นหลุดมือ ขณะที่กล่าวว่า

 

“ในถุงนี้คือเงินจริงหรือ?” แม้ว่าเขาจะมีอายุมากกว่าหกสิบปีแล้วแต่เขาไม่เคยเห็นเงินมากมายขนาดนี้มาก่อนเลย!

 

“คุณลุงหยางครับ เงินนั้นเมื่อครู่ผมเป็นคนถอนมันออกมาจากธนาคารด้วยตัวเอง ผมขอยืนยันว่ามันเป็นเงินจริง ๆ ครับ” เหลยเฉิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม

 

“แล้วทำไมคุณถึงต้องให้เงินผมมากมายขนาดนี้?”

 

“ซือเหมยตัวน้อยช่วยคุณฮัวแก้ปัญหาใหญ่ได้ครับ และนี่คือรางวัลสำหรับความช่วยเหลือของเธอที่เขามอบให้ ได้โปรดรับมันเอาไว้เถอะครับ” เหลยเฉิงเหลือบมองไปยังหยางซือเหมยที่กำลังหยอกล้อน้องสาวของเธอขณะที่เขากล่าวเช่นนั้น

 

“ช่วย…ช่วยอะไร? คุณคิดที่จะซื้อหลานสาวของผมเหรอ?”

 

หยางไป๋ยื่นมือที่จับถุงเงินนั้นออกไปพร้อมกับส่ายหัวขณะที่กล่าวอีกว่า

 

“แม้ว่าบ้านผมจะยากจน แต่พวกผมก็ไม่เคยมีความคิดที่จะขายลูกหลานกิน”

 

“แฮ่..แฮ่..มันไม่ใช่อย่างนั้นนะครับคุณลุง แต่เป็นเพราะซือเหมยตัวน้อยช่วยหาสถานที่ฝังศพอันเป็นมงคลให้ ดังนั้นคุณฮัวจึงรู้สึกขอบคุณอย่างสุดซึ้งจึงสั่งให้ผมนำเงินรางวัลมามอบให้ครับ” เหลยเฉิงอธิบายและกล่าวอีกว่า

 

“คุณลุงหยางมีหลานสาวที่ดีมาก! ดูแลเธอให้ดี ๆ นะครับ!”

 

หยางไป๋มีสีหน้ามึนงงเมื่อหันไปมองหลานสาวที่ตนเองมักจะคิดว่าเธอเป็นเด็กผู้หญิงที่ไร้ค่า แต่ตอนนี้เขากำลังจะเปลี่ยนความคิดนั้น

 

เนื่องจากก่อนหน้านี้หยางเหอได้นำเงินหนึ่งพันเหรียญมามอบให้กับเขาและกล่าวว่าต้องขอบคุณหยางซือเหมยที่ช่วยขายต้นไม้โบราณได้ราคาดีมาก ซึ่งสิ่งนั้นทำให้ชายชราเกิดความรู้สึกตกใจไปชั่วขณะ และตอนนี้เขาได้รับเงินอีกหนึ่งแสนเหรียญ นี่เขาฝันไปหรือเปล่า!

 

ทำไมอยู่ดี ๆ เด็กคนนี้ถึงกลายเป็นดาวแห่งความมั่งคั่งไปได้?

 

ทันใดนั้นหยางเหอก็รีบร้อนวิ่งเข้ามาในบ้านพร้อมกับร้องตะโกนว่า

 

“มีคนโทรศัพท์มาบอกว่าพี่ใหญ่ถูกรถชนและตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาลในเมือง”

 

เมื่อหยางซือเหมยได้ยินเช่นนั้นหัวใจของเธอก็จมดิ่งลงด้วยความสับสนในใจ!

 

เธอใส่ยันต์เอาไว้ในเสื้อผ้าของเขาแล้วไม่ใช่เหรอ?

 

แล้วทำไมเขาจึงไม่สามารถหลีกเลี่ยงหายนะครั้งนี้ได้?

 

หยางไป๋ยังไม่หายจากอาการตื่นเต้นที่ได้รับเงินหนึ่งแสนเหรียญเมื่อครู่และตอนนี้ก็มีความรู้สึกหวาดกลัวกับเรื่องที่เกิดขึ้นนี้

 

โดยขณะนั้นหวงซิ่วลี่กำลังตักน้ำอยู่ที่บ่อน้ำ และเมื่อได้ยินสิ่งนี้ เสียงฝีเท้าของเธอก็หยุดชะงักในทันที และถ้าไม่ได้เหลยเฉิงรีบวิ่งเข้าไปประคอง ป่านนี้เธอก็คงจะตกลงไปในบ่อน้ำแล้ว

 

“คุณปู่ คุณย่า คุณแม่..ไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ คุณพ่อเพียงแค่เจ็บขาเท่านั้น” หยางซือเหมยสามารถจำเหตุการณ์นี้ที่เกิดขึ้นในชาติที่แล้วได้จึงรีบปลอบโยนพวกเขา

 

“ใช่..ใช่..ใช่แล้ว คนที่โทรศัพท์มาบอกก็พูดอย่างนั้นเหมือนกัน เขาบอกว่าพี่ใหญ่เพียงแค่ขาเจ็บเท่านั้นไม่มีอันตรายถึงชีวิต” จากนั้นหยางเหอก็หันมามองหยางซือเหมยด้วยความศรัทธาพร้อมกับกล่าวว่า

 

“ตัวเล็ก! สุดยอดมาก! เรื่องนี้หนูก็สามารถมองเห็นด้วยเหรอ?!”

 

แม้ว่าหยางชิงจะได้รับบาดเจ็บแค่ที่ขา แต่สำหรับคนที่รักเขาแล้วมันก็ทำให้หัวใจของพวกเขารู้สึกปวดร้าวและเป็นห่วงมากในเวลานี้

 

______

ท้าทายลิขิตสวรรค์

ท้าทายลิขิตสวรรค์

ในชาติที่แล้วครอบครัวของเธอต้องพังพินาศและจบลงด้วยการกลายเป็นคนเร่ร่อนจรจัด ซึ่งสิ่งนี้หล่อหลอมให้เธอเป็นคนเจ้าเล่ห์เพื่อความอยู่รอด เพราะเธอไม่มีการศึกษาและไม่มีความสามารถทางด้านใดเลย สุดท้ายเธอต้องถูกทำร้ายจนตายแต่เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้งหนึ่งจึงพบว่าตนเองได้ย้อนกลับไปในตอนที่มีอายุเพียงแค่ห้าขวบ ขณะที่มีสิ่งมหัศจรรย์เกิดขึ้นกับเธอ นั่นคือหญิงสาวมีดวงตาศักดิ์สิทธิ์ที่สามารถมองเห็นอดีตของผู้อื่น และยังสามารถช่วยแก้ไขภัยพิบัติให้คนผู้นั้นได้ ไม่เพียงแค่นั้น! เธอยังมีทักษะพิเศษในการมอบโชคลาภให้แก่ผู้คน อีกทั้งยังล่วงรู้แม้กระทั่งวันตายของคนอื่น ในชีวิตนี้เธอจะท้าทายสวรรค์เพื่อเปลี่ยนชะตากรรมและเอาความสุขกลับคืนมา ในชีวิตที่แล้วเธอไม่มีอะไรเลย ไม่มีการศึกษาหรือทักษะ จึงทำให้คนอื่นดูหมิ่นและถูกมองด้วยสายตาแห่งความเหยียดหยาม ในชีวิตนี้เธอพยายามที่จะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการหยั่งรู้ฟ้าดินที่แท้จริง เพื่อต้องการยืนอยู่ในจุดสูงสุดของโลก ซึ่งมันจะกลายเป็นตำนานที่โลกต้องจดจำไปชั่วกัลปาวสาน… ผู้ที่เป็นหนี้เธอทุกคนจะต้องชดใช้ให้สาสม!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset