นักผจญภัยหญิงแรงค์ S ขึ้นคาน ในโลกคู่ขนาน – ตอนที่ 104

 

“พวกนั้นมากันค่อนข้างเยอะเลยค่ะ! มีประมาณ 30 กว่าคนเลยล่ะค่ะ”

 

“สามสิบคน!?”

 

“ตอนนี้พวกคาร์ล่าจังกำลังต่อสู้กันอยู่ค่ะ! เพราะงั้นท่านเรียวได้โปรดรีบหนีไปด้วยเถอะค่ะ!”

 

เมย์ฟาแสดงความร้อนรนผิดจากปกติอย่างมาก

แปลว่าสถานการณ์ตอนนี้ต้องเลวร้ายมากแน่ๆ

 

ผมพยักหน้าให้เมย์ฟาและหยิบเมจิคไอเทมก่อนหน้านี้ใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกง

 

จากนั้นผมก็หันไปหาลิลิธจัง

ลิลิธจังทำหน้าตกใจ เพราะว่าเธอยังคงไม่เข้าใจสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

แต่เธอก็ได้รีบเปลี่ยนไปเป็นสีหน้าปกติและหันหน้าไปหาเมย์ฟา

 

“อะ อะไรของเธอกันน่ะ!? ที่นี่น่ะบุคคลภายนอกห้ามเข้านะ! ใครอนุญาตให้เธอเข้ามาที่นี่ได้กันน่ะ!?”

 

เมย์ฟาไม่ได้ตอบสนองอะไรกับคำพูดเหล่านั้น

แล้วทันใดนั้นก็ได้มีร่างสีดำปรากฎขึ้นและเข้าโจมตีเมย์ฟา

 

“ชิ!”

 

เมย์ฟาหมุนตัวอย่างรวดเร็วและดึงมีดสั้นออกมาจากอกของเธอ

แต่ทว่า ฝ่ายตรงข้ามเองก็ตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว

ทันทีที่ฝ่ายตรงข้ามรู้ว่าโจมตีเมย์ฟาไม่โดน ฝ่ายตรงข้ามก็มุ่งเป้ามาทางผมแทน

 

“ท่านเรียว!”

 

ไม่รู้เหมือนกันว่าเธอประมาทเพราะเห็นผมไม่มีอาวุธ

หรือเธอจงใจจะจับผมไว้เป็นตัวประกันกันแน่

แต่ถือว่าเป็นโชคดีเลยที่อีกฝ่ายมุ่งตรงมาที่ผม

 

ผมยกมือซ้ายขึ้นมาอย่างรวดเร็วและยิงเข็มพิษออกจากแหวนบนนิ้ว

และศัตรูที่โดนเข็มไปก็ล้มพับลงไปในเวลาไม่กี่อึดใจ

 

“สมกับเป็นท่านเรียวเลยค่า~♡”

 

เมย์ฟาปรบมือและเดินตรงเข้ามาหาผมพร้อมกับรอยยิ้มที่ดูโล่งใจ

ในขณะเดียวกันลิลิธจังก็เดินโซเซและจ้องมองไปที่เมย์ฟา

 

“อะไรของเธอกันน่ะ!? แล้วไหนจะยังผู้หญิงคนนี้อีก! คิดจะทำอะไรกันแน่ล่ะเนี่ย รีบออกไปเดี๋ยวนี้เลยนะ!”

 

เมย์ฟาทำหน้าหงุดหงิดให้กับลิลิธจังที่เหมือนหมาน้อยที่กำลังเห่าอยู่

 

“เป็นยัยเด็กที่น่ารำคาญซะจริงนะ…ท่านเรียว เราปล่อยยัยนี่ทิ้งไว้แล้วรีบไปกันเถอะค่ะ”

 

“เดี๋ยวสิ! ใครบอกให้พาหมอนี่ไปกัน ปล่อยผู้ชายคนนั้นเดี๋ยวนี้นะ ที่ต้องออกไปน่ะ แค่หล่อนคนเดียวก็พอแล้ว”

 

“หาาา? เมื่อกี้พูดกับท่านเรียวว่ายังไงน้า? เธอเป็นใครกันถึงมาบอกให้เราปล่อยนายท่านของเราแบบนี้น่ะห๊า? ถ้าอยากตายมากนักล่ะก็ ฆ่าทิ้งซะตรงนี้เลยดีกว่ามั้ง?”

 

คำพูดของลิลิธจังทำให้เมย์ฟามีน้ำโห

ผมเลยจับไหล่เมย์ฟาและช่วยพูดให้เธอระงับความเกรี้ยวกราดลง

 

“เมย์ฟา ตอนนี้น่ะมันไม่ใช่เวลาที่จะมาทำอะไรแบบนี้อยู่ไม่ใช่รึไง?”

 

“ท่านเรียว…”

 

“ในระหว่างนี้พวกคุณคาร์ล่าเองก็กำลังต่อสู้อยู่ไม่ใช่เหรอ? ถ้าพวกเราไม่รีบไปสมทบกับทุกคนล่ะก็…”

 

พอผมพูดออกมาแบบนั้น

ผู้หญิงชุดดำที่ล้มลงไปกับพื้นก็ลุกขึ้นมาในขณะที่ยังตัวสั่น

และเธอก็ได้พรุ่งตรงไปมาตรงที่เมย์ฟาอยู่

 

แต่ทว่า ก่อนที่มีดของฝ่ายศัตรูจะได้ทันมาถึงตัวพวกเรา

เมย์ฟาก็ผลักผมออกไปด้วยมือข้างหนึ่ง

และโจมตีไปที่ผู้หญิงคนนั้นด้วยมีดสั้นที่อยู่ในมืออีกข้าง

 

วะ แหวนใช้ไม่ได้ผลอย่างงั้นเหรอ!?

ผมรีบหันไปมองที่ผู้หญิงคนนั้น และผมก็ได้สังเกตเห็นบางอย่าง

 

ดูเหมือนว่าผู้หญิงที่ใส่ชุดดำคนนั้น

จะควักเนื้อตัวเองตรงที่ถูกแหวนยิงเข็มใส่ออกไป

ตรงบริเวณที่ถูกควักออกไปนั้นทำให้เสื้อผ้าขาด  

และเลือดก็ไหลออกมาจากแผลที่ดึงเนื้อออกไปค่อนข้างเยอะเลย

 

ทุกครั้งที่เธอคนนั้นสู้กับเมย์ฟา เลือดของเธอก็จะกระเซ็นออกมาตลอด

บ้าจริง แค่ปล่อยให้ร่างกายเป็นอัมพาตไปเฉยๆก็ดีอยู่แล้วแท้ๆนะ…!

 

ผมคิดจะใช้พลังของแหวนอีกครั้ง 

แต่พวกเธอเคลื่อนที่กันเร็วเกินไปจนทำให้ผมเล็งไม่ได้

เพราะว่ามันอาจจะทำให้เมย์ฟาโดนลูกหลงไปด้วยยังไงล่ะ

 

“ท่านเรียว เราไม่เป็นไรหรอกนะคะ เพราะงั้นช่วยหนีไปด้วยเถอะค่ะ!”

 

“แต่ว่า…!”

 

“ก็ไม่อยากจะพูดแบบนี้หรอกนะคะ แต่ถ้าเกิดว่าท่านเรียวถูกจับเป็นตัวประกันขึ้นมา เราก็คงจะลำบากแน่ค่ะ เพราะงั้นถ้ารีบหนีไปก็จะขอบคุณมากๆเลยล่ะค่ะ! ถ้ามีความรู้สึกผิดล่ะก็ ตอนที่กลับไปที่เมืองคาสซานดร้าก็ได้โปรดให้รางวัลกับพวกเราเยอะๆก็แล้วกันนะคะ♡”

 

“…อึก เข้าใจแล้ว! ถ้างั้นก็ต้องกลับมาให้ได้นะ”

 

“ฮุฮุ จะตั้งตารอเลยล่ะค่ะ♡”

 

เมย์ฟาขยิบตาวิ้งให้ผมอย่างติดตลก  

แต่ในวินาทีถัดมานั้นเธอก็ได้หลบคมมีดของคู่ต่อสู้และเริ่มทำการต่อสู้ต่อไป

 

ก็จริงนะ ถ้าผมยังอยู่ที่นี่ต่อไปละก็ผมคงจะกลายเป็นตัวเกะกะซะเปล่าๆ

เพราะงั้นผมจึงต้องพาลิลิธจังวิ่งหนีออกไปให้ไกลที่สุด

 

“ลิลิธจัง ยืนไหวมั้ย?”

 

“อะ…เอ๊ะ?”

 

“อย่างที่เห็นนั่นแหละ ดูเหมือนว่าตอนนี้ที่หมู่บ้านกำลังถูกโจมตีอยู่น่ะนะ แล้วลิลิธจังยืนขึ้นไหวรึเปล่า?”

 

ลิลิธจังมีสีหน้าสับสนผสมกับความกังวล  

ร่างกายของเธอตอนนี้ก็ยังคงสั่นอยู่เลย

 

หลังจากที่ลังเลอยู่ซักพัก ผมก็พูดกับเธอไปว่า

[ขอเสียมารยาทนิดนึงนะ] แล้วจากนั้นผมก็อุ้มเธอขึ้นมา

 

ผมจับร่างกายส่วนล่างของเธอไว้และแบกเธอไว้บนไหล่ของผม(ขี่หลัง)

ลิลิธจังประหลาดใจอย่างมากและใช้มือตบที่หลังผม

 

“ดะ เดี๋ยวสิ!? ปล่อยฉันลงนะ!”

 

“ต่อให้ปล่อยไปตอนนี้เธอก็เดินต่อไปไม่ไหวอยู่ดีไม่ใชรึไง? ผมจะพาเธอไปส่งที่ปลอดภัยให้ เพราะงั้นช่วยอดทนซักพักก็แล้วกันนะ”

 

“อะ อดทนเนี่ยนะ ฉะ ฉันก็ไม่ได้ไม่ชอบหรือว่าอะไรหรอกนะ แต่ถ้าถูกซิลเวียมาเห็นสภาพแบบนี้ขึ้นมา เดี๋ยวจะถูกเข้าใจผิดเอาไม่ใช่รึไง!?”

 

ผมวิ่งออกไปนอกเต็นท์โดยที่ไม่สนใจลิลิธจังที่กำลังบ่นเสียงดัง

พอผมออกมาข้างนอก ผมได้ยินเสียงคนตะโกนกันเสียงดัง

และยังได้ยินเสียงดาบปะทะกันอย่างแรง

 

ทางทิศที่เป็นเต็นท์ของผู้ชายก็เหมือนจะมีควันพุ่งออกมาด้วย

พอเห็นแบบนั้นแล้ว น้ำเสียงของลิลิธจังก็เปลี่ยนไปในทันที

 

“นะ…นี่มันอะไรกัน…มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย? ละ แล้วท่านทวดล่ะ? แล้วซิลเวียล่ะ?”

 

เสียงของเธอสั่นเครือ

ผมจึงส่งเสียงเรียกลิลิธจังไปเพื่อให้เธอใจเย็นลง

 

“อย่างแรกที่ต้องทำในตอนนี้คือการพาลิลิธจังไปส่งในที่ปลอดภัยไว้ก่อน หลังจากนั้น เรื่องของสองคนนั้นก็ค่อยเอาไว้ว่ากันทีหลังก็แล้วกัน โอเคมั้ย?”

 

“…อะ อืม….”

 

ในขณะที่ผมกำลังพยายามปลอบใจลิลิธจังอยู่ ผมก็เริ่มเคลื่อนไหวออกไป 

แต่เอาจริงๆแล้วผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าต้องไปทางไหนถึงจะปลอดภัย

 

เต็นท์ของคุณซิลเวียที่อยู่ใกล้ๆก็ถูกเปิดออก

แล้วก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีใครอยู่ข้างในเต็นท์นั้นด้วย

 

ก่อนอื่นผมต้องหลีกหนีออกไปจากความโกลาหลตรงนี้ซะก่อน

ผมก็เลยวิ่งออกไปในทางที่เหมือนจะไม่ค่อยมีคน

แต่เพราะผมต้องแบกลิลิธจังไปด้วย ผมจึงเร่งความเร็วมากไม่ได้

 

ตอนที่โอคุงมาเยี่ยมที่เต็นท์นั่นยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยแท้ๆนะ…

จะว่าไปแล้วโอคุงคนนั้นจะปลอดภัยดีรึเปล่านะ?

 

ถึงสำหรับผมแล้วจะเป็นยังไงก็ช่างมันก็เถอะ

แต่ลิลิธจังที่เป็นคู่หมั้นก็น่าจะต้องเป็นห่วงนั่นแหละ

 

แต่ว่า ชื่อที่ลิลิธจังพูดออกมาเมื่อกี้่นั้น ดูเหมือนจะไม่มีโอคุงอยู่เลยนะ

หรือบางทีแล้วในใจของลิลิธจังจะลำดับความสำคัญโอคุง

ไว้น้อยกว่าท่านทวดกับคุณซิลเวียกันนะ?

 

ไม่สิ หรือต้องบอกว่าสองคนนี้ลำดับสูงกว่ามากกว่านะ?

 

ถึงพวกเราจะมาพูดกันระหว่างทางแบบนี้ก็เถอะ

แต่ที่ลิลิธจังตามผมมาก็คงจะเป็นเพราะเธอเป็นห่วงคุณซิลเวียสินะ

 

อืม ดูเริ่มซับซ้อนขึ้นมาซะแล้วสิเนี่ย  

ต้องจดผังความสัมพันธ์ลงไปบนกระดาษซะแล้วสิ

 

หลังจากที่ผมกำลังคิดเรื่องนี้อย่างรีบๆในหัว

 จู่ๆก็มีคนกระโดดมาข้างหน้าผม

ผมรีบหยุดซะจนเกือบหน้าทิ่มพื้นเลยทีเดียว

 

“–นาย ผู้ชายงั้นเหรอ?”

 

สิ่งที่มาปรากฎต่อหน้าผมคือผู้หญิงในชุดดำ

ที่เหมือนกับผู้หญิงที่เข้ามาจู่โจมพวกผมเมื่อก่อนหน้านี้

 

เธอค่อนข้างตัวสูง ดูจากหางที่ยื่นออกมาจากหลังกางเกงแล้ว

บางที่เธอคงจะเป็นเผ่าลิซาร์ดแมนหญิงล่ะมั้งนะ

 

ผมตอบคำถามของอีกฝ่ายไปด้วยความระมัดระวัง

 

“ถ้าเป็นผู้ชายแล้วมันทำไมล่ะ?”

 

“อะไร ฉันน่ะไม่สนใจที่จะฆ่าผู้ชายหรือเด็กที่ไม่มีอาวุธหรอกนะ”

 

ผู้หญิงที่อยู่ข้างหน้าผมยักไหล่ให้ผมและหันมามองที่ลิลิธจังที่ผมแบกไว้อยู่

 

“ปล่อยผู้หญิงคนนั้นไว้ซะ แล้วฉันจะปล่อยนายไป”

 

“….ถ้าผมปล่อยลิลิธจังไป มันจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอกันล่ะ?”

 

“ก็ต้องฆ่าทิ้งแน่นอนอยู่แล้ว เพราะนั่นมันคืองานของฉันยังไงล่ะ”

 

“อึก…!”

 

ลิลิธจังตัวแข็งทื่อทันทีที่ได้ยินคำพูดนั้น ซึ่งผมก็ไม่แปลกใจเลย

 

“ลิลิธจังเองก็เป็นเด็กไม่ใช่รึไง เพราะงั้นขอร้องล่ะ ช่วยปล่อยผ่านไปหน่อยจะได้รึเปล่า?”

 

“พูดเรื่องอะไรน่ะ? ถึงภายนอกผู้หญิงคนนั้นจะดูเด็กก็จริง แต่อายุจริงของเธอน่าจะมากกว่าฉันกับนายเยอะเลยนะ”

 

“เอ๊ะ งั้นหรอกเหรอ?”

 

อ๊ะ จะว่าไปแล้วมันก็จริงนะ ก็ลิลิธจังเป็นเอลฟ์นี่นา

แต่พอได้ยินว่าเธออายุมากกว่าผมนี่ก็แอบตกใจเหมือนกันนะ

 

“อา ใช่แล้วล่ะ เพราะงั้นเลยจะฆ่าไง เดิมทีแล้วยัยนั่นก็เป็นเป้าหมายของฉันตั้งแต่แรกด้วยแล้วล่ะนะ เพราะงั้นจะพลาดไม่ได้เด็ดขาด”

 

“เป้าหมายเหรอ…แปลว่าจะฆ่าผู้สืบทอดในครั้งนี้ทั้งหมดเลยงั้นสินะ?”

 

ผมที่แบกลิลิธจังไว้ค่อยๆก้าวถอยหลังไป

แต่ดูเหมือนว่าผู้หญิงชุดดำคนนั้นจะสังเกตเห็นว่าผมกำลังรักษาระยะห่างอยู่

เธอก็เลยพุ่งกระโจนเข้ามาใส่พวกเรา!

 

“อึก!?”

 

ผมพยายามยิงเข็มออกจากแหวนไปที่ผู้หญิงคนนั้น

แต่ดูเหมือนว่าเธอจะสัมผัสได้ว่าผมจะทำอะไรบางอย่าง

เธอจึงปัดมือซ้ายของผมออกไปและจับที่คอเสื้อของผมเอาไว้

 

ผมพยายามจะดิ้นรนหนีออกจากมือของผู้หญิงคนนั้น

แต่ผมขยับตัวเพื่อที่จะหนีไปไม่ได้เลย

 

“หื้ม ทั้งที่บอกไปแล้วว่าจะปล่อยนายไปแล้วแท้ๆนะ…พวกที่ไม่ยอมฟังคนอื่นน่ะ จะผู้ชายหรือผู้หญิงฉันก็ไม่ชอบทั้งนั้นแหละ”

 

“อึก…!”

 

ครั้งนี้ผู้หญิงคนนั้นเอื้อมแขนมาคล้องคอผม

จากนั้นก็ใช้ฝ่ามือจับคอของผมและบีบคอของผมแน่น

 

แต่ว่าในจังหวะนั้นเอง ลิลิธจังที่ผมแบกมาด้วยก็ยกขาขึ้นไปข้างบน

และเตะไปที่หน้าของผู้หญิงชุดดำคนนั้นอย่างสุดแรง

 

“อั้ก!?”

 

“หัดดูตัวเองก่อนเถอะย่ะ! ผู้หญิงแย่ๆอย่างเธอน่ะลิลิธเองก็เกลียดที่สุด–เอ๋?”

 

ลิลิธจังส่งเสียงออกมา ทันใดนั้นร่างกายของเธอก็เอียงลงไปอย่างแรง

ดูเหมือนว่า–ตอนที่ผมกำลังต่อสู้กับผู้หญิงคนนั้น 

พวกเราก็มาใกล้ที่ทางลาดชันในป่าแล้ว

 

แล้วพอลิลิธจังเตะผู้หญิงคนนั้นไป 

แรงถีบนั้นมันทำให้ผมหงายหลังเลย

 

แล้วที่แย่ไปกว่านั้นคือ 

ดูเหมือนว่าทิศทางด้านหลังพวกเรานั้นจะเป็นทางลาดชันด้วย

 

และผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นคือ–

ผมกับลิลิธจังไถลลงมาตามทางลาดใกล้ผหน้าผากันทั้งคู่

 

“เหวอออออ!?”

 

“คย้าาาาาา!?”

 

ก่อนที่พวกเราจะตกลงมา ผู้หญิงชุดดำคนนั้นก็ทำหน้าตกใจเหมือนกัน

ถึงว่าผู้หญิงคนนั้นเองก็คงคาดไม่ถึงว่ามันจะเป็นแบบนี้เหมือนกันล่ะมั้ง

แต่ตอนนี้พวกเราไม่มีเวลามาคิดเรื่องของผู้หญิงชุดดำพวกนั้นแล้ว

 

จากนั้นพวกเราก็กอดร่างของกันและกันแน่น

และกลิ้งตกลงมาด้วยกันตามทางลาด–

 

 

นักผจญภัยหญิงแรงค์ S ขึ้นคาน ในโลกคู่ขนาน

นักผจญภัยหญิงแรงค์ S ขึ้นคาน ในโลกคู่ขนาน

Status: Ongoing
อ่านนิยาย นักผจญภัยหญิงแรงค์ S ขึ้นคาน ในโลกคู่ขนานผมทำตามที่กิลด์มาสเตอร์สั่งและเดินตรงไปยังห้องประเมินของกิลด์ ในตอนที่ผมเปิดประตูเข้าไป สินค้าก็ได้วางอยู่ในห้องไว้อยู่แล้ว และเมจิคไอเทมที่กิลด์มาสเตอร์อยากให้ผมประเมินนั้นวางอยู่บนโต๊ะ ผมเดินไปหยิบคริสตัลประเมินออกมาจากตู้และเปิดใช้งานมันด้วยพลังเวทย์ คริสตัลประเมินนี่ถือว่าเป็นของมีค่ามากเลยทีเดียว ในแต่ละกิลด์ภายในอาณาจักรจะต้องคริสตัลนี้สาขาละ1อัน ก็ตามชื่อน่ะนะ คริสตัลอันนี้ มีไว้เพื่อใช้ประเมินค่าของเมจิคไอเทม ผมบอกตัวเองว่า ถ้าผมทำคริสตัลอันนี้แตกขึ้นมาล่ะก็ ต่อให้ผมจะเกิดใหม่ซัก 3 รอบก็คงไม่มีทางทำงานหาเงินมาจ่ายได้แน่ๆ จะว่าไปแล้ว คริสตัลอันนี้มันจำทำให้เราคิดมากจนเกินไปหน่อยแล้วมั้ง? หรือนี่มันจะเป็นชะตากรรมของผมกันนะ? ในตอนนั้นเองที่ผมกำลังหยิบคริสตัลประเมินผมไม่ได้สังเกตเห็นเลยว่า ชายเสื้อของผมมันไปเกี่ยวกับไอเทมเวทย์มนต์บนโต๊ะและตอนที่ผมขยับออกมา เมจิคไอเทมอันหนึ่ง–ขวดแก้วเล็กๆ ตกลงไปที่พื้นและแตกเป็นเสี่ยงๆ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset