นักผจญภัยหญิงแรงค์ S ขึ้นคาน ในโลกคู่ขนาน – ตอนที่ 52

 

“แหม่ ไม่คิดเลยนะว่าคุณซิลเวียนักผจญภัยแรงค์ S จากปาร์ตี้เฮียกกะเรียวรันคนนั้นจะมาที่เมืองคาสซานดร้าแบบนี้”

 

“ค่ะ พอดีว่าได้พบกับพนักงานกิลด์…..ท่านเรียวที่เมืองหลวงน่ะค่ะ ในตอนนั้นพอดีว่าฉันก็ได้รับรู้เรื่องราวปัญหาที่กำลังเกิดขึ้นในเมืองคาสซานดร้าแห่งนี้จากท่านเรียวมาน่ะค่ะ”

 

ทั้งสองคนนั้นนั่งอยู่บนโซฟากลางห้องในห้องรับแขก

 

นั่นคือกิลด์มาสเตอร์ที่กำลังถูมือไปมา กับนักดาบดาร์กเอลฟ์สาวที่นั่งยิ้มอยู่ตรงข้ามเขา

คุณซิลเวียนั่นเอง

 

“ขอโทษที่มาช้านะครับ ผมเรียวครับ”

 

ผมเข้ามาในห้องแบบเขินๆ จากนั้นทั้งสองคนที่เห็นผมก็เงยหน้าขึ้นมามองผม

ผมถือถาดที่รองถ้วยชาดำไว้ แล้วผมก็เอาชาที่อยู่ในมือไปเสิร์ฟ

ผมได้แต่ภาวนาที่จะออกจากห้องนี้ไปเร็วๆ แต่กิลด์มาสเตอร์ก็ได้เรียกให้ผมไปนั่งข้างๆ

 

“เรียว! แหม่  ตอนนี้เรากำลังพูดเรื่องของนายกันอยู่พอดีเลยล่ะ ไม่คิดเลยนะว่านายจะรู้จักกับคุณซิลเวียแห่งเฮียกกะเรียวรันคนนั้นด้วยนะเนี่ย!”

 

“มะ ไม่หรอกครับ….ฮ่ะฮ่ะ สวัสดีครับคุณซิลเวีย”

 

“ไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะ ท่านเรียว”

 

กิลด์มาสเตอร์ก็ทำหน้าอารมณ์ดี ส่วนคุณซิลเวียก็ยังคงนั่งยิ้มอยู่บนโซฟา

ถ้ากิลด์มาสเตอร์ก็ว่าไปอย่าง แต่เพิ่งเคยเห็นท่าทีแบบนั้นคุณซิลเวียเป็นครั้งแรกเลยนะ!?

 

แต่แม้จะเห็นรอยยิ้มของสาวงามแบบนี้แต่ผมกลับไม่ได้รู้สึกดีใจเลยซักนิด

กลับกันเลย ผมรู้สึกถึงแต่ความกลัว

 

ทำไมคุณซิลเวียถึงมาที่เมืองคาสซานดร้าล่ะ?

หรือว่าเธอจะกลับมาตอบแทนสิ่งที่ผมเคยทำกับเธอไว้กัน…..

 

ไม่น่าใช่…..

ถ้าเป้าหมายของเธอเป็นแบบนั้นเธอคงไม่เข้ากิลด์มาตรงๆแบบนี้หรอก

ถ้าเธอต้องการจะแก้แค้นผมจริงๆ มันคงจะง่ายกว่าถ้าเธอแอบย่องเข้ามาข้างหลังผมจากที่มืดๆ

ไม่น่าจะเปิดเผยตัวตนให้เห็นแบบนี้หรอก

 

หรือเท่าที่ผมคิดได้….หรือจะมาตามสัญญาที่ผมพูดส่งๆไปในตอนนั้นงั้นเหรอ…..

คะ คงไม่ใช่หรอกมั้ง?

 

“นายเนี่ยน้า….นายไปขายตรงให้คุณซิลเวียมาตั้งแต่ตอนไหนกันน่ะ?  ไหนยังจะเรื่องที่โรเซนครูเซอร์ย้ายมาที่นี่อีก นี่นายทำงานหนักเกินไปหน่อยรึเปล่า”

 

“ขะ ขายตรง?”

 

“เฮ้ยๆ ไม่ต้องมาถ่อมตัวเลยนะ นายเล่าถึงปัญหาของดันเจี้ยนหมาป่าให้เธอฟังใช่มั้ยล่ะ? หลังจากที่คุณซิลเวียได้ยินเรื่องนั้น เธอเลยได้ตัดสินใจย้ายมาอาศัยอยู่ที่เมืองนี้ด้วยตัวเองเลยนะ!”

 

“ครับ!?”

 

ปัญหาเกี่ยวกับดันเจี้ยนหมาป่า!?

คุณซิลเวียย้ายมาที่เมืองคาสซานดร้า!?

 

ฮะ เฮ้ยๆ….มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ล่ะเนี่ย….?

ก็จริงอยู่ที่ดันเจี้ยนหมาป่ามันเป็นปัญหาสำหรับเรา

แต่ผมไม่เห็นจะจำได้เลยว่าผมเคยบอกเธอเรื่องนี้นะ?

 

ไม่สิ เธอเป็นนักผจญภัยแรงค์ S นี่นา จะได้ยินเรื่องนี่ผ่านหูก็คงไม่ใช่เรื่องแปลก

เพราะอย่างน้อยสำนักงานใหญ่ก็เหมือนจะแจ้งนักผจญภัยระดับสูงเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย

 

แต่ว่า คุณซิลเวียย้ายมาที่เมืองคาสซานดร้าคนเดียวเนี่ยนะ!?

ถ้ามาคนเดียวแบบนี้ ก็แปลว่าเธอออกจากเฮียกกะเรียวรันแล้วอย่างงั้นเหรอ!?

 

ละ แล้วเรื่องสามีของเธอล่ะ มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ล่ะเนี่ย….!?

หลังของผมเปียกไปด้วยเหงื่อเย็น ผมที่อยากได้คำอธิบายจึงมองไปหาคุณซิลเวีย

คุณซิลเวียหรี่ตาสีแดงอมม่วงของเธอลงและจ้องกลับมาที่ผมโดยที่ยังยิ้มอยู่

 

“….ที่สำนักงานใหญ่ของกิลด์นักผจญภัยที่เมืองหลวง พอดีว่าได้ยินเกี่ยวกับปัญหาที่เมืองคาสซานดร้ากำลังเผชิญอยู่น่ะค่ะ ดันเจี้ยนหมาป่าชั้นใหม่ที่ถูกค้นพบโดยโรเซนครูเซอร์….หากไม่มีนักผจญภัยเข้าไป ดันเจี้ยนอาจเกิดการปะทุเอาก็เป็นได้สินะคะ”

 

“ครับ ใช่แล้วล่ะครับ”

 

กิลด์มาสเตอร์พยักหน้าอย่างจริงจังให้กับคำพูดของคุณซิลเวีย

แต่ว่า สายตาของคุณซิลเวียก็ยังคงจ้องมาที่ผมเขม็ง

 

“ถึงแม้ว่าตอนที่กิลด์นำเรื่องนี้มาประกาศจะเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งก็เถอะค่ะ….แต่พอดีว่าฉันน่ะเป็นรู้จักเก่าของเหล่าสาวๆในโรเซนครูเซอร์น่ะค่ะ

เลยรู้ว่าพวกเธอไม่เคยรายงานข้อมูลที่ไม่มีความน่าเชื่อถือค่ะ  โดยเฉพาะกับเรื่องที่เกี่ยวพันถึงชีวิตคนแบบนี้น่ะค่ะ”

 

อะ…คุณซิลเวียมองทุกคนในโรเซนครูเซอร์เป็นแบบนั้นนี่เอง

ต้องมองใหม่เลยนะเนี่ย

 

“ก็แปลว่าคุณซิลเวียก็ได้ฟังเรื่องราวนั้นมาแล้วสินะ?”

 

“ค่ะ ฉันเองก็เป็นนักผจญถัยแรงค์ S เหมือนกัน ฉันไม่สามารถมองข้ามอันตรายที่ใกล้เข้ามาที่เมืองคาสซานดร้าแห่งนี้ได้ค่ะ ฉันอยากที่จะช่วยเหลือทุกคนให้ได้ซักน้อยก็ยังดีค่ะ”

 

“พะ เพื่อพวกเราแล้ว ถึงกับยอมออกจากเมืองหลวงมาที่เมืองคาสซานดร้าเลย….!?”

 

“แน่นอนค่ะ เพียงแต่ว่าพวกพ้องในปาร์ตี้นั้นไม่อาจทำความเข้าใจได้….เลยทำให้ฉันตัดสินใจออกจากเฮียกกะเรียวรัน แล้วย้ายมาที่เมืองคาสซานดร้าด้วยตัวเองค่ะ แต่มีเพียงแค่ฉันที่มาคนเดียวแบบนี้ ทุกคนที่นี่ก็อาจจะยังไม่สามารถรู้สึกวางใจได้หรอกค่ะ….”

 

“ไม่ใช่อย่างงั้นหรอกนะครับ! โอ้ ช่างคนดีอะไรอย่างนี้นะ….! ผมเป็นกิลด์มาสเตอร์มาหลายสิบปีแล้ว แต่ไม่เคยรู้สึกประทับใจมากเท่าวันนี้มาก่อนเลยล่ะครับ!”

 

ดูเหมือนว่ากิลด์มาสเตอร์จะประทับใจตัวคุณซิลเวียเอามากๆ

สายตาของเขาดูเป็นประกายเหมือนเด็กผู้ชายเลย

ถ้าผมไม่รู้จักเธอมาก่อน ผมก็คงประทับใจในคำพูดของเธอเหมือนกับกิลด์มาสเตอร์แน่ๆ

 

แต่ว่ามันไม่น่าเป็นเหมือนที่เธอพูดมาหรอก

ถ้าถามว่าทำไม นั่นก็เพราะผมเห็นสายตาหื่นกระหายของคุณซิลเวียที่จ้องมาทางผมยังไงล่ะ

ยะ อยากหนีไปให้พ้นๆอะ

 

“แต่ถึงจะว่างั้น การที่จะให้ฉันลุยดันเจี้ยนหมาป่าคนเดียวนั้นก็ยังเป็นเรื่องที่ยากอยู่นะคะ ถ้าเป็นไปได้ฉันอยากให้กิลด์มาสเตอร์และท่านเรียวแนะนำปาร์ตี้นักผจญภัยระดับ B หรือ B ขึ้นไปในเมืองนี้ให้กับฉันน่ะค่ะ ถ้าทำได้ก็จะขอบคุณมากๆเลยค่ะ เดี๋ยวอีกซักพักก็ต้องค่อยๆทำความรู้จักกับเหล่านักผจญภัยในเมืองนี้ด้วย ฉันเลยคิดอยากจะหาสมาชิกปาร์ตี้ไว้หน่อยน่ะค่ะ”

 

“แน่นอน เรื่องแค่นั้นง่ายมากครับ!”

 

“ขอบคุณมากนะคะกิลด์มาสเตอร์…..แล้วก็ท่านเรียวด้วย”

 

ในเวลาแค่ชั่วพริบตาเดียว การย้ายมาที่เมืองคาสซานดร้าของคุณซิลเวียก็ได้รับการอนุมัติ

ผมแทบอยากจะคุกเข่ากุมหัวร้องไห้ตอนนี้เลย แต่ผมไม่สามารถทำแบบนั้นได้

 

จะ ใจเย็นๆสิตัวเรา…..

ไม่เป็นไรหรอกน่ายังพอมีเวลาอยู่นี่!

 

คุณซิลเวียเพิ่งมาถึงที่เมืองนี้วันนี้เองยังไม่ได้ตัดสินใจหาที่อยู่ว่าจะอยู่ที่ไหน

เพราะงั้นคงต้องใช้เวลาอีกซักพักในการย้ายมาเมืองนี้อย่างเป็นทางการแหละ….!

 

“จะว่าไปแล้วเรื่องที่พักของคุณซิลเวียในเมืองนี้จะทำยังไงเหรอครับ?”

 

“หลังจากที่ได้ปรึกษากับครอบครัวของฉันแล้ว พวกเขาก็ได้เตรียมที่พักอาคารหนึ่งในเมืองนี้ไว้ให้เรียบร้อยแล้วล่ะค่ะ ของใช้เฟอร์นิเจอร์ก็ขนมาไว้เมื่อวันก่อนแล้ว ตอนนี้เลยไม่มีปัญหาอะไรค่ะ”

 

“โอ้ อย่างงั้นเหรอครับ”

 

สะ เสร็จเรียบร้อยไปแล้วงั้นเหรอครับ!?

แถมยังบอกว่าอาคารหลังหนึ่งด้วย ไม่ใช่แค่ห้องเดียวหรอกเรอะ!?

 

จะ จะว่าไปแล้วคุณซิลเวียเป็นลูกสาวของตระกูลพ่อค้าบริษัทใหญ่นี่นา

แถมดูเหมือนว่าสามีของคุณซิลเวียแต่งงานกับเธอก็เป็นเพราะว่า

เขาแค่ต้องการการสนับสนุนจากบริษัทของครอบครัวเธอ…..

ถ้าเป็นงั้นก็แปลว่าบ้านของคุณซิลเวียนั้นต้องรวยกว่าขุนนางระดับล่างๆเลยน่ะสิ

 

งี้นี่เอง ถ้าเป็นอย่างงั้นก็พอเข้าใจได้ว่าทำไมเธอถึงซื้อทั้งอาคารได้ในเมืองชนบทแบบนี้

 

“แต่ว่า ฉันยังไม่ค่อยชินกับที่นี่เลยน่ะค่ะ….ถ้าช่วยพาแนะนำเมืองนี้ให้หน่อยก็จะดีใจมากเลยล่ะค่ะ”

 

“แค่นั้นเอง แน่นอนว่าได้อยู่แล้วครับ นี่ เรียว ฉันจะให้เวลาพักงานกับนายเพราะงั้นนายน่ะ หลังจากนี้พาคุณซิลเวียไปดูรอบเมืองที”

 

“เอ๊ะ….?”

 

ผมหันไปหากิลด์มาสเตอร์ พร้อมเสียงประกอบเหมือนสกรูขึ้นสนิม (แกร็กๆๆๆๆ)

และกิลด์มาสเตอร์ก็ยิ้มโชว์ฟันขาวให้ผมไป 1 ที

 

“พาคุณซิลเวียไปเที่ยวชมเมืองซะนะ ถ้าเธอมีนายอยู่ข้างๆล่ะก็คงจะอุ่นใจแน่ๆ”

 

“มะ ไม่ล่ะครับ คือผมน่ะ—-“

 

“แหม จะดีเหรอคะท่านเรียว? ช่วยได้มากเลยล่ะค่ะ ขอบคุณมากนะคะ”

 

“แค่นี้ไม่เป็นไรหรอกครับ ถ้างั้น เรียว หลังจากนี้ฉันจะทำงานในส่วนของนายเอง เพราะฉะนั้นไม่ต้องห่วงแล้วไปเถอะ”

 

ก่อนที่ผมจะได้ทันพูดปฏิเสธ คุณซิลเวียก็พูดตัดหน้าผมขึ้นมา

กิลด์มาสเตอร์ก็ดันตอกตะปูซ้ำซะมิดเลย ผมก็เลยปฏิเสธไม่ได้

 

ผมมองไปที่คุณซิลเวียด้วยความหวาดกลัว

คุณซิลเวียยังคงยิ้มแล้วมองมาที่ผมเงียบๆ

แล้วเธอก็ขยับปากโดยที่ไม่ส่งเสียง

 

—สัญ—-ญา—-

 

ผมสัมผัสได้เลยว่าปากที่ขยับอยู่กำลังพูดแบบนั้น

 

 

นักผจญภัยหญิงแรงค์ S ขึ้นคาน ในโลกคู่ขนาน

นักผจญภัยหญิงแรงค์ S ขึ้นคาน ในโลกคู่ขนาน

Status: Ongoing
อ่านนิยาย นักผจญภัยหญิงแรงค์ S ขึ้นคาน ในโลกคู่ขนานผมทำตามที่กิลด์มาสเตอร์สั่งและเดินตรงไปยังห้องประเมินของกิลด์ ในตอนที่ผมเปิดประตูเข้าไป สินค้าก็ได้วางอยู่ในห้องไว้อยู่แล้ว และเมจิคไอเทมที่กิลด์มาสเตอร์อยากให้ผมประเมินนั้นวางอยู่บนโต๊ะ ผมเดินไปหยิบคริสตัลประเมินออกมาจากตู้และเปิดใช้งานมันด้วยพลังเวทย์ คริสตัลประเมินนี่ถือว่าเป็นของมีค่ามากเลยทีเดียว ในแต่ละกิลด์ภายในอาณาจักรจะต้องคริสตัลนี้สาขาละ1อัน ก็ตามชื่อน่ะนะ คริสตัลอันนี้ มีไว้เพื่อใช้ประเมินค่าของเมจิคไอเทม ผมบอกตัวเองว่า ถ้าผมทำคริสตัลอันนี้แตกขึ้นมาล่ะก็ ต่อให้ผมจะเกิดใหม่ซัก 3 รอบก็คงไม่มีทางทำงานหาเงินมาจ่ายได้แน่ๆ จะว่าไปแล้ว คริสตัลอันนี้มันจำทำให้เราคิดมากจนเกินไปหน่อยแล้วมั้ง? หรือนี่มันจะเป็นชะตากรรมของผมกันนะ? ในตอนนั้นเองที่ผมกำลังหยิบคริสตัลประเมินผมไม่ได้สังเกตเห็นเลยว่า ชายเสื้อของผมมันไปเกี่ยวกับไอเทมเวทย์มนต์บนโต๊ะและตอนที่ผมขยับออกมา เมจิคไอเทมอันหนึ่ง–ขวดแก้วเล็กๆ ตกลงไปที่พื้นและแตกเป็นเสี่ยงๆ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset