นักผจญภัยหญิงแรงค์ S ขึ้นคาน ในโลกคู่ขนาน – ตอนที่ 67

 

ผมมองไปทางด้านหลังก็เห็นมนุษย์กบคนนั้นวิ่งหนีไปด้วยใบหน้าที่สับสน

เอ๊ะ ทำไมหมอนั่นถึงหนีไปล่ะ?

 

“เรียว โทษทีนะแต่ช่วยแก้มัดให้หน่อยสิ”

 

“อ๊ะ ครับ”

 

ผมรีบวิ่งไปตามที่คุณซิลเวียเรียก ผมจึงแก้เชือกที่มัดเธอไว้บนเก้าอี้

 

“ขอบคุณนะ…..แล้วก็ สมแล้วล่ะนะ ฮึฮึ นายนี่ช่างเป็นผู้ชายที่น่าเหลือเชื่อจริงๆเลย”

 

“ไม่หรอก คราวนี้อีกฝ่ายดันอ่อนน่ะ ก็เลยรอดมาได้”

 

ผมมองไปที่ซึสึที่ล้มพับเป็นลมด้วยร่างกายที่สั่นเทาด้วยความกลัว

ดวงตาของเธอยังคงขาวโพลน

แม้ว่าเธอจะหมดสติไปแต่คลิตอริสของเธอก็ยังเป็นสีชมพู

อืม วิวดีจริงๆ

 

“เรียว”

 

“ครับ?”

 

“ขอโทษด้วยนะ…..เพราะการกระทำโดยไม่คิดของฉัน ทำให้นายต้องมาตกอยู่ในอันตรายแบบนี้”

 

คุณซิลเวียพูดแบบนั้นพร้อมโค้งคำนับผมอย่างสุดซึ้ง

 

“อะไรกัน! คุณซิลเวียไม่จำเป็นต้องขอโทษหรอกนะ ทุกอย่างนี้มันเป็นความผิดของไอ้สารเลวนั่นไม่ใช่รึไง”

 

“ไม่หรอก มันเป็นความรับผิดชอบของฉันเอง เพราะมาเกี่ยวข้องกับฉัน นายถึงต้องมาตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ไงล่ะ”

 

คุณซิลเวียเงยหน้าขึ้นพร้อมจับมือขวาของผมแน่นด้วยมือทั้งสองข้างของเธอ

ดวงตาสีแดงอมม่วงของเธอเต็มไปด้วยความแน่วแน่

 

“เพราะงั้น ฉันขอให้สัญญาเลย ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันจะพานายออกไปจากที่นี่ แล้วพานายกลับไปยังเมืองคาสซานดร้าให้ได้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ฉันก็จะปกป้องนายเอง”

 

“ไม่ใช่แค่ผมสิ….คุณซิลเวียเองก็ต้องกลับไปด้วยกันสิ จะให้เจ้าบ้านั่นทำตามต้องการได้ยังไงล่ะ?”

 

คุณซิลเวียไม่ได้พยักหน้าให้กับคำพูดของผม เธอเพียงแค่ยิ้มให้กับคำพูดของผมเท่านั้น

 

“เอาล่ะ….ถึงจะพูดแบบนั้น แต่ตอนนี้ดาบของฉันก็ถูกพวกนั้นเอาไปแล้วล่ะนะ ตอนนี้ก็เอาอาวุธของยัยผู้หญิงแมวคนนั้นมาใช้ก่อนก็แล้วกัน”

 

พอพูดแบบนั้นเธอก็เดินไปหาซึสึที่กำลังหมดสติแล้วก็ลองคลำดูที่ตัวซึสึ

ทุกครั้งที่มือของคุณซิลเวียแตะตัวซึสึ เธอก็จะละเมอออกมา ไม่มีทีท่าว่าจะตื่น

 

“หื้ม ดูเหมือนจะมีแค่คุไนเล่มนี้ที่พอจะเป็นอาวุธได้นะ”

 

คุณซิลเวียขโมยคุไนทั้งสามเล่มมาจากซึสึ

แล้วใบหน้าของเธอก็แข็งทื่อไปทันทีที่

เธอจ้องไปทางประตูที่อยู่ห้องใต้ดินด้วยใบหน้าเคร่งขรึม

 

“เรียว ไปอยู่ข้างผนังห้องซะ มีใครบางคนกำลังมา”

 

ผมไม่ได้ยินแม้แต่เสียงฝีเท้า แต่ดูเหมือนว่าคุณซิลเวียจะสัมผัสได้

ผมรีบเดินไปตรงผนังห้องตามที่คุณซิลเวียบอก ซึ่งเป็นจุดอับสายตาจากประตู

 

ยังดีที่แหวนทองคำที่โอริออนดีลเคยให้ผมไว้ยังคงอยู่ดี

ดังนั้นผมก็จะสามารถสนับสนุนคุณซิลเวียด้วยแหวนวงนี้ได้

 

“แหมๆ ซึสึจังนี่ล่ะก็ แพ้ซิลเวียจังอีกแล้วงั้นเหรอ”

 

พอผมได้ยินเสียง ผมจึงหันหน้าไปทางทิศของเสียงนั้น

คุณซิลเวียที่ยืนรออยู่กลางห้องก็มีสีหน้าประหลาดใจ

 

“ตะ ตั้งแต่เมื่อไหร่….!?”

 

พอประตูห้องใต้ดินเปิดออก แม้จะไม่มีทีท่าว่าจะมีใครเดินเข้ามา

แต่ก่อนที่ผมจะรู้ตัว เด็กสาวหูกระต่ายคนนั้นก็นั่งลงข้างๆซึสึที่ล้มอยู่บนพื้น

 

“ผู้ว่าจ้างหนีออกมาจากชั้นใต้ดินไป ก็คิดอยู่หรอกว่าเกิดอะไรขึ้น….”

 

หลังจากใช้นิ้วจิ้มๆซึสึเสร็จ เมย์ฟาก็ยืนขึ้นแล้วยักไหล่

 

“ซิลเวียจัง เธอแก้เชือกได้ยังไงกันน่ะ? เธอไม่น่าจะแก้ได้ด้วยตัวเองนี่นา”

 

“หื้ม ฉันไม่มีหน้าที่ที่จะต้องตอบเธอซักหน่อยนี่”

 

“อะฮ่าฮ่า นั่นสินะ…..อ๊ะ หรือมันจะเป็นพลังแห่งรักอะไรแบบนี้อย่างงั้นเหรอ? สมแล้วล่ะนะซิลเวียจัง พอเห็นคนที่รักจะถูกข่มขืนต่อหน้าต่อตาเธอคงจะทนไม่ได้สินะ~?”

 

เมย์ฟายิ้มยัวะคุณซิลเวียด้วยรอยยิ้มชั่วร้าย

เธอไม่คิดแม้แต่น้อยเลยว่าผมคือคนที่เอาชนะซึสึแล้วปล่อยคุณซิลเวียให้การเป็นอิสระ

สิ่งที่เธอคิดคือคุณซิลเวียสามารถขัดขืนจนเอาชนะซึสึได้

 

นี่เธอไม่ได้ยินอะไรมาจากนายคางคกเลยรึไงนะ?

แต่เอาเถอะ ดูจากเมื่อกี้แล้ว หมอนั่นคงไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะถามอะไรได้ล่ะนะ

เธอแค่อาจจะมาที่นี่เฉยๆก็ได้

 

“เฮอะ ไร้สาระ เขาน่ะไม่ใช่คนที่จะถูกยัยผู้หญิงแมวคนนั้นทำอะไรได้ง่ายๆหรอกน่า”

 

“หวา อะไรล่ะนั่น อวดเหรอ? รู้สึกแย่ไงไม่รู้สิ….”

(อารมณ์ประมาณ จะอวดคนรักตัวเองโชว์เหรอ)

 

ในระหว่างที่เมย์ฟากำลังพูดอยู่ คุณซิลเวียก็ขว้างคุไนที่เอามาจากซึสึใส่

คุไนถูกขว้างออกไปอย่างรวดเร็ว แต่เมย์ฟาก็หลบได้  

 

“โกหกน่า การจะขว้างคุไนแบบนี้ได้ต้องอาศัยการฝึกฝนมากเลยนะ แต่ก็สมกับเป็นนักผจญภัยแรงค์ S ล่ะนะ”

 

เมย์ฟาพยักหน้าชื่นชม

ก็จริงนะ อย่างที่เมย์ฟาพูดนั่นแหละ คุณซิลเวียน่าทึ่งจริงๆ

ผมไม่คิดเลยว่าเธอจะสามารถใช้อาวุธที่เพิ่งเคยจับครั้งแรกได้แบบนั้น

 

“กะแล้วเชียว ถ้าจะเผชิญหน้ากับซิลเวียจังตัวต่อตัวคงไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่….เพราะงั้น มาทำแบบเดิมก็แล้วกัน”

 

“อะ!? เรียว หนีไปซะ!”

 

ทันทีที่คุณซิลเวียตะโกนแบบนั้น เมย์ฟ้าก็ได้กระโดดมาทางผม

เอาล่ะ จังหวะนี้แหละ!

ผมหันมือซ้ายไปทางเมย์ฟาที่กำลังเข้ามาจากด้านหน้า

หนามพุ่งออกมาจากแหวนตามความคิดของผมและบินไปตรงที่เมย์ฟาอยู่

 

“อะ…!?”

 

หนามเล็กๆนั่นโดนเข้าที่ท้องของเมย์ฟา

แล้วหนามนั้นก็ละลายหายเข้าไปในร่างกายเธอ

ในจังหวะนั้นเมย์ฟาก็ทรุดเข่าลงไป

เยี่ยมเลย ประสบความสำเร็จล่ะ!

 

“เรียว ปลอดภัยรึเปล่า!?”

 

ตอนที่ผมกำลังถอนหายใจด้วยความโล่งอก คุณซิลเวียก็รีบวิ่งเข้ามาคั่นระหว่างผมกับเมย์ฟา

เธอปกป้องผมที่ยืนอยู่ข้างหลังและจ้องไปยังเมย์ฟาที่อยู่ตรงหน้าเธอ

 

“ไม่เป็นไรแล้วล่ะคุณซิลเวีย ผมทำให้เธอเป็นอัมพาตด้วยเมจิคไอเทมของผมไปแล้วล่ะ ตอนนี้เธอน่าจะยังไม่สามารถขยับตัวได้อีกซักพัก”

 

“อะไรนะ?”

 

“ก็ที่ผมเคยใช้กับคุณซิลเวียตอนที่ถูกคุณซิลเวียจู่โจมตอนอยู่ที่เมืองหลวงนั่นไง”

 

“อ๊ะ งั้นเหรอ ไอ้นั่นนี่เอง! แต่ก่อนจะถูกลักพาตัวมานายไม่เห็นเคยบอกเลยนี่?”

 

“อื้ม ใช่แล้วล่ะ โทษทีนะ ก็ว่าจะบอกอยู่หรอกแต่มันไม่มีจังหวะเลยน่ะสิ”

 

ผมยกแหวนที่มือซ้ายขึ้นมาให้คุณซิลเวียดู

และอธิบายเกี่ยวกับแหวนนี้และวิธีใช้ให้เธอฟัง

แล้วก็มีเสียงที่แผ่วเบาเข้ามาแทรกกลางบทสนทนาของพวกเรา

 

“แหวนวงนั้นมัน……”

 

พอผมหันไป ก็เห็นเมย์ฟาที่ล้มลงกับพื้นเงยหน้าขึ้นมามองที่มือซ้ายของผม

ไม่สิ ไม่ใช่มือซ้าย ที่เธอมองมาคือแหวนที่อยู่ที่นิ้วนางข้างซ้ายของผมต่างหาก

 

“ดะ เดี๋ยวก่อน คุณพี่ชาย แหวนนั่นน่ะ……ขอร้องล่ะ ขอให้เราได้ดูใกล้ๆหน่อยได้รึเปล่า….”

 

เมย์ฟาหันมองมาทางผมด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

 

“เรียว มันจำเป็นจะต้องฟังที่ยัยนี่พูดหรอก รีบออกไปข้างนอกกันดีกว่านะ”

 

“ขะ ขอร้องล่ะ ถ้าแหวนวงนั้นเป็นแหวนวงเดียวกับที่ฉันรู้จักล่ะก็ มันจะสามารถช่วยคุณพี่ชายได้แน่นอน…! ไม่สิ ไม่ใช่! ถ้าเกิดว่าแหวนนั้นเป็นของจริงแล้วล่ะก็ สำหรับพวกเราแล้วคุณพี่ชายน่ะคือ….!”

 

“พูดไปเรื่อย นี่เธอเห็นว่าฉันโง่ขนาดนั้นเลยรึไง?”

 

คุณซิลเวียปฏิเสธคำขอของเมย์ฟา

แต่ถึงแม้ว่าผมจะแอบลังเล แต่สุดท้ายผมก็ค่อยๆเดินเข้าไปใกล้เมย์ฟาเงียบๆ

 

“นี่ เรียว?”

 

“ไม่รู้เพราะอะไรเหมือนกัน แต่แหวนนี้มันอาจจะสามารถช่วยอะไรเราได้จริงๆก็ได้ เพราะต่อให้หนีไปตอนนี้พวกเราก็อาจจะถูกไล่ล่าอยู่ดี ไม่ตอนนี้ก็ในอนาคตยังไงเราก็จะถูกตามล่าอยู่ดีไม่ใช่เหรอ”

 

“อะ….”

 

จากนั้นผมก็ชูนิ้วนางข้างซ้ายของผมให้เมย์ฟาดู

เมย์ฟาค่อยๆยื่นแขนที่เป็นอัมพาตของเธอมาแตะที่แหวนเบาๆ

ในขณะนั้นเองแวนก็ส่องแสงเป็นประกายจางๆ

 

“อ๊ะ….!?”

 

“อะไรน่ะ!?”

 

คุณซิลเวียกับผมประหลาดใจกับแสงที่เปล่งออกมาจากแหวน

แต่นั่นไม่ใช่แค่เรื่องเดียวที่ทำให้ประหลาดใจ

พอแหวนส่องแสง เมย์ฟาก็หลั่งน้ำตา

 

“อา….อะไรกัน คุณพี่ชายก็คือ….ไม่สิ ท่านก็คือบุคคลทรงคุณค่าของพวกเราสินะคะ”

 

“ครับ?”

 

“ได้โปรด ยกโทษให้กับการกระทำที่หยาบคายมาจนถึงตอนนี้ด้วยเถอะค่ะ”

 

ผมสับสนกับอารมณ์ที่พุ่งพล่านของเมย์ฟาที่เต็มไปด้วยน้ำตา

 

“พวกเราทุกคนรอวันนี้มาเนิ่นนานที่จะได้พบกับท่านอีกครั้ง ทายาทผู้สืบทอดของท่านควอนดร้าผู้ก่อตั้งกิลด์แห่งความมืด….ผู้ที่จะมาสานต่อความต้องการของท่านรุ่นแรก….!”

 

ครับ??????

 

 

นักผจญภัยหญิงแรงค์ S ขึ้นคาน ในโลกคู่ขนาน

นักผจญภัยหญิงแรงค์ S ขึ้นคาน ในโลกคู่ขนาน

Status: Ongoing
อ่านนิยาย นักผจญภัยหญิงแรงค์ S ขึ้นคาน ในโลกคู่ขนานผมทำตามที่กิลด์มาสเตอร์สั่งและเดินตรงไปยังห้องประเมินของกิลด์ ในตอนที่ผมเปิดประตูเข้าไป สินค้าก็ได้วางอยู่ในห้องไว้อยู่แล้ว และเมจิคไอเทมที่กิลด์มาสเตอร์อยากให้ผมประเมินนั้นวางอยู่บนโต๊ะ ผมเดินไปหยิบคริสตัลประเมินออกมาจากตู้และเปิดใช้งานมันด้วยพลังเวทย์ คริสตัลประเมินนี่ถือว่าเป็นของมีค่ามากเลยทีเดียว ในแต่ละกิลด์ภายในอาณาจักรจะต้องคริสตัลนี้สาขาละ1อัน ก็ตามชื่อน่ะนะ คริสตัลอันนี้ มีไว้เพื่อใช้ประเมินค่าของเมจิคไอเทม ผมบอกตัวเองว่า ถ้าผมทำคริสตัลอันนี้แตกขึ้นมาล่ะก็ ต่อให้ผมจะเกิดใหม่ซัก 3 รอบก็คงไม่มีทางทำงานหาเงินมาจ่ายได้แน่ๆ จะว่าไปแล้ว คริสตัลอันนี้มันจำทำให้เราคิดมากจนเกินไปหน่อยแล้วมั้ง? หรือนี่มันจะเป็นชะตากรรมของผมกันนะ? ในตอนนั้นเองที่ผมกำลังหยิบคริสตัลประเมินผมไม่ได้สังเกตเห็นเลยว่า ชายเสื้อของผมมันไปเกี่ยวกับไอเทมเวทย์มนต์บนโต๊ะและตอนที่ผมขยับออกมา เมจิคไอเทมอันหนึ่ง–ขวดแก้วเล็กๆ ตกลงไปที่พื้นและแตกเป็นเสี่ยงๆ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset