นักผจญภัยหญิงแรงค์ S ขึ้นคาน ในโลกคู่ขนาน – ตอนที่ 91

 

หลังจากก่อนหน้านี้

คุณซิลเวียก็บอกว่ามีเรื่องที่อยากจะคุยกับคุณคิยาโนโตะและเมย์ฟา

จึงมีแค่ผมคนเดียวที่กลับไปที่บ้านของคุณซิลเวีย

 

ผมก็อยากรู้นะว่าจะคุยอะไรกัน  

แต่ดูเหมือนว่าคุณซิลเวียไม่ค่อยอยากจะให้ผมรู้ซักเท่าไหร่

ก็นะ ถ้ามันเป็นเรื่องระหว่างคนในครอบครัว คนนอกก็ไม่ควรจะมาได้ยินนั่นแหละนะ

 

ในระหว่างที่กำลังเดินทางกลับไปที่บ้านของคุณซิลเวีย

คุณคาร์ลาก็มากับผมด้วยในฐานะคนคุ้มกัน

 

ในวันมะรืน–

หรือถ้าจะให้พูดตามเวลาที่เหลืออยู่ก็คือวันพรุ่งนี้–ซึ่งเป็นวันที่มีการจัดงานแต่ง  

บางทีพวกหัตถ์แห่งพระเจ้าอาจจะแฝงตัวเข้ามาในหมู่บ้านแล้วก็ได้

 

ผมถูกบอกมาว่า จะให้ผู้ชายเดินกลับบ้านตอนดึกๆคนเดียวได้ยังไงกัน

หลังจากนั้นคุณคาร์ลาก็เลยมาเดินคุ้มกันเคียงข้างผมบนถนนตอนกลางคืน

 

“……”

 

“……”

 

อะ อึดอัดจัง!

 

ปกติเวลาที่พวกเราอยู่ด้วยกันตามลำพัง คุณคาร์ลามักจะเป็นคนเปิดหัวข้อสนทนา

แต่ตอนนี้คุณคาร์ลากลับเดินต่อไปโดยที่ยังมองที่พื้นไปด้วย

 

เธอยังคงเดินต่อไปเรื่อยๆ แถมยังจ้องๆมาทางนี้เป็นครั้งคราว

บอกตรงๆว่าผมไม่เข้าใจถึงการแสดงออกของเธอตอนนี้เลย

ทั้งๆที่เมื่อกี้เธอพุ่งเข้ามากอดผมขนาดนั้นแท้ๆนะ…

 

หรือว่าตอนนี้เธอจะโกรธอยู่งั้นเหรอ?

 

ก็เป็นไปได้นะ  

เพราะว่าผมออกมาจากเมืองคาสซานดร้าทั้งๆที่ยังไม่ได้บอกลากับทุกคนในโรเซนครูเซอร์นี่นา

แถมยังเห็นผมอยู่กับคุณซิลเวียอีกด้วยสิ….

 

เมื่อก่อนตอนที่โรเซนครูเซอร์กับคุณซิลเวียยังลงทะเบียนนักผจญภัยที่เมืองหลวงกันอยู่นั้น

ทั้งสองฝ่ายมีความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยดีต่อกันซักเท่าไหร่

 

แต่พอย้ายมาทีเมืองคาสซานดร้าแล้ว 

ก็ดูเหมือนว่าพวกเธอทั้งสองฝ่ายจะมีความสบายใจต่อกันมากขึ้น

แล้วก็ไม่ทำแย่ๆต่อกันเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไปแล้ว

 

แถมเมื่อเร็วๆนี้ก็ยังมีบางครั้งที่พวกเธอจัดปาร์ตี้กันชั่วคราว

แล้วก็ไปทำภารกิจกันด้วยกันอีกด้วย

 

แต่ถ้าพิจารณาจากการที่พวกเราไม่อธิบายอะไรให้ทุกคนในโรเซนครูเซอร์ฟังแล้วมาที่นี่

มันก็คงฟังดูไม่ยุติธรรมกับพวกเธอซักเท่าไหร่นั่นแหละนะ

 

“เอ่อ ต้องขอโทษด้วยนะครับคุณคาร์ล่า”

 

“เอ๊ะ? อะ อะไรเหรอ?”

 

พอผมพูดขอโทษคุณคาร์ล่า เธอก็หยุดเดินและหันมามองที่ผมด้วยความประหลาดใจ

 

“ก็ผมน่ะ มาที่นี่ทั้งที่ยังไม่ได้พูดอะไรกับพวกคุณคาร์ล่าซักคำเลยนี่ครับ ไม่แม้แต่จะไปทักทายเลยด้วยซ้ำ….”

 

“เรื่องนั้นน่ะ ฉันได้ยินมาจากกิลด์มาสเตอร์แล้วล่ะนะ เห็นว่าตอนที่ซิลเวียบอกน่ะ ตอนนั้นมันก็กระทันหันมากเลยใช่มั้ยล่ะ?”

 

โอ๊ะ?

ผมคิดว่าคุณคาร์ล่าจะอารมณ์ไม่ดีเพราะเรื่องนั้นซะอีก

แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่แบบนั้นแฮะ

 

กลับกันคุณคาร์ล่ากลับยักไหล่และส่งยิ้มกลับมาให้ผมด้วย

 

เพียงแต่ว่า รอยยิ้มนั้นของเธอมันไม่ใช่รอยยิ้มที่ดูสดใสตามปกติ

แต่เหมือนจะเป็นรอยยิ้มแห้งๆที่ผมเห็นลางๆในเงามืด

 

“ก็นะ การที่ที่ซิลเวียจะไม่บอกอะไรพวกฉันเลยก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้แหละ เพราะถ้าโลกรู้ถึงการมีอยู่ของซากโบราณของไฮเอลฟ์ มันก็คงจะกลายเป็นเรื่องใหญ่มากแน่ๆ เพราะพวกฉันเป็นนักผจญภัยแรงค์ S ก็เคยเจอปัญหาแบบนี้มาบ้างเหมือนกันน่ะนะ”

 

“งั้นเหรอครับ…..”

 

“เพราะงั้นไม่ต้องกังวลไปหรอกนะ ฉันไม่ได้รู้สึกโกรธซักนิดเลยล่ะ!”

 

น้ำเสียงของคุณคาร์ลาดูไม่มีพลังเหมือนตอนปกติเลย

ไม่เชิงว่าไม่มีพลัง แต่ดูเหมือนไม่ร่าเริงมากกว่า

 

ในขณะที่ผมกำลังสับสนเพราะไม่เข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น

จู่ๆคุณคาร์ล่าก็หลบตาผมและก้มหน้าลงกับพื้น

 

“คุณคาร์ลา?”

 

“อ๊ะ ขอโทษนะ”

 

ในตอนที่ผมกำลังสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นอยู่นั่นเอง

ก็มีน้ำหยดหนึ่งตกลงมาที่เท้าของคุณคาร์ล่า

ผมคิดว่าฝนคงจะตก แต่ท้องฟ้านั้นกลับปลอดโปร่ง

 

“คือ ก็ไม่ใช่ว่าโกรธหรอกนะ….ก็แค่ พอได้ยินว่าซิลเวียกับเรียวกำลังจะแต่งงานกันแล้ว มันก็รู้สึกตกใจมากเลยล่ะ”

 

“!?”

 

คุณคาร์ล่าเงยหน้าขึ้นมามองหน้าผม 

น้ำตาใสๆไหลออกมาจากดวงตาของคุณคาร์ล่า

เธอเช็ดน้ำตาด้วยหลังมือของเธอ  

 

แต่ดูเหมือนว่าน้ำตาของเธอก็เริ่มไหลออกมามากขึ้นเรื่อยๆ

 

“อ๊ะ มะ ไม่มีอะไรหรอก ขอโทษนะ ฉันเองก็ไม่ได้เป็นคนรักหรือเป็นอะไรกับเรียวซักหน่อยนี่นะ….”

 

คุณคาร์ล่าเธอหันหลังรีบและรีบซ่อนใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำตาของเธอ

เธอพยายามจะกลั้นน้ำตาไม่ให้ไว้อย่างเต็มที่ แต่ดูเหมือนกลั้นไว้จะไม่ไหว

 

“กลับกันแล้ว ฉันควรจะขอบคุณและแสดงความยินดีให้กับเรียวที่ใจดีกับตัวฉันที่น่าเกลียดแบบนี้เสมอมาแท้ๆ….แต่พอได้ยินว่าทั้งสองคนจะแต่งงานกันแล้ว มะ มันก็รู้สึกช็อกสุดๆไปเลยล่ะ”

 

แผ่นหลังของคุณคาร์ล่าสั่นเทา

 

คุณคาร์ล่าผู้ซึ่งเคยต่อสู้กับเมย์ฟาและคนอื่นๆเพื่อปกป้องผม

แต่ตอนนี้แผ่นหลังของคุณคาร์ล่าคนนั้นกลับดูบอบบางอย่างไม่น่าเชื่อ

 

“ขะ ขอโทษจริงๆนะ! ฉันจะหยุดร้องไห้แล้วล่ะ รอเดี๋ยวนะ”

 

ผมตกตะลึงและเพิ่งรู้สึกตัวได้ หลังจากที่ได้เห็นน้ำตาของคุณคาร์ล่า

 

“มะ ไม่ใช่นะครับ! ผมกับคุณซิลเวียน่ะแค่แต่งงานกันหลอกๆเท่านั้นแหละครับ! ไม่ได้จะแต่งงานกันจริงๆนะครับ!”

 

“เอ๊ะ?”

 

พอผมพูดออกไป คุณคาร์ล่าก็หันกลับมามองที่ผม

แล้วจากนั้นเธอก็อ้าปากค้างและมองมาที่ผม

 

“เอ๊ะ…..? งะ งั้นหรอกเหรอ?”

 

“ก็ใช่น่ะสิครับ! ไม่ใช่ว่าได้ยินมาก่อนที่จะมาที่นี่แล้วอย่างงั้นเหรอครับ?”

 

“ที่ฉันได้ยินมาจากเมย์ฟามาคือเงื่อนไขในการรับมรดกคือต้องพาคู่หมั้นมาแต่งงาน แล้วก็เรื่องที่ซิลเวียกับเรียวจะแต่งงานกันแค่นั้นน่ะนะ…..”

 

–อ๊ะ

 

มาคิดดูแล้ว ตอนก่อนหน้านี้ผมก็ไม่ได้อธิบายเกี่ยวกับ

เรื่องที่ผมกับคุณซิลเวียไม่ได้เป็นคู่หมั้นกันจริงๆด้วยนี่นะ

 

เพราะหลังจากตอนที่เมย์ฟาพูดเรื่องหัตถ์แห่งพระเจ้าขึ้นมานั่น

มันก็น่าตกใจมากซะจนลืมคิดถึงเรื่องนี้ไปเลย

 

แต่เอาจริงๆผมนึกว่าทุกคนที่มาที่ๆจะรู้กันอยู่แล้วซะอีกนะ

 

หืม? งั้น หรือว่าบางทีแล้ว ไม่ใช่ว่าคนอื่นๆนอกจากคุณคาร์ล่า

จะเข้าใจว่าผมกับคุณซิลเวียกำลังจะแต่งงานกันจริงๆหรอกนะ?

 

หรือว่าเมย์ฟาอาจจะลืมอธิบายเรื่องนี้ให้คุณคาร์ล่าฟังกัน?

 

เรื่องนั้นช่างมันก่อน เดี๋ยวไว้ค่อยคิดก็แล้วกัน

ตอนนี้ต้องพยายามอธิบายให้คุณคาร์ล่าเข้าใจก่อน

 

“ขอโทษด้วยนะครับคุณคาร์ล่า….เห็นเมย์ฟาพูดถึงและดูเข้าใจเรื่องเงื่อนไขในการรับมรดกขนาดนั้น ผมก็เลยนึกว่าทุกคนน่าจะรู้เรื่องนี้อยู่แล้วน่ะครับ….”

 

“งะ งั้น เรียวกกับซิลเวียก็ไม่ได้จะแต่งงานกันจริงๆงั้นสินะ!?”

 

คุณคาร์ล่าอึ้งไปพักนึง  

แต่หลังจากนั้นเธอก็ได้คว้าแขนของผมและจ้องมาที่ผมอย่างจดจ่อ

 

“ครับ ผมกับคุณซิลเวียน่ะไม่ได้จะแต่งงานกันจริงๆหรอกครับ”

 

“เป็นงี้นี่เอง….ละ โล่งอกไปที”

 

หลังพูดแบบนั้น  

คุณคาร์ล่าก็ยิ้มออกมาอย่างอ่อนโยนราวกับรู้สึกโล่งอก

 

“อะไรกาน~ เป็นแบบนี้เองหรอกเหรอ~ เอะเฮะเฮะ รู้งี้ฉันน่าจะถามเรียวให้เร็วกว่านี้ซะก็ดีหรอก”

 

“ผมเองก็ลืมไปซะสนิทเหมือนกัน ขอโทษด้วยนะครับ”

 

ตอนนี้รอยยิ้มของคุณคาร์ล่าร่ากลับมาเริงเหมือนกับก่อนหน้านี้แล้ว

 

หลังเช็ดน้ำตาด้วยหลังมือแล้วเธอก็เข้ามาใกล้ผมมากขึ้น

และในจังหวะที่เธอกำลังจะโอบผมเข้าไปในอ้อมแขน จู่ๆเธอก็หยุดไป

 

“เอ่อคือ…เรียวกับซิลเวียน่ะเป็นคู่หมั้นปลอมๆกันงั้นสินะ? แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังถือว่าเป็นคู่หมั้น ฉันก็เลยคิดว่า[อย่าทำแบบนี้จะดีกว่ารึเปล่านะ] อยู่น่ะ”

 

คุณคาร์ล่าเอียงคอพร้อมส่งเสียงครุ่นคิดฮึ่มฮึ่มฮึ่มออกมา

ท่าทางของเธอดูน่ารักดี ผมก็เลยพูดกับเธอไป

 

“ไม่เป็นไรหรอกนะครับ คงไม่มีใครเห็นหรอก”

 

จากนั้นคุณคาร์ล่าก็ยิ้มกว้างออกมา  

แล้วเธอก็โอบแขนของเธอไว้รอบคอของผมและกอดผม

ผมเองก็เลยใช้แขนโอบกอดที่ตัวของเธอกลับไปด้วยเหมือนกัน

 

“เรียว….”

 

คุณคาร์ล่าเอาหน้าเข้าใกล้ผมพร้อมสายตาที่ดูเร่าร้อน

หน้าของเราใกล้กันมากจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจของกันและกัน

 

แล้วคุณคาร์ล่าก็พุ่งเข้ามาจูบผม

ราวกับว่าเธอไม่สามารถทนได้อีกต่อไปแล้ว

 

(มังงะตอน 4 เจอกันวันพุธที่ 14 ครับ)

นักผจญภัยหญิงแรงค์ S ขึ้นคาน ในโลกคู่ขนาน

นักผจญภัยหญิงแรงค์ S ขึ้นคาน ในโลกคู่ขนาน

Status: Ongoing
อ่านนิยาย นักผจญภัยหญิงแรงค์ S ขึ้นคาน ในโลกคู่ขนานผมทำตามที่กิลด์มาสเตอร์สั่งและเดินตรงไปยังห้องประเมินของกิลด์ ในตอนที่ผมเปิดประตูเข้าไป สินค้าก็ได้วางอยู่ในห้องไว้อยู่แล้ว และเมจิคไอเทมที่กิลด์มาสเตอร์อยากให้ผมประเมินนั้นวางอยู่บนโต๊ะ ผมเดินไปหยิบคริสตัลประเมินออกมาจากตู้และเปิดใช้งานมันด้วยพลังเวทย์ คริสตัลประเมินนี่ถือว่าเป็นของมีค่ามากเลยทีเดียว ในแต่ละกิลด์ภายในอาณาจักรจะต้องคริสตัลนี้สาขาละ1อัน ก็ตามชื่อน่ะนะ คริสตัลอันนี้ มีไว้เพื่อใช้ประเมินค่าของเมจิคไอเทม ผมบอกตัวเองว่า ถ้าผมทำคริสตัลอันนี้แตกขึ้นมาล่ะก็ ต่อให้ผมจะเกิดใหม่ซัก 3 รอบก็คงไม่มีทางทำงานหาเงินมาจ่ายได้แน่ๆ จะว่าไปแล้ว คริสตัลอันนี้มันจำทำให้เราคิดมากจนเกินไปหน่อยแล้วมั้ง? หรือนี่มันจะเป็นชะตากรรมของผมกันนะ? ในตอนนั้นเองที่ผมกำลังหยิบคริสตัลประเมินผมไม่ได้สังเกตเห็นเลยว่า ชายเสื้อของผมมันไปเกี่ยวกับไอเทมเวทย์มนต์บนโต๊ะและตอนที่ผมขยับออกมา เมจิคไอเทมอันหนึ่ง–ขวดแก้วเล็กๆ ตกลงไปที่พื้นและแตกเป็นเสี่ยงๆ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset