นักผจญภัยหญิงแรงค์ S ขึ้นคาน ในโลกคู่ขนาน – ตอนที่ 94

 

ภายในเต็นท์ฝั่งชายมีดาร์กเอลฟ์สองคน

 

นอกจากพ่อของคุณซิลเวียแล้วนี่ถือเป็นครั้งแรกเลย

ที่ผมได้เจอกับดาร์คเอลฟ์เพศเดียวกับกับผมแบบนี้

 

หลังจากทักทายสั้นๆกับพวกเขาไปแล้ว 

ผมก็ไปเลือกชุดที่เรียงอยู่แล้วเอาชุดมาเปลี่ยน

 

ถึงที่คุยกันก่อนหน้านี้ ผมจะแอบคาดหวังอยู่นิดหน่อย

แต่ก็ไม่คิดเลยว่ามันจะมีสีและดีไซน์ให้เลือกเยอะถึงขนาดนี้

 

นอกจากสีขาว สีดำและสีเทาทั่วไปแล้วก็ยังมีสีน้ำตาลลายตาราง

สีแดง สีน้ำเงิน สีฟ้าอ่อน สีเหลือง สีชมพู หรือแม้แต่ลายตารางหมากรุกก็ยังมี….

 

นอกจากสีจะเยอะแล้ว ดีไซน์ก็ยังเยอะอีกด้วย  

ทั้งแบบที่เย็บด้วยเลื่อม ลูกปัดแก้วที่ข้อมือ งานเย็บปักทั้งตัวและอีกมากมาย

 

นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นจากการที่แนวคิดเรื่องเพศสลับกันงั้นเหรอ….

ทำเอาผมแอบอึ้งไปเลยแฮะ

 

จากชุดประมาณ 50 กว่าชุด ผมได้ลือกชุดสีเทาที่ดูจะปลอดภัยที่สุด

 

เครื่องแต่งกายทั้งหมดที่มีเป็นชุดทักซิโด้และเสื้อสูท

ผมคิดว่านี่มันอาจจะเป็นชุดดั้งเดิมของดาร์กเอลฟ์

แต่ดูแล้ว เหมือนว่ามันจะเป็นแฟชั่นของที่นี่แฮะ

 

“เครื่องประดับติดผมจะเอายังไงดีครับ?”

 

“ไม่ต้องหรอกครับ”

 

หลังจากเลือกชุดเสร็จ

ผมก็ถูกถามเรื่องเครื่องประดับผมต่างหูและสร้อยข้อมือ แต่ผมก็ปฏิเสธไป

หลังจากนั้นผมก็ไปจัดแต่งผมด้วยแว็กซ์และน้ำมันหอมระเหย

 

แต่ดูเหมือนว่าดาร์กเอลฟ์ทั้งสองคนนั้นจะทำหน้าดูไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่

แม้จะทำผมให้ผมอยู่ แต่พวกเขาก็พยายามพูดเรื่องของเครื่องประดับกันต่อไป

 

“มันเป็นหนึ่งในเวทีที่สำคัญครั้งหนึ่งในชีวิตเลยนะครับ อย่างน้อยถ้าใส่เครื่องประดับผมไว้ก็น่าจะดีกว่านะครับ….”

 

“หรือว่าคุณจะไม่ถูกใจของที่มีอยู่ที่นี่งั้นเหรอครับ?”

 

“ไม่ล่ะ ไม่ใช่แบบนั้นหรอกครับ”

 

อืม บางทีการใส่เครื่องประดับมันก็คงเข้ากับค่านิยมของโลกนี้อยู่หรอกนะ

แต่ผมไม่อยากใส่ดอกกุหลาบหรือเครื่องประดับผมดอกลิลลี่แบบนี้น่ะสิ

นอกจากดอกไม้จะสีฉูดฉาดแล้วยังมีเพชรเม็ดใหญ่และทับทิมที่ส่องประกายแวววาวอีก

 

ถ้าเอาตามตรรกะโลกนี้ ก็แปลว่าผู้ชายต้องใส่เครื่องประดับแบบนี้กันหมดเลยเรอะ?

เอาไงดี ถ้าต้องเห็นนายคางคกคนนั้นใส่เครื่องประดับแบบนี้ผมคงกลั้นหัวเราะไม่ไหวแน่ๆ

 

“–เรียว ขอเข้าไปหน่อยได้รึเปล่า?”

 

ในจังหวะนั้นเองก็มีเสียงดังขึ้นมาจากทางหน้าเต็นท์

นั่นคือเสียงของคุณซิลเวีย

 

“คุณซิลเวีย! เชิญเลยๆ”

 

ความช่วยเหลือที่มาอย่างคาดไม่ถึง  

ผมรีบลุกจากเก้าอี้และเดินไปที่ทางเข้าเต็นท์ทันที

โล่งอกไปที ในที่สุดก็ได้เลี่ยงหัวข้อเครื่องประดับผมแล้ว

 

คุณซิลเวียเปิดผ้าที่ทางเข้าและเดินเข้ามา

ในตอนที่คุณซิลเวียเข้ามา ดาร์กเอลฟ์สองคนนั้นก็รีบออกจากเต็นท์ทันที

 

“คุณ–“

 

“อ้าว เปลี่ยนชุดเสร็จแล้วงั้นเหรอ เร็วน่าดูเลยนะ หรือว่าอันนี้คือลองใส่อยู่เหรอ?”

 

พอเห็นเธอยืนต่อหน้าผม ผมก็ถึงกับตัวแข็งทื่อ

คุณซิลเวีย–เหมือนว่าเธอจะมาที่นี่หลังเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จแล้ว

ชุดที่เธอสวมอยู่เป็นชุดเจ้าสาวสีขาวบริสุทธิ์

 

แต่เรื่องนั้นช่างมันก่อน….

นะ นี่มันจะไม่ดูเปิดเผยเนื้อหนังมากไปหน่อยเหรอเนี่ย!?

 

ชุดเดรสที่คุณซิลเวียใส่อยู่ดูเหมือนจะเป็นเดรสที่เรียกว่าเมอร์เมดเดรส

ด้านขวาเปิดกว้างยาวจนเห็นต้นขา หน้าอกเองก็เปิดเผยพอสมควร

เปิดเผยแม้กระทั่งหน้าท้องจนเห็นสะดือเลย แถมเนื้อผ้ายังบางและยังแนบเนื้ออีก

 

เพราะแบบนั้นจึงทำให้เห็นทรวดทรงของเอว

และบั้นท้ายของเธอได้อย่างชัดเจนแม้จะมองผ่านเสื้อผ้า

มองดูดีๆแล้วก็แอบเห็นหัวนมนูนออกมาจากชุดด้วย

 

เอ๊ะ อะไรกันเนี่ย?

ทำไมคุณซิลเวียถึงใส่ชุดที่มันดูเย้ายวนถึงขนาดนี้กันล่ะ?

นี่คือจะให้รางวัลผมเหรอ?

 

หรือไม่บางทีนี่อาจจะเป็นชุดดั้งเดิมของดาร์กเอลฟ์?

ถึงงั้นก็เถอะ แต่นี่มันก็ดูสุดโต่งเอาเรื่องเลยนะเนี่ย…..

 

ว่าไปแล้วเมื่อกี้คุณคาร์ล่าก็พูดไว้ว่า

[มันก็ค่อนข้างจะเผยเนื้อหนังเยอะอยู่ เพราะงั้นการที่ดีไซน์มันจะคล้ายๆกันหมดมันก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้นั่นแหละ] 

แต่ที่พูดนั่นมันเกี่ยวกันยังไงนะ

 

“เอ่อ….ดูสวยสุดๆไปเลยล่ะคุณซิลเวีย ดูดีมากเลยล่ะ”

 

“ขอบคุณนะ นายเองก็ดูดีเหมือนกัน….ไม่ใช่ว่าชุดปกติไม่ดีนะ แต่รู้สึกว่าใส่ชุดทางการแบบนี้ก็ดูดีกว่าที่คิดน่ะ หลังจากนี้นานๆทีจะลองแต่งตัวแบบนี้ดูมั้ย? เดี๋ยวฉันจะเป็นคนเตรียมให้เอง”

 

คุณซิลเวียพูดชมผมด้วยรอยยิ้ม หน้าเธอดูมีความสุขกับคำชมนั้นยังไงก็ไม่รู้

และหลังจากคุยกันผมก็ถามเธอกลับไป

 

“แต่ว่านะ เทียบกับชุดของผมแล้ว ชุดของคุณซิลเวียจะไม่ดูเปิดเผยมากไปหน่อยเหรอ?”

 

“งั้นเหรอ? ฉันคิดว่าฉันก็เลือกชุดที่เปิดเผยน้อยที่สุดแล้วนะ….”

 

เอ๊ะ นี่คือเปิดน้อยแล้วเหรอ?

ผมรู้สึกสับสนแต่ผมก็ถามกับคุณซิลเวียไป

 

“พอดีผมไม่เคยไปร่วมงานแต่งที่เมืองคาสซานดร้าซักครั้งเลยน่ะ….ชุดเดรสแบบนี้คือมันเป็นที่นิยมเลยงั้นเหรอ?”

 

“อา ใช่แล้วล่ะ คิดว่าทุกที่ก็คงแต่งชุดแบบนี้นั่นแหละ ฉันเคยเห็นงานแต่งที่เมืองหลวงที่จัดขึ้นที่โบสถ์ พวกเจ้าสาวที่นั่นแต่งตัวเปิดเผยกว่านี้อีกนะ”

 

คุณซิลเวียยังคงพูดต่อไป

ดูเหมือนเธอจะไม่รู้สึกอายเลยนะที่ต้องใส่ชุดที่ดูลามกแบบนี้

 

“ถ้าจำไม่ผิด น่าจะประมาณเมื่อ 30 ปีก่อนล่ะมั้ง? มีเอลฟ์คนนึงที่สวยราวกับคนแคระอยู่น่ะ หลังจากเธอแต่งงานไปก็เหมือนจะพบว่าเธอปลอมแปลงรูปร่างของเธอโดยการยัดหน้าอกและหน้าท้อง แล้วด้วยเหตุนั้นเอง เธอก็เลยได้หย่าน่ะนะ”

 

“อะไรกัน”

 

ในโลกเดิมของผมก็มีผู้หญิงที่ยัดไส้อยู่ แต่ที่โลกนี้ก็มีเหมือนกันงั้นสินะ

แต่ผมไม่คิดเลยนะว่าแค่ยัดไส้จะทำให้หย่ากันเลยเนี่ย

 

“เหตุการณ์นั้นเป็นสาเหตุที่ทำให้ต้องมีการแต่งชุดแบบนี้น่ะ เพราะถ้าแต่งแบบนี้ก็จะสามารถเห็นสัดส่วนร่างกายได้ชัดเจนน่ะนะ แล้วถ้าเป็นชุดบางๆแบบนี้ก็คงจะยัดอะไรไม่ได้ด้วย”

 

“หะ เห~….แต่ว่านะ แทนที่จะสวมชุดแบบนี้ไปงาน ก็ตรวจสอบก่อนไปงานแต่งเลยไม่ได้เหรอ?”

 

“แน่นอนว่าจะมีการตรวจสอบอยู่แล้ว แต่ชุดนี้น่ะมันแสดงให้ครอบครัวฝ่ายชายได้เห็นว่า ผู้หญิงที่จะแต่งงานและเข้ามาเป็นครอบครัวของพวกเขาไม่ได้ปกปิดร่างกายของตัวเอง พวกเขาจะได้รู้สึกสบายใจน่ะ”

 

พอพูดแบบนั้นแล้วคุณซิลเวียก็บีบขอบชุดของเธอ

 

“ก็นะ เรียวก็พูดมามันก็ถูก ชุดของดาร์กเอลฟ์น่ะมันเปิดเผยมากกว่าเผ่ามนุษย์หรือเผ่าอื่นๆจริงแหละนะ”

 

“หมายความว่าไง?”

 

“เพราะดาร์กเอลฟ์น่าเกลียดน่ะนะ ถึงตอนนี้จะยังไม่ได้ใส่ แต่จริงๆแล้วฉันจะได้ใส่ผ้าคลุมหน้าด้วยน่ะ ผ้าคลุมกับชุดที่เปิดเผยจะช่วยดึงดูดสายตาไม่ให้มองหน้าได้นั่นแหละนะ”

 

“อย่างงี้นี่เอง….”

 

พอจะเข้าใจที่มาแล้ว

แต่ก็โล่งใจเหมือนกันนะที่คุณซิลเวียเองก็ไม่ได้อยากจะเปิดเผยมากขนาดนั้น

สรุปก็คือชุดที่ดูเซ็กซี่แบบนี้ น่าจะเป็นชุดมาตรฐานในการแต่งงานของโลกสินะ

 

งั้นก็แปลว่า–นอกจากคุณซิลเวียแล้ว 

ทั้งคุณเอย์เซน คุณคิยาโนโตะกับลิเลียจังจะใส่ชุดแบบนี้กันหมดเลยงั้นเหรอ?

อยู่ดีๆก็รู้สึกอยากเห็นชุดของพวกเธอเลยแฮะ!

 

“ว่าไปแล้ว ผู้หญิงที่พูดถึงเมื่อก่อนหน้านี้น่ะ หลังจากหย่าแล้วมันเกิดอะไรขึ้นกับเธอบ้างล่ะ?”

 

“อืม หลังจากหย่าแล้ว เหตุการณ์นั้นมันก็แพร่กระจายไปทั่วเมืองหลวงเลยน่ะ เท่าที่ฉันได้ยินมา เหมือนว่าผู้หญิงคนนั้นจะรู้สึกอับอายมาก แล้วก็หนีออกจากประเทศนี้ไปประเทศอื่นเลยน่ะนะ”

 

“แบบนั้นมัน….แอบรู้สึกน่าสงสารเหมือนกันนะ แค่กินเยอะๆแล้วเพิ่มน้ำหนักเอาไม่ได้งั้นเหรอ? ไม่เห็นจะต้องถึงกับหย่าเลยนี่นา”

 

“นายไม่รู้เหรอ? ปกติแล้วร่างกายของเอลฟ์น่ะมันไม่มีเนื้อส่วนเกินหรอกนะ”

 

คุณซิลเวียบีบหน้าท้องของเธอด้วยใบหน้าที่ดูเหมือนว่ามันดูไม่ได้

ถึงเธอจะพูดงั้น แต่ว่าหน้าท้องของเธอน่ะมันแทบไม่มีเนื้อส่วนเกินให้จับอยู่เลย

 

“เพราะงั้นฉันก็เลยพอจะเข้าใจความรู้สึกของเอลฟ์คนนั้นอยู่ เพราะว่าหุ่นที่สวย หน้าอก พุง และบั้นท้ายที่ยื่นออกมาเหมือนคนแคระแบบนั้น มันคือความใฝ่ฝันของเอลฟ์ทุกคนเลยนั่นแหละนะ”

 

ผมไม่เข้าใจความรู้สึกนั้นซักนิดเลยล่ะ…

แต่ถ้าคุณซิลเวียกลายเป็นคนแคระอวบๆแบบนั้นผมคงต้องร้องไห้แน่ๆ!

 

“คุณซิลเวียน่ะ แค่เป็นอยู่ที่เป็นแบบนี้ก็สวยมากแล้วล่ะครับ”

 

“ขอบคุณนะ….อะแฮ่ม ถึงเมื่อกี้จะพูดไปแล้วก็เถอะ แต่นายก็ดูดีเหมือนกันนะ”

 

พอพูดแบบนั้นเสร็จคุณซิลเวียก็เข้ามาใกล้ผมมากขึ้น

 

“ถึงเมื่อกี้จะบอกไปแล้วก็เถอะ แต่นายใส่ชุดทางการแบบนี้แล้วดูดีกว่าที่คิดอีกนะ ว่าแต่นายจะไม่ใส่พวกเครื่องประดับหน่อยเหรอ?”

 

“อะไรแบบนั้นน่ะมันไม่เหมาะกับผมหรอกนะ แต่ถ้าคุณซิลเวียใส่เพิ่มเข้าไปก็น่าจะดูดีกว่านะ คิดว่าไงล่ะ?”

 

“ฉัน…น่ะเหรอ?”

 

ผมใช้มือสัมผัสผมของคุณซิลเวียที่กำลังทำหน้าสงสัย

ผมของเธอให้ความรู้สึกเหมือนผ้าไหมเลย

 

“อื้ม แทนที่จะเป็นผม ถ้าให้ท่านทวดได้เห็นภาพคุณซิลเวียที่ดูงดงามล่ะก็ ท่านก็คงจะดีใจมากแน่ๆ”

 

เรื่องเครื่องประดับผมคงต้องขอผ่านล่ะ

เพราะงั้นผมก็เลยพยายามเลี่ยงและเสนอเธอไปแบบนั้น

 

แต่ในตอนที่ผมกำลังพูดแบบนั้นอยู่นั่นเอง 

จู่ๆมุมมองที่ผมมองเห็นมันก็เปลี่ยนไป

 

เกิดอะไรขึ้นเนี่ย ทำไมอยู่ๆผมก็เห็นคานด้านบนของเต็นท์ล่ะ

ในจังหวะที่ผมไม่ทันรู้สึกตัว เหมือนว่าคุณซิลเวียจะผลักผมลง

 

“อึก เรียว…”

 

“คุณซิลเวีย?”

 

ผมถูกเธอผลักลงพรมที่ปูหนาๆผมจึงไม่ค่อยรู้สึกเจ็บอะไร

แต่ที่ผมกังวลคือ หวังว่าผมคงไม่ได้ทำชุดแพงๆนี่ขาดตรงไหนหรอกนะ

ในขณะที่คุณซิลเวียเอนตัวลงมาทางผม ผมก็รีบดูว่าชุดของพวกเรามีตรงไหนขาเรึเปล่า

 

“…จำที่ฉันพูดไว้ก่อนหน้านี้ได้รึเปล่า?”

 

“เรื่องอะ–“

 

และผมก็จำคำพูดที่คุณซิลเวียกระซิบบอกผมก่อนหน้านี้ขึ้นมาได้

[บอกไว้ก่อนนะ ฉันน่ะพร้อมที่จะแต่งงานกับนายจริงๆทั้งๆแบบนี้เลยล่ะ ขอแค่นายพยักหน้ามาให้ฉันก็พอ]

เหมือนเธอจะบอกไว้แบบนี้สินะ

 

แต่ตอนนั้นคุณคาร์ล่าเข้ามาพอดีผมก็เลยปล่อยผ่านไปแต่….

 

“คำพูดเหล่านั้นน่ะฉันไม่ได้พูดโกหกเลยซักนิด…….ฉันน่ะรักนายนะ”

 

“—-“

 

คุณซิลเวียสารภาพรักกับผมด้วยเสียงที่สั่นคลอ

ไม่คิดเลยว่าจะถูกสารภาพเอาเวลาแบบนี้

ผมแอบรู้สึกสับสนกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด

 

“ขอโทษนะ เอ่อ ผมดีใจกับคำพูดนั้นของคุณซิลเวียนะ….แต่ว่ามันค่อนข้างจะกระทันหันไปหน่อยน่ะ เลยยังไม่มีเวลาจะได้คิดอะไรเลย”

 

เป็นครั้งแรกในชีวิตเลยที่ผมถูกผู้หญิงสารภาพรักแบบนี้ ตอนนี้ใจผมเต้นแรงมากๆ

ผมพยายามจะพูดอะไรออกไป แต่ผมก็พูดอะไรไม่ออก

พอคุณซิลเวียเห็นผมเป็นแบบนั้นเธอก็หัวเราะออกมาเบาๆ

 

“อา ขอโทษด้วย พอเห็นนายพูดอะไรน่ารักๆแบบนั้นออกมาแล้วมันก็เลยรู้สึกอดใจไม่ไหวน่ะ….นายยังไม่ต้องให้คำตอบตอนนี้ก็ได้นะ”

 

“น่ารักเนี่ย”

 

“ฉันจะไม่บอกให้นายแต่งงานกับฉันไปจริงๆทั้งแบบนี้เลยหรอกนะ แต่ว่า….ถ้ามีโอกาส นายลองเก็บเอาไปคิดหน่อยจะได้รึเปล่า?”

 

คุณซิลเวียจ้องมองมาทางผมด้วยตาสีแดงอมม่วงนั้นของเธอ

ดวงตาของเธอดูมีความแน่วแน่ แต่ก็ซ่อนไปด้วยความกังวล

 

“…เข้าใจแล้ว อาจจะต้องรอหน่อย แต่ผมจะเก็บไปคิดอย่างจริงจังดูนะ”

 

พอผมพยักหน้าคุณซิลเวียก็แสดงสีหน้ามีความสุขออกมา

 

“ขอบคุณนะ ยังไงซะฉันก็เป็นดาร์กเอลฟ์ที่มีอายุขัยนานกว่ามนุษย์อย่างนายอยู่แล้ว เพราะงั้น จะอีก 1 ปีหรืออีก 10 ปีฉันก็จะรอคำตอบนะ”

 

“…เอ่อ แต่ผมก็ไม่รับประกันนะว่าผมจะให้คำตอบที่ดีได้น่ะ”

 

“ถึงแบบนั้นก็ไม่เป็นไรหรอก ถึงแม้จะไม่ได้รับคำตอบดีๆ แต่ไม่ว่าจะใช้เวลากี่ 10 ปีฉันก็จะทำให้นายหันมามองฉันให้ได้เลยล่ะ”

 

พอพูดแบบนั้นเสร็จคุณซิลเวียก็ก้มลงจูบผม

เธอที่ค่อยๆหรี่ตาลงในขณะที่ใส่ชุดเจ้าสาวสีขาวบริสุทธิ์นั้นดูงดงามมากเลยล่ะ

 

 

นักผจญภัยหญิงแรงค์ S ขึ้นคาน ในโลกคู่ขนาน

นักผจญภัยหญิงแรงค์ S ขึ้นคาน ในโลกคู่ขนาน

Status: Ongoing
อ่านนิยาย นักผจญภัยหญิงแรงค์ S ขึ้นคาน ในโลกคู่ขนานผมทำตามที่กิลด์มาสเตอร์สั่งและเดินตรงไปยังห้องประเมินของกิลด์ ในตอนที่ผมเปิดประตูเข้าไป สินค้าก็ได้วางอยู่ในห้องไว้อยู่แล้ว และเมจิคไอเทมที่กิลด์มาสเตอร์อยากให้ผมประเมินนั้นวางอยู่บนโต๊ะ ผมเดินไปหยิบคริสตัลประเมินออกมาจากตู้และเปิดใช้งานมันด้วยพลังเวทย์ คริสตัลประเมินนี่ถือว่าเป็นของมีค่ามากเลยทีเดียว ในแต่ละกิลด์ภายในอาณาจักรจะต้องคริสตัลนี้สาขาละ1อัน ก็ตามชื่อน่ะนะ คริสตัลอันนี้ มีไว้เพื่อใช้ประเมินค่าของเมจิคไอเทม ผมบอกตัวเองว่า ถ้าผมทำคริสตัลอันนี้แตกขึ้นมาล่ะก็ ต่อให้ผมจะเกิดใหม่ซัก 3 รอบก็คงไม่มีทางทำงานหาเงินมาจ่ายได้แน่ๆ จะว่าไปแล้ว คริสตัลอันนี้มันจำทำให้เราคิดมากจนเกินไปหน่อยแล้วมั้ง? หรือนี่มันจะเป็นชะตากรรมของผมกันนะ? ในตอนนั้นเองที่ผมกำลังหยิบคริสตัลประเมินผมไม่ได้สังเกตเห็นเลยว่า ชายเสื้อของผมมันไปเกี่ยวกับไอเทมเวทย์มนต์บนโต๊ะและตอนที่ผมขยับออกมา เมจิคไอเทมอันหนึ่ง–ขวดแก้วเล็กๆ ตกลงไปที่พื้นและแตกเป็นเสี่ยงๆ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset