นักผจญภัยหญิงแรงค์ S ขึ้นคาน ในโลกคู่ขนาน – ตอนที่ 95

 

–บอกตามตรง ถ้าตอบรับคำสารภาพของคงซิลเวียไปก็คงจะดีไม่น้อย

คุณซิลเวียทั้งสวยและบุคลิกดี  

 

ถ้านี่เป็นโลกเดิมของผมล่ะก็ สารภาพรักแบบนี้ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลย

แค่เข้าใกล้เธอแม้แต่นิดก็คงจะไม่ได้เลยซะด้วยซ้ำ

 

แต่ว่าสิ่งที่ผุดขึ้นมาในหัวผมหลังจากได้ยินคำสารภาพของคุณซิลเวีย—

มันคือภาพคุณคาร์ล่าที่ร้องไห้เมื่อวานนี้

 

ผมสนิทและมีความสัมพันธ์ทางกายกันกับทุกคนในโรเซนครูเซอร์มาก่อน

ก่อนที่ผมจะได้มาเจอกับคุณซิลเวียซะอีก

และผมก็ถือว่ามีความสัมพันธ์กับโรเซนครูเซอร์ดีมากๆด้วย

 

ถ้าผมแต่งงานกับคุณซิลเวีย–

ทุกคนในโรเซนครูเซอร์ก็อาจจะออกไปจากเมืองโรเซนครูเซอร์รึเปล่า?

ความคิดแบบนั้นมันผุดขึ้นมาในหัวของผม

 

ตอนที่คุณคาร์ล่าได้ยินว่าผมจะแต่งงานกับคุณซิลเวีย เธอก็ร้องไห้ออกมาหนักมาก

 

ถ้าจะต้องแต่งงานกันจริงๆล่ะก็–

ผมก็อาจจะต้องสูญเสียความสัมพันธ์อันดีต่อโรเซนครูเซอร์ทุกคนไป

ในกรณีที่เลวร้ายที่สุด ทุกคนก็อาจจะออกไปจากเมืองคาสซานดร้าเลยก็ได้

 

แถมเมย์ฟากับซึสึจะทำอะไรผมก็ไม่สามารถรู้ได้เลย

ซึสึน่ะไม่เท่าไหร่ แต่เมย์ฟาน่ะเป็นคนที่เดาไม่ออกเลยว่ากำลังคิดอะไรอยู่

แต่ที่แน่ๆก็คือเธอน่ะยังไม่ได้ยอมแพ้เรื่องที่จะพาผมกลับไปที่กิลด์แห่งความมืด

 

ถ้าผมกับคุณซิลเวียแต่งงานกันจริงๆ เมย์ฟาจะทำอะไรก็บ้างก็ไม่รู้….

 

สรุปแล้ว ตัวเลือกที่ดีที่สุดในตอนนี้ก็คือ–

ควรจะรักษาสายสัมพันธ์แบบที่เป็นอยู่ตอนนี้ไว้ต่อไปล่ะนะ!

 

รักษาไว้! อื้ม!

คุณซิลเวียเองก็บอกว่าเธอจะรอคำตอบนี่นา!

 

สำหรับตอนนี้ก็พักเรื่องนี้ไว้ก่อน แล้วปล่อยไว้ให้เป็นเรื่องของตัวผมในอนาคตก็แล้วกัน

ก็นะ ในระหว่างนี้คุณซิลเวียก็อาจจะได้มีความสัมพันธ์อันดีกับคนอื่นนอกจากผมก็ได้

(เรียว!!!! จะยกซิลเวียให้คนอื่นได้ไงฟะไอ้นี่หนิ)

 

“–ขอโทษที่จู่ๆก็พูดออกไปแบบนั้นนะ ที่จริงแล้ วฉันก็อยากจะเก็บมันไว้ในใจอยู่น่ะนะ”

 

คุณซิลเวียลุกขึ้นไปอย่างไม่เต็มใจและยื่นมือมาจับมือผมให้ลุกขึ้น

 

“อาจจะเป็นเพราะแต่งตัวแตกต่างจากปกติล่ะมั้ง ก็เลยควบคุมความรู้สึกของตัวเองไม่ค่อยได้”

 

จะว่าไปแล้ว เมื่อกี้คุณซิลเวียก็พูดชมเครื่องแบบที่ผมใส่อยู่ด้วยนี่นะ

หรือบางทีแล้วเธออาจจะมีรสนิยมที่ชอบพวกชุดทางการก็ได้

 

“เดี๋ยวฉันจะล่วงหน้าไปสถานที่ซ้อมก่อนนะ ยังพอจะมีเวลาอยู่ เพราะงั้นไม่ต้องรีบก็ได้นะ”

 

ก่อนที่ผมจะทันได้พูดอะไร คุณซิลเวียก็หันหลังและออกจากเต็นท์ไปอย่างรวดเร็ว

ผมอยากจะยื้อตัวเธอไว้ก่อน แต่เดาว่าตอนนี้เธอคงจะมองหน้าผมตรงๆไม่ได้ล่ะนะ

 

ผมทำตามที่เธอบอก ผมนั่งรอพักหนึ่งโดยไม่รีบร้อนก่อนจะไปสถานที่ซ้อม

 

“…หืม?”

 

ในขณะที่ผมกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้เฉยๆจู่ๆก็ได้ยินเสียงใครบางคนจากข้างนอก

เสียงนั้นดังมาจากทางตรงกันข้ามทางเข้าเต็นท์

 

ผมลุกขึ้นจากเก้าอี้และขยับเข้าไปใกล้ต้นเสียงที่มาจากกำแพง ที่ตรงนั้นมีรูสี่เหลี่ยมอยู่ 

ถ้าเดินไปพลิกผ้าแล้วส่องดู ก็จะสามารถมองเห็นข้างนอกจากภายในได้

 

ผมค่อยๆพลิกผ้าดูแล้วมองออกไปข้างนอกด้วยความกังวล

 

“–ก็บอกไปแล้วไม่ใช่รึไงลิเลีย ว่าพรุ่งนี้ไม่ว่างน่ะ ถึงจะเป็นวันซ้อมแต่วันนี้ก็อุตส่าห์มาหาแล้วไม่ใช่รึไง”

 

“ตะ แต่ว่า วันแต่งจริงมันคือพรุ่งนี้นะ….”

 

คนที่อยู่ตรงนั้นคือน้องสาวต่างแม่ของคุณซิลเวีย ลิเลียจังนั่นเอง

น่าเสียดายแฮะ เธอยังไม่ได้เปลี่ยนไปใส่ชุดที่ดูเซ็กซี่เลย

 

เธอกำลังจะไปที่เต็นท์คู่หมั้นของเธออยู่รึเปล่านะ?

ว่าแต่ ลิเลียจังกำลังคุยกับใครอยู่กันนะ

 

หน้าตาของเธอคนนั้นคล้ายกับลิเลียจังมาก หน้าตาเหมือนคนอายุประมาณซัก 30 ต้นๆ

แต่เพราะเธอเป็นดาร์กเอลฟ์ ก็เลยไม่รู้ว่าที่จริงแล้วเธออายุเท่าไหร่

 

“นี่ ขอร้องล่ะ…พรุ่งนี้ท่านทวดก็จะมานะ? ถ้าลิเลียสืบทอดมรดกได้ล่ะก็ หม่าม้าก็จะน่าจะดีใจไม่ใช่เหรอ?”

 

ผมสงสัยว่าเธอคนนั้นเป็นใคร

แต่ดูเหมือนว่าเธอจะเป็นคุณแม่ของลิเลียจังนะ

 

แม่ของลิเลียจังถอนหายใจออกมาด้วยเสียงที่ดูเหนื่อยใจ

 

“เฮ้อ พอได้แล้วลิเลีย แม่ไม่ได้ว่างมากหรอกนะรู้มั้ย? เพราะการรับมรดกของลูก ทำให้แม่ถึงกับต้องกลับมาที่หมู่บ้านบ้านนอกแบบนี้เลยนะ? ทำอะไรเห็นแก่ตัวกับหม่าม้าแบบนี้ มันสนุกมากงั้นเหรอ?”

 

“ตะ แต่ว่า….”

 

“แม่ไม่สนหรอกว่ามรดกจะเป็นยังไง ยังไงซะ ท่านทวดก็ชอบซิลเวียอยู่แล้วนี่ เพราะงั้นมรดกส่วนใหญ่ยังไงก็ต้องตกเป็นของซิลเวียอยู่แล้ว”

 

เท่าที่ได้ยิน ดูเหมือนว่าแม่ของลิเลียจังจะไม่ได้อาศัยอยู่ที่หมู่บ้านนี้

เธอออกจากหมู่บ้านไปอยู่เมืองอื่นเหมือนกับคุณซิลเวียเลย

 

แต่จะว่าไงดี ดูเป็นบทสนทนาที่ดูเย็นชายังไงก็ไม่รู้

นึกไม่ถึงเลยว่านี่จะเป็นคำพูดที่ใช้พูดกับลูกสาวที่จะแต่งงานในวันพรุ่งนี้น่ะ

 

“ไม่ต้องคิดมากหรอก เพราะหม่าม้าไม่ได้คาดหวังอะไรจากลูกอยู่แล้วล่ะนะ จะแต่งงานหรือมรดกอะไรนั่นก็ช่างมันเถอะ”

 

“……”

 

“เอาล่ะ คุยกันแค่นี้ก็พอ ถ้ามีใครมาเจอลูกอยู่ตรงนี้ก็คงจะไม่ดี งั้นเดี๋ยวแม่จะล่วงหน้าไปที่เต็นท์ก่อนละกันนะ”

 

“อืม….”

 

พอพูดแบบนั้นเสร็จ แม่ของลิเลียจังก็เดินไปที่เต็นท์สีชมพูอย่างที่พูด

หลังจากนั้นลิเลียจังก็ถูกทิ้งไว้ตามลำพัง

 

“…….ฮึก”

 

ลิเลียจังที่มีปัญหากับคุณซิลเวียในงานเลี้ยงอาหารค่ำเมื่อวันก่อนหน้านี้

กำลังสลดใจและใช้หลังมือเช็ดน้ำตาอยู่

 

แทบไม่อยากจะเชื่อสายตาเลยว่านี่คือคนเดียวกัน

 

ใบหน้าร้องไห้ของเธอมันซ้อนทับกับคุณคาร์ล่าเมื่อวานนี้

มันยิ่งทำให้ผมรู้สึกขมขื่นมากขึ้น

 

ในจังหวะที่กำลังจะส่งเสียงออกไปลิเลียจังก็เงยหน้าขึ้นมา

ผมที่แอบมองเธออยู่ผ่านช่องก็สบสายตากับเธอเข้า

 

“….!”

 

เหมือนลิเลียจังจะอายที่ถูกเห็นหน้าร้องไห้ หน้าของเธอเลยเปลี่ยนเป็นสีแดงในทันที

จากนั้นเธอก็จ้องมาที่ผมด้วยสีหน้าผิดหวัง

 

“อะ อะไร นี่แอบฟังอยู่เหรอ!? เลวที่สุดเลย!”

 

“!?”

 

จะบอกว่าดักฟักฟังมันก็ยังไงอยู่นะ

แต่คนที่มาคุยกันใกล้ๆเต็นท์ผมน่ะ มันทางนั้นไม่ใช่รึไง!

 

ก่อนที่ผมจะทันได้พูดแก้ตัว ลิเลียจังก็วิ่งหนีไปก่อน มัน

ทำให้ผมรู้สึกตัวเล็กจ้อยไปเลย

 

ในขณะที่ผมกำลังสับสนอยู่นั่นเอง ก็มีเสียงดังขึ้นมาจากทางเข้าเต็นท์

 

“เรียว โอเคดีอยู่ใช่มั้ย? ใกล้จะได้เวลาแล้วนะ?”

 

นั่นเป็นเสียงของคุณคาร์ล่า

ผมก็กังวลเรื่องของลิเลียจังอยู่หรอก แต่ถ้าผมไม่รีบไปที่ซ้อมล่ะก็คงแย่แน่ๆ

ผมจึงรีบถอยออกมาจากรูนั่นและเดินไปที่ทางเข้า

 

แต่–จะว่าไงดี

เหมือนจะได้เห็นอะไรที่ไม่สมควรจะเห็นเข้าซะแล้วสิเนี่ย….

 

คุณซิลเวียกับลิเลียจัง แม้ทั้งสองจะเป็นพี่น้องกัน

แต่คนหนึ่งถูกเรียกว่าเบบี้จังและถูกประคบประหงมเหมือนแมวน้อย

แต่แม่ของอีกคนหนึ่งกลับไม่ยอมมาร่วมงานแต่ง

 

คุณซิลเวียจะรู้เรื่องนี้อยู่แล้วรึเปล่านะ?

 

 

นักผจญภัยหญิงแรงค์ S ขึ้นคาน ในโลกคู่ขนาน

นักผจญภัยหญิงแรงค์ S ขึ้นคาน ในโลกคู่ขนาน

Status: Ongoing
อ่านนิยาย นักผจญภัยหญิงแรงค์ S ขึ้นคาน ในโลกคู่ขนานผมทำตามที่กิลด์มาสเตอร์สั่งและเดินตรงไปยังห้องประเมินของกิลด์ ในตอนที่ผมเปิดประตูเข้าไป สินค้าก็ได้วางอยู่ในห้องไว้อยู่แล้ว และเมจิคไอเทมที่กิลด์มาสเตอร์อยากให้ผมประเมินนั้นวางอยู่บนโต๊ะ ผมเดินไปหยิบคริสตัลประเมินออกมาจากตู้และเปิดใช้งานมันด้วยพลังเวทย์ คริสตัลประเมินนี่ถือว่าเป็นของมีค่ามากเลยทีเดียว ในแต่ละกิลด์ภายในอาณาจักรจะต้องคริสตัลนี้สาขาละ1อัน ก็ตามชื่อน่ะนะ คริสตัลอันนี้ มีไว้เพื่อใช้ประเมินค่าของเมจิคไอเทม ผมบอกตัวเองว่า ถ้าผมทำคริสตัลอันนี้แตกขึ้นมาล่ะก็ ต่อให้ผมจะเกิดใหม่ซัก 3 รอบก็คงไม่มีทางทำงานหาเงินมาจ่ายได้แน่ๆ จะว่าไปแล้ว คริสตัลอันนี้มันจำทำให้เราคิดมากจนเกินไปหน่อยแล้วมั้ง? หรือนี่มันจะเป็นชะตากรรมของผมกันนะ? ในตอนนั้นเองที่ผมกำลังหยิบคริสตัลประเมินผมไม่ได้สังเกตเห็นเลยว่า ชายเสื้อของผมมันไปเกี่ยวกับไอเทมเวทย์มนต์บนโต๊ะและตอนที่ผมขยับออกมา เมจิคไอเทมอันหนึ่ง–ขวดแก้วเล็กๆ ตกลงไปที่พื้นและแตกเป็นเสี่ยงๆ

Comment

Options

not work with dark mode
Reset