ตอนที่ 1017 เจิ้นจะกำจัดราชวงศ์เหลียวให้สูญสิ้น !
เยลู่ตานรู้สึกได้ถึงอันตรายที่กำลังคืบคลานเข้ามา หัวใจของเขากระตุกหนึ่งครา…แย่แล้ว !
เพราะจากพระราชดำรัสของจักรพรรดิต้าเซี่ยดูเข้าข้างแคว้นซีเซี่ยอย่างเห็นได้ชัด พระองค์ทรงตรัสว่าทางราชวงศ์เหลียวต้องชดใช้ความเสียหายให้กับซีเซี่ยทั้งหมดซึ่งเป็นตัวบ่งบอกว่าบัดนี้ต้าเซี่ยได้เข้าหนุนหลังซีเซี่ยอย่างเต็มตัวแล้ว
ดูเหมือนว่าท่าป๋าวั่งและฟู่เสี่ยวกวนได้ตกลงบางอย่างร่วมกัน ณ กวนหยุนถายในราตรีนั้น ทำให้ราชวงศ์เหลียวตกอยู่ในสภาวะเสียเปรียบอย่างยิ่งยวด
สายตาของผู้คนทุกหมู่เหล่าล้วนหันไปทางคณะทูตแห่งราชวงศ์เหลียว
พวกเขาย่อมเข้าใจในความหมายของฟู่เสี่ยวกวน… หากมองผิวเผินก็เหมือนว่าจักรพรรดิแห่งต้าเซี่ยกำลังช่วยโน้มน้าวให้ยุติความขัดแย้ง ทว่าหากลองตั้งใจฟังให้ดี จะพบว่าการโน้มน้าวในครานี้มีนัยยะแอบแฝงอยู่
ดูเหมือนว่าพระองค์กำลังตรัสอย่างหนึ่งแต่กระทำอีกอย่างหนึ่ง
หากราชวงศ์เหลียวตอบรับคำขอนี้ของพระองค์ก็เท่ากับว่าราชวงศ์เหลียวได้ทำการยอมรับฟู่เสี่ยวกวนเป็นเจ้าเหนือหัวของแคว้น ทว่าถ้าราชวงศ์เหลียวมิยอมตอบรับเล่า ?
จักรพรรดิหนุ่มผู้นี้ตัดสินใจจะทำศึกกับราชวงศ์เหลียวเพื่อแคว้นซีเซี่ยจริง ๆ หรือ ?
ประเทศต้าเซี่ยและราชวงศ์เหลียวอยู่ห่างกันหลายพันลี้ ในสายตาของนานาประเทศต่างก็เห็นว่าศึกในครานี้แทบจะเป็นไปมิได้เลยด้วยซ้ำ
ระยะทางห่างไกลกันมากยิ่งนัก กว่ากองทัพจะเดินทางไปถึงก็ใช้เวลาหลายเดือน เพียงแค่เวลาที่ใช้ในการเดินทางก็ยากเกินกว่าจะประมาณการแล้ว ไหนจะงบประมาณอีก ต่อให้รบชนะแล้วจะทำอันใดได้ ?
เมื่อต้าเซี่ยถอนกองกำลัง ราชวงศ์เหลียวย่อมเคลื่อนทัพเข้าไปตีซีเซี่ยต่อ เจ้าจะเคลื่อนทัพมาช่วยรบอีกคราเยี่ยงนั้นหรือ ?
และอีกอย่างคือ…ทุกสงครามล้วนมีวัตถุประสงค์ เว้นเสียแต่ว่าต้าเซี่ยกำลังวางแผนที่จะยึดครองผืนปฐพีของราชวงศ์เหลียว มิเช่นนั้นการช่วยเหลือแคว้นซีเซี่ยซึ่งเป็นแคว้นเล็กก็มิต่างอันใดกับการฆ่าช้างเพื่อเอางา
เยี่ยงไรเสียปัญหาหลักก็อยู่ที่ว่าราชวงศ์เหลียวตั้งอยู่ห่างไกลจนเกินไป ต่อให้ยึดครองมาได้แต่ก็ห่างจากราชสำนักกลางอยู่ดี แล้วเช่นนั้นจะควบคุมอย่างมีประสิทธิภาพได้เยี่ยงไร ?
หากมิใช่เพราะวัตถุประสงค์ที่จะยึดครองราชวงศ์เหลียว เห็นทีก็คงต้องยกแคว้นซีเซี่ยที่แสนยากจนข้นแค้นให้แก่ประเทศต้าเซี่ยเสียแล้ว
ทว่าซีเซี่ยจะยอมสวามิภักดิ์ต่อต้าเซี่ยเยี่ยงนั้นหรือ ?
มิมีจักรพรรดิพระองค์ใดอยากเป็นเช่นนี้หรอก เพราะหมายความว่าแคว้นที่เคยเป็นของตนจะมิคงอยู่อีกต่อไป ราชวงศ์ต้องสิ้นสลายและฮ่องเต้แห่งซีเซี่ยคงมิเลือกเส้นทางนี้อย่างแน่นอน
ฟู่เสี่ยวกวนมิเคยแถลงนโยบายต่อราชวงศ์เหลียวอย่างเป็นทางการเลยสักครา เสนาบดีทั้งสามสำนักของต้าเซี่ยจึงทำได้เพียงแค่คาดเดาจากถ้อยคำของเขาเท่านั้น บัดนี้ดูเหมือนว่าจักรพรรดิของตนได้ใช้นโยบายแข็งกร้าวเพื่อกำราบราชวงศ์เหลียวเสียแล้ว
แม้ว่าประเทศต้าเซี่ยจะผนึกรวมผืนปฐพียังมิครบหนึ่งปีดี ทว่าในสายตาของเหล่าขุนนางต้าเซี่ยล้วนเห็นว่าราชวงศ์เหลียว…ดูมิคณนามือเลยสักนิด
เพียงแค่ฝ่าบาทยินยอมพระทัย เพียงฝ่าบาททรงมีพระบัญชาออกมา ทหารของต้าเซี่ยก็พร้อมพุ่งขบวนไปยังราชวงศ์เหลียวทุกเมื่อ !
นี่คือความมั่นใจที่มีต่อราชอาณาจักรของพวกตน และเป็นความจงรักภักดีอย่างสูงสุดที่พวกตนมีต่อฟู่เสี่ยวกวน
นับเป็นสองมุมมองที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
ในห้วงเวลาเดียวกันนั้น เยลู่ฮัวองค์รัชทายาทแห่งราชวงศ์เหลียวก็ได้ใคร่ครวญหลายสิ่งหลายอย่าง
เขาเชื่อมั่นว่าประเทศต้าเซี่ยมิมีทางสนับสนุนแคว้นที่ไร้ความหมายแคว้นหนึ่งที่ตั้งอยู่ห่างไกลนับพันลี้ และยิ่งมิเชื่อว่าฟู่เสี่ยวกวนมีความคิดที่จะกำจัดราชวงศ์เหลียวให้สูญสิ้น… มองดูผิวเผินเหมือนว่าต้าเซี่ยกำลังเดินทางเข้าสู่ความเจริญรุ่งเรือง ทว่าแคว้นที่ใหญ่มโหฬารถึงเพียงนี้ ย่อมมีปัญหาเรื่องความมั่นคงภายในมิน้อย เพราะเยี่ยงไรก็เพิ่งรวมเป็นปึกแผ่นได้ยังมิถึงหนึ่งปีเลยด้วยซ้ำ !
สิ่งที่ฟู่เสี่ยวกวนควรทำคือดำเนินตามโครงร่างแผนพัฒนาระยะห้าปีแรกให้สำเร็จและกำหนดแผนพัฒนาระยะห้าปีฉบับถัดไปเพื่อให้ต้าเซี่ยได้พัฒนาก้าวหน้าขึ้นอีกขั้น ให้ทุกมณฑลในประเทศเกิดความเสถียรภาพมากกว่านี้จึงจะถูกต้อง
ฮึ…ที่ตรัสออกมาเช่นนี้ล้วนเสแสร้งแกล้งทำทั้งนั้น !
เยลู่ฮัวแสยะยิ้มเหน็บแนมตรงมุมปาก เจ้าคิดว่าข้าจะหลงกลหรือเยี่ยงไร ?
เจ้าอยากให้ราชวงศ์เหลียวอับอายขายหน้าต่อบรรดาประมุขและราชทูตทั้งหลายเยี่ยงนั้นหรือ ?
เจ้าต้องการเหยียบย่ำราชวงศ์เหลียวเพื่อสร้างภาพลักษณ์ยิ่งใหญ่ของเจ้าใช่หรือไม่ ?
โชคดีที่ข้าเดินทางมาด้วย !
ข้านี่แหละจะสนองความปรารถนาของเจ้าเอง !
ในขณะที่เยลู่ตานกำลังยืนขึ้นเพื่อจะทำให้เหตุการณ์ครานี้ผ่านพ้นไปด้วยดี แต่เยลู่ฮัวกลับแซงทางโค้ง นำเขาไปหนึ่งก้าว
รัชทายาทหนุ่มเอาสองมือไพล่หลัง จากนั้นก็เงยหน้ามองฟู่เสี่ยวกวนที่ยืนอยู่บนแท่นสูงด้วยท่าทางเย่อหยิ่งจองหอง
ส่วนเยลู่ตานได้แต่อ้าปากค้างด้วยความตะลึงพลางจ้องมองเยลู่ฮัวที่ยืนอยู่เบื้องหน้า
เยลู่ฮัวมิได้ถวายความเคารพต่อเจ้าภาพและบัดนี้เขาได้กลายเป็นจุดสนใจของทุกคนในงานแล้ว เพราะท่าทีที่แข็งกร้าวนั้นเป็นเครื่องพิสูจน์ในหลายเรื่อง
ฟู่เสี่ยวกวนจ้องมององค์รัชทายาทหนุ่มผู้นี้ด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม…ทางหอเทียนจีได้สืบหาตัวตนและนิสัยใจคอของอีกฝ่ายมาอย่างกระจ่างชัดแล้วตั้งแต่ต้นแล้ว
“ตัวข้าผู้นี้คือองค์รัชทายาทแห่งราชวงศ์เหลียว ! ”
“บัดนี้ข้ากำลังยืนอยู่เบื้องหน้าของท่าน ! ”
“เพราะข้าต้องการจะบอกให้ท่านทราบว่า ความขัดแย้งระหว่างราชวงศ์เหลียวกับแคว้นซีเซี่ยเป็นเรื่องของสองแคว้น มิได้เกี่ยวข้องอันใดกับท่านและประเทศต้าเซี่ยเลยสักนิด”
“ข้าเห็นว่าในฐานะจักรพรรดิแห่งต้าเซี่ย ท่านควรกังวลเรื่องราษฎรและบ้านเมืองของตนเสียยังจะดีกว่า ส่วนเรื่องที่ท่านต้องการยื่นมือเข้ามาแทรกแซงดินแดนที่ตั้งอยู่ห่างไกลหลายพันลี้…ข้าคิดว่ามือของท่านยังยาวมิพอ ! ”
ถ้อยคำนี้ถูกเอ่ยออกมาอย่างเป็นธรรมชาติด้วยน้ำเสียงที่เปี่ยมไปด้วยพลังและก้องกังวาน ฟู่เสี่ยวกวนได้ยินชัดเต็มสองรูหูและคนอื่น ๆ ที่เหลือก็ได้ยินชัดเจนเช่นกัน
เมื่อสิ้นเสียงของเยลู่ฮัว เหล่าเสนาบดีของต้าเซี่ยก็เดือดดาลขึ้นมาทันใด แต่ละคนทำตาขมึงทึงพลางยกแขนเสื้อขึ้นกำหมัดเสียยกใหญ่ หากมิใช่เพราะเหล่าองครักษ์สกัดไว้เสียก่อน พวกเขาคงเข้าไปรุมทึ้งองค์รัชทายาทที่เอ่ยวาจาเน่า ๆ จนแหลกเป็นชิ้น ๆ แล้ว
ตัวแทนจากแคว้นอื่น ๆ รู้สึกประหลาดใจมากยิ่งนัก พวกเขาคิดว่าราชวงศ์เหลียวอาจจะส่งราชฑูตมาเจรจากับองค์จักรพรรดิต้าเซี่ย สุดท้ายก็ต่อรองกันเพื่อหาจุดที่เป็นทางออกให้แก่ทุกฝ่ายและให้เรื่องนี้จบลงด้วยดี
เมื่อแยกย้ายกันกลับแคว้นแล้ว หากยังจะดื้อรบกันต่อก็ให้ทำไป ส่วนต้าเซี่ยอาจจะทำเป็นมิรู้มิเห็นเสียก็ย่อมได้
เพราะในเมื่ออยู่ไกลถึงเพียงนั้น กว่ารายงานด่วนจะส่งมาถึงมือก็เกรงว่าคงกินเวลาหลายเดือน เมื่อรายงานส่งมาถึงก็เกรงว่าสงครามอาจจะจบลงไปแล้วก็เป็นได้
ทว่าเมื่อองค์รัชทายาทออกโรงเองเช่นนี้ ทั้งยังเอ่ยวาจาที่มิน่าฟัง…นี่เท่ากับว่าเขาได้แสดงออกถึงความมิเห็นแก่พระพักตร์จักรพรรดิแห่งต้าเซี่ย !
เขามั่นใจจริง ๆ แล้วหรือว่าต้าเซี่ยจนปัญญาในการรวบราชวงศ์เหลียวมาไว้ในกำมือ ?
จริงอยู่ที่ว่าหากต้าเซี่ยคว้าราชวงศ์เหลียวไปครองก็ยังทำอันใดต่อมิได้อยู่ดี
เหมือนที่ทุกคนคาดการณ์เอาไว้ก่อนหน้านี้ สงครามที่ไร้ความหมาย จะทำให้ประเทศต้าเซี่ยสิ้นเปลืองเสบียงและทุนทรัพย์ไปอย่างเปล่าประโยชน์
หากเป็นธุรกิจก็คงขาดทุนย่อยยับ เว้นเสียแต่จักรพรรดิแห่งต้าเซี่ยจะเป็นผู้ที่รักในศักดิ์ศรีจึงมิยอมถอย มิเช่นนั้นเห็นทีพระองค์คงต้องถูกองค์รัชทายาทบีบบังคับจนยอมอ่อนข้อให้
ฟู่เสี่ยวกวนยกยิ้มออกมา ทั้งยังเป็นยิ้มที่สดใสจนเผยให้เห็นฟันขาว !
เขาหันไปมองเยลู่ตาน จากนั้นก็หันไปมองท่าป๋าวั่งฮ่องเต้แห่งแคว้นซีเซี่ย
“ท่านดูเอาเถิด… องค์รัชทายาทเอ่ยได้ถูกต้องว่านี่เป็นศึกระหว่างพวกท่าน เขามิเห็นหัวผู้ไกล่เกลี่ยเช่นข้าเลยสักนิด”
จักรพรรดิแห่งต้าเซี่ยนึกกลัวขึ้นมาแล้วเยี่ยงนั้นหรือ ?
เมื่อฟู่เสี่ยวกวนเอ่ยเช่นนั้นออกมา เหล่าประมุขและราชทูตจากต่างแดนล้วนเห็นพ้องต้องกันว่า อีกฝ่ายได้โยนหมากให้กับท่าป๋าวั่งรับเอาไว้ ถือว่าเริ่มกระดานหมากได้สวยงามเลยทีเดียว
ในทางกลับกัน…เมื่อเหล่าขุนนางต้าเซี่ยได้เห็นสีหน้าขององค์จักรพรรดิและได้ยินองค์เหนือหัวของตนตรัสออกมาเช่นนี้ พวกเขาจึงสงบลงทันใด
ทุกคนต่างก็คุ้นชินกันดีแล้ว ทุกคราที่ฝ่าบาทต้องการความคิดเห็นจากผู้อื่น พระองค์ก็มักจะแสดงท่าทีนิ่งเฉยเช่นนี้
ส่วนเรื่องศักดิ์ศรี…ในสายตาของชาวต้าเซี่ยล้วนเห็นว่าศักดิ์ศรีมิได้สำคัญเท่ากับผลประโยชน์
ด้วยเหตุนี้ขนบธรรมเนียมที่เคยยึดถือมาตั้งแต่โบราณจึงถูกจักรพรรดิพระองค์นี้แสดงความมิใส่ใจจนผิดเพี้ยนไปหมดแล้ว
ท่าป๋าวั่งสูดลมหายใจเข้าลึกหนึ่งครา ฟู่เสี่ยวกวนบีบให้ตนแสดงทัศนคติออกมาต่อสายตาของนานาประเทศ !
มิเลวเลยนี่ !
ครานี้แคว้นซีเซี่ยคงต้องขายหน้าให้แก่ผู้คนทั้งใต้หล้าแล้วจริง ๆ !
แต่จะให้ทำเยี่ยงไรได้อีกเล่า ?
ในขณะที่ท่าป๋าวั่งกำลังยืนขึ้นเพื่อแสดงความสวามิภักดิ์ต่อประเทศต้าเซี่ย เขากลับเห็นรอยยิ้มของฟู่เสี่ยวกวนหุบลงในทันใด…ฟู่เสี่ยวกวนจ้องมองไปยังเยลู่ฮัวที่อยู่เบื้องล่างแล้วเอ่ยออกมา
เสียงของเขาดุจสายฟ้าที่ฟาดลงมา
“เจ้าทำให้เจิ้นโกรธมากยิ่งนัก บัดนี้เจิ้นจะทำให้เจ้าได้เห็นกับตาว่ามือของเจิ้นนั้นยาวเพียงใด ! ”
“เจิ้น…จะกำจัดราชวงศ์เหลียวให้สูญสิ้น จะทำให้ใต้หล้าได้ประจักษ์ ! ”