นายน้อยเจ้าสำราญ – ตอนที่ 1054 โจมตี

ตอนที่ 1054 โจมตี

เยลู่ฮัวที่กำลังรีบเร่งเดินทางไปยังเมืองต้าติ้งหาได้รู้ไม่ว่าเมืองต้าติ้งได้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปอย่างน่าใจหาย เขายังคงนำทัพทหารจำนวนหนึ่งแสนกว่านายของตนห้อตะบึงไปเบื้องหน้าอย่างรวดเร็ว

ในที่สุดเขาก็ได้พบกับทหารป๋ายหยูซึ่งกำลังรอเขาอยู่ที่ริมฝั่งแม่น้ำเย๋ซุ่ย เขาเหนื่อยหอบมากยิ่งนัก ยังมิทันได้พักหายใจหายคอดีก็มีรายงานด่วนเข้ามา

“รายงาน…ทหารม้าฝ่ายศัตรูกำลังบุกมาที่นี่ คาดว่าจะมาถึงในอีก 2 เค่อ ! ”

“รายงาน…ทหารฝ่ายศัตรูสวมชุดเกราะสีเงิน มิใช่ทหารม้าของซีเซี่ย เกรงว่าจะเป็นทหารม้าของต้าเซี่ย ! ”

“รายงาน…จากการพิจารณากองทัพแล้ว ทหารม้าของศัตรูคาดว่ามีประมาณหนึ่งแสนกว่านาย กำลังบุกเข้ามาด้วยความรวดเร็วราวกับสายฟ้าฟาด ! ”

เยลู่ฮัวรู้สึกสิ้นหวังขึ้นมาทันใด ให้ตายเถิด ! ทหารม้าเพียง 5,000 นายเมื่อคืนนี้ก็สามารถการกับทหารจำนวนนับแสนนายของเขาได้แล้ว ทว่าบัดนี้พวกทหารม้าเหล่านั้นกำลังเดินทางมานับแสนนาย สงครามนี้เขาจะสู้ได้เยี่ยงไร ?

ศึกครานี้ยังจะต้องสู้อยู่อีกหรือ ?

ที่ริมแม่น้ำเย๋ซุ่ยแห่งนี้ จะกลายเป็นสุสานฝังร่างของข้าเยี่ยงนั้นหรือ ?

บางทีทหารม้า 5,000 นายเมื่อคืนนี้ อาจจะเป็นทหารบกที่ถูกคัดเลือกมาอย่างดีของต้าเซี่ยก็เป็นได้ บัดนี้ตนมีทหารม้ามากถึง 300,000 นาย… ทหารม้าของราชวงศ์เหลียวขึ้นชื่อว่าไร้ซึ่งผู้ใดเทียบเคียง ทั้งยังจำนวนมากกว่าพวกเขามากถึงสามเท่า ยังจะต้องเกรงกลัวสิ่งใดอีกกัน ? !

เยลู่ฮัวมิได้หลบหนีแต่อย่างใด เขาตั้งทัพบริเวณทางใต้ของริมแม่น้ำเย๋ซุ่ย ซึ่งการตัดสินใจของเขาถูกต้องแล้ว เนื่องจากหากว่าเขาตัดสินใจจะข้ามแม่น้ำล่ะก็ ทหารจำนวน 300,000 นายจำเป็นต้องใช้เวลาเนิ่นนาน เวลาที่เสียไปเหล่านี้ เพียงพอที่จะทำให้ทหารม้าจำนวน 100,000 นายของท่าป๋าเฟิงเข้าโจมตีทัพหลังของเขาได้

นี่คือข้อจำกัดของทหารม้า เยลู่ฮัวได้จัดวางทหารม้าจำนวน 300,000 นายไว้เบื้องหน้าซึ่งทอดยาวไปหลายลี้

ชั่วอึดใจที่มองเห็นชุดเกราะสีเงินของทหารม้าระยิบระยับราวกับระลอกคลื่นบนผืนน้ำมาแต่ไกล อยู่ ๆ เยลู่ฮัวก็รู้สึกจุกขึ้นมาที่อก สงครามครานี้จะสู้ได้จริง ๆ หรือ ?

……

……

หยูเวิ่นเทียน ท่าป๋าวั่งและท่าป๋าฮวงได้พาทหารม้าจำนวน 50,000 นายทะยานเข้าไปท่ามกลางทุ่งหญ้าอย่างบ้าคลั่ง

ตลอดทางมานี้ มีแร้งจำนวนมากบินอยู่บนท้องนภา และมีซากศพนับมิถ้วนนอนเกลื่อนอยู่บนพื้น

หยูเวิ่นเทียนมีท่าทีนิ่งเงียบ ส่วนสีหน้าของท่าป๋าฮวงได้แปรเปลี่ยนไปทันทีที่เห็น เมื่อเขามองทอดยาวออกไป พบว่าศพเหล่านี้ล้วนเป็นทหารของราชวงศ์เหลียวทั้งสิ้น !

เครื่องแต่งกายของทหารต้าเซี่ยแตกต่างออกไป เนื่องจากชุดเกราะสีเงินอันโดดเด่นทำให้แยกแยะได้ง่าย

ส่วนเหล่าทหารที่ตกตายไปนั้นมิใช่ทหารม้าของท่าป๋าเฟิง เนื่องจากสัญลักษณ์ที่แขนเสื้อของพวกเขามิเหมือนกัน นี่คือกองพลทหารม้าของกองทัพบกที่หนึ่ง !

กองพลทหารม้ากองทัพบกที่หนึ่งมีทหารเพียง 5,000 นาย พวกเขาบุกเข้ามาถึงที่นี่ และเมื่อคืนนี้มีการรบเกิดขึ้น ในวันนี้จึงมีซากศพกองโตอยู่ที่นี่

เยลู่ชิงมีทหารอยู่ในมือมากถึง 300,000 นาย !

ทว่าบัดนี้ดูเหมือนทหารของเขาจะตกตายไปราวห้าถึงหกหมื่นนายเห็นจะได้ !

ทหารจำนวน 5,000 นายสู้กับทหาร 300,000 นาย อีกทั้งยังสามารถกำจัดทหารเหล่านี้ได้ห้าถึงหกหมื่นนาย…พลังในการต่อสู้เช่นนี้ท่าป๋าฮวงมิอาจจินตนาการถึงได้

บัดนี้ทหารฝ่ายศัตรูจากไปแล้ว เมื่อมองดูแล้วคาดว่าทหารจำนวน 5,000 นายคงจบชีวิตลงที่นี่ด้วยเช่นกัน

หยูเวิ่นเทียนออกคำสั่งให้ทหารทั้งหมดหยุดทัพ เขามิได้รีบเร่งไล่ตามไป

“จงรวบรวม…ศพของพี่น้องทหารต้าเซี่ยมาให้ครบ ! ”

ท่าป๋าฮวงชะงักงันขึ้นมาทันใด จากนั้นก็เอ่ยถามว่า “ท่านแม่ทัพใหญ่ขอรับ เพราะ…เพราะเหตุใดกัน ? ”

“นี่คือกฎของทหารต้าเซี่ย พวกเขาคือวีรบุรุษแห่งต้าเซี่ย ต้าเซี่ยจะมิทิ้งร่างของวีรบุรุษไว้กลางพื้นที่รกร้างเช่นนี้”

ท่าป๋าฮวงรู้สึกประทับใจมากยิ่งนัก ทว่าหลังจากที่เขานิ่งเงียบไปชั่วครู่ก็ได้เอ่ยขึ้นมาอีกว่า “แล้วสงครามแนวหน้านั่นเล่า… ? ”

“พวกเราชนะแล้ว ! ”

“ท่านตัดสินจากสิ่งใด ? ”

“ด้วยจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของกองทัพต้าเซี่ย แล้วเจ้าจะเข้าใจในภายหลัง”

ท่าป๋าวั่งและท่าป๋าฮวงรู้สึกงุนงงมากยิ่งนัก

“นี่คือกฎที่ฝ่าบาททรงตั้งขึ้นมาเมื่อหลายปีก่อน ณ สถานที่แห่งนี้ พวกเราจะทำการฝังวีรบุรุษเหล่านี้และสร้างอนุสาวรีย์ให้แก่พวกเขาเพื่อเป็นอนุสรณ์สถาน”

“เมื่อราชวงศ์เหลียวถูกต้าเซี่ยยึดครองแล้ว ผู้คนจะพากันเดินทางมาสักการะและรำลึกถึงพวกเขาที่อุทิศตนให้แก่ต้าเซี่ย”

“นี่คือจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของกองทัพต้าเซี่ย ! ”

“นี่คือจิตวิญญาณของต้าเซี่ยที่ทวีคูณมากยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ ! ”

“พวกเขาจะอยู่คู่ฟ้าดิน ! ”

น้ำเสียงของหยูเวิ่นเทียนหนักแน่นมากยิ่งนัก เนื่องจากในใจของเขากำลังเจ็บปวดถึงที่สุด

ทหารชั้นยอดจำนวน 5,000 นาย !

หัวหน้ากองพล 2 คนนั้น…เป็นชายหนุ่มที่มีสายเลือดตระกูลหยู !

ในขณะเดียวกันนั้น หยูติ้งชานและหยูติ้งเหอที่หยูเวิ่นเทียนคิดว่าพวกเขาได้สละชีพเพื่อต้าเซี่ย ได้พาทหารม้าชั้นยอดอีก 300 นายยืนอยู่บริเวณปีกขวาของกองทัพ

หยูติ้งชานขมวดคิ้วมุ่น

“ท่านแม่ทัพท่าป๋าเฟิงบุกมาเช่นนี้ ศัตรูก็หนีกันหมดพอดีสิ พวกเราอุตส่าห์รีบมาที่นี่แท้ ๆ ท้ายที่สุดก็มิมีประโยชน์อันใดเลยหรือ ? ”

หยูติ้งเหอจ้องมองไปยังสนามรบนั้น เขานิ่งเงียบไปชั่วครู่ก่อนจะหยิบแผนที่ออกมาพิจารณาแล้วเอ่ยขึ้นมาว่า “ท่านพี่…ข้าคาดว่าเยลู่ฮัวจะยังคงหนีต่อไป พวกเราข้ามแม่น้ำจากที่นี่และตรงไปยังหมู่บ้านฮวงหลินที่อยู่ฝั่งตรงข้ามของแม่น้ำเย๋ซุ่ยเถิด หากเยลู่ฮัวต้องการกลับไปยังจังหวัดต้าติ้ง เยี่ยงไรก็ต้องผ่านหมู่บ้านฮวงหลิน พวกเรารอมันอยู่ที่นั่นดีกว่า ข้าคิดว่ามันมีประโยชน์มากกว่าการเข้าไปร่วมทำสงครามตอนนี้”

“พวกเราเหลือทหารอยู่เพียง 300 นายเท่านั้น ! ”

“เยลู่ฮัวต้องพ่ายแพ้ มันเป็นเหมือนนกที่ตื่นธนู เมื่อถึงเวลาแล้วพวกเราก็นำกิ่งไม้มาติดไว้ที่หางม้าเถิด เพื่อทำให้เกิดฝุ่นมากขึ้นแน่นอนว่าย่อมสามารถหลอกมันได้ พวกเรามีวัตถุประสงค์เดียวนั่นก็คือกุมตัวมันมา เพียงแค่จับตัวได้แล้วสงครามนี้ก็จะยุติลงทันที”

หยูติ้งชานตาเป็นประกายขึ้นมาทันใด อยู่ ๆ เขาก็รู้สึกว่าแผนการของน้องชายช่างยอดเยี่ยมมากยิ่งนัก

“ตกลงตามนี้ ! มิเช่นนั้นข้าก็มิรู้ว่าจะรายงานท่านแม่ทัพกวนเยี่ยงไรเมื่อกลับไป ! ”

“ออกเดินทาง…ข้ามแม่น้ำ ! ”

ทหารม้าผู้แข็งแกร่งจำนวน 300 นายได้พากันข้ามแม่น้ำเย๋ซุ่ยไปยังหมู่บ้านฮวงหลิน

ท่ามกลางสนามรบอันกว้างใหญ่ไพศาลนี้ พวกเขามิได้เป็นจุดสนใจของผู้ใด

กวนเสี่ยวซีพาทหารจำนวน 100,000 นายมุ่งหน้ามาด้วยความเร็วดุจกระแสพายุ

ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความโศกเศร้าที่มิอาจปิดบังเอาไว้ได้

เพียงชายตามองดูสนามรบแห่งนั้น เขาก็รู้ได้ทันทีว่ากองพลทหารม้าตกตายเกือบหมดแล้ว

เขามิมีเวลาเก็บกวาดสนามรบ บัดนี้เขาต้องรีบไปจับตัวเยลู่ฮัวมาให้ได้ จะต้องทำลายล้างทหารของเยลู่ฮัวทั้งหมดเพื่อเป็นการแก้แค้น !

ท่านแม่ทัพเผิง…นับแต่นี้สืบไป ข้าจะเป็นบุตรชายท่านเอง !

“เร็วเข้า ! ”

“ทหารทุกนายจงเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นอีก ! ”

พวกเขาล้วนเป็นทหารราบ!

ทว่าความว่องไวของพวกเขาในตอนนี้ เอ่ยได้ว่าไวกว่าทหารม้าเสียอีก

หากมีผู้ใดมาพบเห็น คาดว่าคงจะตกอกตกใจมากเป็นแน่

ทหารราบกองทัพบกที่หนึ่ง เป็นกองทัพแรกซึ่งเก่าแก่ที่สุด ในนั้นกว่าครึ่งประกอบไปด้วยทหารที่มาจากราชวงศ์อู๋ พวกเขาถูกฝึกฝนโดยไป๋ยู่เหลียน ทหารมากกว่าครึ่งนี้ล้วนมีวรยุทธ์

พวกเขารีบวิ่งข้ามทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่ไปอย่างรวดเร็ว ใบหน้าของพวกเขาเยือกเย็นราวกับน้ำค้างแข็ง

พี่น้องทหารจำนวน 5,000 นายสิ้นลมแล้ว แม้ว่าพวกเขาจะสามารถฆ่าศัตรูได้นับแสน ทว่าในใจของเหล่าทหารดาบเทวะ พวกเขามิต้องการให้มีผู้ใดตกตายแม้แต่คนเดียว !

พวกเขาจะแก้แค้นให้แก่พี่น้องทหารเหล่านั้นเอง ดาบแห่งความเกลียดชังนี้จะได้รับการสังเวยแล้ว !

“รายงาน…ท่านแม่ทัพ กองทัพของท่านแม่ทัพท่าป๋าเฟิงอยู่ด้านหน้านี้ ซึ่งห่างออกไปราว 1,000 จั้ง พวกเขากำลังมุ่งหน้าไปทางกองทัพของศัตรู ! ”

เมื่อกวนเสี่ยวซีได้ยินดังนั้นก็ออกคำสั่งทันทีว่า “กองพลที่หนึ่ง สอง สาม ข้าต้องการศีรษะของเยลู่ฮัว ! ”

เมื่อทั้งสามกองพลได้รับคำสั่งแล้ว พวกเขาจึงเร่งความเร็วขึ้นอีก และได้ทิ้งห่างจากกองทัพใหญ่มุ่งหน้าไปทางสนามรบด้วยความเร็วดุจพายุ

ณ สถานที่แห่งนี้ ทหารม้าผู้แข็งแกร่ง 2 กองทัพรวมกันได้ 400,000 นายได้เผชิญหน้ากัน !

หลังสิ้นสุดเสียงปืน ก็มีเสียงดาบกระทบกันไปมา ม้าศึกล้มตาย โลหิตไหลนอง

ธงประจำกองทัพดาบเทวะโบกพลิ้วปลิวไสวอยู่ตรงกลาง

ดวงตาของอินทรี กำลังจับจ้องสนามรบนี้อย่างเยือกเย็น

นายน้อยเจ้าสำราญ

นายน้อยเจ้าสำราญ

Status: Ongoing
อ่านนิยายเรื่อง นายน้อยเจ้าสำราญโชคดีที่ได้ทะลุมิติมา ทั้งยังได้เกิดในตระกูลเศรษฐีที่ดิน ชีวิตนี้ไม่ได้ขาดแคลนอาหารและเสื้อผ้าแต่ก็ไม่อยากจะเอาแต่กินจนตายไปทั้งอย่างนั้น ดังนั้นฟู่เซี่ยวกวนจึงได้กระทำเรื่องบางอย่างตามอำเภอใจ โดยไม่ได้คาดคิดเลยว่าจะเกิดผล กระทบที่ใหญ่หลวงตามมาเยี่ยงนี้ ฮ่องเต้ต้องการให้เขาเป็นขุนนางชั้นหนึ่ง องค์หญิงต้องการแต่งตั้งให้เขาเป็นราชบุตรเขย บุตรีแห่งจวนเสนาบดีสำนักตรวจการต้องการแต่งกับเขา คนป่าต้องการหัวของเขา รัฐอี๋ต้องการชีวิตของเขา ส่วนรัฐฝานต้องการเงินของเขา… แต่เขา.. ฟู่เซี่ยวกวนนั้นต้องการเป็นเศรษฐีที่ดินผู้ยิ่งใหญ่ต่างหากเล่า !

Comment

Options

not work with dark mode
Reset