[นิยายวาย] ทะลุระบบข้ามภพมาหารัก – ตอนที่ 116 เจ้าของร่างคือยอดชาเขียวแห่งจักรวาล (abo 4) / ตอนที่ 117 เจ้าของร่างคือยอดชาเขียวแห่งจักรวาล (abo 5)

ตอนที่ 116 เจ้าของร่างคือยอดชาเขียวแห่งจักรวาล (abo 4)

 

 

ภายในห้องพักครูคณะแพทยศาสตร์ของมหาวิทยาลัยรัฐ ตันหวายนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานพลางเหม่อมองเอกสารภาษาอังกฤษในมืออย่างมึนตึ้บ

 

 

ตันหวายภาษาอังกฤษพอใช้ได้ เมื่อก่อนเคยอาศัยอยู่ต่างประเทศประมาณหนึ่งปีกว่า แต่ต่อให้เป็นอย่างนั้น เขาก็ยังอ่านรายงานการแพทย์เฉพาะทางฉบับนี้ไม่รู้เรื่องอยู่ดี

 

 

ห้องพักครูยังมีอาจารย์อีกหลายท่านกำลังทำงานอยู่ในความสงบ ตันหวายลุกขึ้นยืนเงียบๆ พยายามเดินออกจากห้องพักครูอย่างแผ่วเบาที่สุด

 

 

ตันหวายเดินมาจนถึงห้องน้ำสำหรับโอเมก้าโดยเฉพาะ พอมาถึงหน้าประตูก็เจอเข้ากับโอเมก้าผู้หญิงคนหนึ่ง

 

 

แม้ว่าตอนนี้ทุกคนจะเป็นโอเมก้าเหมือนกัน แต่เขาก็ยังทำใจยอมรับสภาพที่ต้องเห็นผู้หญิงเต็มห้องน้ำไม่ได้

 

 

เนื่องด้วยสิทธิคุ้มครองโอเมก้าตลอดหลายปีที่ผ่านมา ข้อจำกัดหลายอย่างของโอเมก้าก็ได้รับการผ่อนปรนแล้ว ดังนั้นจึงมักเห็นโอเมก้าแข่งขันแย่งชิงตำแหน่งในทุกสายงาน

 

 

ตันหวายรีบมองหาห้องที่ไม่มีคนแล้วปิดประตูล็อกทันที กล่าวเสียงแผ่วเบาด้วยสีหน้าคับแค้นใจ “เจ้าของร่างเดิมเป็นนักวิชาการด้านการแพทย์ คนวาดภาพอย่างผมจะไปรู้เรื่องอะไร คุณจะให้ผมสอนหนังสืออย่างไรกัน?”

 

 

ถูกต้อง เหลือเวลาอีกไม่ถึงสองชั่วโมง ตันหวายจะต้องพาร่างของเจ้าของร่างเดิมไปบรรยายเกี่ยวกับหัวข้อการรักษาโรคหายากต่างๆ ทั่วโลกให้แก่บรรดาเด็กนักเรียนของเขา แต่เขาไม่มีความรู้อะไรเลย!

 

 

(เอ๊ะ? ท่านไม่รู้หรอกหรือ?) ระบบงุนงง

 

 

ฉันจะไปรู้ได้ยังไงล่ะ!!!

 

 

ตันหวายหมดคำพูด กดเสียงต่ำขบเขี้ยวเคี้ยวฟันกล่าว “ผมควรจะรู้อะไร?”

 

 

(ศูนย์บัญชาการได้พิจารณาเรื่องนี้ไว้แล้ว ดังนั้นในขณะที่ท่านบรรยาย ย่อมจะมีจิตสำนึกของเจ้าของร่างเดิมคอยช่วยเหลือ)

 

 

“?”

 

 

อย่างนี้ก็มีด้วยเหรอ?

 

 

ตันหวายเบาใจลง แต่ยังคงกลอกตาใส่ระบบ ถึงแม้ระบบจะมองไม่เห็นก็ตามที แล้วไม่บอกกันแต่แรก เล่นเอาซะเขากลุ้มอกกลุ้มใจอยู่ตั้งนาน

 

 

ตอนที่ตันหวายเตรียมตัวจะออกไปปลายจมูกก็พลันขยับ รู้สึกได้ถึงกลิ่นชาเขียวอ่อนๆ โดดเด่นเป็นอย่างยิ่งในห้องน้ำสาธารณะ

 

 

ตันหวายสบถพึมพำประโยคหนึ่ง ก่อนล้วงหยิบยากักเก็บกลิ่นในกระเป๋าเสื้อออกมาฉีดให้ตนเองด้วยสีหน้านิ่งเรียบ

 

 

ยากักเก็บกลิ่นชนิดนี้หมดฤทธิ์อย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยทุกที ทำเอาตันหวายรับมือไม่ทันทุกครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่หมดฤทธิ์ตอนเขามาทำงาน ต่อไปไม่รู้ว่าจะมีเหตุสุดวิสัยอะไรรอเขาอยู่อีก

 

 

ยาคุมกำเนิดก็มีเช่นกัน เพียงแต่ตันหวายไม่อยากใช้ เพราะการตายของเจ้าของร่างเดิม ตันหวายจึงอยากถอยห่างให้ไกลจากของพรรค์นี้เสียเต็มประดา ไม่มีทางยอมฉีดเข้าไปอีกเด็ดขาด

 

 

ตันหวายออกจากห้องน้ำมาล้างมือตรงมุมอ่างล้างหน้า ทันใดนั้นก็รู้สึกได้ถึงกลิ่นเหล้าอันอ่อนจาง

 

 

อะไรกันเนี่ย มีคนดื่มเหล้าในห้องน้ำมหาวิทยาลัยด้วย?

 

 

ตันหวายขมวดคิ้ว เหลือบมองห้องน้ำด้านในแวบหนึ่งแล้วจึงเดินออกไป

 

 

ผ่านไปเนิ่นนาน ประตูห้องน้ำด้านในสุดจึงค่อยถูกเปิดออก เด็กหนุ่มผิวขาวเกลี้ยงเกลาที่ใบหน้าแดงระเรื่อเดินออกมาจากข้างใน หัวคิ้วขมวดเล็กน้อย ราวกับกลิ่นชาเขียวหอมหวานชวนหลงใหลนั้นยังวนเวียนอยู่ที่ปลายจมูก

 

 

เด็กหนุ่มกะพริบตาปริบ ไฝเล็กบนเปลือกตาขยับตามการเคลื่อนไหวของเขา

 

 

เหลือเวลาก่อนเริ่มคาบเรียนอีกไม่ถึงสิบนาที ตันหวายยกข้อมือขึ้นดูนาฬิกา ก่อนจะอุ้มปึกเอกสารการสอนบนโต๊ะไว้ในอ้อมแขนเตรียมจะออกจากห้องพักครู

 

 

เพิ่งจะผุดลุกขึ้นจากเก้าอี้ ประตูห้องพักครูก็ถูกเคาะดังขึ้น เด็กหนุ่มตัวสูงใหญ่คนหนึ่งเดินเข้ามาจากนอกประตูตามหลังเสียงเอ่ยอนุญาต

 

 

เด็กหนุ่มเดินตรงเข้ามาส่งเอกสารชุดหนึ่งบนโต๊ะด้านข้างตันหวาย

 

 

“นี่เป็นรายงานกิจกรรมสัปดาห์ที่แล้วของคณะธรณีวิทยากับคณะแพทย์ครับ”

 

 

สัปดาห์ที่แล้วคณะธรณีวิทยากับคณะแพทย์ทำกิจกรรมจิตอาสาร่วมกัน หลังจากเสร็จงานตัวแทนนักเรียนทั้งสองคณะจะต้องเขียนรายงานเกี่ยวกับกิจกรรมครั้งนี้ส่งคนละฉบับ

 

 

ตันหวายเดินมาถึงหน้าประตูแล้วจึงได้ยินเพียงแค่ประโยคแรก ไม่ได้ใส่ใจเท่าไหร่นัก คิดแต่เพียงว่าน้ำเสียงของนักเรียนคนนี้น่าฟังมากทีเดียว

 

 

ตันหวายปิดประตูลง ไม่ทันมองเห็นว่าตอนเขาเดินออกมา ดวงตาเด็กหนุ่มคนนั้นวูบไหวเล็กน้อย พลางจ้องมองแผ่นหลังของเขาด้วยแววตาลึกซึ้ง

 

 

คาบเรียนยาวร่วมสองชั่วโมงดำเนินไปอย่างสบายๆ ตันหวายผ่อนคลายตัวเองตลอดทั้งคาบ ไม่รู้เหมือนกันว่าตนพ่นคำศัพท์ที่แม้กระทั่งตัวเองยังฟังไม่เข้าใจออกจากปากมากมายขนาดนั้นได้อย่างไร

 

 

ระบบเยาะเย้ยความโง่เง่าของเขา ตันหวายขี้เกียจจะสนใจ คนเราเก่งกันคนละด้าน ตันหวายไม่รู้สึกโกรธเคืองเพราะตนไม่รู้เรื่องวิชาแพทย์แต่อย่างใด

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 117 เจ้าของร่างคือยอดชาเขียวแห่งจักรวาล (abo 5)

 

 

พอลงมาจากอาคารเรียนก็เป็นเวลาเที่ยงวันเข้าไปแล้ว ท้องไส้ส่งเสียงประท้วงไม่หยุดหย่อน เรียกร้องให้ตันหวายพามันไปกินอะไรสักหน่อย

 

 

ตันหวายทอดถอนหายใจ กลับห้องพักครูมาเอาบัตรพนักงานแล้วตรงดิ่งไปยังโรงอาหารอาจารย์ทันที

 

 

มหาวิทยาลัยรัฐแห่งนี้แบ่งเป็นโรงอาหารนักศึกษาและโรงอาหารอาจารย์ หากจะไปโรงอาหารอาจารย์จำเป็นต้องใช้บัตรพนักงาน มิเช่นนั้นก็เข้าไปไม่ได้ แน่นอนว่าโรงอาหารอาจารย์ไม่น่ารับประทานยิ่งกว่าโรงอาหารนักศึกษาหลายขุม ฉะนั้นอาจารย์ส่วนใหญ่จึงไปรับประทานที่โรงอาหารนักศึกษากันหมด

 

 

เพียงแต่ว่าตอนนี้ตันหวายอยู่ในระยะพิเศษ ไม่ควรจะไปสถานที่พลุกพล่านจริงๆ จึงจำต้องล้มเลิกความตั้งใจแล้วไปโรงอาหารอาจารย์แทน

 

 

ตันหวายซื้อซุปปลากับอาหารจานหลักให้ตนเอง มองหาที่ว่างสักแห่งหย่อนตัวลงนั่ง ตั้งใจจะกินให้เรียบวุธแล้วค่อยกลับไป

 

 

เพิ่งจะซดซุบปลาได้คำเดียว เด็กหนุ่มที่ปรากฏตัวในห้องพักครูเมื่อตอนเช้าก็เดินเข้ามา ข้างหลังยังมีชายค่อนข้างสูงวัยเดินตามมาอีกคนหนึ่ง เป็นศาสตราจารย์อาวุโสผู้เป็นที่เคารพนับถือของคณะธรณีวิทยา

 

 

เด็กหนุ่มสังเกตเห็นสายตาของตันหวายจ้องมองมาก็ตะลึงงันไปชั่วขณะ แต่กลับถูกศาสตราจารย์ชราผู้เงียบขรึมดึงตัวไปเสียก่อน

 

 

ระยะห่างระหว่างพวกเขาไกลกันมาก ตันหวายแค่พอเห็นหน้าค่าตาของเด็กหนุ่ม

 

 

หน้าตาดีทีเดียว ตันหวายคิดพลางดื่มซุปปลาลงท้องอีกคำใหญ่

 

 

ในความทรงจำเจ้าของร่างเดิมมีเด็กหนุ่มคนนี้อยู่ เด็กหนุ่มชื่อว่ากงฉือ นักเรียนดีเด่นประจำคณะธรณีวิทยา เคยเป็นตัวแทนมหาวิทยาลัยเข้าร่วมการแข่งขันมากมาย ล้วนแต่ทำผลงานได้ไม่ธรรมดา ทั้งมหาวิทยาลัยไม่มีใครไม่รู้จักเขา

 

 

ซดน้ำซุปจนเห็นก้นถ้วยอย่างเงียบๆ ฉับพลันนั้นเงามืดขนาดมหึมาก็ปกคลุมเหนือศีรษะของตันหวาย

 

 

ตันหวายกะพริบตาปริบพลางเงยหน้า พบว่ากงฉือกำลังยืนอมยิ้มมองเขาอยู่ตรงหน้าเขาพอดี

 

 

“คุณ…” ตันหวายลังเลเล็กน้อย จู่ๆ หัวใจก็เริ่มเต้นระส่ำอย่างควบคุมไม่อยู่

 

 

กงฉือวางถ้วยน้ำชาร้อนกรุ่นลงบนโต๊ะ ยิ้มกล่าว “บังเอิญจังครับอาจารย์ฮั่ว พวกเราเจอกันอีกแล้ว”

 

 

ตันหวายตะลึงไปชั่วครู่ กล่าวอย่างเคอะเขินว่า “สวัสดี นักเรียนกง”

 

 

กงฉือระบายยิ้มกว้าง พยายามจะชวนคุยตีสนิท “อาจารย์ฮั่วมาทานข้าวคนเดียวหรือครับ?”

 

 

ตันหวายวางตะเกียบลง คลี่ยิ้มให้อย่างกระอักกระอ่วนใจ “พอดีผมมีธุระคุณค่อยๆ กิน…”

 

 

ตันหวายชะงักกึก เพราะตอนที่กงฉือกะพริบตาใส่ตนเผยให้เห็นไฝเล็กๆ บนเปลือกตาของเขา

 

 

กงฉือเห็นตันหวายนิ่งชะงักรอยยิ้มก็หยักลึกยิ่งกว่าเดิม ก่อนผุดลุกขึ้นยืนแล้วโน้มตัวไปข้างหน้า ประชิดเข้าใกล้ตันหวายพลางเอ่ยขึ้นช้าๆ “อาจารย์เป็นอะไรไปครับ?”

 

 

ตันหวายจ้องเด็กหนุ่มเขม็งโดยไม่พูดไม่จา หัวใจเต้นรัวแรงมากขึ้นทุกที ราวกับจะกระเด้งหลุดออกมาอย่างไรอย่างนั้น

 

 

“กงฉือ?” ศาสตราจารย์ชราหันมองมาทางนี้ เอ่ยถามด้วยความฉงนว่า “แกทำอะไรอยู่น่ะ?”

 

 

กงฉือพลันชะงักงัน รีบหันหลังไปกล่าวขอโทษทันใด “ขอโทษครับอาจารย์ พอดีผมเห็นอาจารย์ฮั่ว ก็เลยเข้ามาทักทายน่ะครับ”

 

 

ศาสตราจารย์ชราดันแว่นสายตาบนสันจมูก ก่อนจะผงกศีรษะให้กับตันหวาย

 

 

ตันหวายตื่นเต้นลนลาน รีบผุดลุกขึ้นเดินเข้าไปทักทายศาสตราจารย์ทันที ศาสตราจารย์เป็นผู้อาวุโสที่ผู้คนนับหน้าถือตา ได้รับการเคารพยกย่องจากทั้งมหาวิทยาลัยมาโดยตลอด ตอนแรกตันหวายไม่เข้ามาเพราะกลัวว่าจะรบกวนศาสตราจารย์ขณะรับประทานอาหาร ตอนนี้ศาสตราจารย์เอ่ยทักทายเขาก่อนแล้ว หากเขาไม่เข้าไปอีกคงจะเป็นการเสียมารยาท

 

 

หลังจากกล่าวทักทายศาสตราจารย์เสร็จเรียบร้อย ตันหวายก็เหลือบมองกงฉือแวบหนึ่ง อยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่รู้ดีว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลาพูดคุย จึงได้แต่ปล่อยเลยตามเลย

 

 

กงฉือคลี่รอยยิ้มกว้าง จ้องมองตันหวายอย่างมีเลศนัย ตันหวายถูกเขามองจนหน้าร้อนผ่าว หลังจากกล่าวลาศาสตราจารย์ก็ขอตัวออกมาอย่างเร่งรีบ

 

 

เมื่อตันหวายจากไปแล้ว โรงอาหารอันใหญ่โตก็เหลือคนอยู่เพียงไม่กี่คน ศาสตราจารย์รับประทานอาหารไปพลางพูดคุยเรื่องงานวิจัยในช่วงนี้กับกงฉือไปพลาง สุดท้ายก็เอ่ยถามอย่างอดไม่ได้ “แกรู้จักกับอาจารย์ฮั่วคณะแพทย์ด้วยหรือ?”

 

 

ตันหวายก้มหน้าลงตอบรับคำหนึ่ง หรี่ตายิ้มกล่าว “น่าจะรู้จักมานานแล้วครับ”

 

 

ศาสตราจารย์ชราขมวดคิ้ว คิดในใจว่ารู้จักก็คือรู้จัก ทำไมต้องน่าจะด้วยล่ะ แต่ว่าศาสตราจารย์อายุมากแล้ว จึงไม่ได้ซักถามอะไรอีก

[นิยายวาย] ทะลุระบบข้ามภพมาหารัก

[นิยายวาย] ทะลุระบบข้ามภพมาหารัก

ตันหวาย นักศึกษาคณะศิลปะที่ประสบอุบัติเหตุรถชนเพราะช่วยชีวิต ไป๋เยว่ รุ่นพี่ที่ตนแอบชอบให้พ้นจากอันตรายจนตัวเองตายแทน วิญญาณจึงทะลุมิติมาอยู่ในระบบ H3883 ซึ่งบีบให้เขาต้องออกเดินทางไปยังโลกต่างๆ เพื่อสวมร่างผู้อื่น และทำภารกิจเพื่อสะสางความแค้นและทำความปรารถนาของเจ้าของร่างเดิมให้เป็นจริง ในชาติแรกมาเขาทะลุมิติมาอยู่ร่างบุตรชายอัครเสนาบดี ชาติที่สองเป็นเรื่องระหว่างภูติกระต่ายและภูติจิ้งจอก ชาติที่สาม ตันหวายมาอยู่ในร่างดาราหนุ่มแห่งโลกโอเมก้าเวิร์ส และในชาติสุดท้ายต้องมาย้ายอยู่ในร่างประมุขสำนักเซียนที่ต้องทำภารกิจคลายปมในใจของศิษย์น้อย หากทำสำเร็จ เขาก็จะฟื้นคืนชีพกลับไปโลกเดิมได้ แต่หากไม่สำเร็จ เขาจะต้องกลายเป็นระบบแทนและติดแหง็กอยู่ที่นี่ไปตลอดกาล!

Options

not work with dark mode
Reset