“อ่า……นี่ข้าทำอะไรผิดไปงั้นรึ?”
“ไม่หรอกค่ะ คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไรเป็นพิเศษ ทำใจให้สบายเถอะค่ะ”
“……งั้นรึ?”
หากพิจารณาจากสารรูปของพวกแคทลียาที่หนีไปแล้ว ก็คิดได้ว่าเฮเลนาอาจทำผิดอะไรลงไปรึเปล่านะ
ทว่า แม้เธอจะเคาะใส่ท้ายทอยไป แต่ก็ไม่ได้เคาะแรงอะไรมากมายขนาดนั้น อันที่จริงน่าจะเรียกว่าแค่ผลักเบา ๆ เองมากกว่า ทั้งที่เป็นเช่นนั้นแต่แคทลียากลับหวีดร้องแล้ววิ่งหนีไปแบบนั้น มันเป็นเพราะอะไรกันแน่หนอ
เอาเถอะ ถ้าอเลกเซียบอกว่าไม่มีปัญหาก็คงไม่มีปัญหาแหละ เฮเลนาชักเริ่มขี้เกียจคิดแล้ว ก็เลยสรุปเอาแบบนั้นเลย
“อืม เอาเถอะ”
ดูจากสภาพเมื่อครู่แล้ว ท่าทางเฮเลนาจะทำให้เธอกลัวไปพอสมควรเลยเดียว เมื่อเป็นเช่นนี้แคทลียาเองก็คงไม่เข้ามายุ่งกับเฮเลนามากไปกว่านี้แล้วล่ะมั้ง
ถึงกระนั้น มันก็มีข้อยกเว้นคือใครบางคนซึ่งมีตำแหน่ง ‘สนมฟ้าดารา’ ที่โดนขู่เอาชีวิตไปซะเต็มเหนี่ยวในงานเลี้ยงน้ำชาแต่ดันกลายเป็นว่ามาติดใจเฮเลนาสุด ๆ แทนซะงั้น
อุตส่าห์นึกว่าจะได้สมาชิกมาร่วมฝึกฝนด้วยกันเพิ่มขึ้นซะอีก รู้สึกผิดหวังจังแฮะ
แต่อันที่จริง ถ้าเพิ่มมาสิบห้าคนแบบกะทันหันเลยก็คงลำบากเหมือนกัน ดังนั้นผลลัพธ์แบบนี้มันอาจดีแล้วก็เป็นได้
“จะกลับแล้วหรือยังคะ?”
“ไม่น่ะ ยังได้ขยับร่างกายไม่พอเลย ข้าจะฟันดาบต่ออีกสักหน่อย”
“ข้าคิดว่าคืนนี้ฝ่าบาทน่าจะเสด็จมา ดังนั้นกรุณาช่วยกลับห้องให้เร็วหน่อยนะคะ”
“……มุ”
เมื่อวานหลับไปทั้งที่เหนื่อยล้าจนถึงที่สุด แต่ถ้าจำไม่ผิดเมื่อวานฟาร์มาสก็บอกไว้เพียงแค่ว่า “คืนนี้เราไปไม่ได้” นี่นา
แปลว่า คืนนี้อาจจะมาก็ได้
การที่ฟาร์มาสมาเยือนนั้นเธอไม่ได้รังเกียจอะไรเป็นพิเศษ ทว่าการที่ต้องคอยจัดสรรเวลาในหลาย ๆ เรื่องมันก็ยุ่งยากน่ารำคาญอยู่เหมือนกัน
นอกจากนั้น ก่อนฟาร์มาสมาเยือน มันก็มีช่วงเวลาอันน่าอับอายที่ต้องโดนอเลกเซียจับอาบน้ำรออยู่ด้วย ชวนให้รู้สึกหดหู่ไม่น้อย
และซ้ำร้ายกว่านั้น
“……แบบว่านะ อเลกเซีย”
“ชุดก็ยังต้องเป็นชุดนั้นค่ะ”
“……”
“หรือว่าอยากจะให้เตรียมชุดที่น่าเอ็นดูยิ่งกว่านี้ให้ดีคะ?”
“……ไม่ล่ะ”
เมื่อเจอกับคำพูดของนางกำนัลรับใช้ที่มีแรงกดดันอย่างน่าประหลาด เธอก็ได้แต่ถอนใจ
ทั้งสามคนขาประจำ ลูเครเซีย รวมทั้งทิฟฟานีก็ได้เห็นสารรูปนี้ไปเรียบร้อยแล้ว นี่ก็แค่เพิ่มฟาร์มาสเข้าไปอีกคนเท่านั้นเอง คิดซะแบบนั้นก็ได้มั้ง
ขอแค่อดทนเพียงวันนี้วันเดียวเท่านั้น
“เอาล่ะ”
ช่างเรื่องที่ฟาร์มาสจะมาเยือนไปก่อน ตอนนี้สิ่งที่ควรทำคือฝึกฝนวิชา
เมื่อก่อนหน้านี้ แม้จะเป็นแค่จินตนาการแต่มารดาผู้แข็งแกร่งที่สุดก็ยังเป็นมารดาผู้แข็งแกร่งที่สุดอยู่วันยังค่ำ เธอไม่คิดว่าจะเทียบเคียงได้แม้กระทั่งฝ่าเท้าด้วยซ้ำ
แม้มันจะจริงอยู่ที่การต่อสู้จริงมีความข้องเกี่ยวกับการฝึกฝนขัดเกลาตนอันไม่มีสิ้นสุด แต่หากละเลยพื้นฐานไปมันก็เหมือนกับวางเกวียนไว้หน้าม้า ก่อนอื่นเธอควรเริ่มจากทบทวนกระบวนท่าพื้นฐานก่อนสินะ
ว่าแล้วเฮเลนาก็ยกดาบใหญ่ขึ้น
“……หืม?”
จังหวะนั้นเอง—เธอก็เห็นเงาร่างเล็ก ๆ อยู่ตรงโถงทางเดินตัดผ่าน
พอลองชำเลืองตาตรวจสอบดูสักหน่อย ก็ดูเหมือนว่าจะเป็นชาร์ลอตเตแฮะ เมื่อครู่จากไปแบบไม่พูดไม่จา แต่คราวนี้เหมือนจะมาดูอยู่ห่าง ๆ สินะ
แต่การฝึกของเธอมันก็ไม่ใช่ของที่ดูแล้วเพลิดเพลินซะหน่อยนะ
ทว่าที่เป็นปริศนากว่านั้น ก็คือไม่รู้ว่าด้วยเหตุผลอันใดชาร์ลอตเตถึงได้กำลังถือไม้กระบองที่มีความยาวพอ ๆ กับส่วนสูงของตัวเธอเองอยู่ด้วย
เอาเถอะ
เฮเลนาโยนความคิดฟุ้งซ่านทิ้งไป แล้วก็เริ่มทบทวนกระบวนท่าพื้นฐาน
กระบวนท่าของดาบใหญ่นั้นก็ไม่ได้ต่างอะไรจากดาบยาวเป็นพิเศษ เว้นเสียแต่ขนาดของมันที่ต่างกันคนละชั้น และยังมีน้ำหนักมากกว่าหลายเท่า จึงจำเป็นต้องใช้งานโดยพึ่งพาแรงเหวี่ยงหนีศูนย์ไปด้วย
ดังนั้น การเคลื่อนไหวของมันจึงไม่ได้มีอิสระมากเท่าดาบธรรมดา
เพราะเป็นดาบใบกว้างจึงไม่นิยมเอามาใช้แทง แต่ในทางกลับกันดาบใหญ่ที่มีความหนักเป็นอาวุธนั้นก็เหมาะสมที่สุดในการใช้ฟันแกว่งไปรอบ ๆ
กระบวนท่าแรก การฟันจากบนลงล่าง
ในสนามรบนั้นการใช้อาวุธซึ่งเคลื่อนไหวได้ลื่นไหลไม่ติดขัดและต่อสู้ต่อเนื่องไปได้เรื่อย ๆ คงเป็นวิธีที่เหมาะสมกว่า
ทว่านี่คือสถานที่แห่งการฝึกฝน ดาบใหญ่นั้นแค่เคลื่อนไหวเพื่อยกมันขึ้นมาก็เป็นการสร้างกล้ามเนื้อได้แล้ว ดังนั้นเฮเลนาจึงจงใจไม่พึ่งพาแรงเหวี่ยง และเงื้อดาบใหญ่ขึ้นด้วยกำลังของตนเองเท่านั้น จากนั้นก็ฟันลงด้านล่าง รู้สึกได้ว่ากล้ามเนื้อกำลังส่งเสียงเปรี้ยะ ๆ อย่างเจ็บปวดแต่มันก็ทำให้รู้สึกดีด้วยเหมือนกัน
ที่โถงทางเดินตัดผ่าน ชาร์ลอตเตเองก็กำลังเงื้อไม้กระบองขึ้นแล้วก็ฟาดลงล่างเช่นเดียวกัน
ดูเหมือนว่าเธอจะกำลังเลียนแบบเฮเลนาอยู่แฮะ ถึงท่าทางการยืนจะมั่วซั่วไปหมดเลยก็เถอะ
ก่อนอื่นเฮเลนาก็ฟันจากบนลงล่างซ้ำ ๆ
เงื้อดาบขึ้นอย่างสุดกำลัง ฟันลงอย่างสุดกำลัง แล้วก็หยุดดาบก่อนที่จะสัมผัสกับพื้นดิน ดาบใหญ่ที่ได้แรงดึงดูดช่วยส่งเสริมนั้นย่อมไม่อาจยับยั้งได้โดยง่าย อันที่จริงการจะหยุดมันนี่แหละที่ต้องใช้กำลังทั้งหมดอย่างแท้จริง
‘ฮึบ ฮึบ’ เธอออกเสียงแค่ในใจเพื่อใส่แรง แล้วก็ตั้งหน้าตั้งตาทำซ้ำไปเรื่อย ๆ
ชาร์ลอตเตเองก็กำลังฟาดกระบองลงล่างซ้ำ ๆ อยู่ตรงโถงทางเดินตัดผ่านเช่นเดียวกัน
ระหว่างทำไปก็มีครั้งหนึ่งที่กระบองไปกระแทกเข้ากับพื้นเสียเต็มแรงจนเธอดิ้นทุรนทุราย เกรงว่ามือทั้งสองคงชาไปหมดแล้วกระมัง
“เอ่อ ท่านเฮเลนาคะ”
“ไม่เป็นไร ข้าเห็นแล้วล่ะ”
“เช่นนั้นแล้ว……”
“ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะช่วยฝึกสอนให้ แต่ทางนั้นดันมองข้าเป็นศัตรูอยู่นี่นา หากอยากจะดูนักก็เชิญดูให้พอใจเลยก็ได้ จนกว่าเธอจะพูดออกมาเองว่าอยากให้ฝึกสอนก็ปล่อยไว้แบบนั้นเถอะ”
“รับทราบแล้วค่ะ”
อเลกเซียคำนับรับคำ
แม้จะติดใจเรื่องชาร์ลอตเต แต่ตอนนี้ไปสนใจก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา ขืนเข้าไปทักมั่วซั่วตอนนี้เธอก็คงหนีไปหรือไม่ก็โมโหใส่อย่างใดอย่างหนึ่งแน่ ๆ
ถ้างั้นปล่อยให้ทำตามใจไปก็น่าจะดีที่สุด
ดูเหมือนว่าจะเริ่มหายชาแล้ว แต่ชาร์ลอตเตก็ยังลูบมือทั้งสองเหมือนกำลังเจ็บอยู่
ฟาดใส่พื้นไปซะเต็มแรงแบบนั้นมันก็ช่วยไม่ได้ล่ะนะ
จากนั้นเฮเลนาก็เปลี่ยนไปฝึกกระบวนท่าต่อไป
อันดับต่อไปคือการฟันแนวขวาง ข้อได้เปรียบใหญ่ที่สุดของดาบใหญ่ก็คือระยะของมันนั่นเอง
การใช้ดาบยาวฟันกวาดในแนวขวางก็จะนำไปสู่การกดดันควบคุมคู่ต่อสู้เป็นวงกว้างได้ หากเป็นสนามรบที่ไม่มีฝ่ายมิตรอยู่ใกล้ ๆ ขอแค่ฟันกวาดไปเรื่อย ๆ ก็สามารถป้องกันไม่ให้ศัตรูเข้ามาประชิดได้แล้ว แต่หากเป็นศึกตะลุมบอนที่มีทั้งมิตรและศัตรูปะปนกันอยู่ก็มีความเสี่ยงที่จะฟันโดนพวกเดียวกันเองไปด้วย ดังนั้นต้องคอยระวังรอบ ๆ ตัวเองเอาไว้ให้ดี
ระหว่างที่คิดเช่นนั้นเฮเลนาก็คำนึงระยะของดาบใหญ่ แล้วก็เว้นระยะห่างออกมาเพื่อไม่ให้อเลกเซียโดนลูกหลง จากนั้นก็เริ่มฟันกวาดแนวขวางซ้ำไปมา
ทันใดนั้น ชาร์ลอตเตเองก็ฟาดกระบองเป็นแนวขวางซ้ำไปมาเช่นเดียวกัน
ถึงกระนั้น บุตรีขุนนางปกติย่อมไม่เคยได้กวัดแกว่งสิ่งของไปมาอยู่แล้ว ดังนั้นแข้งขาของเธอจึงพันกัน
อ๊ะ สะดุดล้มไปแล้ว
น้ำตาเล็ดออกมานิดหน่อยด้วย
“……เฮ้อ ให้ตายสิ”
เพื่อให้แม้แต่คนที่มองอยู่ไกล ๆ ก็ยังเข้าใจ เฮเลนาจึงออกท่าเท้าอย่างตั้งใจกว่าปกติเล็กน้อย
ท่าเท้ากับการยืนนั่นเป็นเรื่องสำคัญมาก หากฟาดกระบองไปมาโดยที่ไม่รู้พื้นฐานเลย มันก็มีความเป็นไปได้สูงที่จะหกล้มเหมือนชาร์ลอตเต
ยืดสันหลังให้ตรง อ้าขาออกให้กว้างเพื่อให้มีฐานรองรับน้ำหนักที่เพียงพอ เพียงแค่นั้นก็น่าจะไม่หกล้มแล้วล่ะ
ชาร์ลอตเตดูเหมือนจะสังเกตเห็นถึงเรื่องนั้นแล้ว แม้จะเชื่องช้าแต่เธอก็ปรับท่าทางการยืนของตนเอง แล้วก็เริ่มฟาดกระบองอีกครั้ง
ไม่รู้ว่าทำแล้วร่างกายมันมั่นคงกว่าที่คิดไว้หรืออย่างไร เธอจึงมีท่าทีเหมือนตกใจเล็กน้อย
การฟาดจากบนลงล่าง การฟันเฉือน การฟาดกวาดแนวขวาง การปัดดาบในแนวเฉียง เฮเลนาวาดดาบซ้ำไปมาจากมุมต่าง ๆ ที่หลากหลายอย่างต่อเนื่อง
ชาร์ลอตเตเองแม้จะเคลื่อนไหวแบบงู ๆ ปลา ๆ แต่ก็เลียนแบบเฮเลนาพลางฟาดกระบองซ้ำไปมาอย่างต่อเนื่อง
แม้จะมีระยะห่างเป็นสวนระหว่างอาคารกับโถงทางเดินกั้นพวกเธอเอาไว้ แต่ในชั่วขณะนี้ก็กล่าวไว้ว่าพวกเธอนั้น คืออาจารย์และศิษย์
“ท่านเฮเลนาคะ ใกล้จะได้เวลาแล้วค่ะ”
“……อืม งั้นรึ”
ตะวันใกล้จะตกดินแล้ว
กลับไปห้องทั้งแบบนี้ แล้วก็อาบน้ำ รับประทานทานอาหารเย็น จากนั้นก็รอฟาร์มาสมาเยือนก็น่าจะกำลังดี
เธอเช็ดเหงื่อด้วยผ้าเช็ดหน้า แล้วก็มองไปทางโถงทางเดิน
ตอนนั้นเอง เธอก็สบตาเข้ากับชาร์ลอตเต
“—!”
“……”
‘กึก’ ชาร์ลอตเตจ้องเขม่นใส่เฮเลนา
ทว่าการทำเป็นเก่งกาจเช่นนั้นดูไปแล้วก็เหมือนสัตว์ตัวเล็ก ๆ ที่กำลังพยายามข่มขวัญคู่ต่อสู้ ชักรู้สึกว่ามันน่าเอ็นดูขึ้นมาเหมือนกัน
ดังนั้น เฮเลนาจึงได้โบกมือแล้วก็ส่งยิ้มกลับคืนไป
“……”
เมื่อเฮเลนายิ้มแย้มแบบนั้นแล้ว ชาร์ลอตเตก็หน้าแดงก่ำ
ก่อนจะคว้ากระบองขึ้นมาอย่างรุนแรงแล้วก็จากไปจากที่แห่งนั้น