(นิยายแปล) ตำนานวังหลังของพระชายาขาบู๊ – ตอนที่ 97

 

แม้พฤติกรรมของชาร์ลอตเตจะเป็นปริศนา แต่บางทีเจ้าตัวอาจมีอะไรในใจหลาย ๆ เรื่องก็เป็นได้ ในเมื่อไปถามเจ้าตัวโดยตรงไม่ได้ สุดท้ายเฮเลนาก็เลยสรุปเอาว่าแบบนั้น แล้วก็กลับห้องของตนเอง

จากนั้นเธอก็รับประทานมื้อเย็นอันเย็นชืดที่อเลกเซียนำมาเสิร์ฟให้ ซึ่งก็เหมือนทุกครั้งที่รสชาติมันก็อร่อยอยู่หรอกแต่ดันเย็นชืดซะจนทำให้เสียรสชาติไปหมดแล้ว ถ้ามีอะไรที่ใช้อุ่นอาหารได้ในชั่วอึดใจเดียวก็คงจะดีแท้ ๆ

ว่าไปแล้ว เธอก็นึกขึ้นมาว่าปาร์ตี้หม้อไฟคราวก่อนก็สนุกดีนะ

ไว้โอกาสหน้าจัดกันอีกก็ดีเหมือนกัน แต่คราวนี้คงต้องห้ามมีสุราแล้ว

ไหน ๆ ก็ไหน ๆ โอกาสหน้าให้อเลกเซียกับแคลร์ แล้วก็สาวใช้ของมาริเอลที่เธอไม่รู้จักชื่อมาร่วมรับประทานด้วยกันก็น่าสนใจไม่น้อย แม้ในฐานะบุตรีขุนนางแล้วมันอาจเป็นพฤติกรรมที่ไม่ค่อยเหมาะสมนัก แต่มาริเอลก็เป็นลูกสาวของพ่อค้า ส่วนฟรองซัวส์กับคลาริสซาก็ดูจะไม่ค่อยถือสาเรื่องพวกนี้อยู่แล้วกระมัง

หม้อไฟน่ะ อย่างไรมันก็ต้องรับประทานกันหลาย ๆ คนถึงจะอร่อย

 

“อื้ม”

 

“……มีอะไรหรือคะ?”

 

“เปล่า ไม่มีอะไรหรอก”

 

ดูเหมือนจะเผลอหลุดปากออกไปแฮะ

ทว่าเอาเข้าจริง อเลกเซียก็ดูเหมือนจะยังไม่ค่อยเชื่อฝีมือการทำอาหารของเฮเลนาสักเท่าไหร่ เฮเลนาจึงอยากจะทำให้เธอได้ลองรับประทานดูเหมือนกัน ทั้งฟรองซัวส์ คลาริสซา มาริเอลก็ดูจะพอใจกันนี่นา มันน่าจะถูกปากอเลกเซียเหมือนกันนั่นแหละ

มาริเอลเคยบอกว่า ‘คราวหน้าช่วยแจ้งให้ทราบล่วงหน้ามากกว่านี้หน่อย’

ลองชักชวนดูว่าจะจัดปาร์ตี้หม้อไฟอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้ดูดีกว่า

 

ระหว่างที่กำลังคิดเรื่องไม่มีแก่นสารเช่นนั้นไปพลาง เธอก็ได้รับประทานมื้อเย็นอันเย็นชืดจนเสร็จสิ้น

จากนั้นเฮเลนาก็พยายามอดทนกับช่วงเวลาน่าอับอายภาคบังคับซึ่งก็คือการโดนจับอาบน้ำโดยอเลกเซีย และแล้วเมื่อตะวันลับฟ้าไป ผู้ที่มาเยือนก็คือ

 

ฟาร์มาสนั่นเอง

 

ฟาร์มาสมาปรากฏตัวโดยมีเกรเดียติดตามมา พร้อมกับการนำทางของหัวหน้านางกำนัลอิซาเบลเหมือนเช่นเคย

เมื่อประตูเปิดออก เขาก็โบกมือเหมือนทุกครั้ง แล้วก็มองสภาพของเฮเลนา

จากนั้น ก็แข็งทื่อไป

 

“…………เอ๋?”

 

“……ยากลำบากหน่อยนะคะฝ่าบาท”

 

“……………………เฮเลนารึ?”

 

ฟาร์มาสกล่าววาจาที่ฟังดูเสียมารยาทอย่างบอกไม่ถูกออกมาเช่นนั้น

ถึงกระนั้น ในเมื่อเธอกำลังแต่งกายแตกต่างจากปกติอย่างมากเช่นนี้ มันก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้กระมัง

อดคิดไม่ได้ว่าไว้อเลกเซียกลับไปแล้วเธอแอบไปเปลี่ยนชุดในห้องอาบน้ำดีไหมนะ

 

“ค่ะ เฮเลนา เรลโนตเองค่ะ”

 

“……อ่า ขอโทษที เพราะเจ้าแต่งกายต่างไปจากปกติมากทีเดียว เลยเผลอคิดไปแว้บหนึ่งว่าเข้าห้องผิดซะแล้วรึเปล่าน่ะ”

 

“……ก็ นั่นสินะคะ”

 

เฮเลนายิ้มหน้าชื่นอกตรม พลางเขม่นตามองใส่อเลกเซียที่ยืนไม่รู้ไม่ชี้อยู่ตรงมุมห้อง

จะใครหน้าไหนเห็นสภาพนี้แล้วก็ตกใจกันหมด เฮเลนาย่อมได้รับทราบอย่างชัดเจนแล้วว่ามันดูไม่เหมาะ ดังนั้นจึงอยากจะรีบ ๆ เปลี่ยนชุดแล้ว จากใจจริงเลยล่ะ

ทว่าเมื่อได้ฟังคำของเฮเลนา ฟาร์มาสก็ผุดยิ้มบาง ๆ

 

“เหมาะมากเลยล่ะ”

 

“……ท่านฟาร์มาสคะ ไม่จำเป็นต้องยกยอเช่นนั้น…”

 

“ไม่ได้ยกยอหรอก แม้เราจะตกใจอยู่บ้าง แต่การแต่งกายของเจ้าที่ต่างไปจากทุกทีนั้นก็มีความงดงามไปอีกแบบเช่นกัน เกรเดียแล้วก็นางกำนัลเอ๋ย ออกไปเถอะ”

 

“รับทราบเพคะ”

 

เมื่อฟาร์มาสกล่าวจบ อเลกเซียกับอิซาเบลก็ถอนตัวออกไป

ทว่า มีเพียงแต่เกรเดียที่ยังคงแข็งทื่ออยู่เหมือนกับฟาร์มาสเมื่อสักครู่นี้

หากจะให้พูดถึงเกรเดียแล้ว เฮเลนารู้จักกับเขามาน่าจะตั้งแต่สมัยเฮเลนายังเป็นแค่สิบโท แต่เธอก็ไม่เคยแต่งกายแนวนี้ให้เขาเห็นเหมือนกัน ดังนั้นเขาถึงได้กำลังตกใจอยู่แบบนี้กระมัง

 

“……เกรเดีย?”

 

“อา……ห้ะ!? ข ขออภัยพะยะค่ะฝ่าบาท”

 

“เป็นอะไรไปน่ะ ติดใจเรื่องอะไรงั้นรึ?”

 

“เปล่าพะยะค่ะ มิใช่เช่นนั้นเลย ต้องขออภัยด้วยพะยะค่ะ”

 

“หืม……?”

 

ฟาร์มาสรู้สึกฉงนกับท่าทีแปลก ๆ ของเกรเดีย

ฝ่ายเฮเลนา เธอก็ไม่ได้กล่าวอะไรออกไป เพราะแม้อีกฝ่ายจะเป็นอดีตผู้บังคับบัญชา แต่แค่สนทนากับบุรุษก็อาจนำไปสู่ข้อครหาว่าคบชู้สู่ชายได้แล้ว

ทว่า—เกรเดียกลับพูดสิ่งที่ผิดคาดออกมา

 

“ขออนุญาตพะยะค่ะฝ่าบาท”

 

“มีอะไรรึ”

 

“กระหม่อมนั้นรับทราบดีอยู่แล้วว่าเฮเลนาคือพระสนมของฝ่าบาทที่ทรงรักใคร่โปรดปราน คำขอนี้ย่อมไม่มีเจตนาเป็นอื่น ทว่าขอให้กระหม่อมได้แลกเปลี่ยนวาจากับเฮเลนาสักเล็กน้อยได้หรือไม่พะยะค่ะ”

 

“……หมายความว่ายังไงกัน?”

 

เมื่อเห็นเกรเดียกล่าวพลางก้มศีรษะให้ ฟาร์มาสก็ส่งสายตาแปลก ๆ กลับไป

ที่ผ่านมาเกรเดียก็เคยติดตามมาเยือนพร้อมกับฟาร์มาสหลายครั้งหลายหนแล้ว แต่การที่พูดเช่นนี้ออกมาก็นับเป็นครั้งแรกเลย

มีธุระสำคัญอะไรสักอย่างหรือเปล่านะ

 

“……ฮืม เอาเถอะ ได้สิ บางครั้งจักรพรรดิก็มีหน้าที่ต้องตอบสนองความต้องการของข้าราชบริพารที่ซื่อสัตย์เหมือนกัน”

 

“ขอบพระทัยฝ่าบาท”

 

เกรเดียกล่าวพลางคำนับให้กับฟาร์มาส จากนั้นก็หันมาทางเฮเลนาอีกครั้ง

มีเรื่องอะไรกันแน่นะ—เฮเลนาอดไม่ได้ที่จะรู้สึกเกร็งขึ้นมา

 

“เฮเลนา”

 

“ค่ะ แม้ได้เห็นท่านหลายครั้งแล้ว แต่ก็ไม่ได้พูดคุยกันเช่นนี้เสียนานเลยนะคะ ท่านแม่ทัพ”

 

“มุ……อ อา นั่นสินะ คือว่า โทษทีนะ แต่ว่า……ข้ามีเรื่องอยากขอร้องไหว้วานสักเล็กน้อยน่ะ”

 

“คะ?”

 

คำขอร้องไหว้วานของเกรเดีย

มาไหว้วานเฮเลนาที่อยู่ในวังหลังแบบนี้ มันเรื่องอะไรกันแน่นะ

ถึงกระนั้น เกรเดียเองก็เคยช่วยเหลือดูแลเธอมาหลายครั้งตั้งแต่สมัยที่สังกัดในกองทัพ ในเมื่อเป็นเรื่องที่เกรเดียคนนั้นอุตส่าห์มาไหว้วานขอร้อง เฮเลนาก็ไม่มีเหตุผลที่จะต้องปฏิเสธเลย

 

“ค่ะ ถ้าเป็นเรื่องที่ข้าทำได้ล่ะก็”

 

“อืม……คือว่า ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไรหรอกนะ แต่ว่า”

 

“ค่ะ”

 

เกรเดียกล่าวติดขัดเหมือนพูดยาก จากนั้นก็กลืนน้ำลายอึกใหญ่

ดูไปแล้วเหมือนแก้มเขาจะแดง ๆ ชอบกล แต่เฮเลนาคงแค่คิดไปเองล่ะมั้ง

 

“ยังไงก็ อยากให้ช่วยพูดหน่อยน่ะ”

 

“คะ?”

 

“พูดว่า ‘เกรเดีย! อย่ามัวปอดแหกอยู่สิ ยังมีลูกกระแป๋งอยู่รึเปล่า! จากวันนี้ไปเรียกว่าไอ้ลูกกระแป๋งซะเลยดีมั้ย!’ หน่อย”

 

“………………………………คะ?”

 

เพราะเป็นคำพูดที่นอกเหนือความคาดหมายเกินไป เฮเลนาจึงอดไม่ได้ที่จะพูดอะไรไม่ออก

ทว่า เกรเดียก็ยังคงส่งสายตาจริงจัง แล้วก็กล่าวซ้ำอีกครั้ง

 

“ ‘เกรเดีย! อย่ามัวปอดแหกอยู่สิ ยังมีลูกกระแป๋งอยู่รึเปล่า! จากวันนี้ไปเรียกว่าไอ้ลูกกระแป๋งซะเลยดีมั้ย!’ น่ะ เอ่อ จะพูดทั้งที่นั่งอยู่แบบนั้นก็ได้ แต่ขอแบบใส่อารมณ์โมโหมาเท่าที่จะทำได้เลยนะ!”

 

“…………คือว่า ข้าไม่เข้าใจ”

 

“ขอร้องล่ะ! ได้โปรด!”

 

“เอ๋……”

 

เกรเดียนั้นเป็นผู้มีพระคุณที่เคยช่วยเหลือเธอมาหลายครั้งสมัยอยู่กองทัพ

การที่ต้องมาพ่นคำด่าทอใส่ผู้มีพระคุณแบบนั้นเนี่ย มันเป็นการทรมานแบบไหนกัน

 

“……คือว่า ท่านฟาร์มาสคะ”

 

“…..วางใจเถอะเฮเลนา เราเองก็กำลังทำตัวไม่ถูกเหมือนกัน”

 

“นั่นสินะคะ……”

 

ไม่รู้ว่าเกรเดียมีเป้าหมายอะไรถึงอยากให้ช่วยด่า แต่เจ้าตัวก็เป็นคนบอกเองว่าอยากให้ทำเช่นนั้น

ยิ่งไปกว่านั้น ตอนที่โดนบอกว่ามีเรื่องจะขอร้อง เธอก็ได้ตอบไปแล้วว่า ‘ถ้าเป็นเรื่องที่ข้าทำได้ล่ะก็’ และการจะให้ด่าเกรเดียตอนนี้ก็ไม่ใช่เรื่องที่เธอจะทำไม่ได้

แม้เกรเดียที่ก้มหัวขอร้องโดยมีเส้นเลือดขึ้นในตาจะรู้สึกน่าขนลุกอยู่บ้าง แต่มันก็ไม่ใช่คำขอที่เธอจะทำให้ไม่ได้เลย

 

‘ควรจะทำยังไงดีนะ’ เธอครุ่นคิดพลางหันไปมองฟาร์มาส แต่ทางนั้นก็ส่ายหน้ากลับมา

ดูเหมือนว่าจะไม่มีทางเลือกนอกจากต้องทำแฮะ

 

“อ่า ท่านแม่ทัพ”

 

“เฮเลนาเอ๋ย ข้ารู้ดีว่ามันเป็นคำขอที่ฝืนใจกันมาก แต่ว่า……ขอร้องล่ะ!”

 

“…………เข้าใจแล้วค่ะ”

 

สุดท้ายแล้วเฮเลนาก็เป็นฝ่ายยอม

หากอยากให้ด่างั้นเธอก็จะด่า ถ้านั่นมันจะทำให้เกรเดียพอใจล่ะก็

 

“อะแฮ่ม……เอ่อ……เกรเดีย!”

 

“ค ครับผม!”

 

“อย่ามัวปอดแหกอยู่สิ ยังมีลูกกระแป๋งอยู่รึเปล่า! จากวันนี้ไปเรียกว่าไอ้ลูกกระแป๋งซะเลยดีมั้ย!”

 

“อ อาาาา—……!”

 

เฮเลนากลั้นความเขินอายเอาไว้อย่างสุดกำลังแล้วก็ด่าทอออกไปเช่นนั้น

และเมื่อได้ฟังคำของเฮเลนา

เกรเดีย—ก็หลั่งน้ำตาด้วยความซาบซึ้งใจ

 

“อา……! ‘จักรพรรดินี’ ของพวกเรา……!”

 

“……พอใจรึยัง เกรเดีย ถ้าพอใจแล้วก็ไปได้แล้ว”

 

“พะยะค่ะ……ขอบพระทัยอย่างสูง เฮเลนา ขอโทษด้วยนะที่ให้พูดอะไรแปลก ๆ”

 

“ค่ะ……”

 

ตามมารยาทก็ควรจะตอบว่า ‘ไม่หรอกค่ะ’ แต่เธอก็โดนบอกให้พูดอะไรแปลก ๆ จริง ๆ ก็เลยได้แต่ตอบกลับไปเช่นนั้น

แถมหลังจากพูดออกไปแล้วก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่าเป้าหมายของมันคืออะไร ไม่มีช่วงเวลาให้คำเฉลยว่าทำไมถึงอยากจะโดนด่าทอด้วย

เกรเดียลุกขึ้นทันทีหลังจากนั้น แล้วก็โค้งคำนับอย่างเคารพนบนอบ ก่อนจะถอนตัวจากไป

ด้วยท่าทางยินดีอย่างบอกไม่ถูก

 

“……ท่านฟาร์มาสคะ”

 

“ไม่ต้องพูดหรอก เราเองก็รู้สึกเหมือนได้เห็นด้านที่ไม่อยากเห็นของข้ารับใช้เหมือนกัน”

 

และฟาร์มาสที่เหลืออยู่คนเดียวในห้อง

ก็กำลังกุมขมับพลางกล่าวเช่นนั้นออกมา

 

(นิยายแปล) ตำนานวังหลังของพระชายาขาบู๊

(นิยายแปล) ตำนานวังหลังของพระชายาขาบู๊

Comment

Options

not work with dark mode
Reset