ก่อนอื่น เฮเลนาก็อดทนต่อศีรษะที่เจ็บปวดกับร่างกายที่เกียจคร้าน และตัดสินใจจะมุ่งหน้าไปยังสวนระหว่างอาคาร
มีการฝึกอบรมช่วงเช้าเป็นประจำอยู่ ดังนั้นวันนี้ทั้งสามก็คงมาเหมือนเดิม แถมบรรดาคนของกองอัศวินหมาป่าเงินก็น่าจะมาด้วย ยิ่งไปกว่านั้นได้ขยับร่างกายบ้างมันก็น่าจะช่วยให้อาการเมาค้างทุเลาลงได้เร็วขึ้น
เมื่อคิดได้เช่นนั้น เธอจึงมุ่งไปยังสวนระหว่างอาคารโดยมีอเลกเซียติดตามไปด้วย
“อ อรุณสวัสดิ์ค่ะ……!”
“อ่า……อุ๊ฟ อรุณ สวัสดิ์ค่ะ……”
ฟรองซัวส์กับคลาริสซากล่าวต้อนรับทั้งที่กำลังหน้าซีดสุด ๆ
ไม่ว่าคนไหนก็ชัดเจนว่ายังมีสุราตกค้าง เฮเลนาจำไม่ได้สักนิดแต่ดูเหมือนสองคนนี้ก็คงได้ดื่มไปด้วย สำหรับฟรองซัวส์ที่อายุสิบสามกับคลาริสซาที่อายุสิบสี่ สุราน่าจะยังเร็วไปสำหรับพวกเธอ แต่เรื่องมันผ่านไปแล้วก็ช่วยไม่ได้ล่ะนะ
และที่อยู่ข้าง ๆ กันนั้นก็คือมาริเอล
“อ อรุณสวัสดิ์ค่ะ……ท่านพี่หญิง”
“อา อรุณสวัสดิ์”
แม้เธอจะไม่ได้กำลังรู้สึกแย่จนหน้าซีดเขียวเท่าฟรองซัวส์กับคลาริสซา แต่มาริเอลเองก็ดูซีดไปเล็กน้อยเหมือนกัน
ภาพของเธอที่ลอบมองเฮเลนาเป็นพัก ๆ ชวนให้นึกถึงสัตว์ตัวเล็ก ๆ ที่กำลังสั่นกลัว
และนอกจากนั้น
“อรุณสวัสดิ์จ้ะ หนูเฮเลนา”
“อรุณสวัสดิ์ค่ะ ท่านเฮเลนา”
“ทำไมกันคะ”
เฮเลนาเผลอกล่าวออกไปเช่นนั้นโดยอัตโนมัติ
ที่ถามว่าทำไม ก็หมายถึงสองคนคือพระพันปีลูเครเซียกับ “ขุนศึกหมาป่าเงิน” ทิฟฟานี ซึ่งไม่รู้ว่าทำไมมาอยู่ที่นี่ได้นั่นเอง
แต่เดิมที เพื่อไม่ให้มันเป็นแบบนี้เธอถึงได้บอกลูเครเซียว่าให้ทิฟฟานีเป็นคนฝึกอบรมไปแล้วนี่นา
ทว่า เมื่อได้ฟังคำของเฮเลนา ลูเครเซียก็ยิ้ม ‘หุหุ’
“ที่ว่าทำไมเนี่ย หมายถึง?”
“เอ่อ……ข้าคิดว่าท่านลูเครเซียรับการฝึกสอนจากทิฟฟานีน่าจะเหมาะสมที่สุดนะคะ……”
“ใช่จ้ะ นี่ก็ตั้งใจจะรับการฝึกสอนจากทิฟฟานีนั่นแหละ แต่มารับการฝึกสอนตรงนี้ก็ได้ใช่ไหมล่ะจ้ะ?”
“เรื่องนั้น……”
วันนี้บรรดาคนของกองอัศวินหมาป่าเงินไม่ได้มาด้วย ปกติแล้วควรจะมาอยู่กันประมาณสิบคน แต่เฉพาะวันนี้เท่านั้นที่ไม่มีใครมาเลย
หมายความว่า แม้สวนระหว่างอาคารมันจะไม่กว้างขวางนัก แต่เมื่อรวมเฮเลนาแล้วทั้งหมดก็มีแค่หกคน มันย่อมกว้างขวางพอที่จะใช้ฝึกอบรมกันได้นั่นเอง
ใช้ความคับแคบเป็นข้ออ้างไม่ได้ซะด้วย
การที่สามคนหน้าซีดกันแบบนั้น นอกจากเพราะอาการไม่ดีจากการเมาค้างแล้ว การที่ลูเครเซียอยู่ที่นี่ก็คงเป็นอีกหนึ่งสาเหตุ
ถึงแม้ตัวการนั้นจะกำลังยิ้มแย้ม ‘หุหุ’ อยู่ก็เถอะ
“อีกอย่าง ฉันก็อยากเห็นสักครั้งด้วยนะ”
“อยากเห็นอะไรหรือคะ?”
“การเอาจริงของหนูเฮเลนาไงล่ะ”
‘หืม’ เฮเลนาเลิกคิ้ว
และพร้อมกันนั้นทิฟฟานีก็พยักหน้า
“ผู้ที่จะทำให้ท่านเฮเลนาเอาจริงได้นั้น อย่างน้อยที่สุดคงต้องมีฝีมือยุทธระดับแปดยอดขุนศึกค่ะ และในบรรดาแปดขุนศึกทั้งหมดในปัจจุบัน ผู้ที่เป็นสตรีก็มีแค่ดิฉันเท่านั้น อาจเป็นการล่วงเกินไปบ้าง แต่ทิฟฟานี รีดผู้นี้จะขอเป็นคู่มือให้ท่านเฮเลนาเองค่ะ”
“ฮืม……”
คู่ต่อสู้ที่เฮเลนาคิดว่าไม่สามารถเอาชนะได้ ก็มีมารดาแท้ ๆ เรย์ลา, อดีต “ขุนศึกพยัคฆ์แดง” เกรเดีย, “ขุนศึกพยัคฆ์แดง” คนปัจจุบัน วิกเตอร์, “ขุนศึกหมีน้ำเงิน” บาร์โตโลเม ประมาณนี้เท่านั้น
แม้จะมีบางคนที่ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขบางอย่าง อย่างเช่น “ขุนศึกอาชาขาว” ลุดวิก เออร์เนมันน์เวลาที่ขี่ม้า หรือพี่ชายแท้ ๆ ของเธอ “ขุนศึกวิหคดำ” ริกฮาร์ด เรลโนตในศึกต่อสู้ระยะไกล แต่กับแปดยอดขุนศึกที่เหลือหากต่อสู้กันแล้วเฮเลนาก็คงสามารถสู้ได้อย่างสูสี
และสำหรับทิฟฟานี หากเทียบในบรรดาแปดยอดขุนศึกทั้งหมด ฝีมือยุทธของเธอนับว่าอยู่ระดับล่าง ๆ ไม่ว่าจะสู้ภายใต้เงื่อนไขแบบไหนเฮเลนาก็คงสามารถเอาชนะได้อย่างแน่นอน
ทว่านี่ก็ไม่ได้หมายความว่าทิฟฟานีนั้นอ่อนแอ
อย่างน้อยที่สุด ถ้าดูในความหมายที่ว่าหากเฮเลนาไม่เอาจริงก็ไม่สามารถเป็นคู่ต่อสู้ให้ได้ ทิฟฟานีก็เหมาะสมที่สุดแล้วที่จะใช้วัดความแข็งแกร่งของเฮเลนา
“เช่นนั้น ท่านลูเครเซียคะ ก่อนอื่นข้าจะต้องฝึกอบรมประจำวันให้กับทั้งสามคนก่อน ดังนั้นเอาไว้หลังจากนั้นได้ไหมคะ”
“อา ได้สิจ๊ะ”
ลูเครเซียพยักหน้าอย่างง่าย ๆ ให้กับคำขอของเฮเลนา จากนั้นก็หันไปมองทั้งสามคน
แล้วก็เอียงศีรษะด้วยความฉงน
“……ว่าแต่ว่า ฉันคิดไปเองหรือเปล่าว่าทุกคนดูอาการไม่ค่อยดีกันเลยน่ะ?”
“เรื่องนั้น……”
ฟรองซัวส์ที่ดูเกือบจะเป็นลมอยู่แล้ว คลาริสซาที่คลื่นไส้เหมือนจะอาเจียนออกมาเดี๋ยวนี้ กับมาริเอลที่กำลังหน้าซีด
จะว่าไปแล้ว ดูยังไงก็ไม่มีความสดใสกันเลยสักนิด
พูดตามตรงแล้ว เฮเลนาเองก็แค่ไม่ได้แสดงออกมาทางสีหน้าเฉย ๆ แต่ในหัวเธอมันยังปวดตุ้บ ๆ อยู่เลย
“ด ได้โปรดอย่าใส่ใจพวกข้าเลยค่ะ!”
ฟรองซัวส์กล่าวเช่นนั้นตอบกลับคำถามของลูเครเซีย
สำหรับพวกเธอแล้ว นอกจากจะเมาค้างอย่างหนักแล้ว ยังมีคนที่สูงเหนือฟ้าอย่างลูเครเซียมาอยู่ตรงนี้ด้วย เป็นสภาพการณ์ที่บ้าบอสุด ๆ ต่อให้ถูกสั่งให้ฝึกฝนวิชากันเหมือนทุกทีทั้งแบบนี้ ร่างกายมันก็คงไม่ยอมขยับ
“เอ่อ……สองคนนั้นฉันไม่เคยเจอมาก่อน แต่เธอคือลูกสาวของบารอนรีเวียร์ใช่ไหมจ๊ะ?”
“ค ค่ะ! ดิฉันมาริเอล รีเวียร์ค่ะ!”
“มีเรื่องอะไรกันงั้นรึ? ดูอาการไม่ดีเอามาก ๆ เลยนะ……”
“ป เปล่าค่ะ! ค คือว่าเมื่อคืนพวกเราได้ดื่มสุรากับท่านพี่ห……กับพระสนมฟ้าสุริยาไปเล็กน้อยค่ะ!”
“อุ๊ยแหม ยังเร็วไปที่จะดื่มสุรากันนะจ๊ะ”
ลูเครเซียยิ้มเหมือนกับบอกว่า ‘โธ่เอ้ย นึกว่าเรื่องอะไร’
พอได้รู้ว่าที่ดูเหมือนอาการไม่ค่อยดีนั้นความจริงแล้วแค่กำลังเมาค้างกันอยู่ ก็สมควรแล้วที่จะมีท่าทีตอบสนองแบบนี้ล่ะนะ
ทว่า—ทิฟฟานีที่ได้ฟังคำพูดของมาริเอล กลับเบิกตากว้างอย่างตกตะลึง
“……สุรา กับท่านเฮเลนา?”
“หืม?”
“ดื่มสุรา……กับท่านเฮเลนา……งั้นรึ……?”
“……เป็นอะไรไป ทิฟฟานี?”
ทิฟฟานีกำลังตัวสั่นหงึก ๆ พลางกำหมัดแน่น
การที่เฮเลนาดื่มสุรากับทั้งสามคน มันมีความจำเป็นต้องเดือดดาลอะไรขนาดนั้นด้วยงั้นรึ
“คุณหนูรีเวียร์”
“ค ค่ะ!”
“ตอนนี้ดิฉันกำลังเศร้าเสียใจอย่างมากค่ะ เคยคิดว่าเธอจะสามารถเป็นสหายร่วมอุดมการณ์ที่ดีได้เสียอีก ทว่าการดื่มสุราร่วมกับท่านเฮเลนา ซึ่งมีแต่อภิสิทธิ์ชนเท่านั้นที่จะสามารถกระทำได้ เธอกลับกระทำมันลงไปโดยที่ไม่บอกกล่าวต่อดิฉันหรือเสนาธิการคนอื่น ๆ นี่คือการทรยศหักหลังกันอย่างชัดเจนค่ะ”
“เป็นอะไรไปน่ะทิฟฟานี”
เฮเลนาเอียงศีรษะอย่างฉงนกับทิฟฟานีที่ไม่รู้ทำไมถึงเริ่มต่อว่ามาริเอล
ไม่เข้าใจสักนิดว่าเธอกำลังพูดอะไรอยู่ ทำไมการที่มาริเอลดื่มสุรากับเฮเลนามันถึงทำให้ทิฟฟานีต้องมาต่อว่าด้วย
“คุณหนูรีเวียร์ ท่านเฮเลนาที่เมาสุรานั้น ยอดเยี่ยมมากเลยใช่ไหมล่ะ”
“ร เรื่องนั้น……จำไม่ได้เลยค่ะ……ดิฉันเองก็เมามายสุราไปด้วย……”
“……ละเลยแม้กระทั่งการทำความเข้าใจสถานการณ์และจดบันทึก ไม่เหลือแม้แต่ที่ว่างให้แก้ตัวใด ๆ อีกแล้วค่ะ”
“พูดอะไรของเจ้าน่ะ ทิฟฟานี”
เฮเลนาได้แต่งุนงงเมื่อทิฟฟานีพูดออกมาเช่นนั้นโดยไม่สนใจเฮเลนาเลย
ไม่สิ แล้วทิฟฟานีกับมาริเอลไปรู้จักกันตอนไหนนะ
มาริเอลเองก็ไม่ได้อยู่ในกลุ่มพิลึกพิลั่นนั่นซะหน่อย ใช่ไหม
“ท่านเฮเลนาเวลาเมาสุราน่ะ จะเริ่มร้องไห้สะอึกสะอื้นไงล่ะ พวกเราทั้งหมดต่างก็ได้เฝ้ามองและมอบความเอ็นดูให้มานับครั้งไม่ถ้วนแล้ว ท่านเฮเลนาที่กำลังเมาสุราน่ะ หากมีคนที่คอยพูดปลอบประโลม ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นใครเธอก็จะเริ่มออดอ้อนขึ้นมา!”
“ทิฟฟานี”
“ความน่ารักที่ท่านเฮเลนาซึ่งปกติแล้วเคร่งขรึมอยู่เสมอแสดงให้เห็นยามเมาสุราน่ะ มันลิ้มรสได้แค่ในช่วงเวลานั้นเท่านั้น! เป็นของล้ำค่าถึงขนาดมีการตีพิมพ์อย่างละเอียดในคอลัมน์ ‘ท่านเฮเลนายามราตรี’ ในจดหมายข่าวสมาคม แถมยังมีการจัดการประกวดคำพูดเพ้อเจ้อตอนเมาของท่านเฮเลนากันปีละครั้งเชียวนะ!”
“ทิฟฟานี”
“เพื่อตีพิมพ์สิ่งนี้ ทุกครั้งจะต้องมีสมาชิกสมาคมหนึ่งคนที่แบกรับหน้าที่ครองสติเอาไว้ไม่แตะต้องสุรา และจดบันทึกทุกคำพูดการกระทำโดยละเอียด จากนั้นก็นำไปถ่ายทอดให้กับสมาชิกทุกคนเชียวนะ! การที่แกครอบครองท่านเฮเลนาผู้น่ารักและร้องไห้ออดอ้อนเช่นนั้นไว้แต่เพียงผู้เดียว มันคือการกระทำที่สมควรตายหมื่นครั้ง!”
“หุบปากได้แล้วทิฟฟานี”
‘ปึ่ก’ เกิดเสียงที่ฟังดูรุนแรง และพร้อมกันนั้นทิฟฟานีก็จมลงกับพื้น
เฮเลนาได้ลอบเข้าไปข้างหลังและโจมตีเข้าใส่ท้ายทอยจนทิฟฟานีล้มลงไปนั่นเอง
ไม่อยากจะเชื่อว่าไอ้แฟนคลับอย่างไม่เป็นทางการอะไรนั่นมันจะทำอะไรแบบนั้นกัน น่าตกใจจริง ๆ ว่าที่ผ่านมาทุกครั้งเวลาเมาเหล้าเธอจะถูกจดบันทึกการกระทำเอาไว้แบบนั้น
อดกลุ้มใจขึ้นมาไม่ได้จริง ๆ ว่าควรจะสลายไอ้แฟนคลับไร้ศีลธรรมพรรค์นี้ทิ้งดีไหม
“อ อ่า……”
เมื่อได้ฟังคำพูดของทิฟฟานีตั้งแต่ต้นจนจบ ลูเครเซียก็ไม่ได้ต่อว่าเฮเลนาที่ทุบทิฟฟานีจนสลบแต่อย่างใด
เธอเพียงยิ้มแห้ง ๆ—โดยที่ยังคงเปี่ยมเมตตา
“……หนูเฮเลนาเองก็ลำบากเหมือนกันสินะ”
คำพูดของลูเครเซีย
เฮเลนาก็ได้แต่ตอบกลับไปด้วยการถอนหายใจเฮือกใหญ่