[นิยายแปล] Hell mode – ตอนที่ 122 ทดลองขี่

บทที่ 122 ทดลองขี่

                วันหยุดแรกหลังจากคุเรนะใช้สกิลได้เป็นครั้งแรก

                หลายวันมานี้รู้เกี่ยวกับสกิลปลุกพลังค่อนข้างมาก

                จากการใช้สกิลปลุกพลังของสัตว์อัญเชิญแมลง H อย่างต่อเนื่อง ซึ่งพอพ้น 1 วัน หรือ 24 ชั่วโมงก็สามารถใช้ได้อีกครั้ง เท่ากับว่าเวลาคูลดาวน์คือ 1 วัน อยากให้ใช้ได้ทุกๆ 1 ชั่วโมงอยู่หรอก แต่พอรู้ว่าเป็นคูลดาวน์ก็รู้สึกขอบคุณมันอยู่

                พอเข้าเดือนมิถุนายน ทั้งเงินและหินเวทระดับ C ก็หมดลง แต่ยังดีที่เลเวลอัญเชิญเพิ่มก่อนที่จะเป็นอย่างนั้น ถ้า 1 สัปดาห์ลงดันเจี้ยนระดับ B แล้วสามารถรวบรวมหินเวทระดับ C ได้มากกว่า 1000 ก้อน ว่าจะเปิดรับหินเวทระดับ D สัปดาห์ละ 10000 ก้อน

                ทำการทดลองสัตว์อัญเชิญระดับ C และสกิลปลุกพลังเท่าที่จะทำได้ที่ฐาน แต่ก็อยากจะลุยดันเจี้ยนระดับ C เพื่อเปิดรับหาหินเวทด้วย

                “วันนี้จะเริ่มจากที่นี่”

                ที่นี่คือ ชั้น 3 ของดันเจี้ยนที่มี 6 ชั้น โดยวันนี้จะเริ่มลุยดันเจี้ยนจากตรงนี้

                “อืม”

                คุเรนะตอบรับคำพูดของอเลน

                คุเรนะอารมณ์ดีกว่าทุกที หลายวันมานี้ตั้งแต่จำสกิลได้ก็อารมณ์ดีเอามากๆ

                คุเรนะอยากใช้สกิลจนตัวสั่น ใช่ว่าจะไม่เข้าใจความรู้สึกที่ได้ใช้สกิลครั้งแรกหรอก

 

                [ชื่อ] คุเรนะ

                [อายุ] 12

                [อาชีพ] ยอดนักดาบ

                [เลเวล] 30

                [พลังกาย] 1240

                [พลังเวท] 474

                [พลังโจมตี] 1240

                [ความทนทาน] 872

                [ความว่องไว] 838

                [ความฉลาด] 494

                [โชค] 595

                [สกิล]  ยอดนักดาบ <2>, ฟัน <2>,ดาบบิน<1>, วิชาดาบ <5>

                [เอ็กซ์ตร้าสกิล] ทะลวงขีดจำกัด

                [ค่าประสบการณ์] 21,970 / 30,000

 

                ・ เลเวลสกิล

                [ยอดนักดาบ] 2

                [ฟัน] 2

                [ดาบบิน] 1

 

                ・ ค่าประสบการณ์สกิล

                [ฟัน] 6 / 100

                [ดาบบิน] 5 / 10

 

                จากการลงดันเจี้ยนระดับ C ซ้ำหลังเลิกเรียนทำให้สกิลฟันขึ้นสู่เลเวล 2 เพราะอย่างนั้นทำให้ยอดนักดาบขึ้นสู่เลเวล 2 เหมือนกัน เลยได้รับสกิลใหม่อย่างดาบบินมา 

                ดาบบินเป็นการโจมตีระยะไกล อเลนเห็นการฟันพุ่งออกมา ดูเหมือนจะเป็นการโจมตีเป้าหมายเดียว

                อนึ่ง ฟันเองก็เป็นการโจมตีเป้าหมายเดียว ทำให้อเลนคิดว่าอยากได้การโจมตีหลายเป้าขึ้นมา

                แต่ทั้งฟันและดาบบิน ตอนนี้ใช้ต่อสู้กับแค่มอนสเตอร์ระดับ C ทำให้ไม่รู้ว่ามันรุนแรงแค่ไหน พลังโจมตีของคุเรนะสูงเกินไป แค่การโจมตีธรรมดาก็ปราบมอนสเตอร์ระดับ C ได้แล้ว

                สกิลฟันสามารถใช้ได้ตอนที่เรียนกับยอดนักดาบโดเบิร์ก ซึ่งดูเหมือนพอได้สกิลใหม่อย่างดาบบินมา ทำให้รู้หลักการใช้งานสกิลได้ในทันที ดูท่าทางจะเข้าใจสิ่งสำคัญแล้วว่าต้องจดจ่อสมาธิเพื่อใช้พลังเวท

                จากการแปลคำพูดของคุเรนะที่ตื่นเต้นจากการใช้สกิลใหม่มันให้ความรู้สึกเช่นนั้น

                อนึ่ง โดโกร่ายังใช้สกิลไม่ได้ ยังอยู่ในช่วงพยายามอย่างหนักหน่วง

                “วันนี้จะทดลองสัตว์อัญเชิญตัวใหม่เหรอ?”

                “ใช่แล้ว”

                อเลนตอบคำถามของคีล โดยบอกไปว่าวันนี้จะลุยดันเจี้ยนพร้อมกับทำการทดลองควบคู่ไปด้วย

                การพูดคุยกับคีลยังค่อนข้างห่างเหิน เลยพยายามพูดคุยให้เป็นปกติ

                “อเลนจะทำอะไรเหรอ?”

                “คุเรนะ มันคือสิ่งนี้ไง!! เหล่าฟรานออกมา!!!”

                อเลนเรียกสัตว์อัญเชิญนก C ออกมา 5 ตัว ตอบคำพูดของคุเรนะ

                ‘กิ้ววว!!!’

                สัตว์อัญเชิญที่เหมือนกับนกแคสโซแวรีซึ่งยืนสองขาและบินไม่ได้ปรากฏตัวออกมา แต่ขนาดตัวของมันใหญ่กว่านกแคสโซแวรีที่โลกก่อนหน้าเกือบเท่าตัว ถ้าเฉพาะส่วนสูงร่างกายอย่างเดียวก็ 2 เมตรนิดๆ ถ้านับรวมถึงศีรษะด้วยก็ราวๆ 2.5 เมตร ถือว่าเป็นนกที่รูปร่างค่อนข้างใหญ่ และใหญ่กว่านกกระจอกเทศด้วย

                บนศีรษะมีหงอนขนาดใหญ่ กล้ามเนื้อขาพัฒนาอย่างดีดูแข็งแกร่ง

                “นกขนาดใหญ่นะเนี่ย แล้วเอาออกมา 5 ตัวคิดจะทำอะไรเหรอ?”

                “โดโกร่าเอ๋ย จะให้ขี่เจ้านี่ลุยดันเจี้ยนไง”

                “““ขี่!?”””

                อเลนนึกไว้ว่าสักวันจะต้องมีสัตว์อัญเชิญประเภทไว้ขี่ออกมา อีกไม่นานคงมีสัตว์อัญเชิญที่ใช้ขี่บินบนท้องฟ้าหรือข้ามท้องทะเลออกมาได้

                ถ้าได้วิธีเคลื่อนที่จะทำให้ขอบเขตของสิ่งที่ทำได้ขยายกว้างขึ้นนี่คือพื้นฐานของเกม ทำให้คิดว่าคงไม่ได้มีแต่ทำให้สัตว์อัญเชิญโจมตีได้รุนแรงขึ้นอย่างเดียว และมันจะต้องมีสักช่วงเวลาที่มันโผล่ออกมา

                สัตว์อัญเชิญสายสัตว์ส่วนใหญ่เป็นสายโจมตี ดังนั้นคงไม่มีสิ่งที่เหมือนกับม้าออกมา เลยคิดว่าน่าจะเกิดสายใหม่นี้กับสายนกที่มีสกิลหลากหลายประโยชน์อย่างรวบรวมข้อมูลหรือค้นหาศัตรู

                แล้วสายนกระดับ C ยังมีทักษะพิเศษ “วิ่งผ่าน” อยู่ด้วย วันนี้อเลนเลยจะทดลองสิ่งที่ตั้งสมมติฐานเอาไว้

                ‘จะขี่สิ่งนี้หรือฆ่า?’

                “ใช่แล้วมาเรีย”

                ‘เข้าใจแล้วฆ่า’

                สัตว์อัญเชิญวิญญาณ C ที่ลอยอยู่เหนือศีรษะของอเลน เคลื่อนตัวไปอยู่เหนือหงอนของสัตว์อัญเชิญนก C ตัวหนึ่ง

                ที่เรียกวิญญาณ C ออกมาเพราะเจ้าตัวร้องขอ เพราะสัตว์อัญเชิญวิญญาณ C สามารถพูดสื่อสารกันได้ ทำให้มีอัตตาที่แรงกล้าเลยพูดร้องขอเอาไว้

                ด้วยเหตุนี้เลยเรียกออกมาไว้ตามปกติ

                ตอนพวกอเลนไม่อยู่จะให้เฝ้าฐาน แล้วจะเรียกออกมาถ้าอยู่ภายในดันเจี้ยน

                จะให้อุ้มตุ๊กตาฝรั่งแล้วเดินในเมืองมันก็น่าอายไปหน่อย เลยบอกไปว่าจะไม่พาเข้าเมือง

                “ฟราน ก้มลงมาที อยากให้ทุกคนขึ้นขี่”

                ‘กิ้วววว’

                (อืมๆ ถ้าอย่างนี้แสดงว่าสายนกพูดไม่ได้สินะ)

                ดูเหมือนสัตว์อัญเชิญนก C ที่ส่งเสียงร้องตอบกลับมาจะพูดไม่ได้

                เหล่าสัตว์อัญเชิญนก C พอได้ยินคำพูดของอเลนก็ย่อขาที่ยืนอยู่ลงเพื่อให้ร่างกายแนบติดกับพื้น ทำให้ส่วนสูงเกือบ 2 เมตรลดลงมาเหลือราวๆ 1 เมตร

                อเลนขึ้นขี่สัตว์อัญเชิญนก C ให้ทุกคนดู พอขึ้นคร่อมเหมือนขี่ม้า ก็ซ่าจะให้ลุกขึ้นยืน

                “เอาละ ยืนขึ้น”

                ‘กิ้วว’

                (โอ้ว ค่อนข้างสูงนะเนี่ย ส่วนสูงมากกว่าม้าด้วยสิ แต่อย่างนี้ก็เยี่ยมเลยยิ่งสูงยิ่งมองเห็นได้ดีกว่า)

                สัตว์อัญเชิญนก C ค่อยๆ ลุกขึ้น

                อนึ่ง เพดานของทางเดินตรงดันเจี้ยนจะสูงเกิน 5 เมตร ถ้าเป็นห้องเล็กจะสูงเกิน 10 เมตร ต่อให้ขี่อยู่ก็ไม่มีปัญหากับระดับความสูงของเพดาน

                แล้วสั่งให้เดินไปมารอบๆ

                (โอ้ว!! ไม่โยกเลยสักนิด แถมเพราะขนนุ่มๆทำให้ไม่เจ็บก้นด้วย)

                ทำการตรวจสอบในระหว่างเดิน การขี่สัตว์อัญเชิญนก C นั้นมั่นคงไม่สั่นเลยสักนิด เห็นได้ชัดเลยว่ามีเอาไว้สำหรับขี่โดยเฉพาะ

                “ฉันเองก็อยากขี่ด้วย!”

                คุเรนะที่เห็นอย่างนั้นก็ตื่นเต้นและพูดกับอเลน

                “เอาละ ถ้างั้นลองขี่กันเลย แล้วลุยดันเจี้ยนทั้งอย่างนี้!”

                เพราะรู้แล้วว่าขี่ได้อย่างปลอดภัย เลยให้ทั้ง 4 คนขึ้นขี่สัตว์อัญเชิญนก C ถึงทุกคนจะหวาดๆตอนขี่ แต่คงจะประหลาดใจกับการขี่ที่ให้ความรู้สึกดี

                มุ่งหน้าโดยให้โดโกร่ากับคุเรนะนำหน้า เซซิลกับคีลอยู่ตรงกลาง และปิดท้ายด้วยอเลนเหมือนอย่างทุกที 

                ให้สัตว์อัญเชิญวิญญาณ C 2 ตัวบินประกบซ้ายขวาเพื่อปกป้องตรงกลาง

                ให้สัตว์อัญเชิญนก E บินอยู่ข้างบนคอยตรวจหาศัตรู

                (นี่ไม่ใช่กองทหารม้าแต่เป็นกองทหารสัตว์ เริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้ว!)

                รู้สึกถึงความเป็นไปได้ที่ไร้ขีดจำกัด ในช่วง 2 เดือนนี้ รู้สึกว่ามีอุปสรรคกับความเร็วในการเคลื่อนที่ แต่สิ่งนี้ทำให้มั่นใจได้ว่าจะแก้ไขปัญหาได้

                หลังจากนี้ตอนที่ต่อสู้กับกองทัพจอมมาร การมีให้ขี่หรือไม่มีให้ขี่ความคล่องตัวมันจะแตกต่างกันอย่สงสิ้นเชิง

                แล้วพวกอเลนก็มาถึงบอสชั้นสุดท้ายก่อนเที่ยง แล้วเบื้องหน้าก็มีกล่องไม้ร่วงลงมา

                “ผ่านดันเจี้ยนแล้วเหรอเนี่ย!”

                “เร็วมาก!”

                เซซิลกับคุเรนะรู้สึกประทับใจ ตามปกติต้องมีช่วงพักด้วย ทำให้ 1 วันผ่านได้แค่ทีละ 1 ชั้น แต่กลับมาถึงบอสชั้นล่างสุดก่อนเที่ยง

                ผ่าน 2 ชั้นกับปราบบอสชั้นล่างสุด

                (ความสามารถของฟรานน่าจะประมาณนี้สินะ ช่างมีประโยชน์มาก อยากรีบๆปลุกพลังแล้ว)

 

                ・ความเร็วในการเคลื่อนที่ 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

                ・ถ้าใช้ทักษะพิเศษจะได้ราวๆ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

                ・ไม่เหนื่อย

                ・พูดไม่ได้

                ・สามารถแกว่งดาบและขวานขณะขี่ได้

                ・ออกคำสั่งให้ฟังคำสั่งของคนอื่นนอกจากอเลนได้

 

                สัตว์อัญเชิญนก C ยอดเยี่ยมกว่าม้าของกองทหารม้า ตำแหน่งที่ขี่อยู่ใกล้กับศัตรู แถมส่วนสูงที่สูงกว่าม้า ทำให้คุเรนะกับโดโกร่าที่ใช้ดาบใหญ่หรือขวานกวัดแกว่งอาวุธได้ง่าย

                คุเรนะกับโดโกร่าเองก็อยู่ระหว่างเจริญเติบโต หลังจากนี้ร่างกายและอาวุธคงจะใหญ่ขึ้น สัตว์อัญเชิญนี้น่าจะทำให้แสดงศักยภาพออกมาได้อย่างเต็มที่

                และบอกให้คุเรนะกับโดโกร่าพุ่งเข้าใส่บอสชั้นล่างสุดทั้งที่ยังขี่อยู่

                “เอาละ เท่านี้ 5 คนก็เป็นนักผจญภัยระดับ C แล้ว”

                ถ้าไม่นับคีล ทั้ง 4 คนผ่านดันเจี้ยนระดับ C 3 แห่งไปแล้ว เลยพูดกันว่าจะรอจนกว่าคีลผ่านครบ แล้วค่อยไปเปลี่ยนตรานักผจญภัยระดับ C พร้อมกันที่กิลด์นักผจญภัย

                “นั่นสินะ”

                “ไหนๆก็จบก่อนเที่ยงแล้ว หลังจากไปเสร็จไปฉลองการเป็นนักผจญภัยระดับ C ที่ฐานกัน”

                “““ฉลอง?”””

                “ยังไม่ได้จัดงานเลี้ยงต้อนรับคุณคีลที่มาเป็นพวกเลยนี่ คุณคีลไม่มีปัญหาใช่ไหมครับ?”

                สำหรับอเลนอยากจะให้คีลกลมกลืนกับปาร์ตี้ได้แล้ว จะได้ชวนมาที่ฐานแล้วให้มาอาศัยอยู่ด้วยกัน

                “เอ๊ะ? แบบว่าฉัน เรื่องอย่างนี้……”

                “มีปัญหาอะไรอย่างนั้นเหรอครับ?”

                ทันใดนั้นตรงลานกว้างก็ปกคลุมไปด้วยความเงียบ ถ้าคีลมีปัญหาอะไรแล้วละก็ อยากจะใช้โอกาสนี้ในการแก้ไขมันอยู่

                คีลพูดออกมาหลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง

                “……จริงๆแล้ว มีครอบครัวรออยู่น่ะ”

                คีลสารภาพออกมา

[นิยายแปล] Hell mode

[นิยายแปล] Hell mode

Artist: ,
อ่านนิยาย Hell modeยามาดะ เคนอิจิ พนักงานกินเงินเดือน อายุ 35 ปี ผู้ชื่นชอบเกมที่ต้องฟาร์มหนักๆ ตอนนี้กำลังสิ้นหวังกับยุคที่เกมเล่นผ่านง่ายๆกำลังเป็นที่แพร่หลาย ระหว่างนั้นเองที่เขาโดนเว็บไซต์หนึ่งที่เขียนว่า "สำหรับผู้ชื่นชอบการฟาร์มอย่างคุณ" ทำให้ไปเกิดใหม่ในต่างระดับเฮลโหมด ป.ล. 1 แปลจากเว็บโนเวล ถ้าไม่เหมือนฉบับรุปเล่มต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย ป.ล. 2 การอัพขึ้นอยู่กับเวลาว่างจากการทำงาน อย่าคาดหวังมาก(แต่จะพยายามอัพเรื่อยๆถ้าแปลเสร็จ

Options

not work with dark mode
Reset