[นิยายแปล] Hell mode – ตอนที่ 93

บทที่ 93 รวบรวมข้อมูล

                อเลนกับเซซิลโดนกลุ่มคนลึกลับ 3 คนลักพาตัวมา เนื่องจากมีกล่องไม้ที่เหมือนเอาไว้ใส่ของวางซ้อนกันอยู่ตรงมุมห้อง ทำให้คิดว่าน่าจะเป็นโกดังที่ไหนสักแห่ง

                (ก่อนอื่นต้องตรวจสอบว่าที่นี่ที่ไหน)

                ลองรวบรวมข้อมูลจากเหล่าโจรที่บุกเข้าไปในคฤหาสน์ผ่านสัตว์อัญเชิญนก G ยังไม่รู้แต่คิดว่าน่าจะเป็นโกดังที่อยู่ตรงไหนสักแห่งของเมือง อยากจะรู้ว่าที่นี่คือที่ไหนกันแน่เพื่อที่จะหนีและหลุดจากการคุมตัวของพวกโจร 

                ภาพของสัตว์อัญเชิญนก G ที่ทำการแชร์ ชายที่โดนลูกพี่ชื่อดรากฮาต่อยท้องยังคงกดท้องอยู่

                “ไม่เป็นไรนะมาร์คัส? ยังเจ็บอยู่เหรอ?”

                “อือ มันน่าโมโหจริงๆ เจ็บเข้ากระดูกเลยนะเนี่ย ทำไมหมอนั่นถึงเป็นหัวหน้ากันนะ?”

                ชายที่ถูกเรียกว่ามาร์คัสสบถคำหยาบออกมาเนื่องจากโดนต่อยท้อง เพราะพวกโจรยังพูดกันต่อ อเลนเลยแกล้งหลับและตั้งใจฟัง

                “ช่วยไม่ได้นี่ คำสั่งของเจ้านายไง”

                “ถึงจะเอาไว้รับมือกับเซนอฟ แมร่งถือว่ากลับจากสนามรบเลยทำท่าอวดดีงั้นเหรอ รู้หรือเปล่า? ไอ้เจ้าดรากฮา มันอยู่สนามรบแค่ 1 ปีแล้วก็หนีออกมา แล้วมาทำวางท่าใหญ่โตขนาดนี้เนี่ยนะ?”

                “นะ นี่ หยุดแค่นั้นเลย ดูเหมือนเจ้าอัมบร้าจะไปพูดกับเจ้าตัวอย่างนั้น แล้วก็โดนตัดคอเลย”

                “จริงดิ!? มิน่าช่วงนี้ถึงไม่เห็นอัมบร้า?”

                “อือ แต่เซนอฟปกป้องป้อมปราการถึง 10 ปีเลยไม่ใช่เหรอ ดรากฮาจะจัดการเซนอฟได้เหรอ?”

                “น่าสนุกดีไม่ใช่เหรอ? 10ปีที่ว่าเนี่ย รู้หรือเปล่าปีที่10 ป้อมปราการมันเกิดอะไรขึ้น?”

                “แกเนี่ยรู้เรื่องสนามรบละเอียดดีจริงนะ แล้วมันเกิดไรขึ้นเหรอ?”

                “อือ ถึงจะปกป้องมา 10 ปี แต่ป้อมปราการนั้นก็โดนยึดอย่างง่ายดาย ดูเหมือนทุกคนที่ปกป้องจะโดนฆ่าหมด เจ้าพวกนั้นไม่มีทั้งเลือดและน้ำตาไง แต่ไม่รู้หรอกนะว่าเซนอฟกลับมาได้ยังไง แถมยังหน้าไม่อายมาเป็นหัวหน้ากลุ่มอัศวินด้วย”

                “จริงดิ ต่อให้มีพรสวรรค์ แต่ถ้าตายอย่างนั้นก็ไม่มีความหมายหรอก”

                “ใช่ไหมล่ะ? ดังนั้น ต่อให้ 1 ปีหรือ 10 ปีก็มีค่าเท่ากัน มีแต่พวกงี่เง่าเท่านั้นแหละที่ไปสนามรบ”

                (สนามรบ? คุณริกเกลบอกว่าไม่มีสนามรบนี่ บอกแค่ว่ามีสงครามอยู่)

                ไม่รู้ว่าเรื่องเกี่ยวกับสงครามระหว่างริกเกลกับบทสนทนาของพวกโจรอันไหนกันแน่ที่คลาดเคลื่อน แต่ตอนนี้อยากจะให้ความสำคัญกับการผ่านสถานการณ์นี้ก่อน เลยแกล้งหลับและแอบฟังบทสทนาต่อ

                ตั้งแต่ตอนนั้นก็ผ่านไปอีก 1 ชั่วโมง

                (ฮึม คงไม่มีข้อมูลไปมากกว่านี้แล้ว ไม่รู้ด้วยว่าที่นี่ที่ไหน ต้องหาอาวุธกับหนทางหลบหนี)

                ถึงจะฟังบทสนทนาอีกราวๆ 1 ชั่วโมง แต่ไม่มีข้อมูลที่เป็นประโยชน์เลย มีแต่ทายกันว่าจะขายฉันได้เท่าไร

                ดูเหมือนตอนที่หมดสติระหว่างต่อสู้พวกโจรจะปล่อยดาบมิธริลเอาไว้ อาวุธตอนนี้มีแค่ดาบสั้นที่ได้มาจากโดโกร่ากับลูกเหล็กที่อยู่ในที่เก็บ แต่ควรจะหาวิธีการเผื่อต้องต่อสู้ หรือไม่ก็พาเซซิลหนีไปก่อน

                โจรคนหนึ่งบอกว่ามีธุระเลยลุกขึ้นยืน

                (โอ๊ะ! จะออกแล้วเหรอ ถ้างั้นฉันออกไปด้วยสิ)

                สัตว์อัญเชิญนก G 1 ใน 2 ตัวที่ซ่อนอยู่ตรงกล่องไม้มุมห้อง บินออกมาตามคำสั่งของอเลน และบินออกไปตรงประตูที่โจรเปิดเพราะจะออกไปทำธุระนอกห้องที่เหมือนกับโกดัง

                (จะดูแปลกไหมนะ? เอาเถอะ ถ้าออกไปข้างนอกจะได้รู้ว่าอยู่ที่ไหนช่างมันก็แล้วกัน)

                ถึงจะดูน่าสงสัยก็ช่าง อยากรู้สภาพข้างนอก

                “อ๊ะ? ทำไมที่นี่ถึงมีนกด้วยเนี่ย”

                เพราะมันบินอยู่ในโกดัง ทำให้โจรอีก 2 คนที่เหลือมองตาม นกที่จู่ๆบินออกมาไม่สนใจสายของของพวกโจร ก่อนจะบินลอดออกจากประตูที่เปิดอยู่

                “อาจจะเป็นอย่างนี้ก็ได้? คงเป็นนกที่พวกมีตังค์บนเรือเลี้ยงเอาไว้ไง? ฐานะดีเหลือเกิน”

                “จริงดิ หนีไปแล้วงั้นเหรอ สมน้ำหน้า”

                (เอ๊ะ? เรือ? นี่อยู่ในเรือเหรอ?)

                อเลนฟังบทสนทนาของโจรทั้ง 2 พร้อมกับมองผ่านสัตว์อัญเชิญนก G ที่บินลอดประตูไป คิดว่าที่นี่เป็นโกดังที่อยู่ในเมืองและปลายทางของประตูจะเชื่อมสู่ข้างนอก แต่ปลายทางของประตูกับเป็นทางเดินยาว ทางเดินยาวต่อเนื่องที่มีเพดานสูงเกินกว่าผู้ใหญ่ไปอีก 2 เมตร

                บินผ่านโจรที่มีธุระ และมุ่งหน้าไปตามทางเดิน

                ปลายทางที่มุ่งหน้าไปเป็นบันได เลยค่อยๆขึ้นบันไดไป

                (ยังมีชั้นบนอีกเหรอ? โกดังเองก็ค่อนข้างกว้าง สิ่งก่อสร้างนี้ใหญ่เอาเรื่องงั้นเหรอ?)

                พอพ้นบันไดก็เป็นทางเดินอีก เลยมุ่งหน้าไปต่อเพื่อหาทางออก

                พบประตูอื่นตรงด้านขวาของทางที่ไป มันมีกระจกแก้วกลมๆ น่าจะมองทะลุประตูได้

                (โอ๊ะ? ออกข้างนอกจากตรงนี้ได้เหรอ?)

                นอกกระจกเป็นสีดำสนิท ต่อให้พยายามมองทะลุกระจกจากทางไหนก็มองอะไรไม่เห็นเลย

                (มองอะไรไม่เห็นเลย? หือ? เห็นดาวบนท้องฟ้าด้วย หมายความว่านี่เป็นตอนกลางคืนเหรอ จะว่าไปทำไมถึงมองไม่เห็นพื้นดินกันนะ?)

                รู้สึกว่าพวกโจรบุกคฤหาสน์ก่อนค่ำ คงผ่านมาหลายชั่วโมงจนเป็นตอนกลางคืนแล้ว ถึงนอกหน้าต่างจะมืดจนเหมือนไม่มีอะไร แต่ถ้ามองดูดีๆจะเห็นดาวเต็มท้องฟ้า

                แล้วความคิดอีกอย่างที่สงสัยคือ มันเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงขนาดไหน ต่อให้มองลงไปข้างล่างแต่มันมืดมากจนมองไม่เห็นพื้นดินเลย

                (จะว่าไป! ห้องสั่นอยู่!!)

                ตอนที่อเลนที่คิดถึงโครงสร้างของสิ่งก่อสร้างนี้กับวิวทิวทัศน์ข้างนอก ห้องที่อเลนอยู่ก็สั่นไหวอย่างแรง

                “เฮ้ย บินดีหหน่อยสิ”

                “จริงๆเลย โยกเพราะลมไม่ใช่เหรอ”

                พวกโจรบ่นกันว่าห้องโยกอย่างรุนแรง

                แล้วคำตอบของคำถามก็ดังก้องภายในห้อง เป็นเสียงประกาศที่ได้ยินบ่อยๆในโลกก่อน

                ‘ต้องขออภัยท่านผู้โดยสารทุกท่าน เมื่อสักครู่เรือเหาะเวทมนตร์บาโฮเนะได้รับผลกระทบจากลมทำให้เกิดการสั่นไหว แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อการขับ ได้โปรดระวังการลื่นลมจากการสั่นไหวอย่างกะทันหันด้วย’ 

                (จริงดิ! อยู่ในเรือเหาะเวทมนตร์เหรอ!!)

                ดูเหมือนอเลนกับเซซิลและจะอยู่บนเรือเหาะเวทมนตร์ที่บินอยู่บนท้องฟ้ากลางดึก โดนลักพาตัวจากเมืองแกรนเวลแล้วพามาด้วยเรือเหาะเวทมนตร์

                (เอาไงดี? ถ้าอยู่บนเรือเหาะเวทมนตร์ก็หนีไม่ได้สิ ถ้างั้นคงต้องปราบพวกโจร ไม่สิ สำรวจในเรือเหาะเวทมมนตร์อีกสักพักดีกว่า เรื่องสู้ไว้ค่อยทำหลังจากนั้น)

                คิดว่าไม่มีหนทางให้หนีบนเรือเหาะเวทมนตร์ที่บินอยู่บนท้องฟ้าจนมองไม่เห็นพื้นดินอย่างนี้ ต้องมีอะไรอีกสิ เลยใช้สัตว์อัญเชิญนก G ที่ทำการแชร์ไปสำรวจภายในเรือเหาะ ยังมีบันไดขึ้นข้างบนอีก ดูท่าทางตรงที่อเลนกับเซซิลอยู่จะเป็นด้านล่างของเรือเหาะเวมนตร์ เหมือนกับโกดังที่เอาไว้ใช้วางของ

                (ถึงอย่างนั้น เรือเหาะเวทมนตร์นี้สามารถออกไปข้างนอกได้ เพราะมันช้ากว่าเครื่องบินเยอะหรือเปล่านะ)

                การที่กระจกมืดสนิท ก็หมายความว่าประตูเชื่อมต่อกับข้างนอกเรือเหาะเวทมนตร์ เดาว่าคงเป็นประตูที่เอาไว้ตรวจสอบกำแพงด้านนอกของเรือเหาะเวทมนตร์ขนาดใหญ่ เรือเหาะเวทมนตร์สามารถออกไปข้างนอกได้แตกต่างกับเครื่องบินของโลกก่อน 

                ต่อให้ออกไปตรงนี้ คงร่วงลงพื้นดินที่มองไม่เห็น เนื่องจากสัตว์อัญเชิญนก G ไม่สามารถเปิดประตูนั้นได้ เลยให้บินขึ้นไปข้างบนต่อ

                แล้วก็เห็นประตูที่ทำให้คิดว่าเป็นห้องพักของแขกเรียงกันอยู่ มันให้ความรู้สึกเหมือนโรงแรมเลย พอมุ่งหน้าต่อไปเรื่อยๆ ก็ได้ยินเสียงที่ดูครื้นเครง

                ปลายทางของประตูที่ห้องพักแขกที่เรียงรายอยู่ เหมือนจะเป็นภัตตาคารภายในเรือเหาะเวทมนตร์

                (โอ๊ะ! คนเพียบเลย! กินอาหารกันภายในเรือเหาะเวทมนตร์เหรอ ถึงอย่างนั้นไม่นึกเลยว่าจะเดินกันไปมาภายในเรือเหาะอย่างนี้)

                เนื่องจากนกบินอยู่ ทำให้โดนแขกบนเรือหลายคนพบเห็น แต่ไม่สนและทำการรวบรวมข้อมูลต่อ แล้วยิ่งมุ่งหน้าลึกเข้าไปในภัตตาคาร คุณภาพของแขกก็เปลี่ยนไป

                รู้สึกว่าแต่งตัวดูดีขึ้น เห็นเหล่าสุภาพสตรีนั่งดื่มเหล้าอยู่บนโซฟาอย่างชิวๆ

                ตอนที่คิดว่าคงไม่มีข้อมูลอะไรแล้วนั้น ก็เห็นชายคุ้นหน้า 2 คนทำตัวสบายๆอยู่ในห้องส่วนตัว

                (โอ๊ะ! คาร์เนลนี่!)

                ไวเคานต์คาร์เนลกับราชทูตนั่งชิวๆกันอยู่

[นิยายแปล] Hell mode

[นิยายแปล] Hell mode

Artist: ,
อ่านนิยาย Hell modeยามาดะ เคนอิจิ พนักงานกินเงินเดือน อายุ 35 ปี ผู้ชื่นชอบเกมที่ต้องฟาร์มหนักๆ ตอนนี้กำลังสิ้นหวังกับยุคที่เกมเล่นผ่านง่ายๆกำลังเป็นที่แพร่หลาย ระหว่างนั้นเองที่เขาโดนเว็บไซต์หนึ่งที่เขียนว่า "สำหรับผู้ชื่นชอบการฟาร์มอย่างคุณ" ทำให้ไปเกิดใหม่ในต่างระดับเฮลโหมด ป.ล. 1 แปลจากเว็บโนเวล ถ้าไม่เหมือนฉบับรุปเล่มต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย ป.ล. 2 การอัพขึ้นอยู่กับเวลาว่างจากการทำงาน อย่าคาดหวังมาก(แต่จะพยายามอัพเรื่อยๆถ้าแปลเสร็จ

Options

not work with dark mode
Reset