“เอ๊ะ นี่ชั้นยังอยู่ในความฝันงั้นเหรอ?”
หลังจากที่ตื่นมากินอาหารเช้าเเละสังเกตเครื่องเเบบนักเรียนของตัวเอง ชั้นพึมพําออกมาเช่นนั้น
ตอนเเรกชั้นไม่ได้สังเกตเลยเนื่องจากบ้านนี้เหมือนกับบ้านของชั้นในโลกเเห่งความจริงมาก เเต่เมื่อสังเกตที่เครื่องเเบบนักเรียน ไม่ว่าจะมองยังไงมันก็เป็นเครื่องเเบบนักเรียนของโรงเรียนโทโจวอินใน “โอโจ้วจามะ” ไม่ผิดอย่างเเน่นอน
เเละด้วยเหตุผลบางอย่างภายในหัวของชั้นยังมีความทรงจําของ ฮิซามูระ สึคาสะ ในโลกเเห่งมังงะนี้อยู่
ดูเหมือนว่าชั้นจะยังอยู่ในความฝันนี้อยู่ จะพูดเเบบนั้นก็คงได้สินะ?
สถานที่นี้จริงๆเเล้วอยู่ภายในความฝันเเน่เหรอ?
ความฝันที่สมจริงขนาดนี้ ยังจะเรียกว่าฝันได้อยู่อีกงั้นเหรอ?
บางทีชั้นอาจจะเข้ามาในโลกของมังงะ “โอโจ้วจามะ” จริงๆเเล้วก็ได้?
นอกจากนี้ยังเข้ามาเป็นตัวละครที่มีชื่อเหมือนกับในโลกจริงอย่าง ฮิซามูระ สึคาสะ อีก
“เอ๊ะ เอาจริงดิ?”
นี่ชั้นกลายเป็น ฮิซามูระ สึคาสะ ตัวละครใน “โอโจ้วจามะ” นั่นจริงๆงั้นเหรอ?
เเต่ว่านั่นเป็นทางเดียวที่จะอธิบายสถานการณ์ในตอนนี้ได้
จนถึงเมื่อวานชั้นยังคิดเเค่ว่า “เป็นฝันที่ยาวจังน้า” อยู่เลยเเต่ดูเหมือนชั้นจะเข้ามาในโลกของมังงะจริงๆสินะเนี่ย
ถึงยากที่จะเชื่อไปหน่อย… เเต่สําหรับตอนนี้ชั้นรู้สึกดีใจซะมากกว่า
ก็สามารถเข้ามาในโลกของมังงะที่ชื่นชอบพร้อมทั้งยังพูดคุยกับตัวละครที่ชื่นชอบได้ด้วยนี่นะ
โอตาคุที่ไม่รู้สึกยินดีกับเรื่องมหัศจรรย์อย่างนี้น่ะเรียกตัวเองว่าโอตาคุไม่ได้หรอก
หืม? รอเดี๋ยวนะ งั้นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานก็เป็นเรื่องจริงด้วยงั้นเหรอ?
งั้นชั้นก็.. จะบอกว่าหลังจากที่มาโลกนี้ได้หมาดๆชั้นก็ไปสารภาพรักกับเซย์จังเลยงั้นเหรอ!?
เอ๊ะ เเบบนั้นไม่เเย่เหรอ?
เพราะชั้นคิดว่าเป็นความฝันเลยไปสารภาพรักกับเซย์จังอยู่หรอก เเต่ถ้ามันกลายเป็นความจริงเเละดําเนินต่อไปเรื่อยๆเเบบนี้ รู้สึกว่าจะกลายเป็นเรื่องที่เเย่สุดๆเลยเเฮะ…
มะ.. เมื่อวานชั้นสารภาพรักกับเซย์จังไปจริงๆงั้นเหรอ?
ทําเป็นว่าเรื่องเมื่อวานทั้งหมดเป็นเเค่ความฝันเเละตั้งเเต่วันนี้เป็นต้นไปชั้นเข้ามาอยู่ในโลกของ “โอโจ้วจามะ” จริงๆ เเบบนั้นคงไม่ได้สินะ…
“อ๊ะ จริงสิ โทรศัพท์ไง!”
เมื่อวานเพราะคิดว่าเป็นความฝันชั้นเลยคุย RINE กับเซย์จัง!
ถ้าประวัติการเเชทยังคงอยู่ ก็หมายความว่าโลกนี้ดําเนินต่อจากเมื่อวาน
พอชั้นเปิดเเอพ RINE เเละเช็คประวัติการเเชท… ดูเหมือนการคุย RINE เมื่อวานจะเละเทะมากเลยเเฮะ
ยิ่งกว่านั้นไม่รู้เพราะตื่นเต้นจากการที่เป็นตอนกลางดึกรึเปล่าหรือเพราะตื่นเต้นจากการที่คิดว่ามันเป็นความฝัน ชั้นส่งคําที่น่าอายสุดๆออกไปหลายคําเลย..!
“ว้าา! เอาจริงดิ เอาจริงดิ เอาจริงดิ!”
มันน่าอายมากถึงขนาดที่ชั้นตะโกนออกมาภายในห้องตั้งเเต่ยังเช้าตรู่
จะว่าไป นี่ชั้นสร้างประวัติอันดํามืดตั้งเเต่มาโลกนี้เป็นวันเเรกเลยไม่ใช่เหรอ..!
ไม่! ชั้นไม่อยากยอมรับว่าการสารภาพรักกับเซย์จังจะเป็นประวัติอันดํามืดหรอก! เเต่คําพูดที่ใช้สารภาพรักบ้างล่ะ ข้อความที่ส่งไปบ้างล่ะ พวกนั้นจะเป็นประวัติอันดํามืดในชีวิตของชั้นอย่างเเน่นอน..
คุ..! ถึงจะอยากลืมก็เถอะ เเต่ชั้นจะไปลืมครั้งเเรกที่ได้คุยกับเซย์จังได้ยังไงล่ะ..!
ยิ่งกว่านั้นการตอบสนองของเซย์จังยังน่ารักสุดๆอีกต่างหาก! ถึงจะอยากลืม เเต่ชั้นทําใจลืมไม่ลงหรอก
การตอบสนองของเซย์จังน่ารักซะจนไม่ว่ายังไงชั้นก็ไม่มีทางลืมมันลง ถึงอย่างนั้นชั้นก็อยากจะลืมคําพูดเเละการกระทําที่เเสนอับอายนั่นไปซะ…
ดูเหมือนภาวะกลืนไม่เข้าคายไม่ออกนี่จะไม่มีทางเเก้ไขได้ซะด้วยสิ
เอาเถอะ ถ้าเทียบกันเเล้วความรู้สึกที่อยากจะจดจําปฏิกิริยาตอบสนองเเสนน่ารักน่าเอ็นดูของเซย์จังนั้นมีมากกว่าความรู้สึกที่อยากจะลืมคําพูดเเละการกระทําที่น่าอายหลายสิบเท่า เพราะฉะนั้นเเน่นอนอยู่เเล้วว่าชั้นจะจํามันไว้
“ประวัติการเเชทนี่ก็ด้วย รู้สึกอยากจะลบมันสุดๆ เเต่มันมีข้อความของเซย์จังอยู่ ชั้นลบไม่ได้หรอก..!”
เมื่อวานชั้นคิดว่า “เพราะนี่เป็นฝันชั้นคงจะสร้างอิมเมจของเซย์จังขึ้นมาเอง เเละคิดว่าเธอจะส่งข้อความเเบบนี้มาก็ได้” อยู่หรอก เเต่ถ้านี่เป็นความจริงล่ะก็ มันจะต้องไม่ใช่อย่างนั้นเเน่นอน
พอคิดว่าทุกข้อความที่ส่งมา เซย์จังตั้งใจส่งมันโดยคิดอย่างจริงจังเพื่อชั้น… ชั้นก็รู้สึกว่ามันลํ้าค่าซะจนตายตาหลับได้เลย
อืม เเคปภาพหน้าจอเก็บไว้เเล้วด้วย ต่อจากนี้ไม่ว่าจะคุยกับเซย์จังไปอีกกี่ครั้ง ประวัติการเเชทนี้ก็จะยังอยู่กับชั้นไปตลอด
ทําให้มันเป็นมรดกสืบทอดประจําตระกูลเลยดีไหมนะ
เมื่อคิดเรื่องเเบบนั้นอยู่ มีคนมาเคาะประตูห้องของชั้นจากด้านนอก
“โอนี่จัง! ถ้าไม่รีบไปโรงเรียนจะสายเอานะ!”
“อะ.. อา เข้าใจเเล้วล่ะ ริเอะ”
ชั้นตอบกลับเสียงนั้นเเละรีบสะพายกระเป๋า ก่อนจะออกจากห้อง
นอกห้องนั้นมีน้องสาวของชั้น ฮิซามูระ ริเอะ รออยู่
เเน่นอนว่าไม่ใช่น้องสาวของชั้นในโลกเเห่งความจริง เเต่เป็นน้องสาวของ ฮิซามูระ สึคาสะ ในโลก ”โอโจ้วจามะ” เเห่งนี้
เป็นน้องสาวที่อายุน้อยกว่าหนึ่งปีเเละเข้าโรงเรียนเดียวกับชั้นในฐานะนักเรียนปีหนึ่ง
เธอมีผมสีดอกลินินไว้เป็นทรงไซด์เทลพร้อมใส่ยางรัดผมอย่างน่ารัก
หน้าตาของเธอน่ารักมากๆอยู่หรอก เเต่เวลาเธอคุยกับ ฮิซามูระ สึคาสะ พี่ชายของเธอ เธอไม่ค่อยยิ้มให้เห็นสักเท่าไหร่เลย
น้องสาวผู้มีจิตใจเด็ดเดี่ยวที่คอยดุพี่ชายที่ไม่ได้เรื่องของเธอ คงจะประมาณนั้นเเหละ
เวลาที่ยิ้มเธอน่ารักสุดๆเลยล่ะ ถึงเเม้ในเนื้อเรื่องเธอจะเเทบไม่ค่อยเเสดงด้านนั้นออกมาให้เห็นเลยก็เถอะ
ถ้าให้พูดตรงๆ ฮิซามูระ ริเอะ เป็นนางรองอีกคนที่เข้ามาเพิ่มสีสันให้กับเนื้อเรื่องเเละจะตกหลุมรักกับตัวเอก ชิเกโมโตะ ยูอิจิ
ริเอะเป็นที่นิยมในฐานะที่เป็นตัวละครเเนวรุ่นน้อง เเต่เหมือนกับเซย์ เธอเป็นนางรองที่จะไม่มีวันสมหวัง
เเต่ว่านั่นสินะถ้าเป็นไปตามเนื้อเรื่องล่ะก็ตอนนี้ เธอคงยังไม่ได้พบกับตัวเอก ชิเกโมโตะ ยูอิจิ หรอก
เมื่อวานฉากที่ชั้นเจอหลังเลิกเรียน ฉากที่เซย์จังปิดกั้นความรู้สึกของตัวเองเพื่อฟุจิเสะ ยังค่อนข้างอยู่ในช่วงต้นของเนื้อเรื่องอยู่เลย
เพราะงั้นบางทีตอนนี้ ฮิซามูระ ริเอะ อาจจะยังไม่มีบทออกมาในเนื้อเรื่องเลยก็ได้
หลังจากนี้ ชิเกโมโตะ ยูอิจิ จะรู้ว่าเพื่อนสนิทของเขา ฮิซามูระ สึคาสะ มีน้องสาวอยู่ ซึ่งภายหลังเธอจะกลายมาเป็นนางรองอีกคนในเนื้อเรื่อง
ทั้งๆที่หน้าตาเธอน่ารักมากเลยเเท้ๆ เเต่เธอกลับเเทบไม่ยิ้มออกมาให้เห็นพร้อมทั้งยังทําหน้าบึ้งอยู่ตลอด
เเต่หน้าเวลาอายที่เธอทําตอนถูกชมโดยชิเกโมโตะ พร้อมพูดออกมาอย่างเขินอายว่า [..ได้โปรดหยุดทีเถอะค่ะ!] นั้นน่าเอ็นดูเเละโด่งดังมากๆ
เเต่ว่าเอาเถอะ.. ถ้าให้พูด เธอก็คือนางรองที่ไม่สมหวังหรือนางรองที่จะไม่ได้จบกับตัวเอกนั่นเเหละ..
“…พยายามเข้านะ! ริเอะ!”
“ห๊ะ? อยู่ๆพูดอะไรออกมาน่ะ?”
“ไม่ต้องห่วงหรอก เธอน่ารักมากๆ สักวันจะต้องมีความสุขได้เเน่นอน”
“ห.. หาา!? พูดเรื่องอะไรอยู่เนี่ย!?”
โอ๊ะ เธอกําลังเเสดงใบหน้าที่เขินอายขณะรู้สึกโกรธอยู่ เหมือนในมังงะเลย น่ารักจริงๆน้า
“เเถมเสียงก็น่ารักอีกด้วย”
“พะ.. พูดอะไรออกมาตั้งเเต่เช้าน่ะ!? โอนี่จัง!”
“นั่นด้วยสินะ คาเเรคเตอร์ของริเอะที่เรียกชั้นว่า โอนี่จัง เนี่ยน่ารักสุดๆดีจังเลยน้า”
“อะ.. โอนี่จัง คนบ้า! งั้นหนูจะไปก่อนนะ!”
พอเผลอพูดสิ่งที่คิดออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ ริเอะก็หน้าเเดงกํ่าเเละรีบลงบันไดไปชั้นล่าง
เเย่ล่ะ หรือชั้นจะไปทําให้เธอโกรธเข้าจริงๆซะเเล้ว
“โทษทีนะ! ริเอะ เราไปโรงเรียนด้วยกันเถอะ”
พอชั้นรีบลงบันไดตามไป ชั้นเห็นริเอะที่รออยู่หน้าประตูบ้านหลังจากที่เธอพึ่งเปลี่ยนรองเท้าเสร็จ
“…หนูต้องรีบไปนะ โอนี่จัง”
“อา จริงด้วยสินะ”
ถึงเธอจะเเก้มเเดงระเรื่อเเละทําหน้าบึ้งเหมือนไม่พอใจก็จริง เเต่เธอก็ยังรอชั้นไม่ไปไหน อย่างที่คิดริเอะนี่น่ารักจริงๆเลยนะ
“มีน้องสาวที่น่ารักขนาดนี้เนี่ย ชั้นนี่มีความสุขจังเลยน้า”
“จริงๆเลย..! ตั้งเเต่เมื่อกี้เเล้ว พูดอะไรออกมาน่ะ..!”
ในโลกเเห่งความจริง.. ไม่สิสําหรับชั้นโลกนี้กลายเป็นโลกเเห่งความจริงเเทนเเล้วนี่นะ งั้นเรียกว่าโลกเดิมดีกว่า
ในโลกเดิมชั้นไม่มีน้องสาวหรือเเม้กระทั่งพี่น้องเลยด้วยซํ้า
ช่วยไม่ได้หรอกที่ชั้นจะรู้สึกดีใจที่ได้มีน้องสาวที่เเสนจะน่ารักอย่างนี้น่ะ
ยิ่งกว่านั้นถ้าจําไม่ผิดคนที่ทําอาหารเย็นของเมื่อวานเเละอาหารเช้าของวันนี้ให้ก็คือริเอะด้วยนี่นะ
พ่อเเม่ของฮิซามูระมีงานค่อนข้างเยอะเเละไม่ค่อยจะอยู่บ้านสักเท่าไหร่
เพราะอย่างนั้นริเอะเลยเป็นคนทําอาหารเเละพวกงานบ้านซะส่วนใหญ่
“ขอบใจที่คอยทําอาหารให้พี่มาตลอดนะ”
“มะ.. ไม่หนิ ยังไงก็ทําเป็นปกติอยู่เเล้ว..”
“เพราะเธอทําให้มาตลอด พี่ถึงรู้สึกขอบคุณไงล่ะ”
“จะ.. จริงๆเลย โอนี่จังเป็นอะไรไปน่ะ? ได้กินอะไรเเปลกๆไปตอนมื้อเช้ารึเปล่า?”
“ไม่ใช่หรอก ถ้าพี่กินอะไรเเปลกๆไปจริง คนที่ทําอาหารก็คือริเอะไม่ใช่เหรอ งั้นคนที่ใส่ของเเปลกๆนั่นไปก็คือริเอะนั่นเเหละ”
“ฟุฟุ~ จริงด้วยสินะ”
โอ๊ะ เธอหัวเราะออกมาด้วย
เธอไม่ได้ยิ้มออกมามากก็จริง เเต่มุมปากของเธอยกขึ้นเล็กน้อยเเละบรรยากาศรอบๆตัวเธออ่อนโยนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
“อืม ว่าเเล้วเชียวเวลาริเอะหัวเราะออกมานี่น่ารักจริงๆนะ”
หลังจากพูดออกมาเเบบนั้น ชั้นก็ลูบหัวของริเอะ
ริเอะนั้นเตี้ยกว่าชั้นเล็กน้อยจึงทําให้ชั้นลูบหัวของเธอได้ง่ายมาก
“ยะ.. หยุดนะ! เดี๋ยวก็ทําให้ผมของหนูพันกันหรอก!”
“อา..โทษทีนะ เผลอไปหน่อยน่ะ”
เพราะเธอไว้ผมเป็นทรงไซด์เทล ทิศทางของผมเธอเลยไปในทางเดียวกันซึ่งอยู่ที่หูฝั่งขวา
คิดว่าบางทีอาจเพราะชั้นลูบไปผิดทางเธอเลยโกรธรึเปล่า ชั้นจึงค่อยๆลูบใหม่อีกครั้งพยายามจะเเก้ให้ผมของเธอกลับไปในทิศทางเดิม
“กะ.. ก็บอกเเล้วไงว่า หยุดน้าา!”
ริเอะพูดอย่างนั้นเเล้วปัดมือของชั้นออกเเละหันมาทุบที่อกของชั้นเบาๆ
โอ้ ดูเหมือนเธอจะมีเเรงเยอะกว่าที่คิดไว้นะเนี่ย
“นะ.. หนูจะไปเเล้วนะ โอนี่จัง! เดี๋ยวก็ได้ไปสายจริงๆหรอก!”
“อา เข้าใจเเล้วล่ะ อย่าโกรธกันขนาดนั้นสิ”
“มะ.. ไม่ใช่ว่าโกรธอะไรสักหน่อย…”
ริเอะเเก้มเเดงระเรื่อก่อนจะวางมือลงบนบางส่วนของผมที่ชั้นได้ลูบไป
อย่างที่คิดน้องสาวของชั้นนี่น่ารักน่าเอ็นดูจริงๆเลยนะ
ชั้นรู้สึกว่าใบหน้าของตัวเองผ่อนคลายลงจากความคิดเช่นนั้น