บัลลังก์หมอยาเซียน – ตอนที่ 1018 หาพวกเขาให้เจอ

หมาป่าหิมะเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว อย่าว่าแต่หมันเอ๋อไม่ทันได้ตั้งตัว แม้แต่หมอพี่ทั้งสองคนต่างก็อึ้งนิ่งไป แต่ก็ได้สติกลับมาอย่างรวดเร็ว ฝ่ามือทั้งสี่โจมตีพร้อมกัน หมาป่าหิมะกระโดดขึ้น พลิ้วไหวตามลมโต้กลับหมอผี จนหมอผีเซไปข้างหลัง จุดเปลวไฟบนฝ่ามือหวังจะทำให้หมาป่าหิมะตกใจ กลับไม่รู้ว่า หมาป่าหิมะไม่ได้กลัวไฟ กลับกระโจนไปตรงคอของหมอผี ฝ่ามือของหมอผีตบลงบนหลังของหมาป่าหิมะ กลับถูกขนนุ่มระบายพลังออกมาอย่างประหลาด หมาป่าหิมะไม่เป็นอะไรเลยสักนิด
มีคนจำนวนมากวิ่งออกจากถ้ำมาพร้อมกับหอกในทันที หมาป่าหิมะไม่รอช้า หันกลับไปกัดเชือกที่มัดอยู่บนตัวหยู่เหวิยเทียน แกะเชือกให้กับเขา แล้วก็กัดเสื้อผ้าของหมันเอ๋อ พร้อมกระโดดลงไป
เดิมหยู่เหวิยเทียนอยากช่วยจิ้งเหอ แต่องครักษ์หมอผีมาถึงแล้ว เขาลังเลอยู่สักพักแล้วทำได้เพียงปล่อยวาง กระโดดลงไปข้างล่างพร้อมกับหมาป่าหิมะ
ใต้ถ้ำหมอผี เป็นเหวลึก หยู่เหวิยเทียนไม่รู้ กระโดดลงไป อยู่ในความว่างเปล่าเนิ่นนาน ตกใจจนคิดว่าตนเองกำลังจัดตกลงไปตาย กลับเห็นหมาป่าหิมะที่ไม่รู้ว่ากระโดดออกมาจากไหน รับตัวเขาไว้ พร้อมโดดลงข้างเหวลึกอย่างมั่นคง
เขาดีใจกระโดดกอดหมาป่าหิมะ พร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้ามาได้อย่างไร? ใครพาเจ้ามา?”
หมาป่าหิมะส่งเสียงหอนพร้อมถอยหลังถูอุ้งเท้า ตาสีฟ้าจ้องมองเพื่อบ่งบอกว่าไม่ให้อุ้ม ชายกับชายไม่อุ้มสนิทสนมกันไม่รู้หรือ?
หยู่เหวิยเทียนจิ้มเบาๆบนหน้าผากของหมาป่าหิมะหลายที ค่อยปล่อยแล้วมองดูหมันเอ๋อที่อึ้งจนใจหายอยู่บนพื้น พร้อมพูดขึ้นอย่างผิดหวังว่า “เจ้าเป็นลูกสาวของอ๋องหนานเจียง ทำไมถึงยอมเป็นทาสหมอผี?”
หมันเอ๋อลุกขึ้นมา เสื้อผ้าของนางทุกหมาป่าหิมะกัดจนขาดหลุดลุ่ย เผยให้เห็นแขน นางเงยมองดูข้างบน จะขึ้นไป ก็สูงอย่างมาก ซึ่งเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
หยู่เหวิยเทียนพูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า “ไม่ต้องคิดหนีแล้ว ตามข้าไป”
เขาลอกเปลือกไม้แล้วมัดมือของนางไว้ แล้วเดินไปตามลำธารพร้อมกับหมาป่าหิมะ หมันเอ๋อดิ้นรนอยู่สักพัก ดิ้นรนไม่หยุด จึงจำต้องตามเขาไปอย่างเศร้าสร้อย
จากนั้น เดินมาประมาณครึ่งชั่วโมงกว่า หมาป่าหิมะส่งเสียงร้องขึ้น กระโจนไปข้างหน้าอย่างกระฉับกระเฉง ก้าวกระโดดอยู่หลายครั้ง แล้วก็ลับหายไปอย่างรวดเร็ว
หยู่เหวิยเทียนตกใจ ตะโกนร้องขึ้นว่า “หมาป่าหิมะ หมาป่าหิมะ”

แต่หุบเขาเงียบสงัด ยังมีเงาร่างของหมาป่าหิมะเสียที่ไหน?
ส่วนหยวนชิงหลิงกับพวกจิ่นหนิง ติดตามขบวนใหญ่มุ่งตรงไปข้างหน้า กลับโดนซุ่มโจมตี คนเจียงเป่ยเตรียมรับมือไว้แต่แรกแล้ว มีคนมากมายโอบล้อมคนกว่าร้อยคน การเข่นฆ่าเริ่มต้นขึ้น หยวนชิงหลิงทำได้เพียงหลบไปข้างหลัง แต่คนของศัตรูมีจำนวนมาก นางถูกจับตัวไว้ จิ่นหนิงไปช่วยไว้ไม่ทัน ทันใดที่นางจะถูกคนของเจียงเป่ยฆ่า ในวินาทีนั้น หมาป่าหิมะมาช่วยไว้ หยวนชิงหลิงค่อยหลุดพ้นจากอันตราย
วินาทีที่หยวนชิงหลิงเห็นหมาป่าหิมะ แทบไม่อยากเชื่อ ตลอดทางล้วนไม่เห็น แล้วปรากฏตัวขึ้นมาอย่างกะทันหันได้อย่างไร?
หมาป่าหิมะเกาะขาของนางไว้ ส่ายหางอย่างคาดหวังรางวัล หยวนชิงหลิงเพิ่งรอดพ้นจากอันตราย ใจสั่นระรัว กอดหมาป่าหิมะไว้อย่างตื้นตัน
ส่วนขบวนทางด้านหน้า ก็ถูกซุ่มโจมตี ถูกฆ่าจนต้องล่าถอย สุดท้ายถอยกลับไปสู่พื้นราบ มารวมตัวกับจิ่นหนิงหยวนชิงหลิง ค่อยสามารถเอาชนะจากการถูกโจมตีที่นี่
อ๋องเว่ยได้รับบาดเจ็บตรงไหล่ เห็นว่าการโจมตีอย่างรุนแรงไม่ได้ ก็ร้อนใจอย่างมาก พูดขึ้นอย่างโมโหว่า “คิดไม่ถึงว่าคนเจียงเป่ย เตรียมการรับมือไว้แต่แรกแล้ว มีการซุ่มโจมตีและกับดักอยู่ทุกที่ ยิ่งไม่รู้ว่าจิ้งเหอถูกขังไว้ที่ไหน แล้วจะช่วยได้อย่างไร?”
“ไม่ต้องใจร้อน ยังไงก็ต้องมีวิธี” หยู่เหวินเห้ายกมือปราม เขามีประสบการณ์ในการทำศึกมาอย่างมากมาย ล่าถอยจากการถูกซุ่มโจมตีรอบด้านมาได้อย่างทุลักทุเล แต่ก็สามารถถอยออกมาได้อย่างปลอดภัย ศัตรูไม่ได้ไล่ตามมา แสดงว่าอีกฝ่ายมีกำลังคนไม่เพียงพอ ทำได้เพียงเตรียมรับมือไม่สามารถโจมตี ไม่เช่นนั้นคงตามมาฆ่าแต่แรกแล้ว
ทุกคนรวมตัวอยู่ด้วยกัน ปรึกษาวางแผนกลยุทธ์
หลังมือหยู่เหวินเห้ามีบาดแผล ปรากฏให้เห็นรอยเลือด จิ้งถิงเอาแขนเสื้อช่วยเช็ดให้กับเขา จากนั้นก็มองดูทุกคน พร้อมพูดขึ้นว่า “พวกเราไม่คุ้นเคยกับภูมิปะเทศ และก็ไม่รู้ตำแหน่งของการซุ่มโจมตี ดึงดันโจมตีไม่ได้ ต้องหาวิธีที่ฉลาดกว่า”
อ๋องอานพูดขึ้นว่าและก็ยิ่งไม่คุ้นเคยภูมิประเทศ”
อ๋องอานพูดอยู่เช่นนี้ พร้อมมองดูท่านชายหงเย่กับแม่นมฉิน

แม่นมฉินส่ายหัวอย่างจนใจ พร้อมพูดขึ้นว่า “ถึงแม้ภูมิประเทศไม่เปลี่ยนแปลง แต่ข้าจากไปนานมากแล้ว พร้อมทั้งมีการใช้ค่ายกล ยิ่งไม่รู้ตำแหน่งการซุ่มโจมตี”
ท่านชายหงเย่ก้มหน้าก้มตา พูดขึ้นอย่างเรียบเฉยว่า “ที่นี่ข้าก็ไม่คุ้นเคย”
อ๋องอานไม่เชื่อ พูดขึ้นว่า “เจ้าเคยอาศัยอยู่ในเจียงเป่ยไม่ใช่หรือ? ทำไมถึงไม่คุ้นเคย?”
“เคยอาศัยอยู่เจียงเป่ย ไม่ได้หมายความว่าจะต้องรู้ภูมิประเทศทุกตารางนิ้วของที่นี่”
ความจริงก็ถูก แต่ตอนนี้หากไม่รู้ จะช่วยจิ้งเหอยังไง? แม้แต่ล่าถอยยังลำบาก
ในขณะที่กำลังโศกเศร้า หมาป่าหิมะกลับส่งเสียงหอนให้กับหยวนชิงหลิงหลายครั้ง หยวนชิงหลิงประคองหัวของมันไว้ สายตาฉายแววเป็นประกาย พร้อมพูดขึ้นว่า “จริงหรือ?”
“จริงหรืออะไร?” หยู่เหวินเห้ารู้ว่าเมื่อก่อนนางฟังภาษาหมาป่าหิมะภาษาสุนัขได้ แต่ต่อมากลับค่อยๆฟังไม่รู้เรื่องแล้ว บอกว่าเกี่ยวข้องกับจิตอะไรนั่น
หยวนชิงหลิงหันมาพูดว่า “หมาป่าหิมะช่วยหมันเอ๋อกับเจ้าเก้าออกมาได้ อยู่ภายในเหวลึก”
หมาป่าพูด? ทุกคนต่างมองหน้ากัน หมาป่าสามารถพูดได้ แล้วคนสามารถฟังรู้เรื่องได้อย่างไร?

แต่หยู่เหวินเห้ากลับรีบลุกขึ้นมาพูดสั่ง จัดกำลังคนเข้าไปพาหยู่เหวิยเทียนกับหมันเอ๋อออกมา
ถึงแม้จะรู้สึกค่อนข้างไร้สาระ แต่ตอนนี้ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ ลองไปดูก็ไม่เสียหาย
หยู่เหวินเห้าพาคนไปด้วยตนเอง นำคนหลายสิบคนตามหมาป่าหิมะเข้าไปในหุบเขาลึก
หลังจากหนึ่งชั่วโมงกว่า ก็ได้พาหยู่เหวิยเทียนกับหมันเอ๋อออกมาได้จริงๆด้วย หมันเอ๋อที่ถูกมัดถูกผลักมาตรงหน้าทุกคน เพราะหมันเอ๋อเคยพาทุกคนไปยังแดนหลงหาย การปรากฏตัวของนางจึงทำให้ทุกคนเกิดความโมโห หยู่เหวินเห้ายกมือห้ามไว้ ไม่ให้ใครก่นด่าต่อว่านาง
หยวนชิงหลิงเห็นหมันเอ๋อ ค่อยๆลุกขึ้นมา เดิมใบหน้าของหมันเอ๋อยังบูดบึ้งอย่างมาก แต่เมื่อมองเห็นหยวนชิงหลิง ทันใดนั้นก็เกิดความมึนงงทำอะไรไม่ถูกขึ้นมา แต่ไม่ช้าก็กลับมามีท่าทีเหมือนเดิม
แม่นมฉินค่อยโล่งอก พูดกับหยวนชิงหลิงด้วยเสียงเบาว่า “พระชายารัชทายาท ยาของท่านล่ะ?”
หยวนชิงหลิงเอายาให้กับนาง มองดูสายตาเยือกเย็นของหมันเอ๋อ ในใจค่อนข้างทรมาน แม่นมฉินเดินเอายาไป หมันเอ๋อจ้องมองดูนางยังเยือกเย็น พร้อมตะคอกพูดขึ้นอย่างโมโหว่า “เจ้าคนทรยศ”
แม่นมฉินตาแดงก่ำ กลับกั้นใจไว้ใช้มือจับปลายคางของงาน อ้าปากของนางแล้วก็เอายาใส่ลงไป บีบบังคับให้นางกลืนลงคอ ชักมีดสั้นออกมา แล้วกีดตรงข้อมือของนาง มองดูเลือดสดๆไหลออกมา
ทุกคนต่างมองดูหมันเอ๋อ ทานยาลงไปแล้ว ก็ไม่รู้ว่าจะไร้ผลเหมือนก่อนหน้านี้ไหม ยังถูกนางหลอกลวงอีก
สีหน้าหมันเอ๋อแดงขึ้นมาในทันใด เหมือนดั่งเลือดทั้งหมดล้วนมารวมอยู่บนหัว แดงจนน่ากลัว ร่างกายสั่นเทาเล็กน้อย แววตาก็เริ่มแสดงถึงความหวาดกลัว ตามหาหยวนชิงหลิงอย่างโดยไม่รู้ตัว
หยวนชิงหลิงกับอะซี่เดินหน้าไปพร้อมกัน ยืนอยู่ตรงหน้าของนาง หยู่เหวินเห้ารีบห้ามไว้ จ้องมองดูอะซี่
เลือดสดๆไหลออกมาจากปากของหมันเอ๋อ สีหน้าที่แดงก่ำเริ่มค่อยๆจางลง น้ำตาร่วงไหล ริมฝีปากสั่นเทาอย่างหยุดไม่ได้ แต่ก็พูดอะไรไม่ออก
“หมันเอ๋อ” หยวนชิงหลิงผลักหยู่เหวินเห้าเบาๆ ยื่นมือไปเช็ดน้ำตาให้นาง พร้อมพูดขึ้นว่า “ไม่เป็นไรแล้ว”

บัลลังก์หมอยากเซียน

บัลลังก์หมอยากเซียน

ด็อกเตอร์แพทย์หญิงอัจฉริยะข้ามภพกลายเป็นพระชายาของอ๋องฉู่ เพิ่งมาถึงก็เจอผู้ที่บาดเจ็บสาหัส นางยึดถือจรรยาแพทย์ไปทำการช่วยเหลือ กลับเกือบถูกคนให้ร้ายไท่ซ่างหวง(เสด็จพ่อของฮ่องเต้)ป่วยวิกฤต นางไม่มีวิธีรักษา ถูกอ๋องอำมหิตผู้น่าเกลียดเข้าใจผิดตำหนิเอา หรือว่าเป็นคนดีมันยากนัก? ชายผู้นี้เอาแต่ใส่ร้ายป้ายสีนางไม่ว่า ที่อดไม่ได้คือเขายังกล้าแต่งชายารองทำให้นางสะอิดสะเอียนอีกอ๋องอำมหิตพูดอย่างเย็นชาว่า: "เจ้ามีดีอะไรให้ข้าแค้นเจ้า ข้าเพียงแค่เกลียดเจ้า? แค่เห็นเจ้าแวบแรกก็รู้สึกขยะแขยง"หยวนชิงหลิงใบหน้ายิ้มรับพร้อมกล่าวว่า: "ไฉนข้าไม่รังเกียจท่านอ๋องเพคะ? เพียงแค่ทุกคนล้วนเป็นสุภาพชน ไม่อยากไม่ไว้หน้าก็เท่านั้น"อ๋องอำมหิตพูดเย้ยหยันว่า: "เจ้าอย่านึกว่าตั้งท้องลูกของข้าแล้วข้าจะนับว่าเจ้าเป็นพระชายา ดื่มยาถ้วยนี้ ข้ากับเจ้าขาดกัน อย่ามาขัดขวางการแต่งงานของข้ากับคุณหนูสองตระกูลฉู่" หยวนชิงหลิงยิ่มแฉ่งพร้อมกล่าวต่อว่า: "ท่านอ๋อง นี่ชอบพูดเล่นเสียจริงเพคะ ท่านอยากแต่งก็แต่งเลยเพคะ ข้ามีลูกให้ดูแล ค่อยแต่งงานใหม่ ไม่มีใครเป็นก้างขวางคอใคร ถึงเวลานั้นมีการจัดเหล้าครบเดือน ขอเชิญท่านอ๋องมาร่วมงานด้วยเพคะ"

Comment

Options

not work with dark mode
Reset